 |
อัมรินทร์ เหลืองบริบูรณ์ จาก DDT OCTOBER 2005 JOE PAUSE ศิลปินกับความตาย
ได้มีโอกาสอ่านกระทู้ที่เกี่ยวกับ Pause และพี่โจ้บ่อยๆ ล่าสุดเจอว่า มีคนอยากอ่านบทความนี้ ก็เลยได้ใช้ความพยายามในการพิมพ์ ( เพราะเราเป็นคนพิมพ์ไม่ค่อยเก่ง ) บทความนี้ คัดลอกมาจาก DDT ตามที่ได้อ้างอิงไปด้านบน
ถ้าพิมพ์ผิดพิมพ์ตกไปต้องขอโทษด้วยนะคะ
-----------------------------------------------------------
อัมรินทร์ เหลืองบริบูรณ์ เกิด 14 ตุลาคม 2514 เสียชีวิต 20 กุมภาพันธ์ 2545 อายุ 30 ปี
10 ธันวาคม 2547 บนเวทีกว้าง ณ สนามราชมังคลากีฬาสถาน ท่ามกลางความมืดมิด ตามติดชั่วนาทีของเสียงเพลงและเสีงไฟเมื่อครู่ก่อนหน้านี้ มีผู้ชายสองคนเดินขึ้นไปบนเวที ท่ามกลางสายตาหลายหมื่นคู่ที่ไม่มี ใครรู้ว่าพวกเขาเป็นใคร
หนึ่งในสองคนแนะนำตัวว่า พวกเรา นอและบอส วง Pause ครับ หลังจากที่วินาทีที่ทุกคนเงียบเพื่อตั้งใจฟัง ทันใดเสียงผู้คนในที่นั้นโห่ร้อง อย่างกึกก้อง ก่อนที่ผู้ชายคนนั้นจะพูดต่อว่า วันนี้จริงๆแล้วเราเกือบจะไม่ได้เล่นแล้ว เพราะสมาชิกวงเราไม่ครบ แต่ด้วยวิทยาการสมัยใหม่ที่ช่วยเรา แล้วเสียงกีต้าร์ของเพลงๆหนึ่งก็ดังขึ้น ... ช่วยพวกเราร้องด้วยนะครับ หลังจากนั้นเสียงร้องของผู้ชมกว่าห้าหมื่นคนก็ดังขึ้น หากเคียงชิดใกล้ แต่เธอต้องทิ้งทุกอย่างเพื่อฉัน ประโยชน์ที่ใด หากรักทำร้ายตัวเอง หากเดินแนบกาย มีพลั้งต้องล้มลงเจ็บ ด้วยกัน ห่างเพียงนิดเดียว ให้รักเป็นสายลมผ่านระหว่างเรา แบ่งที่ว่างตรงกลางไว้คอย เพื่อให้เธอได้ตามหาฝัน.. ของเธอ..
หลายคนร้องเพลงนี้ด้วยกำลังทั้งหมดที่มี ในขณะที่หลายคนที่ใบหน้าอาบไปด้วยน้ำตา ทุกคนหวังเพียงว่าเสียงร้องและความรู้สึกที่เอ่อล้นอยู่ในเพลงๆนี้จะไปถงใครคนหนึ่ง ที่ไม่มีใครอาจล่วงรู้ได้ว่าตอนนี้เค้าอยู่ในที่ที่แสนไกลเพียงใด... ใครคนหนึ่งคนนั้นเคยเป็นเจ้าของตำแหน่ง ที่ว่าง ข้างไมค์เปล่าๆที่ตั้งอยู่โดดเดี่ยวบนเวทีในทุกคอนเสิร์ตของ Pause ... ด.ช.โจ้ อมรินทร์ เหลืองบริบูรณ์ ออกมาลืมตาดูโลกเมื่อวันที่ 14 ตุลาคม 2514 ที่ จ.อุทัยธานี โดยเป็นลูกผู้ชายคนโตของครอบครัวเหลืองบริบูรณ์ ท่ามกลางความยินดีของนายสกลและนางพิมพ์ เหลืองบริบูรณ์ คุณพ่อคุณแม่ของเขา หลังจากที่มีลูกสาวคนโตไปแล้วหนึ่งคน นอกจากความสามารถทางด้านการเรียนแล้ว โจ้ยังค้นพบพรสวรรค์ในการร้องเพลงจากการที่ได้ใกล้ชิดและคลุกคลีอยู่กับเพลงลูกทุ่งมาตั้งแต่เด็กจากผู้คนและสภาพแวดล้อมใกล้ๆตัว จนกระทั่งเริ่มฝึกหัดร้องเพลง ด้วยบทเพลงของศรเพชร ศรสุพรรณ ,ยอดรัก สลักใจ ไปจนถึงเพลงสตริงที่เป็นที่นิยมในหมู่วัยรุ่นในยุคนั้นอย่าง ชาตรี ,ดิอินโนเซนต์และคาราบาว หลังจากนั้นหลากเวทีในการร้องเพลง ก็กลายเป็นทีฝึกปรือน้ำเสียงของโจ้ ที่ทำให้เค้าเกิดความมั่นใจและก้าวเข้ามาถึงจุดสูงสุด ด้วยการได้รับรางวัลชนะเลิศการแข่งขันดนตรีเยาวชนชิงถ้วยพระราชทาน Thailand Coke Music Award 1993 ประเภทขับร้องเดี่ยวและได้รับเลือกให้เข้าร่วมโครงการ College Artists ของนิตยสารบันเทิงคดี เส้นทางของโชคชะตาได้นำพาให้โจ้ได้มาพบกับเพื่อนๆที่มาช่วยเต็มเติมให้ความฝันในการเป็นนักร้องของเขาเป็นความจริงในโครงการนี้คือ นอ-นรเทพ มาแสง และ เอ-พลกฤษณ์ วิริยานุภาพ นักศึกษาดุริยางคศาสตร์ จากมหาวิทยาลัยศรีนครินทรวิโรฒ ที่เคยได้พบปะพูดคุยกันบ้างจากงานประกวดเดียวกัน วง Pause จึงถือกำเนิดขึ้นในปี 2538 ก่อนที่พวกเค้าได้เล่นในงานของคลื่นเพลงร็อก ไพเรท เรดิโอ ที่ฮาร์ดร็อกคาเฟ่ สยามสแควร์ ส่วนหนึ่งในผู้ชมของการแสดงครั้งนั้น มีผู้บริหารของค่ายเบเกอรี่มิวสิค และ Pause ก็ได้กลายไปเป็นศิลปินเบอร์ใหม่ในเบเกอรี่ฯในเวลาไม่นานหลังจากนั้น นอกเหนือจากการแต่งเพลงของ เอ และการเล่นดนตรีที่ไว้ใจได้แล้ว สิ่งที่ทำให้ Pause โดดเด่นขึ้นมาจากวงอัลเตอร์เนทีฟนับสิบนับร้อยที่แห่แหนออกผลงานในช่วงเวลานั้น รวมทั้งการได้รับการยอมรับจากคนในวงการก็คือ เสียงร้องของนักร้องนำของวงที่ชื่อโจ้คนนี้ ดังที่ธีร์ ไชยเดช พี่ชายที่โจ้ที่เคารพรักได้กล่าวเอาไว้ว่า โจ้เป็นคนดี เป็นคนที่น่ารักมาก ในส่วนงานเพลงเราก็ไม่จำเป็นต้องพูดอะไรอีก เพราะงานของเขามันดีมากอยู่แล้ว ผมรู้สึกว่าเขาเป็นตำนาน... ด้วยช่วงเวลาเพียง 4 ปีและ Pause ได้ร่วมกันสร้างผลงานเอาไว้ให้กับแฟนเพลงและวงการดนตรี 4 ชุด พร้อมด้วยบทเพลงที่อยู่ในอมตะอีกหลายเพลง รวมไปถึงเพลงรักเธอทั้งหมดของหัวใจ ที่โจ้อุทิศให้กับ อุกฤษ เหลืองบริบูรณ์ หรือจ๊อบน้องชายที่เสียชีวิตไปอย่างกะทันหัน เป็นความสูญเสียที่ยังความเศร้าโศกที่กัดกร่อนหัวใจของเขาอย่างรุนแรงนับจากนั้น และเมื่อ Pause ต้องยุติบทบาทของตัวเองลง โจ้ก็กลับมาอยู่กับตัวเองอีกครั้ง และเริ่มทำงานเดี่ยวของตัวเองร่วมกับ ธีร์ จนออกมาเป็นอั้ลบั้ม Simply Me ซึ่งเป็นการนับเอาบทเพลงเก่าที่ต่างยุคต่างสมัยที่มีความหมายพิเศษกับตัวเขารวมรวบเอาไว้และได้จัดงานแถลงข่าวเปิดตัวอั้ลบั้มชุดนี้ที่ร้าน โคโค่ บาร์ ย่านเอกมัย ( ปัจจุบันคือร้านบาร์บุรี ) เมื่อวันที่ 10 พฤศจิกายน 2543 ความภูมิใจของโจ้ได้ฉายออกมาบนใบหน้าและรอยยิ้ม ตลอดการสัมภาษณ์และงานแถลงข่าวที่สำคัญที่สุดครั้งหนึ่งในชีวิตของเขา ก่อนที่จะปรากฏอีกครั้งท่ามกลางผู้ชมเรือนหมื่นในคอนเสิร์ต เบเกอรี่เดอะคอนเสิร์ต เมื่อวันที่ 17 กุมภาพันธ์ 2544 ไม่มีใครรู้เลยว่า เนื้อหาในเพลง ข้อความ ที่โจ้ได้ขับขานในคืนอันสำคัญนี้จะเปี่ยมความหมายมากมายยิ่งขึ้นในช่วงเวลาหลังจากนั่น
ฉันและเธอจะเดินไปด้วยกัน ไม่ว่าจะทุกข์หรือว่าสุขสันต์ ฉันจะมีเธอข้างกาย วันเวลาจะนานสักเพียงไหน เพื่อนฉันคนนี้ นั้นไม่มีวันห่าง และไม่มีวันจากไปไหน
จากคืนนั้นเส้นทางของโจ้ก็ค่อยๆหายหน้าไปจากวงการ ทว่ายังไม่ถึงกับการห่างหายไปจากการร้องเพลงที่เขารัก โจ้หันไปร้องเพลงอยู่ที่ร้าน 29 ของวิยะดา โกมารกุล ณ นคร และไม่มีผลงานใหม่ออกมาอีกเลย จนกระทั้งโจ้และ Pause ได้กลับมาเล่นดนตรีด้วยกันอีกครั้ง ไม่นานภายหลังจากการผันตัวเข้าสู่ร่มกาสาวพักตร์ของโจ้ วง Pause ก็เริ่มวางแผนถึงงานเพลงชุดใหม่ รวมทั้งได้พูดคุยกับการเซนต์สัญญากับค่ายเทปกันไปตามลำดับเวลา สำหรับแฟนเพลงนั่นคือความหวัง... ความหวังที่จะได้สัมผัสกับก้าวต่อไปของ Pause ที่กำลังจะเริ่มต้นหลังจากที่คล้ายจะหมดความหวังไปแล้ว ในที่สุดแฟนของ Pause ก็ได้ชื่นชมกับดนตรีที่เค้ารักรวมทั้งคอนเสิร์ตของวงที่มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ ในวันที่ 16 กุมภาพันธ์ 2545 ทุกอย่างดูราบรื่น ถ้าหากเพียงไม่มีเหตุการณ์หนึ่งเกิดขึ้นในอีก 4 วันหลังจากนั้น ทุกสิ่งที่กำลังจะเริ่มต้นได้กลับกลายเป็นความว่างเปล่า... ... โจ้เป็นนักร้องที่มีความสามารถมากเสียดายที่อยู่สร้างผลงานได้สั้นเกินไป ผมคาดเดาว่าอีกสักพักคนก็อาจจะลืมเป็นไปได้ แต่สำหรับผม หรือว่าคนที่สนิทกัน มันคงจะจำไปจนตาย ผมเองก็คิดถึงเขาทุกวัน ผมไม่คิดว่าเขาเป็นนักร้อง แต่เขาเป็นเพื่อนสนิทของผมคนหนึ่ง ยิ่งเวลาไปไหนมาไหน กับ Crescendo นี่ก็จะคิดถึงเขามาก เพราะบรรยากาศมันจะเก่าๆเหมือนเดิม เพียงแต่ว่าเพื่อนร่วมวงเปลี่ยนไป คนนี้หายไป อย่างเอ อยู่วงสิบล้อ ผมก็ยังได้ข่าว บอส ( นิรุธ เดชบุญ ) ไปเล่นให้ฟลายเดย์ ผมก็ยังได้ข่าว แต่โจ้นี่ผมเรียกว่าหายไปเลย ป่านนี้ทำอะไรอยู่ คงไม่ใช่ความโศกเศร้าแล้วละ แต่เป็นความคิดถึง นรเทพ มาแสง
... โจ้-อัมรินทร์ เหลืองบริบูรณ์ เสียชีวิตลงด้วยวัย 30 ปี แต่ความทรงจำและบทเพลงไพเราะที่โจ้เคยฝากไว้จะไม่มีวันลบเลือน ดังเช่นความตั้งใจของเขาที่เคยกล่าวเอาไว้ว่า ตอนนี้ผมกำลังมีชีวิตที่เป็นอมตะ ชีวิตอมตะที่ลูกหลานจะได้จดจำและระลึกถึงเมื่อผมจากไป อัมรินทร์ เหลืองบริบูรณ์ : D
------------------------------------------------------------
จากคุณ :
เจ้าจุก
- [
1 ก.ค. 50 08:51:15
]
|
|
|
|
|