เจาะเวลา (0 คน)
	สุดขั้วหัวใจ (0 คน)
	ไม่เต็มบาท (0 คน)
	คาถาเศรษฐี (2 คน)
	จำนวนผู้ร่วมโหวตทั้งหมด 2 คน

	0.00%
	0.00%
	0.00%
	100.00%

"คาราบาว" เป็นกลุ่มคนดนตรีเพื่อชีวิตที่ยังค้างฟ้าอยู่จนถึงปัจจุบันนี้ที่มีอายุขัยได้ ๒๕ ปี เป็นกลุ่มคนดนตรีที่มิเพียงมีผลงานของทางคณะเท่านั้น สมาชิกแทบทุกคนในคาราบาวเคยผ่านประสบการณ์ของตนเองมาแล้ว แม้แบรนด์คาราบาวยังคงอยู่ ผลงานเพลงของสมาชิกแต่ละคนก็ยังมีออกมาให้ได้เห็นได้ฟังกันอยู่เรื่อยๆ

"เทียรี่ เมฆวัฒนา" คือสมาชิกอีกคนหนึ่งที่ได้มีผลงาน "เดี่ยว" หลังจากที่ได้ร่วมวงคาราบาว แต่คงมีน้อยคนนักที่รู้ว่าก่อนหน้าที่เทียรี่เข้าร่วมวงคาราบาว เทียรี่เคยมีผลงานเดี่ยวมาก่อนหน้านั้นแล้วสักสองชุด ต่อมาจึงได้เข้าร่วมวงคาราบาวตั้งแต่อัลบั้ม "ท.ทหารอดทน" และปรากฏตัวจริงเสียงจริงตั้งแต่อัลบั้ม "เมด อิน ไทยแลนด์" จนถึง "ทับหลัง"

หลังจากอัลบั้มทับหลัง เทียรี่คือสมาชิกคนหนึ่งที่ขอแยกตัวจากคาราบาว เพื่อ...กลับมาทำเพลงของตนเองอีกครั้ง แต่เทียรี่ไม่ได้มาคนเดียว "ธนิสร์ ศรีกลิ่นดี" กับ "อำนาจ ลูกจันทร์" คือสมาชิกคาราบาวอีกสองคนที่ขอแยกตัวและได้ร่วมงานกับเทียรี่ จนได้ทำอัลบั้มร่วมกันหนึ่งชุดโดยใช้ชื่อว่า... "ขอเดี่ยวด้วยคนนะ"

ปี พ.ศ.๒๕๓๓ กระแสอนุรักษ์ทรัพยากรธรรมชาติระบาดไปทั่วทุกบ้านทั่วทุกเมือง ปีเดียวกันก็สูญเสียชายชื่อ สืบ นาคะเสถียร  หลังจากมีผลงานร่วมกันในนาม "เทียรี่-ธนิสร์-อำนาจ" แล้ว แต่ละคนก็ขอแยกตัว.... ผลงานเดี่ยว(ที่ไม่ได้ด้วยคน แต่ได้เพื่อนใหม่) จึงเกิดขึ้นอีกครั้ง "ธนิสร์ ศรีกลิ่นดี" มีผลงานเดี่ยวบรรเลงขลุ่ยทั้งอัลบั้มโดยใช้ชื่ออัลบั้มว่า "ลมไผ่"  "อำนาจ ลูกจันทร์" ยังไม่มีผลงานของตนเอง

ขณะที่ "เทียรี่ เมฆวัฒนา" มากับอัลบั้มเดี่ยวชุดแรกหลังแยกตัวจากคาราบาว ประเดิมด้วยการ "เจาะเวลา" เพื่อหาปัจจุบัน ผลงานชุดนี้ได้เพลงใหม่ๆเอาใจแฟนๆทุกชนชั้น อย่างเช่น ข้าวเหนียวส้มตำ "ปาปาย่า ป๊อกๆ", "สาวตา-กลม", "หญิงชายไร้เทียมทาน" เพลงเชิดชูวีรสตรี "ย่าโม" เพลงรักๆอย่าง "รักขึ้นสมอง"  เพลงอนุรักษ์อย่าง "นกไร้ต้นไม้เกาะ", "ธรณีกรรแสง", "ทะเล" จนถึงเพลงสุดท้าย "สุสาน"  และยังได้เพื่อนใหม่ๆ หน้าใหม่ๆ บางคนก็หน้าเก่า มารับหน้าที่เป็นแบ็คอัพให้กับเทียรี่ อันได้แก่ ชานนท์ ทองคง(อดีตมือเบสส์แห่งคณะเนื้อกับหนัง Flesh and Skin), สมพล วัฒนมงคล(คีย์บอร์ด), สุทธิยา ผลนุกูล(ร้องประสาน), สนอง โสตถิลักษณ์(ซาวด์เอ็นจีเนียร์แห่งค่ายเพลงอาร์เอส และมือกลอง) และ... สร่างศัลย์ เรืองศรี หรือ หนู มิเตอร์ นั่นเอง (นักร้องค่ายอาร์เอสในปัจจุบัน มือกีตาร์และขลุ่ย) อีกทั้งยังได้นักแต่งเพลง(กิตติมศักดิ์) อย่าง อ.วสันต์ พงษ์สุประดิษฐ์ และนักแต่งเพลงผู้ร่วมสร้างผลงานของอิทธิ พลางกูร อย่าง ธนพล อินทฤทธิ์ มาช่วยเขียนเพลงในอัลบั้มชุดนี้ และนายเสือยังชวน อิทธิ พลางกูร มาร่วมใส่เสียงร้องในเพลงทะเล  อัลบั้มชุดนี้ใช้ห้องบันทึกเสียง "มิกซ์ สตูดิโอ" ย่านอินทามระ เป็นที่ทำการบันทึกเสียงอัลบั้มชุดนี้

คนไทยคิด คนไทยทำ เพื่อศักดิ์ศรีของคนไทย อย่าลืม...ดื่มโค้ก

หนึ่งปีให้หลัง เทียรี่กลับมาอีกครั้งด้วยทายาทคนใหม่ และอัลบั้มเพลงชุดใหม่ก็ผุดขึ้นอย่าง "สุดขั้วหัวใจ" มีเพลงเด่นๆน่าฟังอย่าง "สาวใต้สอยตอ", "เหล็กไหล", "เว่าลาวกันบ่", "ตายแน่", "เมืองไทยในฝัน" เพลงรัก(อยู่แล้ว) "ความรักสีดำ" เพลงดีมีสาระแฝงปรัชญา "สูงสุดสู่สามัญ" เพลงที่แต่งและร้องให้ลูกของพ่อเทียรี่ "ทรามวัย" และเพลงจากละครโทรทัศน์เรื่อง "ไผ่แดง" อัลบั้มชุดนี้ยังใช้ทีมงานและผู้ร่วมงานคนเดิมๆ แต่ได้เพิ่มสมาชิกอีกคน คือ วันชัย ปิ่นทอง และจะได้ฟังเสียงร้องเป็นครั้งแรกๆของ หนู มิเตอร์ ในอัลบั้มชุดนี้ด้วย และยังใช้ห้องบันทึกเสียงจากอัลบั้มชุดที่แล้วเป็นที่อัดเสียงในอัลบั้มชุดนี้

ผ่านเหตุการณ์ขั้นรุนแรง จากเดือนพฤษภาปีต่อมาจนถึงเดือนตุลา ปี พ.ศ.๒๕๓๕ เทียรี่กลับมาอีกครั้งด้วยอัลบั้มชุด "ไม่เต็มบาท" มีเพลงเด่นๆน่าฟังเช่นเคย เพลงที่เขียนถึงชีวิตของพนักงานขับรถ "พขร. ณ รมต." เพลงสำนวน "ชั่วเจ็ดทีดีเจ็ดหน", "เข้าๆออกๆ" เรื่องของความฝัน "ฝันของดอกไม้ริมทาง", "ถนนสู่ประชาธิปไตย" เรื่องราวการดำเนินชีวิตของคนไทย "ไทยทั้งแท่ง" เพลงที่ให้ความรู้เรื่องแสง "แสง สี เสียง" และ "แสงแห่งกาลเวลา" อัลบั้มชุดนี้ยังคงใช้ทีมงานและผู้ร่วมงานคนเดิมๆ และยังเพิ่ม วีระศักดิ์ ขุขันธิน มาช่วยเขียนเพลงด้วย  ใช้ห้องบันทึกเสียง "รามอินทรา" เป็นที่อัดเสียงในอัลบั้มชุดนี้

สองปีผ่านไป ปี พ.ศ. ๒๕๓๗ เทียรี่กลับมาอีกครั้งด้วยอัลบั้ม "คาถาเศรษฐี" อย่านอนตื่นสาย อย่าอายทำกิน อย่าหมิ่นเงินน้อย อย่าคอยวาสนา  มีเพลงเด่นๆหลายๆเพลง "สิ่งสุดท้ายแห่งความทรงจำ", "ถังแตก", "กีฬากาลี", "ฝันที่ไม่เป็นจริง", "หวานเย็น", "ดังฝัน" เพลงอนุรักษ์ทรัพยากรธรรมชาติธรรมชาติ "แม่น้ำ"  เพลงจากโฆษณากาแฟยี่ห้อดัง "ปรารถนา" และเพลงจากรายการเปิดอก "จบที่ใจ"  อัลบั้มชุดนี้ยังคงใช้ทีมงานและผู้ร่วมงานคนเดิมๆ แต่ได้คนใหม่ๆอีกหลายคนมาเสริมกำลังทัพ เช่น ครูลพ บุรีรัตน์(ศิลปินแห่งชาติ), คณาคำ อภิรดี, วิชัย ปุญญะยันต์ อัลบั้มชุดนี้ยังคงใช้ห้องบันทึกเสียงรามอินทราเป็นที่อัดเสียง  

และ ๔ อัลบั้มที่ว่ามา ทำกับบริษัท "ท็อปไลน์-ไดมอนด์" ...อยู่แล้ว

เราจึงขอยกมาเพียง ๔ ชุดให้ท่านได้เลือก(ไม่นับอัลบั้มชุดแรกๆก่อนจะเข้าวงคาราบาว อัลบั้มขอเดี่ยวด้วยคนนะ อัลบั้มรวมเพลงฮิตหรือเพลงพิเศษ และอัลบั้มในภายหลัง) เป็นผลงานเดี่ยว-เพลงใหม่ในยุคแรกๆของ "เทียรี่ เมฆวัฒนา" แห่งคาราบาว ที่จัดเป็นผลงานอันทรงคุณค่า ผ่านการบันทึกเสียงอย่างมีคุณภาพ

จึงขอเชิญทุกท่านร่วมตัดสินว่า ใน ๖ ชุดแรก อัลบั้มชุดใดที่ยกให้เป็น "อัลบั้มบันทึกเสียงยอดเยี่ยม" ของเทียรี่ เมฆวัฒนา  

สิ่งที่นำมาพิจารณา คือ การบันทึกเสียงในบทเพลงและในอัลบั้ม รวมถึงบรรยากาศในห้องบันทึกเสียงด้วย(ถ้ารู้ลึก)  สิ่งที่ไม่ควรนำมาพิจารณา คือ คำร้อง ทำนอง ดนตรี ชื่อเสียง และความสำเร็จในภายหลัง

เชิญร่วมตัดสินได้ ณ ที่นี้
(อยู่แล้ว)