CafeTech-ExchangePantip MarketChatPantownBlogGangTorakhongGameRoom


    Robbie Williams + Pet Shop Boys + Guy Richie + Gwyneth = She's Madonna!

    ได้ฟังอัลบั้มใหม่ Robbie Williams กันหรือยังครับ จริงๆ
    อัลบั้มนี้นับว่าฉีกแนว Robbie พอสมควร
    โดยหันมาทำเพลงแนว Electronic Pop(ยุค80's)+Electronica+Dance (แนวเพลงคุ้นๆเนอะ)
    ที่มันน่าจับตา คือ นอกจากแนวเพลงจะค่อนข้างเจริญรอยตาม Queen of Pop แล้ว ยังใช้งานโปรดิวเซอร์คล้ายๆกันอีก
    อย่าง William Orbit,Pet Shop Boys เหมือนประมาณได้เจ๊เป็นแรงบันดาลใจสุดๆ
    ถ้ามันยังไม่แจ่มแจ้งพอว่า Robbie ปลาบปลื้มเจ๊แค่ไหน "ก็แต่งเพลงชื่อ She's Madonna! ให้อีเจ๊เราซะเลย!"

    นับเป็นเรื่องที่น่ายินดีมากๆนะครับ ที่จะมีนักร้องดังๆ มาแต่งเพลงถึงนักร้องที่ตัวเองชอบ ให้กันในยุคที่วงการเพลงมีแต่แข่งขันกันแบบนี้
    แม้ตัวเนื้อหาเอง ออกจะไปในแนวกัดๆ หยอกๆป๋ากายและเจ๊อยู่บ้าง

    เพลงนี้บรรจุอยู่ในอัลบั้มใหม่ของ Robbie โดยร้อง duets กับ Pet Shop Boys ฟังแล้วเพลงออกสไตล์ Being Boring , Rent ของ Pet Shop Boys สุดๆ เนื้อหาเพลง ตัว Pet Shop Boys บอกว่าได้แรงบันดาลใจมาจาก ข่าวเรื่องของ นางแบบที่ชื่อ Tania Strecker ซึ่งคบหากับป๋ากายก่อนที่จะมาคบกับเจ๊
    แม่นาง Strecker นี้เคยออกมาให้สัมภาษณ์ผ่านรายการวิทยุ ว่า "ป๋ากายคบกับตนในช่วงที่เพิ่งได้รู้จักกับเจ๊ใหม่ๆ และบอกอีกว่า เจ๊มาดอนน่าน่ะค่อนข้างจะกลัวเธอ เพราะเธอสูงเพรียวหุ่นดี ในขณะที่เจ๊น่ะ "ตัวเล็ก"" (Strecker คือนางแบบชาวเดนมาร์คแต่มาดังในอังกฤษผู้เป็นเจ้าของสโลแกน ผู้หญิงตัวเล็กได้เปรียบเมื่ออายุยังน้อย แต่สุดท้ายผู้ชนะคือผู้หญิงขายาว (คิดได้เนอะ)) และ Strecker นี้ยังเป็นแฟนเก่าของตา Robbie อีกต่างหาก

    Robbie จึงเอาไอเดียนี้มาแต่งเพลง She's Madonna ประมาณว่า ชายคนหนึ่ง ได้ไปรู้จักกับมาดอนน่า จะให้เขาเลือกอะไรได้ ระหว่างผู้หญิงที่คบอยู่กะผู้หญิงที่ชื่อ "Madonna" ผู้หญิงที่ไม่มีผู้ชายคนไหนกล้าปฏิเสธ(อันนี้ประชดหรือเปล่าไม่แน่ใจ) ในเนื้อเพลงยังประมาณพูดๆบอกเหตุผลกับฝ่ายหญิงแต่เป็นอันต้องขอตัวไปทุกทีเพื่อไปรับโทรศัพท์ Madonna ฮ่าๆ
    Robbie บอกว่า เพลงนี้ได้แรงบันดาลใจมาจากตอนไปดูเจ๊ Perform ในงานเปิดตัว MTV ยุโรปเมื่อปีที่แล้ว

    ในเนื้อเพลงยังเด็ดๆ อย่าง
    stop calling me
    Your "I love you"'s
    are ten a penny
    You're dropping clues
    like you've got any
    You got to choose
    There's been so many ohhhh

    I love you baby
    but face it she's Madonna
    No man on earth
    could say that he don't want her
    ---
    หรือ...
    We're having drinks
    with Kate and Stella
    Gwyneth's here
    she's brought her fella
    But all I wanna do
    is take Madonna home


    ประมาณว่าออกจะประชดประชันป๋ากายนะครับฮ่าๆ

    ในเพลงยังมีการเล่นคำเป็นชื่อเพลงเจ๊อีก (อันนี้ไม่รู้คิดไปเองป่าว) เช่น Frozen,The Look of Love,Into the Groove,I'm going to tell you a Secret,If Madonna's Call,Sorry(ตอนจบมีการล้อเลียนพูดเป็นภาษาแขกอีกต่างหาก)

    น่าแปลกใจมากๆเลยนะครับ ผมรู้สึกว่าทำไมเดี๋ยวนี้ ความเป็น"มาดอนน่า" มันดังกว่าเมื่อสมัยก่อนอีก ไม่ว่าจะข่าวคราวไม่ขาดสาย(มาดอนน่ารับเลี้ยงเด็กนี่มี นสพ. ไหนในโลกบ้างที่ไม่ลง) ขนาดไปรับเลี้ยงแล้วยังมีองค์กรออกมาต่อต้านเป็นข่าวดังระลอก 2 อีกตะหาก
    ภาพยนตร์หลายๆเรื่องก็ได้แรงบันดาลใจ กล่าวถึงไม่หยุดหย่อน (แค่ปีนี้ก็มี Material Girl ของฮิลารี ดัฟฟ์, Like a Virgin ของเกาหลี) ดาราวัยรุ่นก็พาเหรดกันออกมาประกาศว่าเป็นแฟนเจ๊ (ปารีส,ลินเซ่,ฮิลารี่ ดัฟฟ์) และนักร้องชื่อดังๆ ก็ยังได้แรงบันดาลใจจากเจ๊ในผลงานชุดใหม่อีกมากมาย (Nelly Furtado ชุดใหม่ บอกว่าฟังเพลงมาดอนน่าในยุค 80's ตลอดในการทำงาน, Justin Timberlake บอกว่า MV เพลง Sexy Back ได้แรงบันดาลใจมาจาก Take a Bow(ฉากแก้วแตกบนพื้นแล้วลงไปนอน + ทีวี) และล่าสุดก็มาตา Robbie Williams อีก ที่ดูจะปลาบปลื้มเจ๊เอามากๆจนขนาดแต่งเพลงเป็นชื่อเจ๊ โดยเฉพาะออกมา...

    อย่างนี้แหละเลยเป็นที่อิจฉาตาร้อนของบรรดานักร้องรุ่นปู่รุ่นป้าที่คนไม่ค่อยกล่าวถึง (ป้าแอ๋ว,ปู่ร็อด สจ้วต) หรือดิว่าบ้าสถิติทั้งหลายแหล่
    อะไรที่มันเป็นของจริง ยังไงๆก็เป็นของจริง สิ่งที่พามาดอนน่ามาถึงจุดนี้ คงไม่ใช่แค่ยอดขาย หรือ อันดับสูงๆบน Billboard แน่ๆครับ

    เนื้อเพลง
    Oh, Madonna, Madonna

    I don't miss you
    just who
    you used to be
    and you don't ring true
    so please
    stop calling me
    Your "I love you"'s
    are ten a penny
    You're dropping clues
    like you've got any
    You got to choose
    There's been so many ohhhh

    I love you baby
    but face it she's Madonna
    No man on earth
    could say that he don't want her
    This look of love
    says I'm leaving
    you're frozen now
    I've done the freezing
    I'm walking out
    Madonna's calling me

    She's got to be
    obscene to be believed
    That's her routine
    Not what she means to me
    I found myself
    by circumstance
    across a room
    where people dance
    And quite by chance
    she' danced right next me

    I love you baby
    but face it she's Madonna
    No man on earth
    would say that he don't want her
    It's me not you
    I've got to move on
    You're younger too
    but she's got her groove on
    I'm sorry love
    Madonna's calling me

    Oh, Madonna, Madonna

    I want to tell you a secret

    We're having drinks
    with Kate and Stella
    Gwyneth's here
    she's brought her fella
    But all I wanna do
    is take Madonna home

    I love you baby
    but face it she's Madonna
    No man on earth
    would say that he don't want her
    It's me not you
    I've got to move on
    You're younger too
    but she's got her groove on
    I'm sorry love
    Madonna's calling me

    แก้ไขเมื่อ 16 ต.ค. 49 16:59:17

     
     

    จากคุณ : modjo! - [ 16 ต.ค. 49 16:51:02 ]

 
 


ข้อความหรือรูปภาพที่ปรากฏในกระทู้ที่ท่านเห็นอยู่นี้ เกิดจากการตั้งกระทู้และถูกส่งขึ้นกระดานข่าวโดยอัตโนมัติจากบุคคลทั่วไป ซึ่ง PANTIP.COM มิได้มีส่วนร่วมรู้เห็น ตรวจสอบ หรือพิสูจน์ข้อเท็จจริงใดๆ ทั้งสิ้น หากท่านพบเห็นข้อความ หรือรูปภาพในกระทู้ที่ไม่เหมาะสม กรุณาแจ้งทีมงานทราบ เพื่อดำเนินการต่อไป



Pantip-Cafe | Pantip-TechExchange | PantipMarket.com | PanTown.com | BlogGang.com