คงยังไม่สายเกินไปที่ผมจะเขียนถึงอัลบั้มเพลงไทยชุดนี้ 1 ในอัลบั้มสุดยอดประจำปีนี้ในใจผม
ผมกำลังพูดถึงพวกเขา Red Twenty ครับ
มองวงดนตรีในวงการเพลงไทยทุกวันนี้ ผมคิดว่าคงเหลืออยู่ไม่กี่วงที่ยังคงอุดมการณ์ในการทำเพลงไว้ตั้งแต่ต้นจนปัจจุบันได้ แต่อย่างน้อย ๆ มีอยู่ 2 วงที่รักษาความคิดตัวเองไว้ได้อย่างเหนียวแน่น 2 วงที่ว่าก็คือ Goose และ Red Twenty
Red Twenty ใช้เวลาร่วมสิบปีเดินทางตามเส้นทางที่ลำบากไม่น้อยกว่าจะได้ออกอัลบั้มแรก พวกเขาเริ่มต้นจากการทำเพลงขายเพลงในแพคเกจกล่องบุหรี่ตามชื่อวงที่ได้มาจากวิธีการซื้อบุหรี่ อัลบั้มชุดนั้นมีทั้งคนรักและคนชัง แต่พวกเขาก็ยังยืนหยัดทำตามสไตล์ที่ตนเองชอบมาจนถึงทุกวันนี้
สมาชิกในวงมีอยู่ด้วยกัน 4 ชีวิต ได้แก่ แบงค์ (ร้องนำ, กีตาร์) โอ๊ค (เบส) ฉิม (กีตาร์) และ เบ้ง (กลอง) ตอนนี้ฉิม มือกีตาร์ของวงใช้ชีวิตอยู่ ณ ต่างแดน เวลาการทำงานจึงต้องใช้การส่งไฟล์เสียงผ่านอินเตอร์เนทเพื่อสร้างและปรับแก้ในการเพลงแต่ละเพลง ดังนั้นในการแสดงสด ทางวงเลยต้องใช้บริการจากมือกีตาร์ร่วมค่ายอย่าง พ้อง จาก Temporary Channel มาเล่นกีตาร์ให้ (พ้องกับโอ๊ค มีผลงานร่วมกันโดยใช้ชื่อว่า NAKATA & PRAISRI มีเพลงเพราะอย่างเช่นเพลง End ใน Panda No.5)
ไม่รู้มีใครเคยอ่านการ์ตูนเรื่อง Beck บ้างไหมครับ การ์ตูนเรื่องนี้เป็นการ์ตูนเกี่ยวกับวงดนตรีนี้นึกที่ชื่อว่า Mongolian Chop Squad มี AKA. ว่า Beck วงดนตรีวงนี้กว่าจะได้ออกเทปนี้ไม่ใช่เรื่องง่าย ๆ เลย พวกเขาต้องเริ่มจากศูนย์ แล้วอาศัยการแสดงสดเพื่อเป็นที่รู้จักแก่กลุ่มคนฟัง ผมว่าชะตากรรมของ Red Twenty และ Beck แทบไม่แตกต่างกันเลย
Red Twenty ใช้การแสดงสดที่สุดแสนทำลายและล้างผลาญเป็นเครื่องมือในการสร้างความรู้จักแก่กลุ่มคนฟังเพลง ชื่อเสียงของเขาดังในกลุ่มเล็ก ๆ มีแฟนเพลงติดตามอยู่บ้าง จนได้มาร่วมชายคาของ Panda Records ค่ายเพลงที่ทางวงบอกว่า เข้าใจพวกเขาที่สุดแล้ว จึงได้มีผลงานออกมาตาม Compilation ต่าง ๆ ของ Panda Records ให้ฟังอยู่เรื่อย ๆ เช่น เพลง Yellow ใน Panda Ranger หรือ Noise & Sound ใน Panda NO.5 Between Hell and Heaven
มาว่ากันถึงงานในอัลบั้มเต็มชิ้นแรกของ Red Twenty กันบ้าง ซาวด์โดยรวมเป็น Brit Rock ที่คิดประดิษฐ์ซาวด์กีตาร์มาได้น่าสนใจและน่าค้นหาเหลือเกิน แม้ว่าภาพลักษณ์ของพวกเขา (หน้าปก การแต่งตัวบวกกับซิงเกิลต่าง ๆ ก่อนหน้านี้) ดูให้เป็นวงร๊อคที่เล่นแต่เพลงเร็ว ๆ มัน ๆ แต่ในอัลบั้มกลับมีเพลงจังหวะเร็ว ๆ อยู่ไม่กี่เพลงเท่านั้น เช่น Every Little Love , Stay Here ซึ่งล้วนเป็นซิงเกิลที่ตัดออกมาทั้งสิ้น อีกประมาณ 5-6 เพลงที่เหลือล้วนแต่เป็นเพลงในจังหวะช้าและกลาง มีการใช้เครื่องออเคสตรามาร่วมด้วยในหลายเพลง ฟังแล้วเพราะมากครับ โดยเฉพาะ Trouble in Me และ Down to Drug
จุดเด่นของอัลบั้ม Red Twenty นอกจากซาวด์ดนตรีนี้แปลกมากสำหรับวงการเพลงไทยแล้วก็คือวิธีการร้องเพลงของแบงค์ที่สไตล์การร้องที่แปลกประหลาดดีไม่น้อย มีทั้งกรีดร้อง ร้องแบบเพราะ ๆ ผสมกันในเพลงเดียวกัน (จนบางทีก็งงไม่น้อย) อีกอย่างที่ทางวงเน้นมากคือเรื่องเนื้อเพลงที่เป็นภาษาอังกฤษล้วน โดยเป็นเนื้อหาสะท้อนสังคมโดยเฉพาะภาวะความแปลกแยก สับสนของวัยรุ่น พวกเขาให้สัมภาษณ์ใน DDT ว่านี้คือเรื่องจริงที่ต้องการสื่อออกมา เป็นความจริงที่ควรรับรู้ ไม่ใช่สิ่งที่ต้องปกปิดไว้
วงนี้เป็นอีกหนึ่งวงครับที่ใครรักก็รักตายเลย แต่ใครเกลียดก็พาลตั้งกำแพงเสียแต่แรกที่ได้เห็น สำหรับผมที่เป็นพวกในกลุ่มแรก ก็อยากเชิญชวนให้ทุกท่านลองเปิดใจรับฟังดูครับ เพราะวงนี้เป็นวงที่มีฝีมือลายมือเยี่ยมวงหนึ่งเลย ที่สำคัญการเชื่อมั่นศรัทธาในหนทางของตนเองนั้นเป็นสิ่งที่น่าปรบมือให้กับพวกเขาครับ
http://www.myspace.com/redtwentyfanclub
จากคุณ :
I will see U in the next life.
- [
21 ต.ค. 49 18:07:02
]