ความคิดเห็นที่ 15
แจ๊สยุคใหม่ในฝรั่งเศส
ผู้มีบทบาทอย่างโดดเด่นบนหน้าประวัติศาสตร์ดนตรีแจ๊สฝรั่งเศสยุคใหม่ คือนักเปียโนนามว่า Martial Solal ซึ่งเกิดที่ อัลเจียร์ แอฟริกาเหนือ จากนั้นเมื่ออายุได้ 23 ปี เขาย้ายมาอยู่ฝรั่งเศสในช่วงทศวรรษ 1950s Solal เริ่มต้นเรียนดนตรีตอนอายุ 7 ขวบ กับแม่ซึ่งเป็นนักร้องโอเปรา เขาผ่านประสบการณ์การเล่นดนตรีมาอย่างโชกโชน ทั้งวงขนาดเล็กและวงบิ๊กแบนด์ มีบทบาทอย่างสำคัญในการประพันธ์ดนตรีร่วมสมัยที่ผสมผสานกลิ่นอายของแจ๊ส แม้จะเป็นนักดนตรีหัวก้าวหน้า แต่ Solal เปิดกว้างเพียงพอสำหรับการทำงานร่วมกับนักดนตรีแจ๊สสายอนุรักษ์นิยม เช่น เขาเคยมีงานอัดแผ่นกับ ซิดนีย์ บิเชต์ (Sidney Bechet) ในปี ค.ศ.1957 และเล่นกับ จังโก ไรน์ฮาร์ดท์ (Django Reinhardt) หลายชุด ขณะเดียวกัน ก็เคยทำงานกับนักดนตรีรุ่นใหม่อย่าง ลี โคนิตซ์ (Lee Konitz) Martial Solal เคยเดินทางไปแสดงที่เทศกาลดนตรีแจ๊สนิวพอร์ทในปี ค.ศ.1963 บรรเลงในรูปแบบทริโอร่วมกับนักดนตรีอเมริกัน อย่าง มือกลอง พอล โมเชียน (Paul Motian) และมือเบส เท็ดดี โคทิค (Teddy Kotick) แต่น่าเสียดายว่าความสามารถทางดนตรีของเขายังไม่เป็นที่รู้จักแพร่หลายเท่าที่ควร มิเชล พอร์ทัล (Michel Portal) เป็นนักแซ็กโซโฟนชาวฝรั่งเศสอีกคนหนึ่งที่มีความเคลื่อนไหวในวงการแจ๊สฝรั่งเศสยุคซิก์ตีส์ เคยเล่นกับนักดนตรีภาคพื้นยุโรปและนักดนตรีอเมริกัน อาทิ Henri Rossotti, เปเรซ ปราโด (Perez Prado) ดอน เชอร์รี (Don Cherry) , ซันนี เมอร์เรย์ (Sunny Murray) , แอนโธนี แบรกซ์ตัน (Anthony Braxton) ฯลฯ พอร์ทัล ได้รับการยกย่องว่ามีส่วนในการทำลายข้อจำกัดอันเกิดจากพรมแดนทางดนตรี ด้วยแนวทางการสร้างสรรค์ของเขา 3 รูปด้วยกัน นั่นคือ การผสมผสานดนตรีท้องถิ่นของฝรั่งเศส, ดนตรีอวอง-การ์ดแบบคลาสสิก และ ดนตรีฟรี แจ๊ส ดนตรีท้องถิ่นของฝรั่งเศสนั้น พอร์ทัล ซึมซับมาจากวิถีชีวิตและวัฒนธรรมของผู้คนในละแวกแคว้น Basque ซึ่งเป็นบ้านเกิดของเขา ส่วนดนตรีอวอง-การ์ด นั้น มาจากการที่ พอร์ทัล เคยร่วมกับ Vinko Globokar และ Jean-Pierre Drouet ทำวง เดอะ นิว โฟนิค อาร์ต ขึ้นมา โดย พอร์ทัล เป็นคนหนึ่งที่นิยมบรรเลงผลงานของคีตกวีรุ่นใหม่ อย่าง บูเลซ์, สต็อกฮาวเซน, เบริโอ และ คาเกล นอกจากนี้ เขายังทดลองแนวคิดในการบรรเลงฟรีแจ๊ส กับศิลปินอย่าง Francois Tusques และ Bernard Vitet พอร์ทัล มีบทบาทอย่างสูงช่วงทศวรรษ 1970s เขาเป็นหนึ่งในหัวขบวนของศิลปินแจ๊สยุโรปรุ่นใหม่ ประกอบด้วย Bernard Lubat, Henri Texier, Francois Jeanneau, Joachim Kuhn ซึ่งไม่เพียงทำงานของตนเองเท่านั้น หากยังได้ปะทะสังสรรค์กับศิลปินแจ๊สอเมริกันซึ่งแวะเวียนมาเยี่ยมเยือนปารีส และยุโรปอยู่เสมอๆ เนื่องจากสภาวะตกต่ำของวงการแจ๊สในสหรัฐอเมริกา นอกจากนี้ยังมีศิลปินบางรายที่ชื่นชอบบรรยากาศการทำงานในฝรั่งเศส ถึงขนาดปักหลักใช้ชีวิตในปารีสเลย อาทิ สตีฟ ลาซี (Steve Lacy 1934-2004) ซึ่งพักอยู่ที่นั่นนานถึง 3 ทศวรรษกว่าจะเดินทางกลับบ้านเกิด และเพิ่งเสียชีวิตไปเมื่อไม่นานมานี้ ในช่วงทศวรรษถัดมา ฝรั่งเศส มีนักดนตรีที่ก้าวขึ้นมาเป็นที่รู้จักในระดับโลกหลายคน ส่วนหนึ่งในจำนวนนั้น อาทิ ฌอง ลุค ปงตี (Jean Luc Ponty) นักไวโอลินไฟฟ้า, มิเชล เปทรุคเชียนี (Michel Petrucciani) นักเปียโนร่างกายพิการเชื้อสายอิตาเลียน ที่เกิดและเติบโตในฝรั่งเศส ผู้เปี่ยมด้วยอัจฉริยภาพทางดนตรี แต่กลับต้องมาจากโลกไปในเวลาอันสั้น ปัจจุบัน ความก้าวหน้าของวงการแจ๊สในฝรั่งเศส สะท้อนได้จากเทศกาลดนตรีแจ๊สใหญ่น้อยราว 250 งาน มีเครือข่ายไนท์คลับที่เป็นพื้นที่สำหรับการแสดงสดแจ๊สอย่างกว้างขวาง มีองค์กรเอกชนที่สนับสนุนทุนให้เกิดกิจกรรมทางวัฒนธรรมที่เน้นการยกระดับงานดนตรีมากมาย ในปี ค.ศ.1986 มีการก่อตั้งวง The Orchestra National de Jazz โดยเงินทุนจากรัฐบาล ซึ่งไม่ใช่วงบิ๊กแบนด์แจ๊สแบบธรรมดา แต่เป็นวงออร์เคสตราแจ๊สในความหมายของการเปิดโอกาสให้มีการสร้างสรรค์บทประพันธ์ขนาดใหญ่สำหรับแจ๊สโดยเฉพาะ เป็นการทดลองสิ่งแปลกใหม่อย่างเปิดกว้าง เพื่อให้บรรลุปรัชญาทางด้านสุนทรียภาพ และเป็นทางออกให้วงดนตรีได้บรรเลงอย่างเป็นเรื่องเป็นราว The Orchestra National de Jazz นับเป็นเวทีที่โดดเด่นอีกแห่งของวงการแจ๊สฝรั่งเศสในปัจจุบัน เพราะได้สร้างชื่อเสียงให้แก่ยอดฝีมือหลายคน อาทิ Marc Ducret, Yves Robert, Jean-Loius Matinier, Renaud Garcia-Fons, Ramon Lopez และโดยเฉพาะ เหงียน เล (Nguyen Le) นักกีตาร์เชื้อสายเวียดนามที่เกิดในฝรั่งเศส เมื่อปี ค.ศ.1959 เหงียน เล เริ่มต้นเล่นกลองเมื่ออายุ 15 จากนั้นหันมาจับกีตาร์และเบสไฟฟ้า โดยสนใจผลงานของมือกีตาร์หลากหลาย ตั้งแต่ จิมี เฮนดริกซ์ จนถึง จังโก ไรน์ฮาร์ดท์, บิลล์ ฟริเซลล์, แพท เมธินี, จอห์น สโกฟิลด์, จอห์น แอเบอร์ครอมบี ฯ เขาได้รับคัดเลือกให้ร่วมวงกับ แจ๊สออร์เคสตราระดับชาติของฝรั่งเศส (The Orchestra National de Jazz) ในปี ค.ศ.1987 ทำให้ได้มีโอกาสเล่นกับนักดนตรีระดับแนวหน้าทั้งจากฝั่งอเมริกาและยุโรป อย่าง จอห์นนี กริฟฟิน, ดีเดียร์ ล็อกวูด, หลุยส์ คลาวิส, สตีฟ สวอลโลว์, แรนดี เบรคเกอร์, ทู้ทส์ ธีเลมานส์, คอร์ทนีย์ ไพน์, สตีฟ เลซี, ดีดี บริดจ์วอเตอร์, กิล อีแวนส์ และ ควินซี โจนส์ ก่อนจะออกมาทำงานเป็นศิลปินเดี่ยวในปัจจุบัน โดยมีอัลบั้มออกกับสังกัด ACT ของเยอรมนีหลายชุดด้วยกัน ครั้งหนึ่ง เมื่อมีคนถาม เหงียน เล ถึงคำนิยามของแจ๊สในฝรั่งเศสว่าเหมือนที่มีปรากฏการณ์อนุรักษ์นิยมในสหรัฐอเมริกาหรือไม่ เขาตอบได้อย่างคมคายว่า ผมว่าแจ๊สในฝรั่งเศสค่อนข้างเปิดกว้างนะ ไม่มีอนุรักษ์นิยมแบบมาร์แซลลิส (หมายถึง วินตัน มาร์แซลลิส) หรอก เพราะว่าแจ๊สไม่ใช่ดนตรีของเรา พวกเราไม่ได้สร้างมันขึ้นมา ดังนั้น เราจะไปอนุรักษ์มันได้อย่างไร อย่างน้อยก็กรณีของ จังโก ไรน์ฮาร์ดท์ นั่นไง หมายความว่าเราต้องสร้างแนวทางของเราขึ้นเองขึ้นมา แน่นอน มีสไตล์แจ๊สที่เป็นวิหารหลักอยู่แล้วจำนวนหนึ่ง ทั้ง ก่อน-บ็อพ, บีบ็อพ, โมเดิร์น, ฟิวชั่น, อวอง-การ์ด, เวิลด์ อื่นๆ อีกมากมาย แต่ใครก็ตามที่ต้องการ(สร้างสรรค์งานดนตรี)ต้องข้ามผ่านพรมแดนพวกนี้ออกไปทั้งนั้น
จากคุณ :
อนันต์7
- [
20 มิ.ย. 49 17:37:47
A:10.2.3.5 X:203.154.97.194
]
|
|
|