ยินดีต้อนรับคุณ urbanboy เข้าสู่ครอบครัวดิว่ามหาหอนของเราคับ และขอบคุณมากเลยสำหรับข้อมูลเพิ่มเติมของเพลง Fantasy ซึ่งผมก็จะขออนุญาตนำไปใช้เสริมในรีวิวเพลง Fantasy ละกันนะคับ (จริงๆอ่านมาแล้วในวิกิล่ะ แต่ขี้เกียจแปลมาก ขอบพระคุณมากๆเลยสำหรับน้ำใจในครั้งนี้นะคับ)
และไม่ลืมขอบคุณสำหรับอีกคนที่ช่วยแสดงความเห็นมาอย่างน่าสนใจ หนูแพนซี่ PandyDog ซึ่งมาให้ความเห็นเกี่ยวกับเรื่อง Interlude (ซึ่งเธอเป็นคนรับผิดชอบเพลง Daydream Interlude พอดีด้วย)
ส่วนตัวแล้ว อินเตอร์ลูด ของแม่มาลัยเรานี่ดูไม่ค่อยเป้นอินเตอร์ลูดจริงสักเท่าไหร่ ในความรู้สึก ท่าจะมีเพลงเดียวเองมั้งที่จัดเป็นอินเตอร์ลูดเหมือนชาวบ้านเค้าคือ Vulnerability ก็คือการเป็นส่วนเชื่อมอารมณ์ระหว่างเพลง โดยเป็นตัวสานสัมพันธ์ระหว่างเพลงก่อนหน้าและเพลงถัดไป ซึ่ง Vulnerability ทำในส่วนนี้ได้ดีมาก คือ การเชื่อมเพลงที่พูดถึงการจะถูกหักอกด้วยกัน 2 เพลง ในต่างอารมณ์ต่างวาระกัน คือ Heartbreaker (Remix) กับ Against All Odds (Take A Look At Me Now) ให้มาเชื่อมกันด้วยเสียงร้องที่เหมือนแทนออกมาจากจิตใจอกหักและเปราะบาง ทำให้เพลงต่างอารมณ์ 2 เพลง ปรับเข้าเป้นเพลงที่มีเนื้อหาเชื่อมสัมพันธ์กันได้ และสามารถฟังได้อย่างลื่นไหล และไม่สะดุดอารมณ์
ลักษณะของ อินเตอร์ลูด นี้ คนที่นิยมมากสุดเห็นจะหนีไม่พ้น Janet Jackson ซึงใช้ท่อนสั้นๆนี้เป็นตัวเชื่อมเพลงให้เหมือนเราฟังเรื่องราวในอัลบั้มเป็นเหมือนสารคดีเรื่องหนึ่งที่เธอไปทำการวิเคราะห์มาในช่วงหลายปีที่เธอหายไป และบอกเล่าเรื่องราวที่เกี่ยวข้องกับตัวเพลงนั้นๆ โดยเริ่มปรากฏครั้งแรกในอัลบัม Rhythm Nation1814 ตั้งแต่ปี 1989 ซึ่งทุกแทรคจะต้องมีอินเตอร์ลูดกั้นอยู่ มาจนถึงอัลบัมปัจจุบัน
แต่ลักษณะการเชื่อมแทรคของทั้ง 2 ต่างกันชัดเจน คือ ของ Janet จะเป็นบทพูดสั้นๆ หรือเสียงเอฟเฟกต์หรือดนตรีแปลกๆ ของมาลัยเรามันจะเป็นลักษณะของเพลงสั้นๆเพลงหนึ่งชัดเจน ที่มีความโดดเด่นของอารมณ์เพลง และมีความยาวมากกว่า อินเตอร์ลูดของศิลปินอื่นๆ (เทียบดูกับ Janet และ TLC สิ) ดังนั้นอินเตอร์ลูด ในความหมายของแม่มาลัยเราจึงไม่อยู่ในกรอบของคำจำกัดทางดนตรีทั่วไป
การให้เครดิตในเพลง จริงๆแล้ว Daydream Interlude และ Butterfly Reprise ต่างไม่ได้เครดิตเป็นเพลง อินเตอร์ลูดนะ แต่จริงๆแล้วได้ในฐานะเพลงเต็มๆเพลงหนึ่งเลย ลักษณะการให้สร้อยเพลงว่า Interlude สำหรับ 2 เพลงนี้จริงๆแล้ว น่าจะเป็นเพราะ มันเป็นช่วงเชื่อมใน Morales Mix อันยาวเหยียดของทั้ง 2 เพลงมากกว่า ซึ่งถ้าฟัง Morales Mix แล้วก็จะทราบว่า 2 เพลงดังกล่าวนั้น ก็คือท่อนหนึ่งของรีมิกซ์ ซึ่งเป็นตอนกลางเพลงที่เชื่อมระหว่างท่อนร้องช่วงแรกช่วงช่วงปิดตัวท้ายเพลงตะหาก การให้ชื่อว่าอินเตอร์ลูด ทั้งๆที่ในอัลบัมวางเป้นเพลงแยกเดี่ยวๆ ไม่เชื่อมกับเพลงใดทั้งสิ้นก็น่าจะเป้นเหตุผลนี้มากกว่า และการที่จะยกเพลงไร้เนื้อร้องชัดเจนมาอยู่ในอัลบัมให้ไม่ขัดเขินนั้น มารายห์ของเราก็เลยใส่ที่มาให้ว่าเพลงนี้เคยเป็นอินเตอร์ลูดมานะ (คล้ายๆใส่สร้อยว่า Mariah's Theme อะไรอย่างงั้นแล ดูเพลงที่ไม่มีท่อนร้องทั้งเพลงเหมือนกันอย่างของ ป้าToni Braxton - The Art of Love ซึ่งโครงสร้างเพลงเป็นแบบ 2 เพลงนี้เด๊ะ เค้ายังให้เครดิตตัวเองเป็น 1 เพลงเลยคุณ) และการเอาเพลงแบบนี้มาแทรกในอัลบัม ก็สามารถช่วยแทนอารมณ์ที่ฟุ้งกระจายในความคิดรวมของอัลบัมได้เป็นอย่างดี
ส่วนอีก 1 อินเตอร์ลูดที่เหลือ คือ Rainbow Interlude อันนี้ก็ไม่เหมือนชาวบ้านเค้า คือมันเป็นเพลงสั้นๆเพลงนึงซึ่งมี 1 ท่อนVerse และ 1 ท่อนChorus ซึ่งหากมีการซ้ำท่อนดังกล่าวอีกสักครั้ง มันก็จะกลายเป้นเพลง 1 เพลงทันที ซึ่งตรงนี้ มารายห์คงคิดว่าถ้าทำเป็นเพลง 1 เพลงไปเลย มันคงจะน่าเบื่อมากกว่าน่าฟังมาก ก็เลยใช้มันตามจุดมุ่งหมายการแต่งคือ ใช้เป็นเพลงเชื่อมอารมณ์ระหว่างเพลงหลักสำคัญของอัลบัม คือ Petal และ Thank God I Found You ซึ่งเหมือนเป็นตัวเสริมคอนเซปต์ให้อัลบัม Rainbow มีความเที่ยงตรงกับชื่ออัลบัมที่กำหนดไว้มากขึ้น และสามารถใช้อินเตอร์ลุดนี้เป็นตัวแทนความหมายสำคัญในลักษณะของ ไทเทิลแทรคได้อีกด้วย
ดังนั้นใครว่าว่าหลังจาก Rainbow เธอก็ไม่มีเพลง Interlude ที่สามารถแทนความคิดรวมของอัลบัมออกมาอีก ลองคิดดูว่ามันยังคงวนเวียนอยู่ในอัลบัมเธอนั่นแหละ เพียงแต่กลายร่างเป็นเพลงสั้นๆที่มี 2 ท่อน Verse เพื่อความสมบูรณ์ทางอารมณ์ จึงไม่อาจจัดว่าเป็น Interlude ได้อีก
ไม่คิดรึว่า
Twister
Sunflower for Alfred Roy
Joyride
ก็คือเพลงที่มีท่วงทำนองและจังหวะเพลงไม่ต่างจาก Rainbow Interlude และสามารถถ่ายทอดความคิดรวมอัลบัมได้เช่นเดิมเหมือนกัน
แก้ไขเมื่อ 14 พ.ค. 50 12:17:56