CafeTech-ExchangePantip MarketChatPantownBlogGangTorakhongGameRoom


    ++++ ร้องจากคอ ร้องเสียงหลบ +++(การร้องเพลง)

    ขอแย้งเรื่อง "ร้องจากคอ"

    ออกตัวก่อนนะคับ ว่าผมก็แค่งูๆปลาๆ ไม่ใช้ผู้รู้ลึกรู้จริง
    ก็เริ่มหัด เริ่มเดินเหมือนกัน และเจตนาจะแสดงมุมมอง
    ของผมเท่านั้น ไม่ได้ต้องการเอาชนะวิชาอาคมกับใครนะครับ ด้วยความเคารพ

    จะยึดถือเอาคำกล่าวของผมเป็นสรนะเลย ก็ไม่เหมาะ
    ถ้าชอบการร้องเพลงจริงๆ ก็รับฟังไว้บ้าง
    ไม่ต้องถึงกับใส่บ่าแบกหาม เอาเป็นเอาตายกับผมนะคับ

    ผมอยู่เฉยๆคงไม่เสียหายอะไร
    แต่เห็นหลายกระทู้แล้ว เห็นเข้าใจผิดกันเยอะ(ผมว่าผิด)
    คนอื่นไม่ห่วง ห่วงคนร้องเพลงหน้าใหม่ จะงงติดกับตรงนั้น
    เข้าใจเจตนาของผมตรงนี้แล้วก็ เริ่มกันเลยนะคับ


    เรื่อง "ร้องจากคอ" ที่มองกันว่าไม่ดี ไม่ถูกนั้น
    ผมว่า ย้ำนะคับ ผมว่า ....." เข้าใจผิด"
    ใครที่พยามหลีกเลี่ยงการร้องจากคอ คุณเข้าใจผิด

    ปกติเราจะหลีกเลี่ยงคำว่าผิด หรือถูก
    เพราะมันเป็นศิลปะการร้องเพลง
    แล้วแต่อะไรต่อมิอะไรหลายอย่าง
    ทั้งแนวเพลง สไตล์คนร้อง อารมณืเพลง

    แต่การเข้าใจว่าการ "ร้องจากคอไม่ดี"
    มันผิดจริงๆ ในทรรศนะของผม

    เพราะถ้ามาดูกายวิภาคของคนแล้ว
    เสียงเกิดจากที่อื่นไม่ได้  นอกจากคอ
    ถ้าไม่เอาคอร้อง จะเอาอะไรร้อง

    คอที่ว่านั่นคือ เส้นเสียง สองเส้น ที่ทำงานเปิดปิดอยู่
    (งดพูดถึงการร้องแบบ opera นะคับ ไม่เหมือนกันซะทีเดียว)

    ภาพเส้นเสียง
    http://www.entnet.org/museum/exhibits/images/6782960.jpg

    แต่เส้นเสียงทำงานคนเดียวไม่ได้ ไม่เกิดเสียง
    ต้องใช้ลมจากปอดในการขับลมออกมา
    ให้ดันผ่านช่องว่าง ที่เกิดจากเส้นเสียงสองเส้นทำระยะห่างกัน
    ช่องว่างมาก ลมออกมาก กำเนิดเสียงต่ำ ใหญ่
    (แต่ถ้ากว้างมากๆ ไม่เกิดเสียงนะคับ เป็นเสียงแหบๆลมๆ)

    ช่องว่างเล็ก ลมออกน้อย แต่ลมดันแรง เกิดเสียงสูง เล็ก
    พูดได้ว่า คอเป้นตัวกำหนดเสียงต่ำสูง เป้นตัวสร้างโน๊ตของเสียง

    ลมที่มาจากปอด
    ก้ต้องการการควบคุมการขับลมออกมา
    ให้มีความนิ่ง แรงเบา ตามแต่คนร้องจะบังคับ

    การควบคุมปอดก็ต้องใช้
    1.กระบังลม ซึ่งคือแผ่นกล้ามเนื้อขนาดใหญ่
    ที่อยู่ใต้ปอด คั่นระหว่างเครื่องใน กับปอด
    (พูดอย่างง่ายๆนะคับ)

    2. กล้ามเนื้อท้อง  

    ตอนนี้ เข้าใจว่ามีแค่นี้ ทั้งหมดต้องทำงาน
    ประสานกัน สมดุลกัน

    ตัวอย่างชัดๆ ่ง่ายๆ สำหรับคนที่ร้องจากคอจริงๆ
    ผมอยากให้นึกถึงพระพยอม  เวลาเทศน์
    นั่นคือการใช้คออย่างเดียว ใช้ลมน้อยมากๆ
    หายใจทีเดียวพูดได้นาน

    อาฉีเสียงหล่อ ใช้ลมเยอะ ใช้คอน้อยมาก
    พูดได้สั้นๆ ต้องหายใจเข้าไปใหม่

    ทั้งสองแบบ คือความไม่สมดุล
    แต่เวลาสอนกันร้องเพลง มักจะสอนให้จินตนาการ
    ว่าเสียงอยูตรงไหนๆ เลยพูดๆกันว่า ออกมากจากท้อง
    ออกมาจากกระบังลม ออกมาจากท้องน้อย
    ทั้งที่จริง ลมมีแต่ในปอดเท่านั้น  
    แต่คนหลายคน ตีความต่างกัน
    หลายคนเลย งง ติดกับตรงนั้น

    แต่ถึงรู้ว่าเสียงทำงานยังไง
    ก็จำเป็นต้องมีกระบวนการฝึก
    ฝึกที่ว่า คือฝึกให้อวัยวะทั้งหมด
    ให้ทำงานร่วมกัน ทั้งที่กล่าวมาแล้ว
    และระบบการฟังด้วย

    ฝึกที่ว่า คือฝึกให้สมองจำ
    ว่าการอกเสียงแบบไหน ต้องทำยังไง
    เพราะมันอธิบายไม่ได้
    ว่ายกปอดขึ้นเท่าไหร่ ถ่างเส้นเสียงกี่มิล
    แต่พอผู้ฝึกทำได้ถูกต้องก็ ก็ต้องจำสภาวะนั้นไว้

    เหมือนเด็กทารก
    เรียนรู้ที่จะจำสภาวะที่ออกเสียงเพื่อให้ได้นมกิน
    จำสภาวะออกเสียงเพื่อจะบอกว่าเขาเจ็บ เขาหิว
    เก่งมากขึ้นก้จำคำพูด จำภาษาได้
    ออกเสียงแต่ละคำ ค่อยๆชัดขึ้น

    กล่าวโดยสรุป เลือกว่า ร้องจากคอ หรือร้องจากท้อง
    ซ้ายขวา ขาวดำ แบบนี้ไม่ได้  
    แต่การร้องต้องให้ทุกระบบที่เกี่ยวข้อง
    ทำงานสัมพันธ์กัน "สมดุลย์" กัน

    บางคนโดน trick ว่าห้ามร้องจากคอ
    ก็เลยหลงทางไปใหญ่
    คนไม่มีครูคอยบอกคอยสอน
    ก็เลยเข้าใจผิด มีเยอะ

    พอไม่ก้าวหน้า ก็ท้อ  ทำให้เลิกร้องไปเลยก็มี

    ทางที่ดี คนชอบร้องเพลงจริงๆ น่าจะศึกษา
    การร้องเพลงจริงๆ ไม่ใช่เริ่มจากร้องใส่เพลง
    แต่ต้องเริ่มจากพื้นฐานกันเลย ว่าเสียงมาจากไหน
    ต้องลงทุน เรียนกับครูที่มีคุณภาพจริงๆ

    และต้องฟังเพลงมากๆ ทุกแนว จะฟังแต่ที่ชอบก็ไม่ได้
    โดยปกติคนชอบร้องฟัง ก็จะชอบฟังเพลง
    มาคู่กันอยู่แล้ว  แต่คนที่ไม่ชอบฟังเพลง
    จะร้องเพลงไม่ได้ดี หรือไม่ได้เลย

    ++++++++++++++++++++++++++++++++++++

    อีกเรื่องคือ เสียงหลบ

    มีคนจำนวนมาก ไม่ชอบเสียงหลบ
    อันนี้เป้นความชอบส่วนบุคคล ไม่ว่ากัน

    แต่จะกล่าวว่าเสียงหลบ เป้นสิ่งไม่ดี
    แสดงความไม่มีความสามารถของคนร้อง
    แบบนั้นใจร้ายไปหน่อย

    เสียงหลบ ก้จัดเป็นประเภทของเสียงอีกแบบหนึ่ง
    มีข้อดีของมัน อยู่ที่จะใช้แบบไหน

    เพียงแต่สมัยนี้ คนที่จะหลบแล้วไพเราะ
    หลบแล้วยังชัด มีน้ำหนัก
    ยังมีคนทำได้น้อย

    และเดี๋ยวนี้ใช้เสียงหลบกันง่ายๆ เกลื่อนๆ
    ทำให้คนทั่วไปฟังแล้วเบื่อ

    จนกลายเป้นว่า เราจะตัดสินว่า
    คนที่ร้องเสียงหลบ ไม่เก่งเอาซะเลย

    ผมอยากให้ดูพี่เบริ์ด
    ถ้าเพลงไม่แข่งยิ่งแพ้ ร้องเสียงเต็มทั้งเพลง จะเป็นอย่างไร
    ถ้าเพลงของขวัญจากก้อนดินแล้วร้องเสียงหลบจะฮึกเหิมกันมั๊ย   รักพ่อกันมั๊ย

    ถามว่า พี่เบิร์ดร้องเสียงเต้มทั้งเพลง
    หรือหลบทั้งเพลง ได้มัย ผมว่าสบายมาก  
    แต่ทำเพื่ออะไร

    ก็ในเมื่อเพลงแต่ละเพลง ออกแบบมาเป้นอย่างนั้น

    เพลงปลุกใจ จะมาหลบได้อย่างไร
    เพลงเบาๆ ลอยๆ สบายๆ จะมาแผดขึ้นเสียงเต็มตลอด
    อารมณ์ก็เตลิดกระเด็นกระดอน กระจุยกระจาย กันพอดี


    เสียงหลบมีประโยชน์ เสียงไหนก้มีประโยชน์
    ศิลปินต้องเรียนรู้ให้แจ้งในวิชาความรู้ของวิชา

    ส่วนจะเลือกใช้อะไร หรือไม่ใช้อะไร เมื่อไหร่ อย่างไร
    แค่ไหน
    อันนั้นจึงเรียกกันว่า ขั้นศิลปะ
    แล้วแต่ของใครของมัน

    เอาทุกอย่างมาปรุงแต่ง
    ตามวิธีและความเชื่อของตัวเอง
    และสร้างคุณค่าความสุขหรือทุกข์ทางใจให้กับมนุษย์
    แล้วแต่ศิลปินคนนั้นจะต้องการ


    ส่วนตุ้ย บ้าน af
    ผมก็ไม่ได้ดูหรอกนะคับ  จากที่อ่านๆมา
    ก็คงจะมองว่าการหลบเป็นเรื่องไม่ดี
    เลยไม่พยามจะทำ  

    ถ้ามองในแง่ดี คือนี่คือสไตล์ที่ตุ้ย "ตั้งใจ"
    จะออกแบบตัวเองไว้ ว่าเขาจะไม่ใช้เสียงหลบ
    เพราะฉะนั้น ก็มองไว้สองแบบ จะได้ไม่ทุกข์

    ถ้าตุ้ยชอบการร้องเพลงจริงๆ ก็ไปลองต่อการร้องแบบ
    Classic (หรือที่คุณเข้าใจกันว่า โอเปร่า)

    อันนั้นห้ามหลบ จะสูงจะต่ำ ต้องร้องเต็มตลอด
    และใช้อะไรต่อมิอะไรมากกว่าแบบ POP มากมาย

    จากคุณ : KaminVoice - [ 1 ก.ย. 49 18:52:27 ]

 
 


ข้อความหรือรูปภาพที่ปรากฏในกระทู้ที่ท่านเห็นอยู่นี้ เกิดจากการตั้งกระทู้และถูกส่งขึ้นกระดานข่าวโดยอัตโนมัติจากบุคคลทั่วไป ซึ่ง PANTIP.COM มิได้มีส่วนร่วมรู้เห็น ตรวจสอบ หรือพิสูจน์ข้อเท็จจริงใดๆ ทั้งสิ้น หากท่านพบเห็นข้อความ หรือรูปภาพในกระทู้ที่ไม่เหมาะสม กรุณาแจ้งทีมงานทราบ เพื่อดำเนินการต่อไป



Pantip-Cafe | Pantip-TechExchange | PantipMarket.com | PanTown.com | BlogGang.com