ความคิดเห็นที่ 57
ความเห็นข้างบนผมพิมพ์เอาไว้เมื่อวานตอนสายๆ ก่อนที่คุณ FNE จะมาตอบอีกสองสามความเห็น แล้วก็มาลงท้ายในเรื่องของการละเมิด Software ว่าอย่ามือถือสากปากถือศีล ทำอะไรก็อย่า double standard ผมเห็นด้วยครับ แต่สำหรับอะไรที่มันไม่ "เกินไป" นะครับ
ผมพูดสำหรับตัวผมเองก่อนเลยนะครับ ผมเองทำงานทางเกี่ยวกับคอมพิวเตอร์มาตลอด และค่อนข้างมีสำนึกเกี่ยวกับเรื่องนี้ ถ้าไม่เหลือบ่ากว่าแรงนี่ผมยินดีเลยครับ เครื่องที่บ้านผม Windows ก็เป็น OEM ที่ติดมาตอนซื้อเครื่อง ตัวป้องกันไวรัสผมใช้ BitDefender ที่ซื้อของแท้มา (พันกว่าบาทปลายๆ) และโปรแกรมที่ผมเองต้องใช้งานจริงๆ ผมใช้พวก Text Editor ของ Programmer เพราะผมต้องเขียนโปรแกรม ผมก็ใช้ EditPlus ซึ่งเป็นโปรแกรมที่ดีมาก และเป็นโปรแกรมใจดี ให้โหลดและลองใช้ได้นานมาก พอมัน expire ก็ไม่ได้ทำให้โปรแกรมเสียหาย ยังใช้ได้ต่อ แต่ผมก็เสียเงิน online ให้กับเค้า เพราะว่าราคาของมันไม่ได้มากมาย
ถ้าราคา software มันไม่กี่พันบาท ผมว่าจะมีคนจำนวนมากขึ้นเลยนะครับ ที่เต็มใจจะซื้อ อันนี้ผมเริ่มพูดถึงคนส่วนใหญ่แล้วนะครับ .. ราคาของ Windows XP ที่ขายเป็น Retail ตัวละประมาณ 8,500 บาท Photoshop CS ที่วางขายอยู่ ราคาประมาณ 30,000 กว่าบาท โปรแกรมพวก MS Office ต่างๆ ราคาก็ 15,000 ขึ้นไป โปรแกรมพวกทำเว็บอย่าง Macromedia ต่างๆ ตัวละ 15,000 - 30,000 ของ Macromedia นี่เป็นตัวๆ นะครับ มันมีหลายตัว ซื้อทั้ง Flash, Dreamweaver , Firework และอีกหลายตัวที่จำเป็น แค่ของ Macromedia ตัวเอง ก็ตกไปแสนกว่าบาทแล้วครับ ถ้าครบทั้งเครื่องเลย มีโปรแกรมถูกต้องทุกอย่าง ผมคิดว่าคนนั้นต้องมีเงินมาจ่ายตรงนี้ ราวๆ 200,000 บาทขึ้นไปเลยครับ!!!!
อันนี้คร่าวๆ นะครับ ... แค่คิดก็เหงื่อตกแล้ว
คุณ FNE ลองมองความแตกต่างของราคาที่สุดขั้วเหล่านี้ดูนะครับ ระหว่าง software ราคาหลายหมื่นบาท กับเพลงอัลบั้มหนึ่งราคา 100-400 บาท จะเห็นว่าราคาของสื่อเพลงนั้น ราคาถูกมากๆ เค้าถึงเรียกร้องกันไงครับ ถูกขนาดนี้ก็ซื้อของแท้กันเถอะ มันไม่ได้แพงรากเลือดเลยนะ อะไรประมาณนี้ (ไม่พูดถึงพวกที่ซื้อของผีที่ตะบั้นซื้ออยู่นั่น ค่าใช้จ่ายมากกว่าซื้อเพลงของแท้ซะอีก .. อันนั้นพวกเรารู้กันดีอยู่แล้ว)
จะเห็นว่าถ้าใครสักคนหนึ่งต้องการใช้โปรแกรม Photoshop ก็ต้องเก็บเงินขนาดที่ซื้อมอเตอร์ไซค์ได้หนึ่งคัน มันต่างกับงานเพลงที่ถ้าคุณซื้อเดือนละ 3 แผ่น ราคาก็ไม่ถึง 500 บาทเอง
กำลังซื้อต่างกันครับ
เอามาพูดเปรียบเทียบน่ะได้ครับ แต่ถ้าจะพูดทั้งที ก็น่าจะพูดตรงที่ผมพูดด้วยเพราะเป็นปัจจัยสำคัญที่ใครสักคนจะซื้อ ผมเชื่อแน่นอนว่าถ้า Windows ราคา 2-3 พันบาท หลายคนซื้อแน่นอน ถ้า photoshop ราคาประมาณกัน ก็มีคนซื้อแน่นอน แล้วถ้าจะตอบว่าคนที่ละเมิดเพลงก็เรียกร้องในสิ่งเดียวกัน ผมก็อยากจะให้วกกลับไปดูที่เรื่องของกำลังซื้อ คือมันไม่ได้แพงขนาดคอขาดตายอยู่แล้ว ยังจะขอลงไปอีกเหรอ
อีกอย่างพวกโปรแกรมต่างๆ การตลาดของเขาไม่ได้เน้นกำไรทางด้านลูกค้ารายย่อยครับ เค้ามองไปที่ลูกค้า Corporate ครับ หมายถึงว่าเค้าจะมองที่ลูกค้าระดับองค์กร เพราะลูกค้าแบบนี้ สามารถเล่นงานตามหลักกฎหมายได้เต็มเม็ดเต็มหน่วย ในกรณีที่ตรวจเจอ ซึ่งเป็นการบังคับกลายๆ ว่าองค์กรจะต้องมีโปรแกรมลิขสิทธิ์เป็นยันต์กันผีอยู่จำนวนหนึ่ง ซึ่งรวมๆ หลายๆ โปรแกรมแล้ว ก็มีราคาไม่น้อยเลย แต่นั่นเป็นแบบ corporate ซึ่งเหมือนกับเป็นรายจ่ายขององค์กรอยู่แล้ว
บริษัท software ต่างๆ เค้ามองตรงนั้นครับ เพราะรายได้มันได้เนื้อๆ ได้เน้นๆ ครับ ต่างกับบริษัทเพลง ที่ต้องขายเพลงแบบรายย่อยครับ
ปัจจัยในการนำมาพิจารณามันมีเยอะครับ
ถ้าจะคุยเรื่องพวกนี้จริงๆ ผมว่าแตกกระทู้เลยเถอะครับ มันเริ่มห่างไกลจากเรื่องของ P2P ไปเรื่อยๆ แล้วครับ
จากคุณ :
กึ่งยิงกึ่งผ่าน
- [
17 ส.ค. 49 13:22:57
]
|
|
|