เอามาจากกระทู้ข้างล่างนะคะ กลัวไม่เห็นกัน ยิ่งมีข่าวน้อยๆ อยู่
คำแปลหนังสือที่คุณย่าแปะค่ะ เป็นการสัมภาษณ์เกี่ยวกับคอนเสริต์
-การแสดงคอนเสริต์เรื่องที่ยากลำบากที่สุดคือเรื่องอะไร
การซ้อมกันจริงๆ เพิ่งจะเริ่มในวันที่ 12 หลังจากที่ไปถึงฮ่องกงกันแล้ว ก็มีเวลาประมาณ 10-14 วันเท่านั้น ส่วนของการแสดงเปียโน เนื่องจากไม่เคยได้เรียนอย่างเป็นจริงเป็นจังอย่างถูกต้องมาก่อน ก็เลยจำเป็นต้องใช้วิธีท่องจำการวางนิ้ว แถมยังต้องทั้งดีดทั้งร้อง ก็เลยเป็นส่วนที่ยากที่สุด ทีแรกการถ่ายทำเรื่องไป๋เซ่อจวี้ถ่ามีดีเลย์ ทีมงานก็กังวลมากว่าเวลาซ้อมจะน้อย การเลือกที่จะแสดงเปียโนอาจจะยากเกินไป แต่ว่ารู้สึกตลอดมาว่าผู้ชายเล่นเปียโนดูมีบุคลิกดีมาก ดูเท่ห์มาก ก็เลยยังคงอยากจะลองดู จริงๆ แล้ว ตั้งแต่เล็กก็อยากเรียนเปียโนมาก แต่ว่าเพราะตอนนั้นสภาพทางบ้านไม่ดี ก็เลยไม่มีโอกาส
ครั้งนี้ได้มาแสดงคอนเสริต์ 4 คนแยกจากกันไปนานกว่าจะได้มาแสดงร่วมกันอีกครั้ง เจ๊ไฉ ผกก. ไช่ ก็มากัน ช่างภาพก็เป็นช่างภาพสมัยหลิวซิงฮวาหยวนด้วย ทำให้คิดถึงเรื่องราวเก่าๆหลายเรื่อง ก่อนหน้านี้อยู่ในห้องอัดเสียง อัดเสียงกันถึงดึกมาก ตอนที่กำลังพัก จู่ๆ ก้ได้ยินเสียงกีต้าร์ แล้วก็เห็นแวนเนสกำลังซ้อมส่วนที่ต้องเล่นกีต้าร์สำหรับคอนเสริต์ ในตอนนั้นรู้สึกได้ถึงความร่วมแรงร่วมใจของทั้ง 4 คนที่พยายามจะทำงานชิ้นหนึ่งร่วมกันให้สำเร็จ รู้สึกซาบซึ้งใจมาก
-แล้วเกี่ยวกับส่วนที่เป็นการแสดงเดี่ยวในคอนเสริต์ล่ะ
ทีแรกตอนที่ประชุมกับทีมงาน ก็พบว่าความเห็นของ 2 ฝ่ายใกล้เคียงกันมาก ทีมงานมีไอเดียให้ธีมเป็นชายหนุ่มที่ดูเป็นแบดบอย เซ็กซี่ เถื่อนๆ ก็บังเอิญที่ตัวเองก็มีไอเดียแบบนี้เหมือนกัน อยากจะลองทำอะไรแบบนี้ดู นอกจากนี้ เพราะว่าชอบความรู้สึกที่มีคนทั้งฮอลล์ร้องเพลงร่วมกันมาก (จำไว้นะคะ ว่าเค้าชอบมาก--ผู้แปล) ดังนั้นตอนแรกที่ประชุมกับผู้กำกับ ก็เลยเสนอว่าอยากให้ส่วนการแสดงเดี่ยวของตัวเองสามารถมีปฏิกิริยาโต้ตอบไปมากับแฟนๆ มากหน่อย ดังนั้นในการแสดงเดี่ยวส่วนที่สองก็เลยไม่ได้เป็นการแสดงที่จัดเตรียมอะไรไว้มาก โดยอยากให้เป็นไปตามธรรมชาติมากกว่า และสามารถลดช่องว่างกับผู้ชมลง
- การแสดงเต้นครั้งนี้แรงมาก ดูเหมือนหัวจะกระแทกด้วยใช่ไม๊
การเต้นในส่วนแรกค่อนข้างจะแรง โดยเฉพาะตอนจบที่ต้องคุกเข่าลงแล้วล้มทั้งตัวไปด้านหลัง เนื่องจากว่าไม่มีประสบการณ์ ตอนแสดงเสร็จก็พบว่าหัวเข่าทั้งสองโดนกระแทกจนเขียวช้ำเลย พอแวนเนสรู้ยังมาบอกว่า "ฉันใส่สนับเข่าตลอด ทำไมนายไม่ใส่อ่ะ" การแสดงวันแรกหัวกระแทกลงไปจริงๆ เลย ถึงแม้ว่าจะเจ็บมาก แต่ก็ไม่ได้ทำให้มีการสะดุดอะไรมาก
- ตอนที่แสดงกำลังคิดอะไรอยู่ สังเกตดูผู้ชมรึเปล่า
ตอนที่เริ่มแสดง 2 วันแรก ก็จดจ่ออยู่ที่การแสดงอย่างมาก ต่อมาผู้กำกับก็มาเตือนถึงได้รู้ตัวว่าต้องมีการสื่อสารกับผู้ชมด้วย เหมือนครั้งนี้ได้มีการจัดให้มีช่วงที่จับมือกันในช่วงของการแสดงคอนเสริต์ จริงๆ แล้วเน้นหนักที่บรรยากาศของการมีการโต้ตอบกัน แต่เพราะว่าจับแบบจริงจังเกินไป สุภาพเกินไป คนอื่นเค้าจับมือได้ 20 คน ผมจับได้แค่ 3 คนเอง 2 วันหลังก็เลยพยายามสัมผัสกับแฟนๆ ให้ได้มากที่สุด
- อยากให้ฝากคำพูดไปยังแฟนๆ ที่ไม่สามารถมาชมคอนเสริต์ในครั้งนี้ได้
รู้สึกเสียดายมาก เพราะว่าครั้งนี้พวกเรา F4 แยกกันไปประมาณ 4 ปีกว่าถึงได้มารวมกันอีกครั้ง และทุกๆ คนก็พยายามกันมาก หวังว่าครั้งหน้าจะมีโอกาสที่พวกเราจะสามารถไปประเทศอื่นๆ เช่นญี่ปุ่น เกาหลี และประเทศอื่นๆ อีกหลายๆ ประเทศ พวกเราสามารถจะทำการแสดงที่เหมือนครั้งนี้อีก สามารถทำให้ทุกๆ คนได้เห็น หวังว่าทุกๆ คนจะรอคอยกันนะครับ
------------------------------------
ขอขำตรงนี้หน่อย
แต่เพราะว่าจับแบบจริงจังเกินไป สุภาพเกินไป คนอื่นเค้าจับมือได้ 20 คน ผมจับได้แค่ 3 คนเอง
จากคุณ :
Bam (Wen Wen)
- [
วันฉัตรมงคล 20:00:08
]