PANTIP.COM : C5561133 IF I COULD TURN BACK TIME กับคำถามไร้สาระ [Madonna]

ความคิดเห็นที่ 6

อืมมม ที่จริงผมเห็นด้วยกับคุณนาฮีดำครับ เพราะเคยคิดแบบนี้มาตลอด เพราะเจ๊เสียเเฟนเพลงไปเยอะมากๆ ทำให้เจ๊ถูกตราหน้าว่าเป็นผู้หญิงบ้าเซ็กซ์ตลอดมาซึ่งแม้ทุกวันนี้เจ๊ก็ยังล้างภาพนั้นออกไปได้ไม่หมด เพราะคนที่ไม่รู้จักเจ๊ก็จะคิดว่าเจ๊เป็นแบบนี้ด้วยภาพของหนังสือเซ็กซ์ในวันนั้น...ผมเชื่อว่าตอนนั้นเจ๊ดังมากๆๆๆ มากซะจนเเว้บนึงเชื่อว่าตัวเองควบคุมโลกได้ จนเหลิงและคิดว่าสามารถทำอะไรก็ได้ ซึ่งไม่...และเจ๊ก็ได้เรียนรู้

จำได้เลย ในช่วงนั้นมีแต่คนตั้งคำถามว่าผู้หญิงคนนี้ทำมากเกินไปมั้ย และมีแต่ดาราออกมาเหยียบย่ำและด่าทอเจ๊เลย รวมทั้งน้องบาบูน ตอนนั้นออกมาพูดซะ ผมจำได้เลย เธอพูดว่า"ชั้นไม่เข้าใจเลยว่าผู้หญิงคนนี้เป็นอะไร คิดอะไร และไม่เข้าใจไลฟ์สไตล์ของเธอเท่าไหร่หรอก คงจะเป็นจากการเลี้ยงดูที่ต่างกันจากชั้น" อะไรทำนองนี้ครับซึ่งเธอน่าจะเรียนรู้จากข้อผิดพลาดเจ๊นะ แต่ก็ไม่...ดันไปเปิดนมดำที่ซุปเปอร์โบว์ล ก็เลยโดนแบนตลอดกาล..

ซึ่ง จากชื่อเสียงที่เป็นชื่อเสียซะมากกว่า ทำให้อัลบั้มอิรอติก้าซึ่งนับว่าเป้นงานที่ดีอีกชิ้นนึงเลย โดนกลบด้วยเรื่องคาวๆแบบนี้หมด ส่งผลต่อไปจนถึงอัลบั้มต่อๆไป เล่นเอาเจ๊เครียดอย่างเห็นได้ชัด..ซึ่งก็ควรจะ เพราะเจ๊ควรจะได้เรียนรู้จากสิ่งที่ตัวเองทำ และยอมรับมัน...แต่ผมขอชื่นชมเจ๊มากๆอย่งานึงคือ เจ๊ไม่สติแตก ผมเชื่อว่าถ้าเป็นผมเจอเรื่องหนักถึงขั้นสั่นคลอนอาชีพและชื่อเสียงของตัวเองขนาดนี้ ผมคงสติแตกไปแล้วแน่ๆ...เเต่เจ๊เข้มเเข็งและก้าวต่อไปเสมอ

แต่ที่ผมคิดคือ ถ้าไม่มีการถ่ายหนังสือเซ็กซ์วันนั้น เจ๊ก็จะไม่มี Ray Of Light ให้โลกได้อึ้ง และจะไม่มีอัลบั้มเจ๋งๆต่อๆมาจนทุกวันนี้ครับ.....และ จะไม่มีน้องโลล่าและร็อคโค่ให้พวกเราได้เอ็นดู..และเจ๊ก็จะไม่เข้าใจชีวิตของตัวเองเหมือนที่เจ๊เป็นในทุกวันนี้...ถ้าไม่ถ่ายหนังสือเซ็กซ์ ป่านนี้เจ๊อาจจะเป็นพวกลืมตัว พวกเรื่องมาก(ซึ่งเจ็ก็แอบเป็นนิดนึงนะ)เหมือนที่ดาราใหญ่ๆศิลปินใหญ่ๆหรือศิลปินใหม่ๆเพิ่งดังชอบเป็นกัน

ผมเชื่อว่าสิ่งต่างๆที่เกิดขึ้นในชีวิตคนเรานั้นมีเหตุมีผล และมีความต่อเนื่อง มีผลกระทบกัน หากสิ่งใดไม่เกิดขึ้น อีกสิ่งนึงก็อาจจะไม่เกิดขึ้นก็ได้..สิ่งเดียวที่ทำได้คือยอมรับสิ่งที่เกิดขึ้น และเรียนรู้มันไป ครั้งต่อไปคือต้องคิดเยอะๆติดแล้วคิดอีก และคิดให้ดีก่อนทำเสมอ...

สิ่งที่ผมอยากย้อนเวลาและห้ามเจ๊จริงๆคือ

1. จะห้ามไม่ให้เจ๊ไปออกรายการของDavid Letterman (ไม่แน่ใจว่าปี94หรือ95นะครับ แต่จำได้ว่าช่วงBedtime Stories) ผมเองดูแล้วอึดอัดมาก ไม่อยากให้เจ๊ทำตัวเองให้แย่ลงไปกว่านั้นเลย

2. อีกอย่างที่ไม่อยากให้ไปทำ ผมคิดเหมือนคุณคุโระจังคือหนังเรื่องBody of Evidenceและหนังเรื่องอื่นๆ ไม่รู้อะไรเข้าฝันเจ๊ให้ไปแสดงนะ ไม่ไหวจริงๆ ไม่อยากให้แสดงหนังเลย ไม่ชอบอย่างมาก ผมนะไม่ดูหนังที่เจ๊เเสดงเลย เอวิต้าผมก็ดูรอบเดียว และคิดว่าเฉยๆ ไม่ชอบซะด้วยซ้ำ

เหมือนผมเองก็เคยคิดอยากย้อนเวลากลับไปในจุดที่เราพลาด แต่ก็คิดอะไรหลายๆอย่าง ว่าถ้าย้อนกลับไป สิ่งต่างๆที่เกิดขึ้นกับชีวิตเราคงจะไม่เหมือนเดิมอีกต่อไป ซึ่งเราไม่มีวันรู้เลยว่ามันจะออกมาดีหรือไม่ ดังนั้นควรทำทุกวันให้ดีที่สุด ดำเนินชีวิตตัวเองอย่างมีสติ คิดเยอะๆ แต่อย่าคิดมาก...บางครั้งเรานำพาชีวิตเราไปดีแล้ว แต่สิ่งรอบๆข้างก็สามารถทำร้ายเราได้ ผมจึงเชื่อว่าเราควรคิดและคิดเยอะๆจริงๆ เพราะเเม้คิดเยอะๆ เราก็ยังพลาดได้ แม้จะไม่พลาดด้วยตัวเราเอง แต่เราก็พลาดเพราะคนอื่นที่เข้ามาเกี่ยวข้องกับชีวิตเราได้เหมือนกันครับ

วันนี้นั่งอ่านกระทู้นี้ก็ทำให้คิด..เพราะก่อนหน้านี้เกิดเรื่องแย่ๆกับผม เล่นเอาผมจิตตกไปนานเลย ทำให้มานั่งคิดว่าเราเสียเวลามั้ยที่ผ่านๆมา เรามาทำงานนี้ทำไม เราเลือกอย่างนี้ทำไม และตั้งคำถามกับตัวเองมากมาย...ว่าทำไมต้องเจอเเต่เรื่องแบบนี้..

ผมออกแบบบ้านให้เพื่อนผมที่รู้จักกันมาตลอดเวลา22ปี โกงผม โกงอย่างร้ายกาจ และทำกับผมเหมือนกับผมมาขอเศษเงินเขา..ผมรู้สึกแย่มากนะ ผมจะไม่รู้สึกแย่มากเลยถ้าผมไม่ทำงานหนัก ถ้าผมไม่ทุ่มเท ถ้าผมไม่เอาใจใส่กับงานมากขนาดนี้ ตลอดชีวิตการทำงาน ผมทำงานด้วยจุดยืนของผมตลอดมา คือตั้งใจ ทุ่มเทและสร้างสรรค์...ซึ่งตลอดเวลาการทำงานก็ดีบ้างไม่ดีบ้างแล้วแต่ปัจจัยรอบด้านจริงๆ เจอเรื่องแบบนี้เยอะๆทำให้ท้อไปเลยครับ...ก็ได้แต่คิดว่าอยากย้อนเวลากลับไปไม่รับงานนี้ เพราะจะได้ไม่เสียเพื่อนและจะได้ไม่เสียความรู้สึกขนาดนี้...แต่ก็ทำไม่ได้ จึงได้แต่รับมันไป และก้าวต่อไป เหมือนที่เจ๊ทำครับ

ขอโทษครับ ไม่ได้ตั้งใจจะเบนกระทู้นะครับ พอดีกระทู้มันโดนมากๆ และพาไปโน่นเลย...วันนนี้นั่งดูคอนเสิร์ตเจ๊ตั้งเเต่สมัยเเรกๆ ทำให้มีกำลังใจขึ้นมากมาย

จากคุณ : พ่อน้องโจ - [ 30 มิ.ย. 50 11:51:45 ]