ความคิดเห็นที่ 1 The Beatles Anthology : ตอนที่ 1 ***ขอได้รับความคุณจากคุณ winston สำหรับบทบรรยายบางส่วนไว้ด้วยครับ*** อ้อ! อย่าลืมหยิบซีดีมาฟังควบคู่กันไปด้วยนะครับ จะได้อารมณ์เป็นอย่างยิ่ง แก้ไขเมื่อ 07 เม.ย. 49 16:37:49 จากคุณ : fab4 - [ 7 เม.ย. 49 16:35:13 ]

ความคิดเห็นที่ 2 1. Free As A Bird (ผู้แต่งดั้งเดิม  John Lennon, บีทเทิลส์เวอร์ชั่น John Lennon, Paul McCartney, George Harrison and Ringo Starr) บันทึกเสียง : New York 1977 , Sussex England  กุมภาพันธ์/ มีนาคม 1994 โปรดิวเซอร์ : John Lennon, Paul McCartney, George Harrison, Richard Starkey, Jeff Lynne เอนจิเนียร์  : Geoff Emerick Free As A Bird เดิมเป็นเพลงเดโมเก่าเก็บที่จอห์นบันทึกเอาไว้ตั้งแต่ปี 1977 ในนิวยอร์ค  ต้นปี 1994 หลังจากที่โยโกะมอบเทปเพลงของเลนนอน เพื่อนำมาใช้ในการบันทึกเสียง เพลงใหม่สำหรับการกลับมาของเดอะบีทเทิลส์   เดอะบีทเทิลส์ที่ยังเหลืออยู่ทั้งสามคนก็กลับเข้าสตูดิโออีกครั้ง ในสตูดิโอของพอลในซัสเซ็ก “ เรามโนภาพว่าจอห์นนั้นกำลังไปฮอลิเดย์อยู่ เพียงแต่เค้าทิ้งงานให้เราทำต่อให้เสร็จ ก่อนที่เค้าจะกลับมา” พอลนั้นชอบเพลงนี้ตั้งแต่ครั้งแรกที่เค้าได้ยินมัน   “ผมชอบทำนองของมัน คอร์ดมันก็เยี่ยม แล้วมันก็มีเสน่ห์กับผมมาก ๆ  ส่วนสำคัญอีกส่วนนึงคือมีบางท่อนที่ยังไม่เสร็จสมบูรณ์  ท่อนที่จอห์นร้องว่า Whatever happened to  The Life that we once knew . อย่างน้อยมันก็เหมือนกับการที่พวกเรากำลังทำงานร่วมกันอีกครั้ง และพวกเราก็จัดการมันจนเรียบร้อย” ปัญหาในการบันทึกเสียงนั้นก็คือ ต้นฉบับของจอห์นนั้น บันทึกเสียงในระบบโมโน ซึ่งมีเพียงเสียงร้องของจอห์น และเปียโนรวมมาในแทรคเดียวกัน  เจฟฟ์ ลีนน์ถูกตามตัวเพื่อมาโปรดิวซ์งานนี้แทนที่จะเป็น จอร์จ มาร์ติน (แน่นอนจอร์จ แฮริสันเป็นผู้เลือก) ซึ่งเค้าก็สามารถจัดการกับมันได้อย่างยอดเยี่ยม สำหรับเวอร์ชั่นใหม่ของเดอะบีทเทิลส์นั้น มีการเพิ่มเสียงร้องของ พอล จอร์จ และริงโก้,  อะคูสติคกีตาร์ของจอร์จ และพอล,เบส ของพอล, สไลด์กีตาร์ของจอร์จ, เปียโนของพอล, เสียงกลองของริงโก้ และสุดท้ายก็คือเสียงร้องของจอห์นที่อัดทับเข้าไปอีก นี่นับเป็นการรียูเนียนในรอบ 25 ปี ของวงดนตรีที่ประสบความสำเร็จที่สุดในโลก แม้จะเป็นเพียงแค่การกลับมารวมตัวกันบนแผ่นเสียงเท่านั้น ! จากคุณ : fab4 - [ 7 เม.ย. 49 16:40:14 ]

ความคิดเห็นที่ 3 2.”We were four guys that’s all” จอห์นให้สัมภาษณ์กับ แจนน์ เวนเนอร์ จากนิตยสารโรลลิ่ง สโตน เมื่อวันที่ 8 ธันวาคม 1970 ในนิวยอร์ค เรามันก็แค่ผู้ชายสี่คน แบบว่า..เอ่อ..ผมเจอกะพอล แล้วก็ชวนเขา “นายอยากมาร่วมวงกันไหม?” และต่อมาจอร์จก็เข้ามาอีกคน และก็ตามด้วยริงโก้ เรามันก็แค่วงดนตรีวงนึงที่สร้างงานออกมาได้โคตรยิ่งใหญ่  มันก็เท่านั้นเอง จากคุณ : fab4 - [ 7 เม.ย. 49 16:41:30 ]

ความคิดเห็นที่ 4 3.That’ll Be The Day (Jerry Allison,Buddy Holly,Norman Petty) 4.In Spite Of All The Danger (Paul McCartney and George Harrison) บันทึกเสียง : Phillips Sound Recording Service, Liverpool, 1958 เอนจิเนียร์ : Percy F Phillips ราวต้นฤดูร้อนของปี 1958  เดอะควอรีเมน (ในขณะนั้นสมาชิกประกอบไปด้วย จอห์น พอล จอร์จ เล่นกีตาร์ จอห์น โลว์ เปียโน และโคลิน แฮนตันในตำแหน่งมือกลอง) ทั้งห้าหนุ่มเดินทางเข้าเมืองตามไอเดียของพอล เพื่อไปบันทึกเสียงที่ร้านของ Percy Phillips ในเคนซิงตัน  ร้านนี้มีห้องสำหรับบันทึกเสียง แล้วก็มีเครื่องตัดแผ่นสำหรับบรรดานักดนตรีวงเล็ก ๆ พวกเค้ารำลึกถึงห้องอัดที่ดำมืดสนิทว่า  “อากาศ มันเย็นยะเยือก และบรรยากาศยังกะห้องทำฟันเลยทีเดียว” เพลงที่เล่นกันในวันนั้นมีทั้งหมดสองเพลง และถูกบันทึกอยู่ในคนละด้านของแผ่นครั่งที่พวกเค้าช่วยกันแชร์กันจนหมดตูด(17 ชิลลิงกับ 6 เพนซ์) ว่ากันว่าทั้งห้านั้นไม่มีเงินสำหรับที่จะก็อปแผ่นเพิ่ม ภายหลังเมื่อจอห์นกลับไปที่ร้านเพื่อพยายามทำก็อปปี้ แต่ก็ช้าไป หลังจากที่มาสเตอร์เทปนั้นถูกอัดทับไปโดยศิลปินอื่นไปซะแล้ว แผ่นครั่งแผ่นเดียวนั้น จึงเริ่มถูกเวียนฟัง ไประหว่างสมาชิกแต่ละคน และคนสุดท้ายที่เอาแผ่นไปหมกไว้ก็คือ จอห์น โลวน์ ในปี 1981 เค้าพบแผ่นนี้นอนกองอยู่ในลิ้นชักเก็บถุงเท้าในบ้าน โลว์รำลึกความหลังให้ฟังว่า “ เมื่อข่าวเรื่องที่ผมจะนำแผ่นออกประมูลแพร่ออกไป พอลก็พยายามติดต่อกับผม เค้าได้เบอร์ผมจากแม่ของผมที่ยังอาศัยอยู่ในลิเวอร์พูล มันเป็นของที่มีค่ามหาศาล และพอลก็ไม่ต้องการให้มันตกอยู่ในมือของนักสะสมทั่วไป”   โลว์นั้นพยายามที่จะนำแผ่นออกประมูลอยู่หลายครั้ง (บางข้อมูลบอกว่าเค้าถึงกับต้องเก็บมันไว้ในตู้นิรภัยแห่งนึงเลยทีเดียว)  แต่สุดท้ายพอลก็อาศัยอำนาจกฏหมายและสามารถตามซื้อคืนมาเป็นเจ้าของจนได้ จากคุณ : fab4 - [ 7 เม.ย. 49 16:43:39 ]

ความคิดเห็นที่ 5 That’ll Be The Day เป็นเพลงเก่าของ Buddy Holly and the Crickets มันฮิตจนติดอันดับหนึ่งในอังกฤษในเดือน กันยายน 1957 พอลนั้นเป็นแฟนพันธุ์แท้ของวงนี้ถึงขนาดต้องตามไปดูคอนเสิร์ตสด ๆ มาแล้ว จอห์นนั้นรับบทพระเอกด้วยการร้องนำ ส่วนพอลนั้นคอยประสานเสียง สำหรับเพลงนี้พอลนั้นเคยนำมาเปิดออกอากาศให้แฟน ๆ ได้ฟังในรายการโทรทัศน์เมื่อ ปี 1985 แต่ครั้งนั้นเป็นแค่บางส่วนเท่านั้น ครั้งนี้เราจะได้ยินกันในเวอร์ชั่นเต็มๆ In Spite Of All The Danger  เช่นเดียวกับเพลงแรก จอห์นยังคงร้องนำในเพลงนี้  แต่ตัวเพลงเป็นฝีมือการแต่งร่วมกันระหว่าง พอล กับจอร์จ พอลนั้นเคยบอกว่า ตัวเค้านั้นได้รับอิทธิพลเต็ม ๆ มาจากเพลงของเอลวิส  (มีผู้รู้แสดงความเห็นว่าเพลงนี้น่าจะคล้ายกับเพลง Trying To Get To You มากที่สุด แฟนเอลวิสว่าไงครับ? ) ด้วยปัญหาทางคุณภาพเสียงทำให้เราได้ฟังเพลงที่มีการตัดต่อแล้วจาก 3.25 นาที เหลือเพียงแค่ 2.44 แต่แค่นี้ก็เป็นบุญแล้วนะครับ สำหรับเพลงที่บันทึกบนแผ่นเสียงที่มีอายุประมาณ เกือบ 40 ปี เครดิตของแฮริสันในเพลงนี้น่าจะมาจากท่อนโซโลกีตาร์ที่เค้าเป็นคนแต่ง จากคุณ : fab4 - [ 7 เม.ย. 49 16:46:04 ]

ความคิดเห็นที่ 6 5.”Sometimes I’d borrow those still exist” พอลพูดกับ Mark Lewisohn เมื่อ 3 พฤศจิกายน 1994 ในลอนดอน พอล เล่าให้ฟัง ถึงวันที่พวกเค้าพยายามทำอะไรด้วยกันอย่างจริงจังเป็นครั้งแรก บางทีผมก็จะยืมเครื่องบันทึกเทปมาสักเครื่อง อาจจะเป็นยี่ห้อกรุนดิกที่มีไฟดวงเล็กๆเป็นตาเขียวๆ และเราก็จะเดินกันไปทั่วบ้านผมเพื่อหาทำเลเหมาะๆในการบันทึกเสียงเพลงอย่าง... เท่าที่ผมจำได้ก็คือ 'Hallelujah, I Just Love Her So' เพราะผมมีแผ่นเสียงแผ่นนั้นของ Eddie Cochran แต่พวกเทปเหล่านั้นมันก็เป็นโฮมเดโมจริงๆ คุณภาพต่ำจัด ผมคิดว่ามีอยู่สักสองอันมั้งที่ยังอยู่ในตอนนี้ จากคุณ : fab4 - [ 7 เม.ย. 49 16:47:23 ]

ความคิดเห็นที่ 7 6.Hallelujah, I Love Her So (Ray Charles) 7.You’ll Be Mine (Paul McCartney and John Lennon) 8.Cayenne (Paul McCartney) บันทึกเสียง : 20 Forthlin Road Liverpool  ปี 1960 นี่เป็นครั้งแรกที่คุณจะได้ยินเพลงเหล่านี้อย่างเป็นทางการพร้อมกับแฟนเพลงทั่วโลก (ขณะที่มันวางจำหน่ายในปี 1995) เทปชุดนี้บันทึกเสียงจากบ้านของพอลในลิเวอร์พูล ไมค์น้องชายของพอลสวมบทเป็นช่างอัดเสียง หลังจากที่พวกเค้าขอยืมเครื่องอัดแบบรีลมาใช้ ไลน์อัพของวันนั้นประกอบด้วย จอห์น พอล จอร์จ และ สจ็วต ซัทคลิฟท์  ในตำแหน่งมือเบส Peter Hodgson ชาวลิเวอร์พูลเป็นเจ้าของก็อปปี้เทปที่ยังหลงเหลืออยู่ชุดนี้ เค้านำมันมาขายให้กับพอลในราวปี 1995 และเป็นความอัศจรรย์อย่างยิ่ง ที่เราๆ ได้ฟังเพลงที่สาบสูญไปกว่า 3 ทศวรรคกันอีกครั้ง บ้านเลขที่ 20 Forthlin Road ,Liverpool จากคุณ : fab4 - [ 7 เม.ย. 49 16:59:52 ]

ความคิดเห็นที่ 8 Hallelujah, I Love Her So ต้นฉบับของ Ray Charles ดั้งเดิมนั้นมีมาตั้งแต่ปี 1956 แต่พวกเค้าเลือกที่จะร้องในสไตล์ของ Eddie Cochran มันกลับมาได้รับความนิยมในช่วงต้นปี 1960 พอลนั้นเป็นเจ้าของแผ่นต้นฉบับของ Cochran  แล้วเค้าก็ร้องนำในเพลงนี้ด้วย You’ll Be Mine คู่หู แมกคาร์ทนีย์ และเลนนอน ร่วมกันแต่งเพลงนี้ พอลนั้นรับหน้าที่ร้องนำในช่วงต้น และท้ายของเพลง ส่วนท่อนกลางของเพลง เป็นฝีมือการแหล่ของจอห์น เครดิตในแผ่นนี้ (แมกคาร์ทนีย์ /เลนนอน) นับเป็นเพลงแรกของทั้งสองที่มีการบันทึกลงบนแผ่นเสียง Cayenne หรือชื่อเดิมว่า Cayenne Pepper เพลงบรรเลงของพอล เขียนในปลายยุค 50 ในวัยเพียง 14 ขวบ (ช่วงก่อนที่จะเจอกับจอห์นด้วยซ้ำ) ในขณะที่เพลงบรรเลงที่ไม่มีเนื้อกำลังได้รับความนิยมอย่างแพร่หลาย จากคุณ : fab4 - [ 7 เม.ย. 49 17:00:23 ]

ความคิดเห็นที่ 9 9.”First of all it didn’t do a thing here” พอลให้สัมภาษณ์ กับ Malcolm Threadgill เมื่อ 27 ตุลาคม 1962 แรกสุดเลย เราไปบันทึกเสียงร่วมกับกระทาชายเพื่อนเรานามโทนี่ เชอริแดน ตอนนั้นเราเล่นอยู่ในคลับชื่อ 'The Top Ten Club' ในแฮมเบิร์ก และเราก็บันทึกเสียงเพลงชื่อ 'My Bonnie' กับเขา ซึ่งมันก็ขึ้นไปได้ถึงอันดับห้าในชาร์ตเพลงยอดนิยมของเยอรมัน แต่ มัน... ไม่... มันไม่ได้ผุดไม่ได้เกิดอะไรเลยที่นี่  (อังกฤษ) จากคุณ : fab4 - [ 7 เม.ย. 49 17:01:39 ]

ความคิดเห็นที่ 10 10.My Bonnie (Traditional, arranged by Tony Sheridan) 11.Ain’t She Sweet (Milton Ager [ทำนอง], Jack Yellen [เนื้อร้อง]) 12.Cry For A Shadow (George Harrison, John Lennon) บันทึกเสียง : Friedrich-Ebert-Halle, Hamburg, 22 มิถุนายน 1961 โปรดิวเซอร์ : Bert Kaempfert เอนจิเนียร์ : Karl Hinze ระหว่างที่เดอะบีทเทิลส์เดินทางไปแฮมเบิร์กเป็นครั้งที่สอง (ระหว่างเดือน เมษา-กรกฏา 1961) Bert Kaempfert ประทับใจในฝีไม้ลายมือของทางวงในขณะที่เล่นอยู่ที่ Top Ten Club พวกเค้าได้รับการติดต่อให้อัดแผ่นเสียง โดยเป็นวงแบ็คอัพให้กับโทนี่ เชอริแดน จากคุณ : fab4 - [ 7 เม.ย. 49 17:02:42 ]

ความคิดเห็นที่ 11 เช้าวันที่ 22 มิถุนายน 1961 ทั้งสี่ลากสังขาร (หลังจากตะลุยการแสดงกว่า 7 ชั่วโมงเมื่อคืนก่อน) เพื่อจับแท็กซี่มายังห้องอัด Friedrich-Ebert-Halle มันไม่ใช่ห้องอัดจริง ๆ ดู ๆ แล้วมันน่าจะเป็นโรงเรียนมาก่อน เดอะบีทเทิลส์เล่นสนับสนุนให้เชอริแดน ประมาณ 5-6 เพลง จากนั้นพวกเค้าก็ขอโชว์อีก 2 เพลงในนามของเดอะบีทเทิลส์ล้วน ๆ My Bonnie เป็นเพลงที่สำคัญในหน้าประวัติศาสตร์ของวงที่ไม่ได้ขับร้องโดยเดอะบีทเทิลส์  หรือจะเรียกอีกอย่างก็ได้ว่าซิงเกิลอย่างไม่เป็นทางการแผ่นแรกของวง เพลงนี้ร้องนำโดยโทนี่ เชอริแดน เดิมทีนั้นมันเป็นเพลงเก่าชื่อว่า My Bonnie Lies Over The Ocean เชอริแดนนั้นนำมาดัดแปลงและเรียบเรียงใหม่  เสียงร้องของเค้าทำให้นึกไปเหมือนกับเอลวิส ซึ่งกำลังได้รับความนิยมอย่างสูงในขณะนั้น ท่อนเปิดของเพลงเป็นท่อนพูด เชอริแดนนั้นเล่นกีตาร์และร้องนำ จอร์จเล่นโซโล พอลเล่นเบสและช่วยประสานเสียง จอห์นตีคอร์ด ส่วนพีท เบส ตีกลองในเพลงนี้  หลังจากเดอะบีทเทิลส์เดินทางกลับบ้าน Polydor ก็ตัดเพลงนี้ออกมาเป็นซิงเกิล เครดิตที่ออกในครั้งแรกคือ Tony Sheridan and the Beat Brothers และก็ได้รับความนิยมพอสมควรในเยอรมัน จากคุณ : fab4 - [ 7 เม.ย. 49 17:03:20 ]

ความคิดเห็นที่ 12 Ain’t She Sweet  จอห์น ร้องนำโดยขับร้องตามแบบของ Gene Vincent ที่นำมาร้องใหม่เมื่อปี 1956 ในอัลบัม Bluejean Bop เลนนอนนั้นแสดงให้เห็นถึงความสามารถของน้ำเสียงในเพลงนี้แล้ว Cry For A Shadow เพลงบรรเลงที่เป็นฝีมือการแต่งของแฮริสัน โดยมีจอห์นช่วยเหลือเล็กน้อย  เรื่องเล่ามีอยู่ว่า สมัยที่เดอะบีทเทิลส์ยังไปหากินอยู่ในแฮมเบิร์กนั้น Rory Storm (หัวหน้าวงของเก่าของริงโกนั่นแหละ) ได้ขอให้จอร์จโชว์เพลงของ The Shadows โดยให้เลือกเอาระหว่างเพลง Apache หรือ Frightened City จะว่าจอร์จจำเนื้อไม่ได้ หรือว่ากวนทีนมิทราบได้ จอร์จนั้นกลับเล่นเพลงใหม่ของตัวเองโชว์ Storm ซะเลย ในตอนแรก ๆ เค้าเรียกมันว่า Beatle Bop ก่อนที่จะพัฒนามาเป็น Cry For A Shadow ในตอนหลัง จากคุณ : fab4 - [ 7 เม.ย. 49 17:04:46 ]

ความคิดเห็นที่ 13 Fabulous? จากคุณ : winston - [ 7 เม.ย. 49 20:16:16 ]

ความคิดเห็นที่ 14 อากาศดี ๆ ได้นั่งอ่านอะไรดี ๆ แบบนี้ สุดยอดครับพี่ จากคุณ : Live Forever - [ 8 เม.ย. 49 13:55:11 ]

ความคิดเห็นที่ 15 Free As A Bird นี่ถ้าใครได้ดู MV แล้วจะยิ่งชอบครับ สุดยอดจริงๆในเรื่องของการนำเสนอ จากคุณ : เตียเป๋งลิ้ม - [ 9 เม.ย. 49 19:38:54 ]

ความคิดเห็นที่ 16 เจ๋งมั่กๆ. จากคุณ : debby the gunner - [ 11 เม.ย. 49 10:35:30 ]