ความคิดเห็นที่ 1 ไม่เลือกฝ่ายใดฝ่ายหนึ่ง ถือสมานฉันท์ดีที่สุดครับ และความเป็นจริงมันก็เป็นอย่างนั้น (ถ้าจะมีเลือกข้างก็น่าจะเป็นพวกหัวเกรียน(อดัมกับลาร์รี่)และพวกหัวเถิก(โบโน้กับดิเอจด์)เสียมากกว่า เพราะเมื่อสิบปีก่อน สองฝ่ายนี้มีปากเสียงกันจนเกือบคอนเวิร์สออลสตาร์) ในทัศนะของผม ยูทูอยู่ยั่งยืนยงได้เพราะส่วนผสมที่ลงตัวของโบโน้กับดิเอจด์นี่เอง 1. ในช่วงที่ดนตรี"แนว"มาแรง ยูทูแหกวงการด้วยไตรภาคอัลบั้มอย่าง achtung baby, zooropa, pop แม้ว่าแฟนๆที่ติดกับภาพและซาวด์ของโฟล์คร็อคอย่าง joshua tree และ rattle and hum จะ"ไม่ปลื้ม"กับอัลบั้มเหล่านี้ในช่วงแรกๆ แต่ภายหลังจากการโหวตของเว็บแฟนคลับหลายๆเว็บที่ผมดูมา กลับให้อัลบั้ม achtung baby เป็นงานห้าดาวที่คลาสสิคสุดของทางวงนะครับ แน่นอนว่า ผู้ที่ทำให้ยูทูฝ่ากระแสดนตรี"แนว"มาได้คือ ดิเอจด์นั่นเอง โบโน้อาจเป็น activist ที่หัวก้าวหน้ามาก(พอควร -แต่พวกมาร์กซิสต์ และพวกติดสังคมนิยมก็คงไม่ชอบเขานัก)ก็จริง  แต่คนที่มีหัวก้าวหน้าทางการประพันธ์ดนตรีตัวจริงกลับเป็นดิเอจด์ ส่วนโบโน้เป็นนักประพันธ์คำร้อง lyric ไม่ใช่ดนตรี หลังจากยุค post-punk จนถึงอัลบั้ม unforgottable fire (สะกดถูกป่ะวะเนี่ย) แล้วเข้าสู่ folk rock จนถึง rattle and hum เข้าสู่ยุค"ผู้ใหญ่แนว" electronica-ผสม dance rock และยุคสุดท้ายที่กลับมาดังกับอัลบั้มแกรมมี่ you can't leaveฯ ในแบบ modern folk rock อีกครั้งจนถึงปัจจุบัน ถ้าไม่ได้ดิเอดจ์ ยูทูอาจมีสภาพเป็นวงร็อคจืดชืดและไร้ความคิดสร้างสรรค์ทางดนตรีอย่างวง r.e.m. ประสพอยู่จนถึงปัจจุบัน (แฟนๆอาร์อีเอ็มอย่าโกรธนะครับ แต่ผมรู้สึกแบบนี้จริงๆ) 2. ยูทูดูเป็นวงที่มีระดับในเรื่องความคิดความอ่าน ทัศนคติ การดำเนิชีวิตที่จุนเจือสังคม อุดมด้วยโครงการเกื้อกูลกันของประชาคมโลกก็เพราะมี นักแต่งโคตรเพลงโคตรเมโลดี้และโคตรสร้างอิเมจทางกิจกรรมสังคมสงเคราะห์อย่าง โบโน้ นั่นเอง สิ่งนี้แม้จะยังคงเป็นที่เคลือบแคลงใจต่อแฟนๆมากมาย แต่แฟนเพลงเหล่านี้ต่างก็ยอมรับในความสามารถประพันธ์คำร้องที่ไพเราะและงดงามในเนื้อหา ที่หาตัวจับโคตรยากคนนึงของวงการร็อคในปัจจุบัน (รวมถึงผมด้วย) การขับเคลื่อนการตลาดโดยการสร้างอิเมจของโบโน้ แม้ทางหนึ่งดูเคลือบแคลงแต่มันก็ให้ผมในแง่บวกมากกว่าลบ อย่างน้อยมันก็ช่วยจรรโลงสังคมที่ออกแนวเส็งเคร็งในปัจจุบัน ให้มันพอมีแสงปลายอุโมงค์ มีความหวัง บรรเจิด สองคนนี้ผมว่าเขาซี้ปึ๊กกันมากนะครับ ทำธรุกิจโรงแรมด้วยกัน แชร์ความเห็น เงินทอง ชื่อเสียง (แม้โบโน้จะเป็นภาพลักษณ์หลักๆของวงก็ตาม) เหลือเพียงแชร์ภรรยากันเท่านั้น (ว๊ากกกก...พูดเล่นแฮะๆ) แก้ไขเมื่อ 27 พ.ค. 50 17:39:29 แก้ไขเมื่อ 27 พ.ค. 50 17:17:00 จากคุณ : Younger Pat - [ 27 พ.ค. 50 17:11:07 ]

ความคิดเห็นที่ 2 ในคอนเสิร์ต Vertigo โบโน่ ยังวิ่งมาหอมแก้ม พี่หัวเกรียน Adam Clayton เลยนะครับ วงนี้คืนดีกันได้เร็วจริงๆ Pink Floyd ทะเลาะกันมา 20 กว่าปีแล้วยังโกรธกันอยู่เลย 55+ จากคุณ : Hurricane_love goldfish - [ 27 พ.ค. 50 17:42:06 ]

ความคิดเห็นที่ 3 ^ ^ ส่วนหนึ่งที่เขาอยู่กันยืด เห็นว่ามาจากความใจกว้างเป็นแม่น้ำของโบโน้กับดิเอจด์ที่ยอมแชร์รายได้ แบบ ได้มาเท่าไหร่ก็หารห้าเท่าๆกัน (รวมผู้จัดการวงอีกคน) ผมเป็นอดัมกับลาร์รี่ก็คงนับถือผู้นำวงทั้งสองที่ใจกว้างโคตรๆเหมือนกัน แบบนี้จะหาได้จากไหน แถมเห็นอยู่รำไรว่า รวมกันต่อไปสัก 5-10 ปีกลายเป็นตำนานแน่ๆ ไม่แพ้ rolling stone ด้วย อาจด้อยกว่า beatles เล็กน้อยเท่านั้น แก้ไขเมื่อ 27 พ.ค. 50 18:09:28 จากคุณ : Younger Pat - [ 27 พ.ค. 50 18:08:46 ]

ความคิดเห็นที่ 4 ความจริงวงนี้มันเป็นของ ลาร์ลี่ นี่นา ทำไมพี่แกถึงตกอับไปเป็นลูกวงซะแล้วล่ะ.... จากคุณ : Hurricane_love goldfish - [ 27 พ.ค. 50 19:18:57 ]

ความคิดเห็นที่ 5 ผมไม่ใช่ ไม่ชอบ โบโน่ นะ แต่ผมคิดว่า เขาเป็นศิลปินที่มี power ทางการเมือง มากเกินไป จากคุณ : Anduril - [ 27 พ.ค. 50 20:21:42 ]

ความคิดเห็นที่ 6 ^ ^ คงแล้วแต่มุมมองครับ ผมกลับมองว่า หากการใช้ power หรือ celebrity ไปเพื่อการเมือง การสังคม การสิ่งแวดล้อม หรือจะการอะไรก็แล้วแต่ แล้วมันช่วยทำให้โลกดีขึ้น เกื้อกูลกันมากขึ้น พูดถึงสิทธิมนุษยชนกันมากขึ้น เอาเงินคนรวยไปช่วยเอธิโอเปียหรือประเทศโลกที่สามมากขึ้น มันก็ดีนะครับ ดีกว่าเอาความดังไปสร้างเรื่องฉาวๆเรื่องกิ๊กกับนางแบบ ทำลายข้างของโรงแรม ฯลฯ จากคุณ : Younger Pat - [ 27 พ.ค. 50 20:38:08 ]

ความคิดเห็นที่ 7 เลือกเฮียบาโน่ ด้วยเหตุผลเดียวกับเฮียแพ็ทคับ ไม่เกี่ยวกับว่าพี่แกจะเลือกข้างที่เราเห็นด้วยหรือไม่ก็ตาม แต่เกี่ยวกับการที่เขาได้ทำอะไรเพื่อคนอื่นมากกว่า จากคุณ : Nutjung - [ 27 พ.ค. 50 23:44:35 ]