 |
### Without you >>> The only one of mariah carey ###
( มาขอรีวิวเพลงนี้ละกันนะครับ ขอโทษแซมมี่นะ ที่มาเขียนเพลงช่วยช้าไปหน่อย ) *หมายเหตุ* จะไม่ขอพูดถึงเวอร์ชั่นดั้งเดิมใดๆ ทั้งสิ้น ไม่ขอเปรียบเทียบ เพราะถึงแม้เพลงนี้ ครั้งหนึ่ง Nilsson จะเคยคัฟเวอร์จนขึ้นอันดับ 1 บิลบอร์ดชาร์ตมาแล้วก็ตาม แต่หากจะพูดถึงความอมตะแล้วไซร้ คงเป็นเวอร์ชั่นคัฟเวอร์ของมารายห์ แครี่ คนนี้นี่เอง....
ไหนๆ ก็ไหนๆ แล้ว ท้าวความหน่อยก็แล้วกัน ถือว่าเป็นเกร็ดเล็กเกร็ดน้อย เพลงนี้ ต้นฉบับดั้งเดิมเป็นของ Badfinger ทำขึ้นเมื่อปี 70 และในปีต่อมา นีลสันก็คัฟเวอร์เพลงนี้ซะโด่งดัง (ในอเมริกา) เพลงนี้ได้ถูกนำไปคัฟเวอร์หลายต่อหลายเวอร์ชั่นด้วยกัน ไม่ว่าจะเป็น Shirley Bassey , Cilla Black , Air Supply , etc... แต่เวอร์ชั่นที่เราจะพูดถึงก็คือเวอร์ชั่นของแม่มารายห์ สายสมร ....ที่ตอนนี้ได้กลายเป็นแทร๊กซ์อมตะไปแล้ว
จะว่าไป มารายห์เนี่ย หล่อนก็ช่างกล้านะ กล้าที่จะคัฟเวอร์เพลงที่เด่น มีเอกลักษณ์เฉพาะ และเป็นเพลงที่เคยขึ้นถึงอันดับหนึ่ง ซึ่งในตอนนั้น มารายห์ได้คัฟเวอร์เพลงมาแล้วสองเพลง ก่อนที่จะมาคัฟเวอร์เพลงนี้ (I'll be there - the jackson5, Endless love - Di ross ) ซึ่งสองเพลงก่อนหน้านี้ ก็ล้วนแล้วแต่เป็นเพลงเอกของนักร้องชื่อดัง และขึ้นอันดับ 1 บิลบอร์ดซิงเกิ้ลชาร์ตอีกด้วย คงไม่ต้องบอกนะว่า ทั้งสองเพลงสร้างชื่อให้กับนักร้องต้นฉบับขนาดไหน
เพลงนี้ จะว่าไปก็ส้มหล่นจริงๆ เพราะทางต้นสังกัดไม่ได้คิดจะตัดเท่าไหร่นัก เพราะตอนแรก ชีคงคิดจะตัด Never forget you แต่ด้วยเพลงที่ออกไปทางอาร์แอนบี ชีก็กลัวว่ามันจะแป๊กกระมัง เลยแอบเอา without you ใส่ไปกันพลาด (NFY มี JD มารีมิ๊กซ์ให้นะ ในขณะที่ WOY ไม่มีรีมิ๊กซ์ หรือเวอร์ชั่นอื่นใดเลย) ซึ่งก็เป็นไปตามคาด หลังจากที่ปล่อยเพลงแรกออกไปแล้วแป๊ก แต่เพลงที่สองที่ปล่อย กลับได้รับกระแสตอบรับที่ดี (ในระดับหนึ่ง) ขึ้นถึงอันดับสามบิลบอร์ดซิงเกิ้ลชาร์ตได้
แต่เพลงนี้ เป็นเพลงที่สร้างชื่อให้กับเธอจนค้างฟ้า มาจนถึงทุกวันนี้เลยก็ว่าได้ เพราะสมัยเพลงนี้ดัง ก็มีการเปิดกระหน่ำกันไปทั่วโลก หลายๆคนในบอร์ดเรา คงรู้จักมารายห์ครั้งแรกจากเพลงๆ นี้ ซึ่งมันก็ไม่แปลกเลย อาจจะเพราะเพลงนี้ หรือเพราะถึงเวลาของมัน ทำให้มารายห์ได้กลายเป็น 1 ในดิว่าอย่างสมบูรณ์ ถึงแม้จะช้าไปนิดนึง แต่เวลาก็สามารถพิสูจน์ความสามารถของเธอได้เป็นอย่างดี เพลงนี้ได้เปิดโอกาสหลายๆ อย่างให้มารายห์ ให้ชีสามารถมี ทัวร์กับเขามั่ง ให้ชีเดบิ้วท์ตัวเองอย่างเป็นทางการในยุโรป และบรรดาชาร์ตโลกที่สามทั้งหลายแหล่
ถ้าพูดถึงความดังของเพลงนี้กับเพลง I will always love you และ My heart will go on เพลงที่เดบิ้วท์นักร้องอย่าง วิทนี่ย์ และ ซีลีน ให้เป็นที่รู้จักแบบทั่วโลกอย่างจริงๆ จังๆ จากการวิเคราะห์แบบคร่าวๆ ก็จะบอกได้เลยว่า เพลง I will ประกอบหนัง เพลงดัง หนังจึงดังตาม และช่วยส่งเสริมกันดังขึ้นไป แต่.. My heart นั้นไซร้ ถ้าตัวหนังแป๊กแล้ว บอกตรงๆ เพลงคงไม่ดังถึงขนาดนี้ (ลองดูเพลงภาคต่ออย่าง Then you look at me เป็นตัวอย่างได้)
พูดองค์ประกอบอื่นไปละ มาเข้าที่ตัวเพลงเลยก็แล้วกัน เริ่มจากเสียง เคยสงสัยกันมั๊ยว่า ทำไมเพลงนี้ถึงได้เพราะจับจิตขนาดนี้ ก็คงถูกต้องตามหลายๆ คนเดาไว้แหละ สิ่งหนึ่งที่มารายห์มีเหนือคนผิวขาวคนอื่นคือ เสียงโซลแบบผิวดำ ซึ่งนั่นก็เป็นเอกลักษณ์ของคนผิวดำ ที่พระเจ้าไม่ทอดทิ้ง และประทานพรอันประเสริฐให้มา ลองสังเกตได้ว่าทำไม เสียงของซีลีน หาความเป็นโซลในเส้นเสียงไม่ได้เลย หรือคริสติน่า ที่พยายามจะทำดนตรีแนวโซล แต่สิ่งที่ขาด คือเสน่ห์ของความเป็นคนผิวดำ แม้แต่ จอส สโตนก็เถอะ เหมือนฟังผู้หญิงที่เสียงใหญ่ๆ หนาๆ ร้องมากกว่า ( ถ้ายังไงอยากจับเสียงโซลฟูลเปรียบเทียบ ก็ลองฟัง Soulful diva อย่างเจ๊เจน ฮัดสันดูได้ ลองฟังเปรียบเทียบกับ จอส สโตนได้เลย จะเห็นความแตกต่าง ) พล่ามซะยาว นอกจากความเป็นโซลที่สื่อออกมาผ่านดนตรีซอล์ฟร๊อคแล้ว เทคนิคการร้องที่เรียกได้ว่า พีคสุดๆ ในชีวิตชีแล้ว ( หลังๆมา เสียงเริ่มเน่า เลยต้องหาเทคนิคเหนือมนุษย์ที่ซ่อนเร้นไว้มาโปะ - -* ) โดยเฉพาะ ร้องข้ามออคเตป ไป-มา และการต่อสู้กับเชสโทนของตัวเองในเพลง ถึงแม้มารายห์ จะมีเชสโทนที่ไม่สูงสู้คนอื่น แต่เชสโทนมารายห์ก็เด็ดขาด ชัดเจน คมชัด และเต็มไปด้วยอีโมชั่น ซึ่งแค่เพียงเท่านี้ ก็ทำให้เพลงของมารายห์น่าฟังแทบทุกเพลง
นอกจากเสียงแล้ว การร้องสื่ออารมณ์ สื่อความหมายของเพลง มารายห์ก็ทำได้อย่างยอดเยี่ยม สมกับที่เป็นมารายห์ การเอื้อน การใช้เสียง ก็ถูกจังหวะจะโคน ฟังแล้วก็เศร้าจับจิต ประหนึ่งว่า หากขาดเขา ฉันคงอยู่ไม่ได้ ( ถ้าจะหาเพลงคู่แฝดของเพลงนี้ เพลงแรกที่คิดถึงคือ Miss you most แต่อันนั้นแอบรันทดกว่านิดนึง ) เพลงนี้แรกรเริ่มด้วยการอินโทรเสียงเพียโน เบาๆ พร้อมกับการพร่ำพรรณาแบบเล็กๆน้อยๆ บอกเล่าเรื่องราวพร้อมตั้งคำถามว่า ชั้นจะทำยังไง แล้วก็เริ่มพีคเสียงขึ้นเรื่อยๆ พร้อมกับเริ่มใส่อีโมชั่นลงไปมากขึ้น พร้อมกับตะโกนออกไปว่า ชั้นอยู่ไม่ได้เลย ถ้าไม่มีคุณ แล้วก้แผดเสียงพร้อมกับท่อนโวยวาย ตามประสามารายห์ แครี่ เป็นเพลงบัลลาด ป๊อบร๊อค ฟังง่ายๆ แต่ร้องตามยากโคตรๆ แต่นั่นแหละ คือเสน่ห์ของมารายห์ แครี่ สมัยเสียงใส ก้องกังวาน จนทำให้พวกเรารัก เราหลง จนกู่ไม่กลับจนป่านนี้เลยไง
สิ่งที่ค่อนข้างผิดหวังกับเพลงๆนี้คือ เพลงนี้ไม่มีมิวสิควีดีโอเลยอ่ะ มีแต่มารายห์ ออกมายืนร้องเพลง live สด แค่นั้นเอง แบบว่า อยากดูพระเอกเอมวีอ่ะ อิอิ อยากรู้ว่า มันน่า can't live ขนาดไหน โซนี่ย์ไม่ลงทุนเล้ยยยยยยย
จากคุณ :
tupz
- [
12 มี.ค. 50 21:34:02
]
|
|
|
|
|