Pantip-Cafe | Pantip-TechExchange | PantipMarket.com | Chat | PanTown.com | BlogGang.com | Torakhong.org | GameRoom


    เพลงที่ 004- Someday เพลงเบรคดาวน์จากมารายห์ยุคแรก

               ถ้าเปิดอัลบั้ม Mariah Carey มาแล้ว จะพบว่า มาถึงเพลงที่ 4 แล้วนะนี่ที่เพลงยังคงมีศักยภาพพอที่จะเป็นซิงเกิ้ล และเป็นเพลงที่สามารถโชว์ความแตกต่างของมารายห์ได้ไปคนละแบบด้วย ในขณะที่วิชั่น ออฟ เลิฟ ให้ภาพของสาวช่างคิด แดร์ส กอท ทู บี อะ เวย์ ให้ภาพของคนที่มีความกล้าในการวิพากษ์สังคม ไอ ดอนท์ วอนนา คราย ก็เป็นเพลงที่โชว์ความแก่+ความสามารถที่ซ่อนอยู่ในตัวเธอ แล้วก็มาถึงเพลงนี้ เพลงซัมเดย์ เพลงที่โดยส่วนตัวแล้วขอยกให้เป็นเพลงที่มีเนื้อหาเปรี้ยวเด็ดที่สุดในอัลบั้มนี้

            ได้ฟังเพลงนี้ครั้งแรกในอัลบั้ม วันส์ ด้วยความรู้สึกว่า มันเป็นเพลงที่เหมือนกับอีโมชั่นส์ ชนิดแกะกันไม่ออกมากๆ โดยเฉพาะเมื่อนำมาเรียงติดกันแบบนี้  แต่ทำไมไม่รู้ ถึงชอบเพลงนี้มากกว่าตั้งแต่แรกฟัง คิดว่าเพลงนี้ดนตรีมันเท่กว่า(มีท่อนโซโล่ดนตรี) มีการร้องที่เก๋กว่า (แอพมีแร็พ) และรู้สึกโดยยังไม่ทันดูเนื้อว่า เธอร้องเพลงเร็วได้อารมณ์ดีมาก ไปอีกแบบเลย

             เพลงนี้กลายเป็นเพลงที่ชอบมากอันดับต้นๆของมารายห์ทันทีหลังจากที่ได้ดูเนื้อ มันเป็นเพลงที่มีเนื้อเปรี้ยวมาก ทั้งดนตรีและเนื้อหา สามารถทำให้เธอดูมีความต่างจากวิทนี่ ฮุสตัน ได้ในทันที (ในความคิดของข้าพเจ้า) เพลงนี้ทำให้ดูเธอเป็นหญิงสาวที่วัยรุ่นสมวัย20 ที่มองความรักตามแบบมุมมองในวัยนั้นได้อย่างเหมาะสม ดนตรีมีความวัยรุ่นแอบเต้นได้ (โดยเฉพาะเอ็มวีเวอร์ชั่น ถึงขั้นแอบเต้นสเต็ปกันได้น่ารักเลยเชียว) เพลงนี้ทำให้ภาพลักษณ์ของมารายห์ดูเด็กลงมาก และดูเธอเป็นคนธรรมดาๆที่ช่างคิด เป็นเพลงที่มีความหาญกล้าในการนำเสนอมุมมองการอกหักที่ค่อนข้างแหวกแนวและแตกต่างจากเพลงในช่วงนั้นอยู่มาก แทนที่จะมาร้องคร่ำครวญว่าทำไมเธอถึงทิ้งฉันไป หรือ ทำไมเธอไม่เคยมองฉันเลย (เดาไม่ถูกว่าอกหักเพราะเลิกกัน หรือแอบรักเขาข้างเดียวหว่า คิดว่ามันใช้ได้ทั้ง 2 กรณีเลยเพลงนี้ แต่เพลงนี้จะฟังแล้วได้อารมณ์มาก หากเราแอบชอบเขาข้างเดียว แล้วคิดว่าตัวเองมีดีซ่อนอยู่ภายในชนิดดีดี๊ดี เลิศประเสริฐสุด แต่เธอก็ยังตาถั่ว มองไม่เห็นฉันอีก สิ่งที่ทำได้ดีสุดคือเชิ่ดใส่ ---- อ่านมาถึงตรงนี้ การนึกถึงคุณอิฟวีดู จะช่วยทำให้คุณเห็นภาพได้ชัดเจนขึ้น...555) มารายห์มาชวนคนอกหักทั้งหลาย (โดยเฉพาะที่เพิ่งช้ำมาหมาดๆจากไอ ดอนท์ วอนนา คราย) ให้ตาสว่างว่า การที่เราจะมานั่งเสียอกเสียใจนั้น มันอาจเป็นเรื่องไร้สาระ เพราะเหมือนกับว่ายิ่งทำให้เค้าดูมีค่ามากเกินไปจนเราต้องมาเสียน้ำตาให้ ทั้งที่จริงๆแล้วเธอนั้นก็ไม่ได้มีค่ามากมายอะไรเลย แค่เป็นคนที่ฉันเผลอคิดว่าไปว่า อยากจะให้โอกาสจะให้มาเห็นความวิเศษในตัวฉํนมากกว่าใครแค่นั้น แต่น่าเสียดายนัก ที่ฉันเผลอคิดผิดไป!

           วิเคราะห์เอาจริงๆแล้ว เพลงนี้หาใช่เพลงหญิงแกร่งสมบูรณ์แบบไม่ เพลงนี้ก็คือเพลงเบรคดาวน์ที่มาถึงก่อนนั่นแหละ เนื้อหาในเพลงนี้แทบไม่ต่างกับหญิงสาวคนเดียวกันในเพลงเบรคดาวน์ที่อกหักช้ำรัก เลยต้องมานั่งหาข้อดีอย่างโน้นนี้มาปลอบใจตัวเอง แต่เอาเข้าจริงก็ยังลืมเค้าไม่ได้ ดีไม่ดี หากเค้ากลับมาก็อาจจะเปลี่ยนใจกลับมาเอาเค้าได้อีก ที่ด่าๆไปนี่แค่ปลอบใจตัวเองไม่ให้รู้สึกว่าตัวเองเสียหน้า หรือผิดหวังมากไปเท่านั้นเอง (ใครอ่านมาถึงตรงนี้ คงแอบด่าพระนายหมื่นไร่แล้วใช่ไหมเนี่ย) แต่นั่นก็คือความรักในแบบที่เกิดกับพวกเราจริงๆ เพลงนี้เป็นเพลงที่ดีมากในการจะช่วยหาแง่คิดดีๆๆมาช่วยปลอบใจให้หายเศร้าในยามทุกข์สุดๆ แบบไม่เวอร์เกิน หรือข้ามขั้นอารมณ์มากเกินไป เป็นแบบหลังร้องไห้สุดๆมาจนไม่ไหวแล้ว จึงเริ่มคิด แม้จะยังไม่อาจแกร่งแล้วลืมเรื่องทุกอย่างได้ในทันที แต่ก็พอมองเห็นคุณค่าในตัวเอง หลังจากที่เผลอไปหลงให้ค่าใครบ้างคนนานเกินไป จนลืมกลับมาใส่ใจกับคุณค่าที่เคยมีอยู่ในตัวเอง ข้าพเจ้าเองคิดว่าเพลงนี้เป็นเพลงที่มีแนวคิดที่ยอดเยี่ยมมาก แม้ใครที่มองผ่านๆมักจะคิดว่าเพลงนี้มันดูน่าหมั่นไส้มาก เหมือนคนมาโอ้อวดตัวเองว่าดีเลิศประเสริฐศรี แต่แท้ที่จริงแล้วมันไม่ใช่การไปโอ้อวดให้ใครฟังหรอก มันคือการนั่งรำพึงรำพันกับตัวเองในยามท้อแท้ต่างหาก ยามที่ต้องการอะไรสักอย่างมาบอกว่าเรายังมีค่านะ ชีวิตเรายังไม่ได้สิ้นสุด ณ จุดๆนั้นอย่างที่คิด แต่เราเองเป็นคนที่ยังมีค่าพอที่จะก้าวผ่านไปเจอสิ่งดีๆที่รออยู่ข้างหน้าได้ จะว่าไปแล้วมันก็คือเพลงที่ไม่ต่างไปจากเพลง ฮีโร่ ในด้านความรักเลยทีเดียว (เวอร์ไปป่ะ)

           ยิ่งอ่านข้อมูลเพลงจากอัลบั้มนี้ยิ่งทิ่งมากขึ้นเรื่อยๆ เมื่อพบว่า เพลงนี้คือเพลงที่มารายห์ได้แต่งไว้กับเบน มากูลีส์ ไว้ก่อนแล้ว และเป็น 1 ใน 5 เพลงที่ถูกอัดไว้ในเดโม ม้วนที่มารายห์เอาไปยื่นให้กับทอมมี่ มอตโตลา แต่เพลงนี้มารายห์กำหนดไว้ว่า ต้องการให้มันดูดิบมากกว่านี้อีก (ทั้งๆที่เพลงนี้ก็ถือว่าแรงแล้วในสมัยนั้น กะจะให้แบบ แม่เจเนท - แบลคแคท เลยหรือไงเจ๊) เวอร์ชั่นอัลบั้มที่เสร็จสมบูรณ์นั้นเจ๊บอกว่า มันดูดี ขัดสีฉวีวรรณเกินไป (จากการให้ ริค เวค ดาวรุ่งโคลัมเบียอีกคน มาช่วยโพรดิวซ์) แต่เพลงนี้ก็คือเพลงหนึ่งที่เธอยังนำมาร้องอยู่เรื่อยๆตลอดมา (ไม่เหมือนกับเพลงฉันไม่อยากร้องไห้) ลองนึกดูว่าเจ๊มาลัยของเรานั้นมีความเป็นศิลปินตัวจริงมากแค่ไหนเนี่ย ไม่อยากนึกว่า หากอัลบั้มแรกของเธอไม่ถูกขัดเกลามันจะดิบมากขนาดไหนหนอ อาจจะเป็นแบบ อลิเชีย คียส์ ชุดแรก ที่ดูทะมืนๆ ดิบๆ ไปเลย พร้อมหอบคำชมเป็นกระบุง แล้วลาขาดจากวงการไปเลยทันที เพราะเจ๊ง ประมาณนั้น (อันนี้ ขอยอมสนับสนุนฝ่ายมารอย่างมอตโตล่าบ้างนะเจ๊)

             เอ็มวีนี้ก็เหมือนเบรคดาวน์สำหรับข้าพเจ้า คือ เป็นเอ็มวีที่ชอบมากที่สุดในช่วงของมารายห์ช่วงยุคหนึ่ง เพลงนี้แสดงความช่างคิดมาก โดยเฉพาะเวอร์ชั่นเอ็มวี ที่ได้เชพ เพตติโบน มาทำมิกซ์ให้มีจังหวะชวนเต้นขึ้นอีก (แต่คิดว่า เพลง แดร์ส กอท ทู บี อะ เวย์ ที่ทำทีหลังลงตัวกว่ามาก) เป็นการขับเพลงให้ดูน่ารักขึ้นอีก เพราะทำให้สามารถมีหมู่นักเรียนวัยกระเตาะมาร่วมเต้นกันในเพลงได้น่ารักมาก เพลงนี้ดูไปด฿มาหลายรอบ ว่าชอบแล้ว แต่ยังไม่ชอบมากเท่า เมื่อดูแล้วแอบคิดเอาเองว่า มารายห์คงทำเอ็มวีนี้ทรีบิวต์ให้กับชีวิตรักวัยเรียนเจ๊เป็นแน่แท้ เธอเลือกเด็กคนนึงที่หน้าตาเหมือนเธอวัยเด็กมากมาเป็นตัวหลักของเอ็มวี โดยเอ็มวี เราจะได้เห็นชีวิตของเด็กนักเรียนอเมริกันยุค 80แบบที่เราเห็นกันบ่อยๆในหนังวัยรุ่น แต่ดูมีสีสันมาก ดูไปดูมาจะถึงบ้างอ้อว่า มารายห์ขอแก้แค้นไอ้คนที่เธอเคยชอบสมัยเรียน แล้วทำเมินเธอนั่นเอง ด้วยเหตุว่าเธอมันลูกเป็ดขี้เหร่ แล้วเป็นไงล่ะ วันนี้ที่ฉันสวย คุณลำไยขนาดนี้ เธอเสียใจมั้ยจ้ะที่วันนั้นเธอเคยเดินเชิ่ดใส่ ทำเป็นไม่สนใจฉัน (แต่คิดว่าไอ้นั่นอาจคิดถูกก็ได้ ถ้าเห็นความสติแตกของเจ๊ในยุคหลังๆนี้) เพลงนี้แม้จะเป็นเอ็มวีที่องค์ประกอบเชิงศิลป์ไม่ได้เลิศเลอ แต่องค์ประกอบของเรื่องและความลงของการนำเสนอที่สอดคล้องกับทำนองและจังหวะ ทำให้เพลงนี้เป็นเอ็มวีที่ช่วยส่งเสริมเพลงให้ดูดีและเด่นขึ้นมากที่สุดเพลงนึง แบบเดียวกับเพลงเบรคดาวน์ที่เพลงสวย เอ็มวีเลิศ เลยชอบสุดกู่ไปเลยแบบนั้น (แต่คนทั่วไปอาจบอกว่าไม่เท่าเบรคดาวน์ แต่ส่วนตัวแล้ว ข้าพเจ้าชอบเอ็มวีเพลงนี้มาก เพราะดูมารายห์เป็นธรรมชาติ สวยแบบ 90 มาก ทำไมไม่รู้ ดูมารายห์เอ็มวีนี้แล้วนึกถึงเจ๊ จุ๊ จูเลีย ใน พริตตี้ วูเมน มากเลยล่ะ)


            เพลงนี้เป็นเพลงโปรดในดวงใจของหลายๆคน ตรงนี้เนื้อมันตรงและแรง เป็นเพลงที่ให้แนวคิดและกำลังใจในแบบไม่เสแสร้ง   บวกกับการหวีดที่พอประมาณน่ารัก (หวีดเพลงนี้เหมือนหวีดสะใจฉัน ขอสมน้ำหน้าเธอให้มันหลุดโลกไปเลย แล้วก็เฟดเอาท์หนีไปเลย ซึ่งเราว่ามันดูมีชั้นเชิงดีนะนี่)  ทำให้พวกเราชอบเพลงนี้กันใช่ม้า และนี่คือเพลงที่เราชอบมากที่สุดในอันดับต้นๆของเพลงมารายห์เลยละ จะบอกให้


          คิวต่อไปขอเชิญคุณแมวเลียขน มาต่อกับเพลง 005- Vanishing ได้เลยนะคับ (ไม่ต้องเว้นจังหวะจากกระทู้ผมก็ได้ แต่ห้ามนานเกินไปนะ ไม่งั้นเดี๋ยวตัดหน้าเขียนแทนจริงๆด้วยนะเออ)


    เพิ่มเติมจากกระทู้ก่อน


    ขอแก้คุณ Kiminon หน่อยนะคับ

    เพลง All The Man That I Need เป็นเพลงที่ป้าวิท เอามาคัฟเวอร์จริงนะคับ แต่ว่า ต้นฉบับเป็นของ Sister Sledge ซึ่งออกในปี 1982 (เป็นศิลปินในอาณัติของตานาราดา ไมเคิล วอลเดน เช่นเดียวกับป้าวิท) แล้วเพลงนี้ถูกนำมาคัฟเวอร์อีกทีโดยลุงลูเธอร์ ในอัลบั้ม Songs ปี 1994 ซึ่งเป็นรวมเพลงคัฟเวอร์ทั้งอัลบั้ม (อัลบั้มนี้เป็นที่อยู่ของเพลง เอนเลส เลิฟ ไงล่ะ คงเคยฟังอัลบั้มนี้กันแล้วใช่ม้า) โดยมีการแก้จากชาย เป็น หญิง แต่คาดว่าอิทธิพลหลักที่ลูงลู เลือกเพลงนี้มาร้อง ก็คงเพราะความดังจากเวอร์ชั่นป้าวิทนี่นั่นแหละ แต่ว่าเพลงคัฟเวอร์เพลงไหนของลูงลู ก็ไม่เก๋เท่า Superstars (Until U Come Back To me ) ที่เอาเพลงแหววๆ ของป้าอรีธ่า มาแทรกในเพลงซูเปอร์สตาร์ ได้อย่างลงตัว (จนกลายเป็นเพลงที่เอื่อยเฉื่อยสุดๆ)

    แก้ไขเมื่อ 18 ม.ค. 50 18:19:44

    แก้ไขเมื่อ 18 ม.ค. 50 18:19:10

    แก้ไขเมื่อ 18 ม.ค. 50 18:07:53

     
     

    จากคุณ : พระนายหมื่นไร่ - [ 18 ม.ค. 50 18:06:31 ]

 
 


ข้อความหรือรูปภาพที่ปรากฏในกระทู้ที่ท่านเห็นอยู่นี้ เกิดจากการตั้งกระทู้และถูกส่งขึ้นกระดานข่าวโดยอัตโนมัติจากบุคคลทั่วไป ซึ่ง PANTIP.COM มิได้มีส่วนร่วมรู้เห็น ตรวจสอบ หรือพิสูจน์ข้อเท็จจริงใดๆ ทั้งสิ้น หากท่านพบเห็นข้อความ หรือรูปภาพในกระทู้ที่ไม่เหมาะสม กรุณาแจ้งทีมงานทราบ เพื่อดำเนินการต่อไป



Pantip-Cafe | Pantip-TechExchange | PantipMarket.com | Chat | PanTown.com | BlogGang.com | Torakhong.org | GameRoom