Pantip-Cafe | Pantip-TechExchange | PantipMarket.com | Chat | PanTown.com | BlogGang.com | Torakhong.org | GameRoom


    จุดเริ่มต้นกับ มารายห์สัปดาห์ละเพลง - ลำดับที่ 001- Vision of Love

    ความรู้สึกก่อนฟัง






                จากการทราบข้อมูลมาก่อนฟัง และน่าจะเป็นแบบเดียวกับแฟนมารายห์ทั่วไป คือ ฟังเพลงนี้หลังจากรู้จักเธอจากเพลงอื่นๆพวกฮีโร่ วิธเอาท์ยู แล้ว ทำให้มีความคาดหวังว่าเพลงนี้น่าจะเป็นเพลงบัลลาดหวานๆ โชว์พลัง โดยได้อ่านคำวิจารณ์จากหลายๆที่ ก็บอกว่าเพลงนี้เป็นเพลงที่มารายห์มีเสียงร้องเหมือนวิทนี่มาก ผสมกับชื่อเพลงที่พูดโต้งๆว่าจะกล่าวถึงความรัก ไหนจะรู้ว่าเพลงนี้โดนจ้าง ลุงนาราดา ไมเคิล วอลเด่น คู่บุญน้าวิท ต้นฉบับมาคุมคอนเซปต์เจ๊ช่วงนั้นให้ด้วย ก็พาลให้คิดว่า เพลงนี้น่าจะเป็นบัลลาดทรงเครื่อง ให้อารมณ์แบบเดียวกับเพลงประมาณ เกรทเทส เลิฟ ออฟ ออล ของน้าวิทนี่ ที่มาแหกปากโวยวายเล่าความคิดว่าข้าเก่ง ผ่านดนตรีที่หวานเยิ้ม อะไรเทือกนั้นแหงมๆ




    ความรู้สึกจากการฟังครั้งแรก






          แค่ขึ้นดนตรีมาก็ผิดคาด เพลงนี้ขึ้นมาน่ากลัวมาก น่ากลัวหยั่งกะเพลงปลุกป่าช้า ความคาดหวังที่จะได้เจอเพลงแบบวิทนี้ วิทนี่ แบบที่คิดมลายไปทันที นับแต่แม่มารายห์เริ่มเอื้อนเอ่ยคำว่า โฮ้ โฮ โฮ้ โห่ ฮึ่มมมมม แล้วอยู่ดีๆก็กดเสียงลงต่ำซะชวนงงตรง ทรีตตตต.......เต็ดดดดด  มี   คายยยยยนนนนนนนด์ มันเป็นเสียงที่กดต่ำแบบใหญ่น่ากลัวเอามากๆ ซะงั้น แค่เริ่มต้นก็ไม่แหววอย่างที่คิดเอาซะแล้ว

          พอดนตรีขึ้นชัดๆ รู้สึกทันทีว่าเพลงนี้มันโบราณเอามากๆ ให้อารมณ์เหมือนไปอยู่ในผับโบราณๆ ที่มีนักร้องสาวมาร้องฮุบๆ ฮับๆ ปั๊บๆ ปาดา ปาดา เป็นอะไรที่เชยกว่าที่คิดมาก คิดว่าเพลงแม่มาลัยนี่ช่างดูเก่ากว่าเพลงของน้าวิทที่มาก่อนอีกนะนี่ (มารู้ภายหลังว่ามารายห์ตั้งใจทำให้เป็นเพลงยุค 50 จัดๆ และเดโมจริงๆ โบราณกว่านี้มากมายนัก ซึ่ง คิดแล้วว่า เอาเข้าจริงมารายห์คงไม่ได้มีความคิดจะตามรอยน้าวิทตั้งแต่แรกอยากเป็นนักร้องหรอก และชวนคิดว่าเธอเป็นนักร้องที่มีสไตล์และความคิดก้าวหน้าเฉพาะตัวมาตั้งนานแล้วด้วย)

           ฟังเพลงนี้แล้วพยายามจับผิด นำมาเปรียบเทียบกับเสียงวิทนี่ ฟังยังไงๆก็ไม่เห็นเหมือน รู้สึกว่าฟังยังไงๆก็รู้ว่ามารายห์เป็นคนผิวขาว เพียงแต่เป็นคนผิวขาวที่มีลีลาการร้อง ออกเสียงที่แพรวพราว และใช้การกดเสียง เปล่งเสียงแบบคนผิวดำมาช่วยเสริมให้ความสามารถทางการร้องเด่นชัดขึ้น แต่ฟังยังไง เสียงมารายห์ก็ไม่คม หรือ ชัดแจ่มเท่าน้าวิท ที่เสียงแจ่มซะ ยังไงก็ฟังออกซะทุกคำ ไหนจะการลงท้ายเสียงที่ไม่เหมือนกันอีก ขณะที่น้าวิทออกเสียงแบบเช็ดๆคำ แต่แม่มรายห์ของเราจะมีการเอื้อนขยายหางคำอื่มๆอ่ำ ยอมรับเลยว่าพลังเสียงความแรงพอวัดกันได้ แต่ความกังวานนั้น ยังไงวิทนี่ก็แจ่มชนะเลิศ การแหกปากโชว์พลังของมารายห์ในเพลงนี้แม้มันจะโอเวอร์ และแหกตะพืดตะพือขึ้นเรื่อยๆ จนถึงขั้นหวีดหอน แต่ก็ไม่นึกรำคาญอย่างที่คิดก่อนฟังนะ รู้สึกว่า โวยวานมากแค่ไหน มันก็ดังสุดพอๆกับเสียงดนตรี ผิดกับวิทนี่ ที่แม้เธอจะร้องแผ่วเบายังไง เสียงเธอก็คือสิ่งที่ดีที่สุดของเพลง ที่แจ่มแจ๋นแหลนแหววออกมานอกหน้าเกินดนตรีได้เสมอ





    ฟังเอาความ



            พอมาอ่านเนื้อไปด้วย ฟังไปด้วยเพราะว่าอยากรู้ว่าเธอมาขายวิสัยทัศน์ทางความรักแบบใดในเพลงนี้ นอกจากดนตรีจะไซไฟโบราณแล้ว คำในเพลงยังมีเอล่ง เอเลี่ยน อีก ชวนให้งงในวิสัยทัศน์เธอมาก ว่ามันมีได้ไงทั้งพระเจ้า คนรัก เอเลี่ยน ได้ในเพลงเดียว เกี่ยวกันได้ไงฟะ
           
             ทำความเข้าใจเพลงนี้แบบไม่แตกฉานในภาษาอังกฤษมาหลายรอบ ก็ยังไม่รู้ว่าจะเข้าใจเพลงนี้แบบไหนดี บางคนก็ว่าเธอมาขอบคุณพระเจ้าเพราะว่าตอนนี้เธอได้ผู้ชายสมใจหมายแล้ว (หยั่งกะร้องเพลงแก้บน) หรือ เธอบอกว่าพระเจ้าคงกำหนดชะตาชีวิตมาแล้ว เธอมั่นใจว่าพระเจ้าจะให้เธอได้พบสิ่งที่ดี ในที่สุดคนที่เราเฝ้ารอก็จะได้มาพบกันในที่สุดตามลิขิตสวรรค์ (โอ้ พรหมลิขิตแสนหวาน) แต่ไม่ว่าจะอย่างไร เพลงนี้ก็คือเพลงที่มารายห์อุทิศให้แก่พระเจ้า และมองความรักในแง่มุมของพระเจ้าและศาสนา พอๆกับ ความรักแบบชู้สาว ซึ่งถือเป็นแง่มุมที่มาจนถึงปัจจุบันก็ยังถือว่าคมมาก ในการที่นักร้องคนหนึ่ง (โดยเฉพาะที่เพิ่งเปิดตัวหวังรุ่งด้วย) จะมีความสามารถ และมีความกล้าในการนำเพลงที่มีจังหวะแปลกๆ กับเนื้อหาที่ไม่เอียงไปทางความรักไปตามสมัยนิยม มาเป็นเพลงเปิดตัวดาวรุ่งของเธอ และเพลงนี้ถือเป็นเพลงเปิดตัวที่กล้าหาญท้าทายมากที่สุดเพลงนึงในความคิดเราเลย และเป็นเรื่องที่น่าขอบคุณมากที่มอตโตล่า สามารถผลักดันเพลงนี้ให้กลายเป้นเพลงดังได้สำเร็จ จนกลายเป้นเพลงที่ทุกคนต้องพยายามหามันมาฟัง และพยายามมองหาคุณค่าในเพลงนี้ดู เพราะเชื่อว่าหากเอาเพลงนี้ไปเป็นซิงเกิ้ลถัดไป หรือ เพลงในอัลบั้ม เพลงนี้จะไม่ถูกมองหาคุณค่าละเอียดลึกซึ้ง จนกลายเป็นเพลงระดับคลาสสิคได้มากขนาดนี้




    ฟังมาเรื่อยๆ






            แม้จะยังไม่เข้าใจในเนื้อหาเพลงนี้ชัดเจนนัก (รอคนรู้จริงมาอธิบายอยู่นะคับ) แต่เพลงนี้ก็กลายเป็นเพลงที่เป็นกำลังใจด้านความรักของเราเพลงนึง เป็นเพลงที่ใช้ปลอบใจ เมื่อนึกถึงความรัก มองความรักในแง่ของพรหมลิขิต และเชื่อว่าเราเองก็คงถูกกำหนดมาเพื่อให้ได้พบพานกับสิ่งต่างๆ แล้วได้พบกับสิ่งตอบแทนที่คุ้มค่ากับความดีในตัวของเราในท้ายที่สุด (พูดง่ายๆว่าเพลงนี้ว่าด้วยเรื่องของ ดวงล้วนๆเลยล่ะ 55) พอฟังรายละเอียดของเพลงดีๆบ่อยๆแล้ว กลับไม่รู้สึกว่าเพลงนี้เก่าอย่างตอนแรกที่ฟังอีกแล้ว รู้สึกว่ามันเป็นเพลงที่เก๋มาก มีท่อนคอรัสที่แปลก ดนตรีที่ประยุกต์ๆ ในการใช้ดนตรียุค 90 เลียนแบบดนตรียุค 50 มีการซ้อนทับไลน์เสียงร้องที่ละเอียด แสดงให้เห็นวิสัยทัศน์ของนางมาลัยในการทำเพลงที่มีเอกลักษณ์ตั้งแต่เพลงแรก นับมาจนถึงปัจจุบันเลย คือ การเอาเสียงร้องของตัวเองที่ร้องคนละแบบเหมือนคนละคนมาสู้กัน และมีการวางท่อนคอรัสที่ซับซ้อนมากกว่าการเสริมเสียงตัวเองให้หนาแบบธรรมดา (และแอบคอรัสเองด้วย) เป็นเรื่องที่น่าทึ่งมากที่มารายห์ในวัยขณะนั้น กับ ความสามารถของโปรแกรมในยุคนั้น จะสามารถนำเสนอความมีชั้นเชิงของเพลงได้มากเหนือกว่าระดับศิลปินป๊อบทั่วไปในยุคนั้นเมื่อนำมาเปรียบเทียบกันในปัจจุบัน และเอกลักษณ์นั้นก็ยังคงเป็นลายเซ็นต์ที่ยังคงปรากฏตัวในผลงานของมารายห์ผ่านยุคผ่านสมัยมาได้อย่างน่าทึ่ง ทำให้เพลงนี้เป็นเพลงที่สามารถแสดงวิสัยทัศน์ของมารายห์ในทุกทางได้ตลอดไป โดยเชื่อว่าจะไม่มีวันล้าสมัย

     
     

    จากคุณ : พระนายหมื่นไร่ - [ 11 ม.ค. 50 23:01:43 ]

 
 


ข้อความหรือรูปภาพที่ปรากฏในกระทู้ที่ท่านเห็นอยู่นี้ เกิดจากการตั้งกระทู้และถูกส่งขึ้นกระดานข่าวโดยอัตโนมัติจากบุคคลทั่วไป ซึ่ง PANTIP.COM มิได้มีส่วนร่วมรู้เห็น ตรวจสอบ หรือพิสูจน์ข้อเท็จจริงใดๆ ทั้งสิ้น หากท่านพบเห็นข้อความ หรือรูปภาพในกระทู้ที่ไม่เหมาะสม กรุณาแจ้งทีมงานทราบ เพื่อดำเนินการต่อไป



Pantip-Cafe | Pantip-TechExchange | PantipMarket.com | Chat | PanTown.com | BlogGang.com | Torakhong.org | GameRoom