ความคิดเห็นที่ 1 Anthology ตอนที่ 2 1. "Brian was a beautiful guy he presented us well" บทสัมภาษณ์ของจอห์น กับ เดวิด วิกก์ จากเดลี่เอ็กซ์เพรส เมื่อเดือน ตุลาคม 1971 เลนนอนพูดถึงยอดกุนซือของพวกเขาที่จัดแจงเปลี่ยนทุกสิ่งทุกอย่างของวง ตั้งแต่จับแต่งองค์ทรงเครื่องใหม่ด้วยชุดสูทหรูแบรนด์เนม การโค้งขอบคุณเมื่อเล่นจบเพลง และอื่น ๆ อีกมากมาย จากคุณ : fab4 - [ 17 พ.ค. 49 10:25:38 ]

ความคิดเห็นที่ 2 “ไบรอันเป็นคนที่เจ๋งเนี้ยบทีเดียว ไบรอัน เอ็บสไตน์ และเขาก็เป็นคนจมูกไว, มีสัญชาติญาณทางการศิลปะการแสดง และเขาก็รู้ว่าเรามีอะไรดีๆในตัว เขานำเสนอพวกเราได้เป็นอย่างดี” รายการนี้ออกอากาศทางบีบีซีเรดิโอวันเมื่อเดือนพฤศจิกายนปีเดียวกัน ในรายการ Scene And Heard 4 ปีหลังจากที่ไบรอัน เอ็ปสไตน์เสียชีวิต จากคุณ : winston (fab4) - [ 17 พ.ค. 49 10:27:11 ]

ความคิดเห็นที่ 3 2. "I secured them ... a Beatle drink even then" บันทึกเสียง : อีเอ็มไอสตูดิโอ,ลอนดอน,13 ตุลาคม 1964 โปรดิวเซอร์ : จอร์จ มาร์ติน เอนจิเนียร์ : สจ๊วต เอลเธม เทปบันทึกเสียงตัดตอนมาจากส่วนนึงของหนังสือชีวประวัติของไบรอัน เอ็ปสไตน์ A Cellarful Of Noise จากคุณ : fab4 - [ 17 พ.ค. 49 10:27:46 ]

ความคิดเห็นที่ 4 “ผมจัดให้พวกเขาได้เล่นทดสอบที่เดคกาในวันปีใหม่ของปี 1962 พวกเขามาที่ลอนดอนและพักกันที่โรงแรมรอยัล จ่ายค่าพัก 27 ชิลลิ่งต่อคืนพร้อมกับอาหารเช้า พวกเขาจนกรอบและผมก็ใช่ว่าจะรวยนัก แต่เราก็เฮฮากันด้วยรัม,สก็อตและโค้ก ซึ่งกลายมาเป็น "บีเทิลดริงค์" ตั้งแต่นั้นมาแล้ว” จากคุณ : winston (fab4) - [ 17 พ.ค. 49 10:28:13 ]

ความคิดเห็นที่ 5 3.Searchin’ (Jerry Leiber[เนื้อร้อง],Mike Stoler[ทำนอง]) 4.Three Cool Cats (Jerry Leiber[เนื้อร้อง],Mike Stoler[ทำนอง]) 5.The Sheik Of Araby (Harry B Smith and Francis Wheeler[เนื้อร้อง],Ted Snyder[ทำนอง]) 6.Like Dreamers Do (John Lennon,Paul McCartney) 7.Hello Little Girl (John Lennon,Paul McCartney) บันทึกเสียง : เดคกาสตูดิโอ ,ลอนดอน ,1 มกราคม 1962 โปรดิวเซอร์ : ไมค์ สมิธ 5 บทเพลงที่ถูกคัดสรรมาจากการออดิชั่นครั้งสำคัญในวันขึ้นปีใหม่ของปี 1962 กับบริษัทแผ่นเสียงเดคกา ในลอนดอน ปลายปี 1961 หลังจากที่ไบรอันเข้ามารับตำแหน่งผู้จัดการ เขาก็เริ่มติดต่อไปยังบริษัทต่าง ๆ  เพื่อให้ทางวงได้สัญญาอัดแผ่นเสียง  เดคกาก็เป็นหนึ่งในนั้น บริษัทส่งไมค์ สมิธมาดูตัวพวกเขาถึงลิเวอร์พูล สมิธดูจะประทับใจฝีไม้ลายมือของพวกเขาไม่น้อย จึงนัดหมายทางวงไปทดสอบอีกครั้งที่สตูดิโอในลอนดอนอีกครั้งในวันขึ้นปีใหม่ เดคกาสตูดิโอ จากคุณ : fab4 - [ 17 พ.ค. 49 10:30:36 ]

ความคิดเห็นที่ 6 เดอะบีทเทิลส์ จอห์น พอล จอร์จ และมือกลองพีท เบสต์ ใช้เวลากว่าสิบชั่วโมงฝ่าพายุหิมะกว่า 200 ไมล์ด้วยรถแวนเก่า ๆ ของนีล ซึ่งเป็นเพื่อนซี้ของพีท เบสต์ มาถึงลอนดอนในตอนสี่ทุ่มของคืนวันสิ้นปี หลังจากหลงทางอยู่ที่วูฟแฮมป์ตันอยู่นานสองนาน คืนนั้นพวกเขาค้างคืนกันที่โรงแรมรอยัล ในรัซเซลลส์สแควร์ (ส่วนไบรอันนั้นล่วงหน้ามาก่อนด้วยรถไฟ และพักอยู่ที่บ้านป้าในแฮมสตีด) การทดสอบเริ่มต้นในช่วงสายของวันปีใหม่ หลังจากที่ไมค์ สมิธ มาช้าเนื่องจากปาร์ตี้ส่งท้ายปีเก่าในคืนก่อน   เมื่อสัญญาณการบันทึกเสียงเริ่มต้นขึ้น ดูเหมือนจะไม่ใช่วันของพวกบีทเทิลส์ เมื่อทั้งสี่ค่อนข้างประหม่าและกังวลอยู่พอสมควรกับการทดสอบที่หมายถึงการตัดสินอนาคตของพวกเขา 15 บทเพลงถูกคัดเลือกมาเล่นในการทดสอบครั้งนี้ 3 เพลงเป็นฝีมือการประพันธ์ของจอห์นและพอล ส่วนอีก 12 เพลงเป็นเพลงที่ไบรอันคัดเลือกมาให้ จอห์นนั้นอยากจะเล่นเพลงร็อคมันส์ ๆ แบบที่พวกเขาถนัด ส่วนไบรอันเสนอให้เล่นเพลงฮิต และหลากหลาย(รวมไปถึงเพลงช้าด้วย) ซึ่งพวกบีทเทิลส์ดูจะไม่ค่อยแฮปปี้กับความเห็นนี้นัก Searchin’ ร้องนำโดยพอล ส่วนเพลงThree Cool Cats ขับร้องโดยหนุ่มน้อยจอร์จ แฮริสันซึ่งในขณะนั้นมีอายุเพียง 19 ปี ทั้งสองเพลงประพันธ์โดยคู่หู Leiber/Stoller  ซึ่งThe Coasters นำไปขับร้องในปี 1957 และปี 58 ตามลำดับ จากคุณ : fab4 - [ 17 พ.ค. 49 10:32:16 ]

ความคิดเห็นที่ 7 The Sheik Of Araby เพลงเก่าที่มีอายุมากกว่า 20 ปี หนึ่งในเพลงโปรดของวงที่นำมันไปเล่นหากินประจำบนเวทีการแสดงในยุคแรก ๆ  เพลงนี้ปรากฏครั้งแรกในละครเพลงเรื่อง Make It Snappy และภาพยนตร์ฮอลีวู้ดเรื่อง Tin Pan Alley ตั้งแต่ปี 1940 เพลงนี้ร้องนำโดยจอร์จ ในแบบฉบับของ Fats Domino ที่นำมาบันทึกเสียงใหม่ในปี 1961 ก่อนเริ่มต้นปี 1962 คู่หูเลนนอน และแมกคาร์ทนีย์ ร่วมมือกันแต่งเพลงมามากกว่า  5 ปีแล้ว ว่ากันว่าพวกเขาเขียนเพลงไว้ร่วมหนึ่งร้อยเพลงก่อนที่จะเริ่มเป็นที่รู้จักด้วยซ้ำ และก็มีเพลงไม่กี่เพลงจากยุคเริ่มแรกที่ได้รับการบันทึกเสียงอย่างเป็นทางการ Like Dreamers Do และ Hello Little Girl เป็น 2 ใน 3 เพลงที่แต่งโดยเลนนอน และแมกคาร์ทนีย์ที่นำมาขับร้องในการทดสอบครั้งนี้( อีกเพลงคือเพลง Love Of The Loved)   Like Dreamers Do ร้องนำโดยพอล ส่วนเพลง Hello Little Girl ร้องนำโดยจอห์น The Fourmost วงดังอีกวงในคาถาของไบรอันนำเพลงนี้ไปอัดแผ่นเสียงในปี 1963 ส่วนเพลงแรก The Apple Jack ศิลปินของเดคกาจากเบอมิงแฮมนำไปขับร้องและขึ้นถึงอันดับที่ 7 ในปี 1964 การทดสอบสิ้นสุดลงในช่วงบ่าย และสุดท้ายทางวงก็ไม่ได้เซ็นสัญญาใด ๆ กับเดคกา Brian Poole & The Tremeloes วงดนตรีจากเมืองเชฟฟิลด์ซึ่งมาออดิชั่นในช่วงสายของวันเดียวกันได้รับการรับเลือก ซึ่งภายหลังวงดนตรีวงนี้ไม่เคยมีเพลงฮิตและไม่ได้รับความนิยมใด ๆ เลย จากคุณ : fab4 - [ 17 พ.ค. 49 10:33:18 ]

ความคิดเห็นที่ 8 8. “Well, the recording test ... by my artists" บันทึกเสียง : อีเอ็มไอสตูดิโอ,ลอนดอน,13 ตุลาคม 1964 โปรดิวเซอร์ : จอร์จ มาร์ติน เอนจิเนียร์ : สจ๊วต เอลเธม เทปบันทึกเสียงตัดตอนมาจากส่วนนึงของหนังสือชีวประวัติของไบรอัน เอ็ปสไตน์ A Cellarful Of Noise “การทดสอบการบันทึกเสียงผ่านมาแล้วก็ผ่านไป พวกที่ตัดสินใจเกี่ยวกับเรื่องนี้ที่เดคกาบอกปฎิเสธ เอ่อ คุณคงเดาได้ว่าผมจะกลุ้มแค่ไหนในการที่จะบอกข่าวนี้แก่พวกเด็กๆที่สร้างความหวังกันมาไม่น้อย ดังนั้นผมจึงให้โอกาสตัวเองอีก 24 ชั่วโมงสุดท้ายไปเสาะหาบริษัทแผ่นเสียงสุดท้ายที่เหลืออยู่และผมก็เข้าพักที่โรงแรมกรีนพาร์ค ตอนเช้าผมเรียกแท็กซี่ไปที่ ออฟฟิซของอีเอ็มไอที่แมนเชสเตอร์สแควร์ ลอนดอน เพื่อที่จะไปพบกับชายผู้ที่ในอีกไม่ถึง 2 ปีต่อมาจะโปรดิวซ์เพลงอันดับหนึ่ง 16 เพลงให้กับศิลปินของผม” จากคุณ : winston (fab4) - [ 17 พ.ค. 49 10:34:49 ]

ความคิดเห็นที่ 9 9.Besame Mucho (Consuelo Velazquez[ทำนอง],Sunny Skylar[เนื้อร้องภาษาอังกฤษ]) 10.Love Me Do (John Lennon,Paul McCartney) บันทึกเสียง : อีเอ็มไอสตูดิโอ,ลอนดอน,6 มิถุนายน 1962 โปรดิวเซอร์ : จอร์จ มาร์ติน เอนจิเนียร์ : นอร์แมน สมิธ หลังจากถูกปฎิเสธจากเดคกา  ไบรอันก็เริ่มต้นหาสังกัดให้กับวงต่อ เขาหอบเอาเทปที่พวกเด็ก ๆ ออดิชั่น รวมไปถึงซิงเกิ้ล  My Bonnie ที่พวกเขาเคยทำไว้ที่เยอรมันเดินเข้าออกบริษัทแผ่นเสียงอยู่นานหลายเดือน ต้นเดือนกุมภาพันธ์ไบรอันแวะเข้าไปในร้านขายแผ่นเสียง HMV บนถนนอ็อกซ์ฟอร์ดเพื่อตัดแผ่นจากเทปรีลไปเป็นแผ่นครั่ง ที่นั่นเขาได้รับการแนะนำให้รู้จักกับซิดโคลแมนผู้บริหารของอีเอ็มไอซึ่งดูจะสนใจเพลงที่แต่งโดยจอห์น และพอลเป็นพิเศษ สุดท้ายโคลแมน ก็ส่งไบรอันไปพบกับจอร์จ มาร์ตินที่ดูแลสังกัดเล็ก ๆ สังกัดหนึ่งของอีเอ็มไอ พาร์โลโฟน และเซ็นสัญญากันในที่สุด จากคุณ : fab4 - [ 17 พ.ค. 49 10:36:45 ]

ความคิดเห็นที่ 10 เพลง Besame Mucho และ Love Me Do เป็น 2 ใน 4 เพลงที่บีทเทิลส์อัดในวันที่ 6 มิถุนายน 1962 ซึ่งเป็นการบันทึกเสียงเป็นครั้งแรกที่อีเอ็มไอสตูดิโอเพลงแรกเป็นเพลงสุดโปรดของพวกเขาในเวลานั้น มันเป็นเพลงเก่าที่มีคนนำไปเล่นมาแล้วไม่ต่ำกว่าหนึ่งร้อยเวอร์ชั่น เดอะบีทเทิลส์ได้แรงบันดาลใจมาจาก The Coasters ที่นำมันมาอัดเสียงใหม่ในปี 1960 เนื้อร้องภาษาอังกฤษประพันธ์โดย Sunny Skylar Love Me Do เพลงนี้เป็นเพลงที่ทางวงบันทึกเสียงถึงสามวาระด้วยกันในปี 1962 โดยแต่ละครั้งพวกเขาจะใช้มือกลองต่างกัน สองแบบหลังเป็นเพลงที่เราค่อนข้างคุ้นเคยกันอยู่แล้ว และมีการออกวางจำหน่ายอย่างเป็นทางการด้วย คือซิงเกิ้ลแรกของวงที่ตีกลองโดยริงโก้ และอีกเวอร์ชั่นที่ตีกลองโดยอแนดี้ ไวท์ในอัลบั้ม Please Please Me ส่วนเวอร์ชั่นที่เราได้ฟังกันใน Anthology นั้นตีกลองโดย พีท เบสท์ (ก่อนที่ต่อมาจะถูกเชิญออกจากวง) และยังเป็นเพลงที่สาบสูญไปกว่า 32 ปีเมื้อจูดี้ ภรรยาของจอร์จ มาร์ตินค้นพบเทปต้นฉบับหลังตู้ในบ้านของเธออย่าง"อัศจรรย์"เมื่อปี 1994 จากคุณ : fab4 - [ 17 พ.ค. 49 10:37:57 ]

ความคิดเห็นที่ 11 11.How Do You Do It (Mitch Murray) บันทึกเสียง : อีเอ็มไอสตูดิโอ,ลอนดอน,4 กันยายน 1962 โปรดิวเซอร์ : จอร์จ มาร์ติน เอนจิเนียร์ : นอร์แมน สมิธ จอห์น พอล จอร์จ พร้อมกับมือกลองคนใหม่ ริงโก สตาร์กลับมาที่อีเอ็มไอสตูดิโออีกครั้งเพื่อผลิตซิงเกิ้ลแรก พวกเขาเช็คอินในโรงแรมเล็กๆ ย่านเชลซีหลังจากที่บินตรงมาจากลิเวอร์พูลในตอนเช้ามืด ในเวลานั้นเดอะบีทเทิลส์มีเพลง Love Me Do เป็นเพลงดีที่สุดที่พวกเขามีในมือ ส่วนจอร์จ มาร์ตินก็ยืนกรานที่จะใช้เพลง How Do You Do It ที่แต่งโดยนักแต่งเพลงมืออาชีพอย่างมิทซ์ เมอร์เรย์เป็นซิงเกิ้ลเปิดตัวของวง   เพลง How Do You It แต่เดิมเป็นเพลงที่เขียนให้นักร้องที่ชื่อว่า อดัม เฟธ แต่ไม่ได้บันทึกเสียงอย่างเป็นทางการ มันถูกส่งต่อไปยังรอน ริชาร์ดผู้ช่วยของจอร์จ มาร์ติน ซึ่งคิดว่ามันเป็นเพลงที่ดีมากและแนะนำให้ดิก เจมส์จดลิขสิทธิ์เอาไว้   ในตอนแรกมาร์ตินนั้นให้สัญญากับพวกเด็กๆ ไว้ว่าเขาจะให้เดอะบีทเทิลส์บันทึกเสียงเพลงที่ตัวเองแต่ง ถ้าพวกเขามีเพลงที่ดีกว่าที่มีอยู่ แต่ตอนนี้พวกเขาต้องบันทึกเสียงเพลงนี้ก่อน ความเชื่อของมาร์ตินได้รับการพิสูจน์ภายหลังเมื่อเพลง Love Me Do ซิงเกิ้ลแรกของวงที่ประพันธ์โดยเลนนอน และแมกคารท์นีย์ขึ้นอันดับสูงสุดเพียงแค่อันดับที่17 ส่วนเพลง How Do You Do It ที่ถูกส่งไปให้กับ Gerry and the Pacemakers วงดนตรีอีกวงในสังกัดของไบรอัน เอ็ปสไตล์ขับร้องกับกลายเป็นเพลงฮิตอันดับที่หนึ่งในอังกฤษในเวลาต่อมา จอห์น พอล จอร์จ ริงโก้ ถ่ายภาพร่วมกันก่อนขึ้นเครื่องจาก สปี้คแอร์พอร์ต ลิเวอร์พูล จากคุณ : fab4 - [ 17 พ.ค. 49 10:48:25 ]

ความคิดเห็นที่ 12 อีเอ็มไอสตูดิโอ,ลอนดอน,11 กันยายน 1962 แก้ไขเมื่อ 17 พ.ค. 49 10:52:54 จากคุณ : fab4 - [ 17 พ.ค. 49 10:50:19 ]

ความคิดเห็นที่ 13 เลนนอน แม็กคาร์ทนีย์ จากคุณ : fab4 - [ 17 พ.ค. 49 10:54:05 ]

ความคิดเห็นที่ 14 แฮริสัน กับอายแชโดว์ จากคุณ : fab4 - [ 17 พ.ค. 49 10:55:11 ]

ความคิดเห็นที่ 15 สตาร์ จากคุณ : fab4 - [ 17 พ.ค. 49 10:56:05 ]

ความคิดเห็นที่ 16 12.Please Please Me (John Lennon,Paul McCartney) บันทึกเสียง : อีเอ็มไอสตูดิโอ,ลอนดอน,11 กันยายน 1962 โปรดิวเซอร์ : จอร์จ มาร์ติน เอนจิเนียร์ : นอร์แมน สมิธ หนึ่งสัปดาห์หลังจากบันทึกเสียงเพลง How Do You Do It เดอะบีทเทิลส์ต้องกลับมาที่อีเอ็มไอสตูดิโอ เป็นครั้งที่สาม เป็นความพยายามเป็นครั้งสุดท้ายสำหรับการขัดเกลาซิงเกิ้ลแรก จอร์จ มาร์ตินช็อคพวกเด็กๆ ด้วยการนำมือกลองห้องอัดอาชีพ อย่างแอนดี้ไวท์ มานั่งประจำอยู่ในตำแหน่งกลอง ส่วนริงโก้ สตาร์สมาชิกใหม่ถอดด้ามของวงในขณะนั้นถูกส่งไปเขย่ามาราค่าส์แทนในเพลง P.S. I Love You ,แทมบูรีนในเพลง Love Me Do ในช่วงท้ายเซสชั่นของการบันทึกเสียงพวกเขาก็แถมท้ายด้วยการเล่นเพลงใหม่ Please Please Me ที่ไม่มีฮาร์โมนิก้าที่เป็นเครื่องหมายการค้าของเพลง น่าเสียดายที่สโลว์เวอร์ชั่นในเทคแรกๆ แบบรอย ออร์บิสันไม่มีเหลือรอดมาให้ฟังในปัจจุบัน ภายหลังเดอะบีทเทิลส์กลับมาบันทึกเสียงเพลงนี้อีกครั้งในช่วงปลายปี 1962 ด้วยคำแนะนำเล็กๆ น้อย ๆของยอดโปรดิวเซอร์อย่างจอร์จ มาร์ติน พวกเด็ก ๆ ก็ปรับจังหวะเพลงให้เร็วขึ้น และส่งเพลงนี้ให้กลายเป็นเพลงฮิตอันดับที่หนึ่งเพลงแรกของวงในต้นปี 1963 หลังจากนั้นโลกดนตรีก็เปลี่ยนแปลงไปตลอดกาล จบตอนที่ 2 จากคุณ : fab4 - [ 17 พ.ค. 49 11:01:58 ]

ความคิดเห็นที่ 17 ขอบคุณครับ จากคุณ : กึ่งยิงกึ่งผ่าน - [ 17 พ.ค. 49 11:47:53 ]

ความคิดเห็นที่ 18 ของดีดีอย่างนี้ กี่ปีก็รอ จากคุณ : debby the gunner - [ 17 พ.ค. 49 14:51:14 ]

ความคิดเห็นที่ 19 ความตั้งใจสูงส่งขนาดนี้ ไบรอันน่าจะรับไปทำงานด้วย ทำต่อให้เสร็จ แล้วทำเป็นหนังสือได้เลยครับ อันนี้ซีเรียสเลยนะ จากคุณ : winston - [ 17 พ.ค. 49 22:16:53 ]

ความคิดเห็นที่ 20 ไม่มีบทความดีๆอย่างนี้นานแล้ว ขอบคุณมากครับ จากคุณ : FingerPie - [ 18 พ.ค. 49 02:29:01 ]