สวัสดีครับพี่น้องชาว PANTIP...
ก่อนอื่นผมขอแสดงความเสียใจกับพ่อของเพื่อนผมที่เพิ่งเสียชีวิตไปเมื่อ 2 วันก่อนอย่างสงบด้วยโรคมะเร็งที่สมอง
ผมเป็น PRODUCER ของวง POTATO และเป็นคนเขียนเพลงให้ POTATO มาตลอด...แต่ผมไม่เคยมาเล่าที่มาของเพลงแต่ละเพลงในเว็บไซด์นี้เลย แต่ผมอยากมาเล่าที่มาของเพลงๆนึงในอัลบั้ม SENSE ชื่อเพลง นี่แหละ...ความเสียใจ
เรื่องก็มีอยู่ว่า...ผมมีเพื่อนสนิทอยู่คนนึง เขาเพิ่งเลิกกับแฟนเมื่อไม่นานมานี้ เพื่อนผมทำใจไม่ได้กับการบอกเลิกของแฟนเขาซึ่งสัญญาว่าจะแต่งงานกับเขาในสิ้นปีนี้ เพื่อนผมเป็นคนต่างจังหวัดที่มาอยู่กทม. ครอบครัวของเขาทั้งหมดอาศัยอยู่ที่ต่างจังหวัด เพื่อนผมจะกลับไปเยี่ยมบ้าน 5-6 เดือนต่อครั้ง...งานที่เพื่อนผมทำเป็นงานที่ต้องใช้ความคิดอย่างมาก เพราะฉะนั้นทุกครั้งที่เขากลับไปเยี่ยมบ้านจึงไม่มีใครเคยบอกเลยว่าพ่อเขากำลังเป็นมะเร็งเพราะกลัวลูกสาวคนนี้ไม่เป็นอันทำงาน อนึ่งความประสงค์นี้มาจากตัวพ่อของเขาเป็นคนขอร้องคนอื่นๆในบ้านให้ช่วยปิดเพื่อนผมด้วย เพราะเพื่อนผมเป็นกำลังหลักของบ้านนี้ น้องเขายังเป็นนักเรียนอยู่ยังไม่มีรายได้ แต่พอเพื่อนผมเสียใจจากการที่ความฝันเรื่องแต่งงานพังลงก็เป็นธรรมดาของผู้หญิงที่ร้องไห้ฟูมฟาย หาคนระบายความทุกข์ จนในที่สุดก็ถึงคิวของแม่เขา เพื่อนผมโทรไประบายกับแม่ว่าตอนนี้เสียใจมากไม่ค่อยมีไอเดียในการทำงาน แม่เขาจึงยอมบอกว่าถ้าตอนนี้ยังทำงานไม่ได้กลับบ้านมาดูแลพ่อไหม...
เพื่อนผมเลยถามว่าพ่อเป็นอะไร...แม่ก็บอกว่าเป็นมะเร็งในสมอง เพื่อนผมรีบกลับต่างจังหวัดแล้ววิ่งไปกอดพ่อเขาทันที เพื่อนผมบอกว่าคำแรกที่ได้ยินคือ...3 เดือนนะลูก หมอบอกว่าพ่ออยู่ได้อีก 3 เดือน...พ่อเขาถามซ้ำไปที่ใจเพื่อนผมว่า....ลูกตาบวมๆนะ ร้องไห้เรื่องอะไรมารึเปล่า เพื่อนผมจึงบอกว่าเลิกกับแฟนแล้ว แฟนคนที่หนูบอกว่าจะพามาให้พ่อ-แม่รู้จักไง...พูดจบพ่อก็สวนว่าแค่ทะเลาะกันรึเปล่า พ่อยังอยู่อีกตั้ง 3 เดือนนะ ถ้าดีกันได้ก็ยังพามาทันนะลูก เพื่อนผมกอดพ่อเขาแน่นแล้วบอกว่าไม่ต้องพูดถึงคนแบบนั้นแล้วจ้ะพ่อ หนูจะอยู่กับพ่อตลอด 3 เดือน...พ่อเขาบอกคำสุดท้ายว่า พ่อลาลูกไว้ก่อนเลยแล้วกัน เผื่อวันไหนพ่อหลับแล้วไม่ตื่นขึ้นมาลาลูกก่อนกำหนด 3 เดือน...เพื่อนผมบอกว่าคำลาครั้งนี้มันกลบเสียงคำว่าเลิกกันในหัวของเขาที่ได้ยินจากแฟนคนนั้นสนิททันที...และเพื่อนผมบอกผมว่าเพิ่งรู้ว่าจริงๆแล้วความเสียใจมันเป็นแบบนี้เอง เขาขอให้ช่วยเขียนจากเรื่องนี้ของเขา ซึ่งผมเขียนเสร็จหลังจากเขาเล่าเรื่องนี้ให้ผมฟัง 2 วัน...ผมอัดเพลงนี้ใส่ซาวด์เบ้าท์เป็นเทปไปให้เพื่อนฟังโดยที่ยังเป็นเสียงผมร้องกับกีต้าร์โปร่งตัวเดียว หลังจากนั้นแม่เขาโทรมาบอกว่าเพื่อนผมนั่งฟังเพลงนี้กันกับพ่อของเขากันหลายรอบ จนถึงเมื่อ 2 วันก่อนพ่อเขาได้เสียชีวิตลง...เพื่อนผมก็อปปี้เทปม้วนนี้แล้วใส่ไปในกระเป๋าเสื้อพ่อของเขา หวังว่าพ่อเขาจะได้ฟังเพลงๆนี้บนสวรรค์พร้อมๆกับที่เขายังจะฟังอยู่ในโลกปัจจุบันที่พวกเราอยู่กัน
ขอบคุณแรงบันดาลใจจากเธอมากๆ...
ฟองเบียร์
จากคุณ :
ฟองเบียร์
- [
21 ก.พ. 50 01:33:29
A:124.121.57.201 X:
]