เตือนตุลาคมหน้าข้าวเขียว ลมหนาวพัดมาวอยๆ เสียงไก่ชนนับร้อยตัวของ "อาวทิดหลอด"
โก่งคอขันรับอรุณ ปลุกให้ชายหญิงหลายร้อยชีวิตที่กำลังหลับสบายอยู่ในคุ้ม "นกน้อย"
ตื่นขึ้นจากหลับไหล บ้านพักประมาณ 20 หลัง
ปลูกรายล้อมเรือนหลังใหญ่ซึ่งเป็นที่พำนักของผู้เป็นประมุขแห่งคณะหมอลำ "เสียงอิสาน"
หรือที่คนในหมู่บ้านหนองใส ตำบลหนองนาคำ อำเภอเมือง จังหวัดอุดรธานี รู้จักกันในนามแม่ใหญ่ "นกน้อย
อุไรพร"
ควันไฟโขมงจากโรงครัว ลอยอ้อยอิ่งขึ้นฟ้า เสียงหม้อแหกแตกกระโปะจากการหุงหาอาหารดังอึกทึกราวกับมีงานบุญ
แม่ครัวนับสิบคนสาละวนอยู่กับงานในรับผิดชอบของตน บ้างนึ่งข้าว ตำน้ำพริก หั่นผัก ต้มยำทำแกง
จำนวนคนในคุ้มนกน้อยกว่า 400 คนที่ต้องรับประทานอาหารเช้าพร้อมกัน งานในโรงครัว
จึงหนักหนาสาหัสสำหรับผู้รับผิดชอบตรงนี้
อาวทิดหลอด ผัวแม่ใหญ่นกน้อยเป็นชายร่างใหญ่วัยห้าสิบเศษ ศีรษะเถิก พุงพลุ้ย นุ่งกางเกงขาสั้น
เสื้อยืดคอวีมีปก เดินดูไก่ที่ขังในสุ่มตัวโน้นทีตัวนี้ที แกมีลูกน้องคอยดูแลไก่ชนอย่างเดียวถึงห้าคน
หน้าที่ของห้าคนนี้ไม่ต้องเกี่ยวอะไรทั้งสิ้นกับคณะเสียงอิสาน มีหน้าที่พาไก่วิ่งออกกำลัง พาซ้อม
ป้อนข้าว ป้อนน้ำ กางมุ้งให้นอน ตลอดจนเยียวยารักษาเวลาไก่เจ็บไข้ได้ป่วย
ความเอาใจใส่ใกล้ชิดมายาวนานนี่เอง คนในวงเสียงอิสานต่างพากันเห็นพ้องต้องกันว่า
ทั้งอาวทิดหลอดและลูกน้องห้าคนเริ่ม จะมีศีรษะละม้ายคล้ายไก่เข้าไปทุกที
ไก่ชนกว่าห้าร้อยตัวพากันตะเบ็งเสียงแหกปากไม่เป็นภาษาไก่
เมื่อได้ยินเสียงกลองชุดรัวสนั่นมาจากบ้านหลังหนึ่ง อันเป็นที่พำนักของนักดนตรี
ฝีมือการตีกลองแบบวินาศสันตะโรแบบนี้ เป็นใครไม่ได้นอกจากมือกลองประจำวงเสียงอิสานชื่อ
"ไอ้เย่อร์" ทุกเช้าที่มันแหกขี้ตาตื่น
ก็จะคว้าไม้กลองเข้ากระหน่ำแบบไม่เกรงใจหน้าอินทร์หน้าพรหม ปลุกคนที่กำลังหลับอยู่ในเรือนหลังอื่นๆ
ให้ลุกขึ้นมาตะโกนด่าพ่อล่อแม่กันให้ขรม
จากคุณ :
p เสื้อเหลือง
- [
5 ส.ค. 49 16:47:29
]