คงจะไม่มีอะไรที่จะเจ็บใจเท่ากับหลังที่มาดอนน่าร้อง เล็มอิทวิลบีจบแล้วขอดูธงจากแฟนๆที่มาจากประเทศต่างๆในสนามกีฬารอบนี้ แต่ธงดิชั้นหละคะ ทำไมอีสตาฟมันไม่ให้เอาเข้ามาแต่ทีแรก อารมณ์ตอนนั้นแบบว่าเดือดมากค่ะ อิจฉาชาวบ้านที่เค้าไม่โดนยึดธง แต่จากที่เห็นมีธงมากกว่า50ผืนสบัดอยู่ในฮอล ดิชั้นนึกอยู่ในใจอีสตาฟมรึง....โดนกรูวีนบิ๊กไทม์แน่ รอโชว์จบก่อน (วันรุ่งขึ้นอิชั้นก็เอาธงไปฝากความหวังให้คุณเอเควียสเธอรับหน้าที่ทายาทปล่อยตะขาบใส่ปากกันสุดริด เพื่อให้เอาเข้าไปในสนามให้ได้ และเธอก็ทำได้สำเร็จค่ะ ขาดอย่างเดียวเธอไม่ได้เอาทรโข่งไปด้วยอีเจีเลยสังเกตุไม่เห็นความงามของธงอิชั้นและความงามของคุณเควียเธอไม่ถนัดคะเพราะเธอไม่มีเครื่องปั่นไฟขนาดพกพาพร้อมสปอตไล้ทส่องหน้าตัวเอง)
เพื่อไม่ให้เป็นการเสียเวลาและความสนุกเลยพยายามเมคอัพมายไมด์ตอนนั้นแล้วหยิบกล้องขึ้นมาบันทึกวีดีโอตอนที่เจ๊พุด ความรู้สึกที่ได้ยินเจ๊พูดออกไมค์มามันราวกับว่า "นี่จริงๆหรอ ชั้นเห็นและได้ยินเจ๊สดๆเป็นๆ เธออยู่ตรงหน้าชั้นนี่เอง" มันเหมือนความฝันค่ะคุณขา เพราะตลอดเวลาที่เป็นแฟนเจ๊ตั้งแต่อิโรติก้ามา (แต่รู้จักผู้หญิง(แรด)คนที่ชื่อ มาดอนน่ามาตั้งแต่5ขวบแล้วค่ะจากโฆษณาเป็ปซี่ อธิษฐานสิจ๊ะ)
ดิชั้นไม่เคยชินกับความรู้สึกที่เป็น LIVEแบบนี้มาก่อน เพราะมาดอนน่าของดิชั้น ตลอดเวลาเธออาศัยอยู่ในวิทยุ เครื่องเล่นวีดีโอ ดีวีดี ฯลฯ มันเลยเป็นการยากที่จะปรับสมองให้รับรู้ว่าเธอที่ดิชั้นเห็นในตอนนั้น คือตัวเป็นๆค่ะ
หลังจากที่เธอพูดคุยทักทายเสร็จและขอดูธงปรากฎว่ามีคนถือธงจากประเทศธิเบตค่ะ ธงนี้ทำให้มาดอนน่าและคนทั้งฮอลอึ้งไปตามๆกัน เสียงปรบมือดังกึกก้องมากค่ะ เลยนึกในใจว่า"คราวหน้าแม่จะเอาธงลาว กะ กัมพูชามาให้อึ้งบ้าง"
อย่าให้ดิชั้นพูดถึงเจ้า2เพลงสุดท้ายของช่วงขนนกนรกแตกเลยนะคะ คราวนี้นั่งเฉยๆเลยค่ะเพราะเซ็งมาก มันไม่เข้ากับโชว์นี้จริงๆ
แต่ที่สำคัญดิชั้นไปฝึกฝนเต้น อีโรติก้า เธอทำชั้นหวิวมาค่ะ คราวนี้เต้นออกสุดริด ประมาณว่า ต้องทำตัวย้วยๆค่ะ ถึงเข้ากับดนตรีได้ แหมอย่างที่เกริ่นๆไว้ตอนแรกว่า ทัวร์นี้ดูเหมือนว่าเจ๊จะชิวๆ เล่นๆๆ ไม่ต้องตามสคริปอะไรมากมาย พอตอนช่วงที่กำลังจะถลกกางเกงขาบานสีขาวที่ใช้เต้นใน มิวสิคอินเฟอโน่ออก เธอมีวิธีการถลกออกแบบใหม่ค่ะ ดึงออกมาทื่อๆไม่มีลีลาเหมือนรอบบันทึกเทปที่ลอนดอน ถลกออกมาเสร็จแล้วม้วนค่ะ ม้วนเสร็จพร้อมทำท่าบิดผ้าตากบนราวค่ะ อิชั้นขำกลึ้งมากกกก เธอเล่นไปตามอารมณ์เธอเลยค่ะ ชอบมากๆๆๆๆดูแล้วมันขำๆสนุกๆดี
ดูเหมือนกับว่าเหตุการณ์จะเป็นใจหรืออาจจะนำพาไปให้อีเจ๊ กริ้วรวมเป็นอารมณ์เดียวกับที่ดิชั้นกริ้วเรื่องธงที่ถูกยึดหน้าประตูทางเข้า พอถึงช่วงเพลงลักกี้สตาร์ ก็เป็นตามคอนเส็ปและรูทีนเดิมๆคือ เป็นลมล้มพับ ใส่ผ้าคลุม บลา บลา บลา ทีนี้พอถึงตอนที่ชีต้องเปิดผ้าคลุมออกแล้วไฟกระพิบในผ้าคุลมมันจะติด เหตุการณ์กลับเป็นตรงกันข้ามค่ะ ไฟไม่ติด หน้าอีเจ๊นี้เป็นตูดเลยค่ะ อิชั้นสะใจเล็กๆเอาวะกรูเอาธงเข้าไม่ได้ อีเจ๊ผ้าคลุมไฟไม่ติด เจ๊ากันหายโกรธค่ะ กลับไปมีอารมณ์สนุกร่วมอีกครั้ง และที่สำคัญเสื้อที่ใส่มาก็ไปทำสกรีนคำว่า LuckyStar The Party Ain't over!!!! อย่าหาว่าอิชั้นแรดด้วยประการใดเลยนะคะทำมาเพื่อเพลงนี้โดยเฉพาะ เพราะชอบแนวการมิ๊กซ์ดนตรีฮังอัพลงไปแล้วมันร้องได้เข้ากันดีกับลักกี้สตาร์น่ะค่ะ คิดได้ไงก้ไม่รู้ พอดีไปได้ กระดุมคริสตัลรูปดาวจาก ชวอลอฟกี้มา3เม็ด ก็เย็บเองค่ะ เย็บลงไปให้มันเป็นลักกี้สตาร์เลยสวยพริ้ง พอไฟสาดมาโดน ราวกับว่าดิชั้นมีหัวนมเป็นลูกดิสโก้ค่ะ อิิอิอิอิ ราคาไม่แพงมากมายค่ะ 2 . 50ยูโรต่อ1เม็ด อย่าไปหลุดปากบอกสามีดิชั้นละกันค่ะ อิอิอิอิ
ความรู้สึกในรอบนี้แตกต่างจากที่ไปดูที่ลอนดอนมากค่ะ ที่นั่งไม่ค่อยจะดีเท่าที่ควรจะเป็น และสนามมันใหญ่เกินไปจริงๆ การเดินทางในเมืองไปสนามดูทุลักทุเลมาก และดูเหมือนว่าไม่จัดระบบการขนส่งมวลชนที่ดี อันนี้ดิชั้นขอพูดได้เต็มปากเลยว่าเบอร์ลินเป็นเมืองที่มีระบบขนส่งมวลชนที่ดีมากถึงมากที่สุดเท่าที่เคยพบเจอมาในชีวิตนี้ค่ะ
ขอปิดรีวิวแต่เพียงเท่านี้นะคะ ขอขอบคุณทุกท่านๆที่ติดตามอ่านการเดินทางของดิชั้นมาโดยตลอด และหวังว่าคราวหน้าทัวร์หน้าของอีเจ๊คุณๆในนี้ต้องมาดูโชว์ร่วมกับอิชั้นบ้างนะคะ
แก้ไขเมื่อ 16 ก.ย. 49 17:29:44
แก้ไขเมื่อ 15 ก.ย. 49 18:15:19
แก้ไขเมื่อ 15 ก.ย. 49 18:07:44