Pantip-Cafe | Pantip-TechExchange | PantipMarket.com | Chat | PanTown.com | BlogGang.com | Torakhong.org | GameRoom


    มาแล้วเพลงที่ 002- There's Got To Be A Way

                  เพลงนี้เป็นเพลงที่แค่อินโทรขึ้นมาก็พร้อมจะหลงรักแล้ว อินโทรขึ้นมาหวานสดใสมาก มารายห์ร้องฮืมมม ขึ้นมาหวานมาก จนเกิดความสงสัยว่าเพลงนี้มันเกี่ยวกับอะไรหว่า ต้องรีบอ่านเนื้อ จับความได้ว่า เพลงนี้ เธออยากให้ทุกคนรักกัน ร่วมมือกัน ช่วยเหลือกัน (เหมือนอิฉันที่ได้โอกาสจากนางสลัมมาเป็นนักร้องไงล่ะฮะ นางงามเอามากๆ) แต่สิ่งที่ปฏิเสธไม่ได้คือ เพลงนี้มีเนื้อเพลงที่ค่อนข้างสวยมาก มีการสรรคำที่ใช้บอกความลำบากได้ดูสวยงามมาก เพลงนี้ดนตรีฟังให้เอกลักษณ์ของยุค 90 ตอนต้นมาก คือมีลักษณะของเครื่องดนตรีแบบ 80 ไฟฟ้าๆ ที่ถูกขัดให้ซอฟต์ลงมาแล้วในช่วงต้นยุค 90 มีท่วงทำนองและจังหวะฟังยังไงก็รู้ว่าเป็นปี 90 ต้นๆแน่นอน เพลงนี้ทำให้ถึงเพลงยุคนั้นหลายๆเพลง พวก บอยซทูเมน,โทนี่ แบรกซ์ตัน มาดอนน่า โดยเฉพาะในเวอร์ชั่น วิดีโอ เวอร์ชั่น ซึ่งได้ มือรีมิกซ์ตัวเป้งของยุคนั้นอย่าง เชพ เพตติโบน คู่บุญแม่มาดอนน่ายุคนั้นมาบรรเลงบีทให้ ทำให้เพลงนี้ยิ่งมีความเป็นตัวตนของยุคนั้นที่ชัดเจนขึ้น (เพลงนี้ข้าพเจ้าชอบฟังต่อกับเพลง Another Sad Love Song - Toni Braxton (Video Remix Version) กะ Janet - Escapade (Shep Pettibone Remix) และพวกเพลงป้าแมดจ์ ช่วงยุค โวค+อิโรติก้า) ชอบเอ็มวีเพลงน้มากๆ มารายห์ดูน่ารัก สดใส เป็นคนใจดี ดนตรีชวนขยับแข้งขยับขา เพลงนี้ทำให้มารายห์มีภาพที่ดูติดดิน และเหมือนเป็นการสร้างภาพให้คนเอาใจช่วยเธอ ในฐานะคนที่ไม่ลืมกำพืด เป็นภาพนักร้องสาวที่ดูเข้าถึงง่าย  แม้ว่าเธอจะมีพลังเสียงตะพืดตะพือ กับเสียงร้องในเพลงนี้ที่มีลีลาการโหวกเหวกคล้ายป้าวิทอยู่ แต่ภาพเธอก็ไม่ใช่ ภาพเดียวกับที่คนมองวิทนี่ ว่าเป็นนักร้องเสียงทองบนเวทีอลังการ แต่ดูเป็นนักร้องความคิดสร้างสรรค์ที่มีความสามารถร้องเพลงได้เก่งมากกว่า(และเป็นภาพที่สามารถสร้างได้เกือบสมบูรณ์จนจบอัลบั้ม)  นี่น่าจะเป็นหนึ่งในเหตุผลที่มารายห์สามารถเข้าถึงคนในวงกว้างได้อย่างรวดเร็วจนน่าอิจฉา

               ในแง่ของเนื้อหา เพลงนี้มักโดนโจมตีว่าเป็นการสร้างภาพ เนื้อหาดูสวยงามเกินไป ไม่ค่อยเป็นจริง ข้าพเจ้าก็เห็นเช่นนั้นด้วย โดยเฉพาะเมื่อมีศิลปินหญิงนางหนึ่งซึ่งได้เปิดตัวก่อนเธอไม่นานนัก ได้ให้ผลงานที่มีความกร้าวกว่า ลงลึกทาประเด็นเรื่องเชื้อชาติ สีผว และสังคมมากกว่า อย่าง เจเนท ซึ่งงานงานของเธอที่ปล่อยออกมาก่อนไม่นานนัก เป็นการเบิกทางว่า นักร้องสาววัยรุ่น (ในขณะนั้น) ก็สามารถสร้างงานเพลงที่มีประเด็นทางสังคมได้ลึกซึ้งเช่นเดียวกัน และสามารถผสานเพลงพวกนี้ไปได้กับเพลงรักได้อบย่างกลมกลืนและประสบความสำเร็จในระดับสูงได้เช่นกัน (Janet- Rhythm Nation 1814 (1989) - มีเพลงอย่าง State of The World ที่พูดถึงปัญหาเดียวกันกับในเพลงนี้เกือบหมด แต่เพลงนั้นถกให้เห็นถึงสภาพปัญหาอย่างชัดเจนว่า ผู้ขาดโอกาสนั้นเป็นเหยื่อทางสังคมมากขนาดไหน และนั่นคือสภาพปัญหาที่สังคมควรร่วมใจเป็นส่วนร่วม The Knowledge พูดถึงความสำคัญของการศึกษาที่มีต่อการพัฒนาชีวิตของกลุ่มคนด้อยโอกาส และ Livin' InThe World (They Didn't Make) พูดถึงเด็กไม่รู้อิโหน่อิเหน่ที่ต้องมาตายเพราะผู้ใหญ่ในสังคมอันเสื่อมโทรม) แต่เมื่อไม่เปรียบเทียบกันแล้ว เพลงนี้ก็เป็นเพลงจรรโลงสังคมที่มีความสวยงามและงดงามทั้งในแง่ของท่วงทำนอง คำร้อง เนื้อหา และดนตรี เป็นเพลงสังคมอุดมคติที่อย่างน้อยก็ทำให้ภาพลักษณ์ของศิลปินดูดีขึ้น แต่เหนือสิ่งอื่นใด เพลงนี้คือเพลงที่เมโลดี้เพราะเจริง เสียงร้องลงตัว และมีคอรัสที่กลมกล่อมชวนขนลุก เป็นเพลงหนึ่งของมารายห์ที่มีคุณค่าชวนฟัง และไม่เคยนึกรังเกียจที่จะหยิบมาฟังได้บ่อยๆ

    แก้ไขเมื่อ 14 ม.ค. 50 13:25:32

     
     

    จากคุณ : พระนายหมื่นไร่ - [ 14 ม.ค. 50 13:23:40 ]

 
 


ข้อความหรือรูปภาพที่ปรากฏในกระทู้ที่ท่านเห็นอยู่นี้ เกิดจากการตั้งกระทู้และถูกส่งขึ้นกระดานข่าวโดยอัตโนมัติจากบุคคลทั่วไป ซึ่ง PANTIP.COM มิได้มีส่วนร่วมรู้เห็น ตรวจสอบ หรือพิสูจน์ข้อเท็จจริงใดๆ ทั้งสิ้น หากท่านพบเห็นข้อความ หรือรูปภาพในกระทู้ที่ไม่เหมาะสม กรุณาแจ้งทีมงานทราบ เพื่อดำเนินการต่อไป



Pantip-Cafe | Pantip-TechExchange | PantipMarket.com | Chat | PanTown.com | BlogGang.com | Torakhong.org | GameRoom