CafeTech-ExchangePantip MarketChatPantownBlogGangTorakhongGameRoom


    คอนเสิร์ตอันทรงพลัง "เหนืออาณาจักรแห่งแสงเสียง" โดย ริค วชิรปิลันธิ์

    คืนวันศุกร์ผมนั่งเหงาอย่างหมดอาลัยตายอยากเนื่องด้วยผิดหวังที่พลาดกับผลการชิงรางวัลบัตรไปดูคอนเสิร์ต ริค วชิรปิลันธิ์ นับแต่รู้ข่าวว่าเธอมีจะคอนเสิร์ต (ของตัวเอง) เป็นครั้งแรกในชีวิต ผมก็ตื่นเต้นอยากดูมาก แต่ด้วยค่าบัตรที่แม้จะราคา 500 บาท ทว่าก็สูงไม่น้อยสำหรับผม ผมคิดในใจว่าพลาดคราวนี้ก็คงอาจจะมีครั้งหน้าอีก แต่แล้วผมก็ได้ยินกิจกรรมที่หลุดลอยมาจากในแฟต เรดิโอ ว่าจะมีแจกบัตรคอนเสิร์ต ผมรีบติดตามกติกาเหล่านั้น แล้วก็แย่งชิงมาได้ด้วยความปรีดา

    คืนนั้นผมนอนแทบไม่หลับ ได้แน่นึกถึงเหตุการณ์ที่จะเกิดขึ้นในวันพรุ่งนี้ อีกอย่างที่ผมนอนไม่หลับก็คือเพลงของค่ายเพื่อนผมได้เข้าไปในช่วง Entrance ของ Fat Radio พร้อมกับได้เสียงตอบรับที่ดีพอสมควรด้วย หัวใจก็เลยเต้นแรงหน่อย

    ก่อนหน้านี้ริคเคยมีคอนเสิร์ตเล็ก ๆ กับแฟตเรดิโอในช่วง เล็ก ชิ้น สด มาแล้วครั้งหนึ่ง ผมเคยดูผ่านทางเวบ coolvoice.com ด้วยความที่มันทั้ง เล็ก แล้วก็สด สมชื่อนั้นทำให้ยังมีอะไรติดขัดไม่สมกับที่เธออยากบอกเล่าเท่าใดนัก

    ผมออกจากหอย่านราชดำเนินประมาณบ่ายสองเพื่อไปรับบัตรที่ SCB Park ประมาณสี่โมงเย็น แม้รถจะติดไปหน่อยแต่ก็มาถึงก่อนเวลารับบัตรราวครึ่งชั่วโมง ผมกับเพื่อนจัดการหาอะไรลงท้องเพราะตามตารางคอนเสิร์ตนี้จะเริ่มเปิดประตูตอนห้าโมงเย็น ก็เลยคิดกันว่าถ้าไม่เติมพลังอะไรเสียหน่อยอาจจะสลบด้วยพลังเพลงเป็นได้

    สี่โมงเย็นรีบวิ่งตาลีตาเหลือกมาที่ห้องประชุมมหิศร แต่แล้วสิ่งแปลกตากว่าคอนเสิร์ตทั่วไปก็ปรากฎแก่สายตาผม คือความโล่ง มีทีมงานอยู่ประปราย ผมไปติดต่อขอรับบัตร ทีมงานคนสวยบอกกับผมว่าคอนเสิร์ตเลทนะค่ะ ไปเดินจตุจักรแล้วค่อยกลับมาดูก็ยังทันค่ะ

    ผมกับเพื่อนก็ได้แต่หัวเราะ ยังดีครับว่าบริเวณหน้าห้องประชุมมันเป็นห้องกระจกติดแอร์ ก็เริ่มนั่งกับพื้นคุยกันไปฆ่าเวลาพร้อมกับบ่นว่าไม่น่ากินแมคฯเลย รู้งี้ไปกินซีสเลอร์ดีกว่า จะได้ใช้เวลาให้คุ้ม 555

    ผมนั่งไปได้สักพักคนเริ่มทยอยมากันบ้างแล้ว ประกอบกับเริ่มมีบู๊ทต่าง ๆ วางของขายกันโดยเฉพาะบู๊ทของ Here ที่วางอัลบั้ม Trois งานชิ้นล่าสุดของริคให้ได้ซื้อกัน ทีมงานของ Here บอกว่าพึ่งได้มาเมื่อเช้านี้เอง ต้องบอกว่าอัลบั้มนี้ทำปกสวยมาก แถมเป็นปกที่ผมไม่เคยเห็นในประเทศไทยมาก่อน คือเป็นกระดาษแก้วแล้วมีการพับที่ซับซ้อน สวยทีมาก ๆ เลยครับ แถมเพลงก็เพราะ (ซึ่งจะรีวิวให้ได้อ่านกันในเวลาไม่ช้านี้)

    เหตุที่ทำให้คอนเสิร์ตเล่นช้าเป็นเหตุจากเครื่องแต่งกายของริค ซึ่งต้องใช้เวลาในการแต่งตัวนานทีเดียว เธอกล่าวในคอนเสิร์ตว่าหาเหาใส่หัวจริง ๆ แต่กลัวคนดูไม่คุ้มกับ 500 บาท เลยขอทำเสียหน่อย ผมที่มาดูก็นั่งรอกันอย่างใจเย็นไม่มีใครบ่นแต่อย่างใด (อาจจะเพราะแอร์มันเย็น คนก็เลยใจเย็นด้วย) จนเวลาล่วงเลยผ่านไปเกือบสองชั่วโมง ราว ๆ หกโมงครึ่งประตูก็เปิดให้คนดูเข้าไปโดยแบ่งให้เข้าสองฝั่ง ฝั่งหนึ่งคือจากคนซื้อบัตร อีกฝั่งเป็นพวกได้จากการเล่นเกม ดูจากสายตาคร่าว ๆ แล้วมีคนซื้อบัตรมาจำนวนไม่น้อยทีเดียวครับ

    พอเข้าไปในงานก็หาที่นั่ง (กับพื้น) กันตามอัธยาศัย ผมได้ที่นั่งแถวหน้าสุดตรงกลาง ดูจากคนดูแล้วก็น่าจะไม่เกิน 500 คน ซึ่งก็เหมาะกับสถานที่จัดการแสดงดี คอนเสิร์ตนี้แม้จะเป็นคอนเสิร์ตเล็ก ๆ แต่ผมว่าค่ายเฮียกับหัวลำโพงริดดิมคงออกเป็น DVD แน่ เพราะมีการบันทึกภาพโดยใช้ทั้ง ราง Dolly (Dolly คือการถ่ายภาพเคลื่อนไหวไปในแนวซ้ายขวา) และ เครนถ่ายภาพจากที่สูง (เพื่อนผมรู้จักกับทีมงานที่มาถ่ายพอดี เลยแอบแซวลุงที่นั่งบนเครนว่าเดี๋ยวนี้ลุงอยู่สูงเชียวนะ)

    คอนเสิร์ตเริ่มโดยมี The Photo Sticker Machine นำโดย วิชญ์ วัฒนศัพท์ และ กอล์ฟ นครินทร์ ธีระภินันท์ มือกีตาร์จากทีโบน เป็นวงดนตรีให้ ทีมนักดนตรีเล่นเพลง Russian Roulette (ซินดองมา) ประเดิมเปิดงาน พร้อมกับมีการอิมโพรไวส์โชว์ราว ๆ เกือบสิบนาที ริค วชิรปิลันธิ์จึงปรากฎกายออกมาในชุดราตรีหนัง โดยเธอเอาเชือกมัดนิ้วไว้กับเสื้อติดกับบริเวณหน้าอก

    สี่เพลงแรกเป็นไปอย่างเมามัน เริ่มจาก Russian Roulette, คณิตศาสตร์ ฟิสิกส์ เหนือใจ (อีกเพลงลืมครับ ไม่แนใจว่าเพลงอะไร แต่น่าจะเป็นเพลงทางเฉพาะสีม่วง) แต่ละเพลงนี้เล่นสดได้อย่างยอดเยี่ยม ท่วงท่าของริคเคลื่อนไหวเต้นระบำไปกับจังหวะเพลง เครื่องดนตรีหกชิ้นของนักดนตรีทั้งห้าร้อยเรียงกันแตกต่างไปจากอัลบั้มเวอร์ชั่นทุกเพลง มีการเรียบเรียงเพลงใหม่ยืดความยาวของแต่ละเพลงออกไม่น้อย ลำพังแค่เพลง Russian Roulette กับ คณิตศาสตร์ ฟิสิกส์ ก็ปาไปร่วมเกือบยี่สิบนาที ดูแค่สามสี่เพลงนี้ก็เหนื่อยแล้วครับ นี้ขนาดนั่งดูเฉย ๆ พลังอะไรมันมาปะทะให้สูญเสียพลังงาน

    ช่วงเพลงเหนือใจ ที่เป็นเพลงที่สี่ เธอจัดการปลดผมตัวเองที่มวยไว้บนหัวให้เป็นอิสระ ผมเธอที่ยาวถึงเอวสบัดไปมาดั่งกับจินตนการของพระแม่ทุรคาก็มิปาน

    ขั้นแต่ละเพลงริคพูดคุยกับคนดูนิดหน่อย เธอกล่าวว่าดีใจมากที่มีคนมาดูคอนเสิร์ตเธอ แต่ขออย่าให้ตั้งความหวัง เธอขอให้เพียงเราสนุกไปกับเพลง สนุกกับการแสดงที่อยู่ตรงหน้า จบเพลงโหดระดับ Speed Metal ไปแล้วก็พักด้วยเพลงช้า ๆ สองเพลง ผมติดกับให้เสียงเธอเสียแล้วจนลืมอีกครั้งว่าเป็นเพลงอะไร แต่หนึ่งในนั้นน่าจะเป็นเพลง “ไม่ต้องทำอย่างนี้” หนึ่งในเพลงที่เธอ cover งานของ Pixyl มา

    กลับสู่เพลงเร็วอีกครั้ง เธอหยิบทั้งงานของเธอและงานคัฟเวอร์ที่อยู่ในอัลบั้ม Trois มาร้อง โดยเธอเลือก “รอยยิ้ม” ของ Silly Fool มาร้องพร้อมกับบอกความสัมพันธ์ของเธอกับซิลลีฟูลล์ที่เป็นเพื่อนกันมาตั้งแต่เป็นวัยรุ่นตอนกลาง จบจากมหกรรมเพลงโหดเหล่านี้ เธอบอกกับคนดูว่าอีกห้านาทีจะกลับมา ทีมนักดนตรีเล่นดนตรีไปได้สักพักก็จบลง แสงไฟค่อย ๆ เฟดลง นักดนตรีทั้งห้าทยอยกันเดินลงเวที ความเงียบเกิดขึ้นในหอประชุม หลายคนใช้โอกาสนี้ไปห้องน้ำ แต่เพียงเวลาไม่นาน ริค ก็ปรากฎตัวในชุดสีดำ

    เธอเริ่มต้นขับร้องเพลง “น้ำตาของไข่มุก” โดยปราศจากเสียงเครื่องดนตรีใดทั้งสิ้น เสียงอันทรงพลังสะกดคนดูได้ทั่วทั่งห้องประชุม การแสดงผ่านมาแล้วกว่าครึ่งแต่เสียงเธอยังไม่มีตกแม้แต่น้อย แล้วก็เธอก็ขอเสียงปรมมือให้เราต้อนรับกับวงฟลัวร์

    ฟลัวร์มาพร้อมกับมือกลองชั่วคราวที่บ้าพลังได้ไม่แพ้เอิร์ธ ฟลัวเล่นเพลงของริคในชุดแรกสามเพลง ได้แก่ สังวาส เทวี และ นางเศียรขาด แต่ละเพลงโหดมากโดยเฉพาะนางเศียรขาด ที่เท็ดดี้ มือกีตาร์วงฟลัวร์บอกคนดูก่อนเล่นเพลงว่า “ขอให้โชคดี” เมื่อนางเศียรขาดจบ ฟลัวร์จบการแสดงกับริคด้วยเพลง “ยื้อ” ซึ่งริคร่วมร้องได้อย่างทรงพลัง

    ฟลัวร์ลงไป The Photo Sticker Machine สลับมือขึ้นมาอีกครั้ง เล่นเพลงที่เหลืออยู่ ซึ่งผมจำได้แม่นคือ ติชิลา (ไม่แน่ใจว่าร้องไหมมายาในช่วงนี้หรือช่วงอื่น) จบช่วงนี้ก็สลับด้วยแขกรับเชิญอีกหนึ่งคน นั้นก็คือ นรเทพ มาแสง มือเบสวงพอส และ Crescendo

    ริคร้องเพลง “อย่าหยุดยั้ง” เพลงที่เธอบอกว่าเป็นเพลงชาติของชาวเฮฟวี่สมัยเธอ โดยมีนอนั่งโซโล่เบสอยู่ บรรยากาศตอนนี้เป็นกันเองมาก เพลงอย่าหยุดยั้งจบลง พร้อมกับการเล่าที่มาของเพลงที่เธอขอนรเทพมาทำ เพลงนั้นก็คือ “Auto Mata” และเสียงเบสเพลง Auto mata ก็ถูกเล่นขึ้นพร้อมกับเสียงร้องอันทรงพลังของริคทำให้ทุกคนให้น้องประชุมหยุดนิ่งอึ้ง

    การแสดงสุดท้ายเกิดขึ้น เมื่อวิชญ์ขึ้นมาบนเวทีอีกครั้งเพื่อเล่นเพลงปิดคอนเสิร์ตครั้งนี้ ตอนแรกผมนึกว่าจะเล่นเพลงยังเยาว์ ซึ่งเป็นเพลงที่ริคไปร้องให้กับ The Photo Sticker Machine แต่ผมคิดผิดเพราะเพลงที่เล่นปิดคอนเสิร์ตได้แก่เพลง คืนร้อยมาร (End of Auto Mata) ต่างหาก แม้เพลงนี้คือเพลงสุดท้ายแต่เสียงของริคยังไม่ตกลงไปเลยแม้แต่น้อย คนดูตกอยู่ในมนต์อันเปี่ยมล้นด้วยเสน่ห์ ทุกคนได้แต่นั่งนิ่ง ๆ เพื่อฟังเสียงของเธอ

    การแสดงจบ เธอขอบคุณคนดู พร้อมกับเชิญนักแสดงและทีมงานทุกคนขึ้นมาบนเวที เธอกล่าวบอกถึงสมุดสีดำที่เธอเอาไว้หน้างาน สำหรับใครก็ตามที่อยากได้ข่าวสารจากเธอโดยตรงก็ช่วยลงชื่อและที่อยู่ในสมุดเล่มนั้นหน่อย ไม่น่าเชื่อว่างานจบแล้วยังเหลือแฟนเพลงจำนวนมากต่อแถวกันลงชื่อสมุดเล่มนั้น

    หลังจากผมลงชื่อเสร็จเรียบร้อย บริเวณในงาน เธอยังอยู่ให้ลายเซ็นแฟนเพลงอยู่ ผมเอาโปสเตอร์งาน ปกอัลบั้มทั้งสี่ชุดของเธอไปให้เธอเซ็น เธอถึงกับตกใจที่อยู่ดี ๆ มีคนเอาปกอัลบั้มชุดแรกไปให้เธอเซ็น ผมบอกกับเธอว่าให้เธอทำเพลงแบบนี้ต่อไปนะครับ ใครไม่ฟังอย่างน้อยก็มีผมคนหนึ่งที่ติดตามอย่างเหนียวแน่น

    คอนเสิร์ตนี้เป็นคอนเสิร์ตที่เกินกว่าความคาดหวังมากครับ ทีมงานโดยเฉพาะนักดนตรีเล่นกันได้อย่างยอดเยี่ยม การเรียบเรียงเพลงใหม่ทำให้รู้สึกสนุกและสร้างสีสันเพิ่มเติมไปให้มากกว่าความคุ้นชินในซีดี ส่วนตัวริคเองก็มีเต็มที่กับการแสดง ไม่ว่าจะเป็นเสียงร้องที่ทรงพลัง ที่สำคัญตลอดการแสดงเสียงเธอไม่มีตกลงแม้แต่น้อย แถมที่สำคัญเสียงร้องของเธอที่เราเคยได้ยินในซีดี ในการแสดงสดครั้งนี้เธอก็สามารถขับร้องออกมาได้อย่างที่ปรากฎในซีดี ความทรงพลังจึงไม่ตกลงไปจากการฟังซีดี แถมยังทรงพลังเสียมากกว่าเพราะความสดและท่วงท่าที่กรีดกรายบนเวทีอของเธอ ใครได้ดู Live ครั้งนี้คงไม่สามารถลืมไปได้อีกนานเลยครับ สำหรับผมนี้เป็นคอนเสิร์ตที่ดีที่สุดในชีวิตครั้งหนึ่งที่ผมได้ดูครับ

    ป.ล. ผมจำเพลย์ลิสต์ไม่ค่อยได้ ใครจำได้เป๊ะช่วยบอกแล้วแก้ให้ทีนะครับ

    จากคุณ : I will see U in the next life. - [ 29 ต.ค. 49 16:04:14 ]

 
 


ข้อความหรือรูปภาพที่ปรากฏในกระทู้ที่ท่านเห็นอยู่นี้ เกิดจากการตั้งกระทู้และถูกส่งขึ้นกระดานข่าวโดยอัตโนมัติจากบุคคลทั่วไป ซึ่ง PANTIP.COM มิได้มีส่วนร่วมรู้เห็น ตรวจสอบ หรือพิสูจน์ข้อเท็จจริงใดๆ ทั้งสิ้น หากท่านพบเห็นข้อความ หรือรูปภาพในกระทู้ที่ไม่เหมาะสม กรุณาแจ้งทีมงานทราบ เพื่อดำเนินการต่อไป



Pantip-Cafe | Pantip-TechExchange | PantipMarket.com | PanTown.com | BlogGang.com