Pantip-Cafe | Pantip-TechExchange | PantipMarket.com | Chat | PanTown.com | BlogGang.com | Torakhong.org | GameRoom


    ขอเล่านิทานเรื่อง "แฉ"....ถ้าเกิดกับคุณจะทำอย่างไรต่อดี

    นิทานมาเล่าให้ฟัง นิทานเรื่อง “แฉ”

    เรื่องมีอยู่ว่า ณ ประเทศสยอง เมืองแย้ม มีหนุ่มสาวคู่หนึ่ง คือ แอนกับหนุ่ม
    ต่างคนก็ทำงาน office มีความฝันอยากมีกิจการเป็นของตัวเอง ต่างก็ช่วยกันทำงาน
    เก็บหอมรอมริบ เนื่องจากไม่ได้เป็นคนรวยมาจากที่ไหน จนเก็บเงินได้ก้อนหนึ่ง
    ก็ได้ทำกิจการเล็ก ๆ ตามความถนัดของตัวเอง ก็คือ เปิดร้าน internet
    แล้วให้แอนเป็นคนลาออกมาดูแลร้าน

    เปิดกิจการมาได้สักระยะ ประมาณ 6 เดือนได้ เค้าเปิดกันอย่างถูกกฎหมาย
    มีใบอนุญาติเรียบร้อย ไม่รับเด็กโดดเรียน ให้บริการลูกค้าอย่างดี
    มีลูกค้าประจำมากมาย กิจการเริ่มดีขึ้น แต่ก็ยังไม่คืนทุน

    แล้วอยู่มาวันหนึ่ง แอนก็ดูแลร้านอยู่คนเดียวตามปกติ
    แล้วมีชายแปลกหน้าเข้ามาใช้บริการที่ร้าน ใช้บริการไป 1 ชั่วโมง
    หลังจากนั้นอีกครึ่งชั่วโมง มีชาย 4 คนเข้ามาในร้าน
    แสดงตัวว่าเป็นเจ้าหน้าที่พิทักษ์สันติราษฎร์ 1 คน และอีก 3 คน บอกว่า มาจาก
    “ค่ายเพลงยักษ์ใหญ่ค่ายหนึ่ง” แล้วก็ขอตรวจค้นเครื่องในร้าน มีใบแจ้งความ
    และเอกสารอีก 1 ปึกใหญ่ ๆ
    ซึ่งเป็นเอกสารรับมอบอำนาจในการจับลิขสิทธิจากบริษัทดังกล่าว
    แล้วอ้างว่าเครื่องที่ร้านมีการละเมิดลิขสิทธิเพลงของเขา
    พร้อมแสดงใบแจ้งความด้วย ว่ามีการแจ้งความไว้แล้ว

    แอนได้บอกชายเหล่านั้น ว่าไม่เคยลงเพลงให้ลูกค้าฟังเลย ที่ร้านมีแต่อินเตอร์เนต
    และเกมส์ออนไลน์ ไว้ให้บริการลูกค้าเท่านั้น ซึ่งในเวลานั้น
    ที่ร้านลูกค้าเยอะมาก นั่งกันเต็มทุกที่นั่ง พอเจ้าของร้านลุกขึ้นจากโต๊ะ
    ชายหนึ่งในนั้น ก็ได้นั่งลงที่คอมฯเครื่องนั้นทันที และค้นใน network ทันที
    หาไฟล์ที่เป็น mp 3 ปรากฎว่าเจอโฟลเดอร์เพลงของบริษัทดังกล่าว
    ที่เครื่องที่ชายแปลกหน้ามาเล่น แอนจึงเดินไปดูที่เครื่องนั้น
    พบว่ามีการสร้างโฟลเดอร์ไว้ในเครื่องนั้น ซึ่งในนั้นมีเพลง MP 3
    ของค่ายเพลงดังกล่าวมากมาย หลายสิบเพลง พร้อม share folder ไว้เรียบร้อย
    เพื่อให้ค้นหาจากใน network ได้ จากนั้นชายกลุ่มนั้นจึงได้ยึดเครื่องไปทั้งร้าน
    ซึ่งทางเจ้าหน้าที่บอกว่าโดนข้อหาละเมิดลิขสิทธิ และนำมาเผยแพร่ต่อสาธารณะ
    ต้องยึดของกลางทั้งหมด และนำตัวไปที่สถานีฯ

    เมื่อถึงสถานีฯ
    เจ้าหน้าที่พิทักษ์สันติราษฎร์และพวกที่อ้างว่ามาจากบริษัทเพลงยักษ์ใหญ่
    ก็ช่วยกันพูด ช่วยกันข่มขู่ต่าง ๆ นานา ให้มีการยอมความ
    จะได้ไม่ต้องเสียเวลาดำเนินคดีใด ๆ อีก จะได้ไม่เสียเวลาทำมาหากิน
    และไม่มีความผิดติดตัว บลา ๆๆๆ ไม่งั้นถ้าคิดเป็นเพลง หลายเพลงขนาดนี้
    ก็เป็นเงินมากโข แต่เค้าจะยอมให้ที่ 5 หมื่น ขาดตัว แล้วก็จบกันที่ตรงนี้
    จะไม่มีการค้าความใด ๆ อีก แอนกับหนุ่ม เกรงว่าจะเป็นตามที่ขู่จริง
    จึงได้พยายามหาเงินมาให้ได้เดี๋ยวนั้น
    เนื่องจากต้องการนำเครื่องคอมฯกลับมาทำมาหากินต่อ
    โดยการไปกู้เงินคนรู้จักมาอีกทีนึง แต่เค้าก็ขอคิดดอกร้อยละ 10
    แอนกับหนุ่มคิดว่าตนเองไม่มีทางเลือก จึงต้องกู้เงินมาจ่ายให้กับบุคคลเหล่านั้น

    แอนกับหนุ่ม เศร้ามาก อุตสาห์ให้แอนลาออกจากงานประจำ
    ซึ่งเงินเดือนและตำแหน่งก็ไม่ใช่น้อย นำเงินเก็บทั้งหมดมาลงทุน
    แต่กลับต้องมีภาระหนี้สินเพิ่มเติม ในขณะที่กิจการยังไม่คืนทุน
    แล้วยังมีหนี้บางส่วนที่กู้มาตอนลงทุนเปิดร้านอีก แต่เค้าก็ไม่ท้อแท้ สู้ต่อไป
    ทำในสิ่งที่ถูกต้อง ทำในสิ่งที่ตนเองรัก ทำให้ดีที่สุด

    หลังจากนั้นแอนกับหนุ่ม ก็ได้ศึกษาข้อมูลจากที่ต่าง ๆ ได้ข้อมูลมาว่า
    จะมีบริษัทกฎหมาย ซึ่งรับมอบอำนาจมาจากบริษัทเพลงยักษ์ใหญ่ทั้ง 2 ค่าย
    รวมถึงรับมอบอำนาจจากค่ายเกมส์ต่าง ๆ (สำหรับค่ายเกมส์
    มีบางค่ายไม่มีการขายสิทธิในการตรวจจับ ให้กับบริษัทกฎหมายเหล่านี้ เช่น
    เกมส์ตีกอล์ฟชื่อดัง เค้าก็ไม่ทำแบบนี้) ให้มาจับลิขสิทธิตามที่ต่าง ๆ
    ซึ่งบริษัทเหล่านี้จะนำเพลง และเกมส์ ที่ละเมิดลิขสิทธิ
    มาแอบลงไว้ที่เครื่องก่อน แล้วจะตามเข้าแสดงตัวจับกุมภายหลัง
    และจะกระจายกันไปหลายกลุ่มทั่วประเทศ
    เพราะเค้ามีระยะเวลาของอำนาจในการตรวจนี้ด้วย ซึ่งการเข้าจับกุมที่ถูกต้องจะ
    ต้องมีหมาย..... มาแสดงด้วย
    และเจ้าของต้องยินยอมให้เค้าตรวจค้นด้วยจึงจะเข้าตรวจค้นได้
    และในปัจจุบันได้มีซอฟแวร์และฮาร์ดแวร์ที่สามารถป้องกันการลงข้อมูลต่าง ๆ
    ในเครื่องได้ โดยข้อมูลที่ผู้ใช้บริการมาลงไว้ จะหายไปทันทีหากมีการ restart
    เครื่อง

    จากเหตุการณ์ในนิทานเรื่องนี้
    - ท่านคิดว่าบุคคลเหล่านี้หวงแหนลิขสิทธิจริงหรือ?? หรือว่าต้องการอะไร??
    จุดประสงค์ใดกันแน่??
    - เงินที่ได้ไปจากการยอมความ ใครมีส่วนแบ่งบ้าง แล้วเจ้าของค่ายเพลง หรือ
    เจ้าของค่ายเกมส์ จะได้จริงหรือไม่
    - เจ้าของลิขสิทธิเพลง และ เกมส์ ต่าง ๆ รู้หรือไม่ หรือว่าแกล้งไม่รู้
    ว่ามีพฤติกรรมเหล่านี้อยู่ไม่สิ้นสุด และทำแบบนี้มาหลายปีมากแล้ว
    - สมควรแล้วหรือที่จะมาร้องแลกแหกกระเฌอ หาความยุติธรรม ให้เลิกซื้อแผ่นผี
    แต่ตัวเองมีการขายสิทธิให้กับบุคคลเหล่านี้ ในการจับกุมรูปแบบนี้

    จงเล่านิทานเรื่องนี้
    ให้ผู้ประกอบการร้านอินเตอร์เน็ตที่ท่านรู้จักให้มากที่สุด
    เนื่องจากในปัจจุบันนี้ยังมีอีกมาก
    ที่ยังขาดความรู้เรื่องการป้องกันการเข้าตรวจค้นดังกล่าว
    คนพวกนี้จะได้ไม่ต้องหากินแบบนี้อีก พวกหากินบนความทุกข์ของคนอื่น
    ทำมาหากินง่ายเหลือเกิน แล้วที่สำคัญ ตั้งแต่ช่วงกลางเดือน ม.ค. 50
    มาจนถึงตอนนี้ บุคคลเหล่านี้กระจายอยู่ทั่วประเทศ
    มีหลายร้านที่ไม่รู้เรื่องโดนไปเยอะเลย

    ถ้าไม่มีหมายฯ มา ก็ไม่ให้ตรวจค้นเด็ดขาด
    และไม่ต้องยอมเสียเงินให้กับคนเหล่านี้ ให้สู้คดีเท่านั้น เพราะ 99.99%
    ชนะแน่นอน เพราะทางร้านไม่ได้กระทำความผิดให้เค้าเห็นแบบซึ่ง ๆ หน้า
    แต่เค้าเข้ามาค้น และมาแบบไม่ถูกต้องด้วย จุดประสงค์เค้าคือ
    ต้องการให้คุณยอมความ และจ่ายเงินให้เค้า

    ขอร้องเถอะ ช่วยกันโหวตให้กระทู้นี้อยู่ที่นี่ตลอดไป
    จะได้มีคนเล่านิทานเรื่องนี้ต่ออีกเยอะ ๆ คนพวกนี้จะได้หมดไปจากประเทศสยอง ซะที
    หรือจะทำเป็น FW mail หรือจะเอาไปแปะไว้ที่ไหนก็ได้ ไม่สงวนลิขสิทธิใด ๆ
    สำหรับนิทานเรื่องนี้

    จากคุณ : แค่อยากเล่านิทาน ......จริง - [ 9 ก.พ. 50 08:59:11 A:203.155.167.164 X: TicketID:138184 ]

 
 


ข้อความหรือรูปภาพที่ปรากฏในกระทู้ที่ท่านเห็นอยู่นี้ เกิดจากการตั้งกระทู้และถูกส่งขึ้นกระดานข่าวโดยอัตโนมัติจากบุคคลทั่วไป ซึ่ง PANTIP.COM มิได้มีส่วนร่วมรู้เห็น ตรวจสอบ หรือพิสูจน์ข้อเท็จจริงใดๆ ทั้งสิ้น หากท่านพบเห็นข้อความ หรือรูปภาพในกระทู้ที่ไม่เหมาะสม กรุณาแจ้งทีมงานทราบ เพื่อดำเนินการต่อไป



Pantip-Cafe | Pantip-TechExchange | PantipMarket.com | Chat | PanTown.com | BlogGang.com | Torakhong.org | GameRoom