.....จะว่าไปมารายห์ก็เป็นครูของผมเหมือนกันนะ.....
...ครูภาษาอังกฤษก่อนเลย...หลายเพลงของมารายห์ที่ใช้คำศัพท์ยากมากกกกกกกกก ในเพลงเร็ว มีคำแสลงแปลกหู เพลงช้าใช้คำเปรียบเปรย ประโยคที่ผมมักจะสงสัยว่ามันคืออะไร แปลโดยรวมว่าเพลงต้องการพูดถึงอะไร...อันนี้ผมให้เป็นคลาสแกรมม่า เพราะบางทีมันมีเรื่องโครงสร้างประโยค และกาลเวลาเข้ามาเกี่ยวข้อง ฝึกเทนส์นิดนึง...
...ต่อไป...คลาส Listening ผมโชคดีที่เริ่มฟังเพลงสากลจากเพลงของมารายห์ ทำให้ทุกวันนี้ทักษะการฟังของผมค่อนข้างดี...ก็การร้องที่โหยหวน หอน เห่า ทั้งหลายที่เจ๊แกร้องกรอกหูอยู่ทุกวัน มันไม่เหมือนกับฟังเพลงของซีลีนเลยแม้แต่นิดเดียว ลองไปเปิดเพลงของมารายห์ แล้วต่อด้วยเพลงอะไรก็ได้ของซีลีน คุณจะรู้สึกว่า ซีลีนร้องชัดกว่ามาก เสียง T TH ED ชัดจนรู้ว่ามันคือเทนส์อะไร เรื่องราวมันเป็นมายังไง (ที่เปรียบเทียบสองคนนี้เพราะผมเริ่มฟังเพลงสากลจริง ๆ จัง ๆ ก็ตอน My Heart Will Go On ดังสุดกู่) เอาแบบง่าย ๆ เลย ลองฟัง Because You Loved Me แล้วร้องตามด้วยการออกเสียงที่ถูกต้อง คุณจะได้รับการฝึกฝนการออกเสียงไปในตัว...แต่ถ้าคุณฟังเพลงของมารายห์ คุณอาจจะต้องฟังหลายรอบ หรือถึงขนาดต้องกางเนื้อ เพื่อจะได้รู้ว่าเพลงนี้มันหมายความว่าอะไร...และใช้เวลาอีกพักเพื่อหัดร้องตาม เพราะว่าเจ๊แกลิ้งค์เสียงซะ ลิ้นคนไทยอย่างเราตามไม่ทันจริง ๆ)...
...การเป็นตัวอย่างที่ดีและไม่ดีของแฟนเพลง อันนี้ก็เป็นครูได้นะครับ...
...มารายห์ไม่เคยแย่งซีนใคร ไม่จำเป็นต้องโชว์พาวว่าชั้นเก่ง ชั้นเริ่ด เสียงร้องของชั้นถึงแม้ใครก็ทำได้ถ้าฝึกบ่อย ๆ แต่จะให้เหมือนหรือดีเท่าชั้นคงยาก...ในกรณีที่ต้องร้องดูเอท...กับป้าแพตตี้ เสียงสู้ไม่ได้อยู่แล้ว แต่การร้องที่คงเตรียมการกันมาอย่างดี แบ่งกันร้องในแต่ละท่อน มารายห์ให้เกียรติกับนักร้องที่ตนเองร้องด้วยเสมอ ทำให้เวลาดูไลฟ์เพลงนี้ เหมือนน้าสาวกับหลานสาวมาร้องด้วยกัน (เสียงมารายห์ไม่ค่อยสมบูรณ์นักในเพลงนี้)
...กับป้าอรีธา ในดีว่าส์ ไลฟ์ ความสาว ความสวย รวมทั้งทรงผมฟูฟ่องนั่น อาจจะอลังการเกินหน้าเกินตาคนอื่น แต่เวลาร้องเพลงกับป้าอรีธา มารายห์ดูเกรง ๆ ไปนิด ต้องให้ป้าแกหันมาพยักเพยิดส่งซิกว่าหนูร้องต่อทีสิจ๊ะ..มารายห์ถึงได้ร้อง ดูจากสีหน้า แววตา มารายห์ดูปลื้มป้าแกมาก อันนี้เป็นตัวอย่างที่ดีสำหรับเยาวชนที่เคารพผู้อาวุโสกว่า (ซึ่งหายากในสังคมอเมริกัน)
...กับป้าไดอาน่า...ในงานดิว่า แต่คนละปีกับงานบน...เมดเลย์ดัดจริต น่ารักน่าตบที่สุด แต่ทุกคนที่ดูนั่งยิ้ม หัวเราะไปกับความพยายามเซ็กส์ซี่ของเจ๊ทั้งสอง อันนี้เหมือนคู่พี่น้องร้องเพลงด้วยกัน...แม้ตอนท้ายคอนเสิร์ตที่ทุกคนออกมาร้องด้วยกัน มารายห์ ออกมาในชุดที่ เอ่อ ไม่เข้าพวก แต่การร้องหรือการแสดงออกก็ไม่แย่งซีนใครอีกเช่นเคย...
...กับวิทนี่ย์ ที่เจ๊แกถูกจับมาเปรียบเทียบด้วยบ่อย ๆ เวลาร้อง When You Believe ด้วยกัน มีโอกาสแย่งซีนได้เยอะแยะ แต่ก็ไม่ทำ ลองคิดดูว่า ท่อนที่วิทนี่ย์ร้องเสียงสูง แต่ท่อนต่อมาเจ๊แกหวีด คุณคิดว่านี่คือการแย่งซีน หรือโชว์พาวหรือเปล่า...
...กับนักร้องชายทุกคนที่ร่วมงานกันมา ไม่เห็นมีเรื่องชู้สาว ขาเม้าธ์ก็จ้องจะเม้าธ์ แต่ในที่สุดมารายห์ก็ได้พิสูจน์แล้วว่า งานก็คืองาน ไม่จำเป็นต้องเอาเรื่องเซ็กส์ชนิดติดเรทมาช่วยโปรโมท แม้ว่าชุดที่เจ๊แกใส่จะเกือบเปลือยไปบ้าง แต่มันก็คงไม่ทำให้ผู้ชายเกิดอารมณ์ทางเพศซักเท่าไหร่หรอกเนอะ...
...จริง ๆ แล้วมารายห์เป็นครูผมอีกหลายอย่าง ทั้งในเรื่องส่วนตัว หรือเรื่องราวที่สอนผ่านบทเพลง เช่น Butterfly จริงมั้ยล่ะ กับเรื่องความรัก ที่ถ้าเขาเป็นของเรา เดี๋ยวเขาก็กลับมาเองแหละ ปล่อย ๆ ไปเถอะ เป็นวิธีการสอนให้ทำใจได้อย่างคลาสสิคที่สุด...เฮ้อ...พอก่อนดีกว่า...ถ้าใครคิดว่ามารายห์มีส่วนช่วยสอนอะไรในชีวิตก็แชร์กันหน่อยนะครับ...
จากคุณ :
RemySexyCool
- [
18 ม.ค. 50 17:19:25
]