ความคิดเห็นที่ 9
ความเป็นอิสระและภาพลักษณ์ใหม่ ปี 1997 ถึง 2000
มารายห์ แครีและ ทอมมี่ ม็อตโตล่าแยกกันอยู่ปี 1997 โดยเธอต้องสร้างภาพสู่สาธารณชนอยู่มีความสุข แต่จริงแล้ว มารายห์ไม่มีความสุขกับชีวิตคู่เลย เธอถูกสปาย ถูกปฏิบัติเหมือนนกในกรงทอง สุดท้ายการหย่าร้างก็เกิดขึ้นในปีถัดมา
ปี ค.ศ. 1997 อัลบั้ม Butterfly ออกวางจำหน่าย และขึ้นอันดับ 1 ในสัปดาห์แรกเป็นครั้งที่ 2 โดยอัลบั้มชุดนี้เธอได้ลงสู่แนว R&B และ Hip Hop อย่างจริงจัง รวมถึงภาพลักษณ์เซ็กซี่ที่แสดงออก ซิงเกิ้ลแรกเพลง Honey ที่ได้ร่วมงานกับศิลปินแร็ป Puff Daddy (ในขณะนั้น) และเพลง Butterfly ที่กล่าวถึงชีวิตคู่ของเธอ ไม่ประสบความสำเร็จเท่าที่ควร แต่ซิงเกิ้ลต่อมา My All ก็ขึ้นสู่อันดับ 1 ในซิงเกิ้ลชาร์ทเป็นเพลงที่ 13
เธอได้เปิดค่ายเล็ก ชื่อ Crave Records โดยมีศิลปินอย่าง Allure,7 Mile เป็นต้น แต่ก็ปิดตัวไปในที่สุด นอกจากนั้นเธอยังได้ทำงานในฐานะนักแต่งเพลงและโปรดิวเซอร์ให้กับศิลปินอื่นๆเช่น Allure (เธอร่วมแต่งเพลงในเพลง Head Over Heels และ Last Chance และร่วมโปรดิวซ์อีกหลายเพลงรวมถึงซิงเกิ้ลฮิตของ Allure เพลง All Cried Out สำหรับงานแต่งเพลง ยังร่วมเขียนเพลงให้กับ Trey Lorenz เพลง Make You Happy ในซาวด์แทร็ก Men in Black และเธอได้ร่วมโปรดิวซ์อีก ให้กับ เพลง After ของวง 7 Mile และ เพลง Don't Go Looking For Love ของวง Blaque และได้แต่งเพลงประกอบภาพยนตร์เรื่อง How The Grinch Stole Christmas เพลง Where Are You Christmas ขับร้องโดย Faith Hill
ระหว่างปี ค.ศ. 1998 มารายห์ แครี่มีข่าวคราวกับนักกีฬาเบสบอล Derek Jeter สังกัด New York Yankees ในปี ค.ศ. 1998 เธอออกอัลบั้มรวมเพลงอันดับ 1 ทั้งหมดของเธอ "#1s" โดยมีเพลงดังอย่าง I Still Believe ที่เป็นเพลงเก่าของ Brenda K. Star เพลงฮิตในปี ค.ศ. 1988 ที่มารายห์ได้มีส่วนร่วมในการคอรัสด้วยครั้งนั้น และที่สร้างความประหลาดใจคือ เธอได้ร่วมงานร้องเพลงคู่กับ วิทนีย์ ฮูสตัน ในเพลง When You Believe ที่เป็นเพลงประกอบภาพยนตร์เรื่อง Prince Of Egypt เพลงนี้ยังได้รางวัลจากเวที เพลงนี้ยังได้รางวัลจากเวทีออสการ์ อีกด้วย
ในปีนั้นเธอยังได้มีส่วนร่วมกับงาน VH1 Divas ทางช่องวีเอชวัน โดยเป็นคอนเสิร์ตที่รวมศิลปินหญิงชื่อดังอย่าง Aretha Franklin,Céline Dion,Gloria Estefan,Carole King และ Shania Twain
ในปี ค.ศ. 1999 เธอได้ออกอัลบั้ม Rainbow ที่เธอได้ลงมาในทาง Hip Hop และ R&B อย่างอัลบั้ม Butterfly เปิดตัวด้วยซิงเกิ้ล Hearbreaker ที่ได้ Jay-Z มาร่วมร้อง มิวสิควิดีโอเพลงนี้ได้ใช้เงินลงทุนมากที่สุดของเธอเลย ซิงเกิ้ลที่ 2 Thank God I Found You ได้ร่วมงานกับ Joe และวง 98 Degrees เพลงนี้เป็นเพลงอันดับ 1 เพลงที่ 15 ในอเมริกาของเธอ ฝั่งอังกฤษเธอได้ปล่อยซิงเกิ้ล Against All Odds (Take A Look At Me Now) เพลงเก่าของ Phil Collins ในปี ค.ศ. 1984 โดยได้ร่วมร้องกับวงบอยแบนด์ Westlife ก็ขึ้นอันดับ 1 ในอังกฤษ ถือเป็นเพลงอันดับ 1 ในอังกฤษเป็นเพลงที่ 2 ของเธอ ตัวอัลบั้มในอเมริกาไม่ประสบความสำเร็จเท่าที่ควรเมื่อเทียบกับอัลบั้มชุดก่อนๆ โดยขึ้นอันดับ 2 ในอเมริกา
ท้ายปี นิตยสารบิลบอร์ด ได้แจกรางวัลให้กับเธอ รางวัล Billboard's Artist of the Decade Award และเธอยังได้รางวัลจาก World Music Award รางวัล theBest-Selling Female Artist of the Millennium นอกจากนี้เธอยังทำสถิติเป็นศิลปินคนเดียวในประวัติศาสตร์บิลบอร์ดที่มีเพลงอันดับ 1 ทุกๆปีในยุค 90s (1990-1999)
เธอได้ก้าวสู่ฐานะศิลปินแนว R&B โดย ได้ทำงานกับ Jay-Z เพลง Things That U Do และ Got A Thing For You ของ Da Brat
จากคุณ :
Johan Carey
- [
16 ต.ค. 49 22:08:54
]
|
|
|