ความคิดเห็นที่ 1 งานนี้จัดโดย TK park ร่วมมือกับบริษัท แคททาลิสท์ อัลลายแอนซ์ (ประเทศไทย) จำกัด ใครที่มาร่วมงาน มีของที่ระลึกแจกด้วย แต่ทำไมผมไม่ได้หล่ะครับบบบ เห็นทุกคนได้กันหมดเลย มาเริ่มที่ผู้มาให้ความรู้กันก่อนเลย เริ่มที่ผู้อาวุโสทั้งสองท่าน (ทั้งวัย และฝีมือในการแต่งเพลง) - พี่ฉ่าย สมชัย ขำเลิศกุล โปรดิ๊วเซอร์ นักแต่งเพลง นักดนตรีชื่อดัง และมีฝีมือคนหนึ่งของเมืองไทย - พี่เจี๊ยบ สารภี ศิริสัมพันธ์ นักแต่งเนื้อเพลงชื่อดัง ผู้อยู่เบื้องหลังบทเพลงไพเราะเนื้อหาดีมากมาย ผมจำได้ว่าเคยเห็นทั้งชื่อพี่ฉ่ายและชื่อพี่เจี๊ยบมาตั้งแต่ยังละอ่อน ทุกทีที่ซื้อเทปแกรมมี่มาก็ต้องเปิดดูว่าใครแต่งเพลงเพราะๆเหล่านี้ วันนั้นถือเป็นฤกษ์ดีมากๆที่ได้ใหญ่ชิดกับไอดอล โดยเฉพาะพี่เจี๊ยบที่เพิ่งเคยเจอตัวเป็น หึหึ เป็นผู้หญิงที่เท่ห์มากๆ ทั้งสองท่านนัดกันมาหรือเปล่ามิอาจทราบได้ แต่ก็มากับเชิร์ทขาวกับบลูยีนส์ เห็นแล้วนึกถึงเจ็ดสาวเซเว่น ของแกรมมี่ หึหึ สองท่านนี้มาในรูปแบบ คนหนึ่งแต่งทำนอง (พี่ฉ่าย) คนนึงแต่งคำร้อง (พี่เจี๊ยบ) แก้ไขเมื่อ 13 ก.ค. 50 22:59:26 จากคุณ : 16เมษา - [ 13 ก.ค. 50 22:57:09 ]

ความคิดเห็นที่ 2 อีกสองหนุ่มคนรุ่นใหม่ แต่ฝีมือน่าจับตามองน่าจับหูฟังมาก - ปิง จิรวัฒน์ ตันตรานนท์ (เสื้อดำ) ผู้อยู่เบื้องหลังความสำเร็จของ ETC หนึ่งในเบื้องหลังคำร้องและทำนองเพลง "เธอคือใคร" - แมค อคาเปลล่า 7 (เสื้อเหลือง) ขอประทานโทษที ผมจำชื่อจริงไม่ได้ ในปกซีดี ETC ก็ไม่ได้เขียนไว้ ผู้อยู่เบื้องหลังความสำเร็จของ ETC เช่นกัน สองหนุ่มนี้มาให้ความรู้ในฐานะของคู่หูบั๊ดดี้ที่ต้องแต่งเพลงร่วมกัน ทั้งทำนองและคำร้อง เข้าทำนองว่า "คนเดียวหัวหาย สองคนเพลงดังถล่มทลาย" จากคุณ : 16เมษา - [ 13 ก.ค. 50 23:07:04 ]

ความคิดเห็นที่ 3 และคนสุดท้าย แต่ไม่ท้ายสุด เอ๊ะ ยังงัย - หมอเอิ้น พิยะดา หาชัยภูมิ เจ้าของเพลงดังมากมาย อาทิเช่น "คำถาม" ของท็อฟฟี่ "รักเท่าไรก็คงไม่พอ" ของ ลูกปัด และเพลงรักฟังสบายอีกมากมาย หมอเอิ้น มาให้ความรู้ในส่วนของ "หนูมาคนเดียว" ถึงจะตัวเล็กๆและบอบบาง แต่หนูก็ทำทั้งทำนองและคำร้องเลยค่ะ เก่งไหมค่ะ ทูอินวันเลย และอีกท่านคือ ผู้ดำเนินรายการของงานนี้ ขอประทานโทษอีกทีที่ผมจำชื่อไม่ได้ แหม แต่คงไม่ใช่ เบ ยอง จุน แน่ๆเลย เหอะๆๆ เป็นดีเจอยู่คลื่น เดอะเรดิโอ 99.5 สอบถามกับเพื่อนรุ่นพี่ท่านหนึ่งที่เป็นดีเจไปก็ไม่เคลียร์ เพราะไม่มีรูปยืนยัน ดำเนินรายการได้ดีมากเลยครับ จากคุณ : 16เมษา - [ 13 ก.ค. 50 23:14:21 ]

ความคิดเห็นที่ 4 อะ แล้วนี่ใครเนี่ย มาช้ายังดีกว่าไม่มา มอสรึก็ไม่ใช่ เพราะถ้าเป็นมอส ตอนนี้คงกำลังแสดง "ฟ้าจรดทราย" อยู่ อ่า ทิดโก้ เศกพล อุ่นสำราญ นี่เอง คงไม่ต้องบรรยายสรรพคุณกันนะครับ แต่ว่างานนี้พี่โก้มาทำอะไรเนี่ย ที่แรกนึกว่ามาเล่นตลก เพราะปล่อยมุขขำๆตลอด แต่สุดท้ายก็ยอมคุยเรื่องการแต่งเพลงให้ฟังเหมือนกันครับ จากคุณ : 16เมษา - [ 13 ก.ค. 50 23:20:08 ]

ความคิดเห็นที่ 5 mc : อ่า ทรงผมทรงนี้เท่ห์จังเลยครับพี่โก้ ชักอยากจะตัดทรงนี้บ้างจัง พี่โก้ : นี่ๆ ถ้าตัดแล้วไม่หล่อไม่เท่ห์อย่างพี่กับน้อง16เมษา ก็อย่าตัดนะ พี่เตือนด้วยความหวังดี แต่พี่ไม่น่ามานั่งตรงนี้เลย น้องเลยดูหมองลงไปเยอะทีเดียว mc : แหมพี่โก้ก็.... ไม่น่าพูดความจริงเลย แหนะ มาหยิกผมอีก หมอเอิ้น : สองหนุ่มเนี่ยเขาเล่นอะไรกันหนะ จากคุณ : 16เมษา - [ 13 ก.ค. 50 23:27:30 ]

ความคิดเห็นที่ 6 นอกจากมาปล่อยมุขขำๆแล้ว พี่โก้ยังมาเป่าแซกโซโฟน โชว์เมโลดี้หวานๆ เพื่อให้วิทยากรฟังว่าเพลงอย่างนี้น่าจะแต่งเนื้อร้องออกมาอย่างไร โดยมีแมคเล่นเปียโนเพราะๆ จากคุณ : 16เมษา - [ 13 ก.ค. 50 23:31:35 ]

ความคิดเห็นที่ 7 ฟังอย่างตั้งใจ ว่าเพลงนี้จะแต่งคำร้องออกมาอย่างไร บางคนก็คงอิน หรืออะไรก็ไม่รู้ ปล. แต่แปลกใจ สองคนข้างหลังมากๆ เขาจัดงานกันอย่างคึกครื้น แต่พี่ท่านกลับนั่งใส่หูฟัง ฟังเพลงไม่สนใจใครเลย จากคุณ : 16เมษา - [ 13 ก.ค. 50 23:34:38 ]

ความคิดเห็นที่ 8 เป่าเสร็จก็ลงมาพูดถึงเรื่องการแต่งเพลง พี่ทิดโก้ก็อดที่จะเล่าประวัติความเป็นมาของเพลง "ภาวนา" ไม่ได้ว่ามีที่มาวิบากอย่างไร แต่สุดท้ายก็ทำลายความฝันอันสวยงามของคนมาฟังงานนี้ว่า ปัจจุบันคนที่แต่งคำร้องเพลง "ภาวนา" และ "ล้านใจ" ต้องไปหากินด้านการเป็นสแตนอิน เป็นเอ็กตร้า ตามกองถ่ายละคร ภาพยนต์ เพราะไม่รุ่งในทางแต่งเพลง แหม เพลงออกจะฮิต แล้วถ้าแต่งเพลงแล้วไม่ฮิต จะเหลืออะไรหล่ะเนี่ย จากคุณ : 16เมษา - [ 13 ก.ค. 50 23:39:23 ]

ความคิดเห็นที่ 9 เริ่มเล่าอย่างออกรส มากไปนิสสสสสสสสสสส สังเกตสายตาแมคสิ หุหุ จากคุณ : 16เมษา - [ 13 ก.ค. 50 23:41:58 ]

ความคิดเห็นที่ 10 จบงานก็ถึงเวลาเข้าหานาง เอ๊ย ไม่ใช่ ขอลายเซ็นต์ อิอิ หมอเอิ้น : อ่านคอลัมน์พี่ในอะเดย์บ้างหรือเปล่าค่ะน้องเพชร เพชร : เอ่อ มะได้อ่านเลยครับ เพชรอ่านแต่มติชนสุดสัปดาห์คับ ชอบคอลัมน์เกจินู๊ดมากเลย หมอเอิ้น : เอ่อ นี่พี่เซ็นต์ลายเซ็นต์ให้น้องเพชรอย่างสวยเลยค่ะ อ่อ นี่พี่เขียนเบอร์โทรของพี่ให้น้องเพชรด้วยเลยนะค่ะ แต่ห้ามโทรมาจีบนะค่ะ พี่ยังไม่พร้อม แต่โทรมาปรึกษาปัญหาสุขภาพได้เลยค่ะ พี่เป็นหมอค่ะ เพชร : งั้นดีเลยครับ เพชรกำลังอยากได้ที่ปรึกษาทางโภชนาการอยู่พอดีเลย เอ่อ ว่าแต่ว่าพี่หมอเอิ้นเป็นหมอทางด้านไหนคับ หมอเอิ้น : พี่เป็น "จิตแพทย์" ค่ะ เพชร : !!!!!!?????!!!!!! จากคุณ : 16เมษา - [ 13 ก.ค. 50 23:51:35 ]

ความคิดเห็นที่ 11 เวนแฮรี่เมทแซลลี่ เอ๊ย เมื่อหมอเอิ้นเมทเพชชี่ จากคุณ : 16เมษา - [ 13 ก.ค. 50 23:53:44 ]

ความคิดเห็นที่ 12 เอารูปโตๆ มาฝาก เผื่อจะมีใครแอบเก็บรูปหมอเอิ้นไปนอนฝันหวาน หุหุ ปล. แฟนคลับน้องเพชชี่ก็เก็บรูปไปฝันหวานได้เช่นกันครับ แอบได้ยินมาว่ามีเยอะเหมือนกัน อิอิ เรารู้ว่าคุณอ่านกระทู้นี้ เหอะๆๆ [คลิกเพื่อชมภาพขนาดจริง] จากคุณ : 16เมษา - [ 13 ก.ค. 50 23:57:25 ]

ความคิดเห็นที่ 13 จะเล่าอย่างไรดีหล่ะ ไม่ได้จดอะไรไว้เลย ก็เห็นเขาพูดดักไว้นี่ครับว่าไม่ต้องจดอะไร เพราะนี่เป็นแค่การพูดคุยเล่าสู่กันฟังเฉยๆ แต่ผมแอบเห็นสาวเซอร์ข้างๆจดยิกเลย แต่ผมก็นั่งฟังเฉยๆ เพราะถ้าจดแล้วจะฟังไม่ถนัดนัก สำหรับผมแล้ว เวลาประมาณสองชั่วโมงนี่มีประโยชน์กับผมมากทีเดียว เพราะก่อนหน้านี้ผมมีความตั้งใจอยู่เสมอว่าจะต้องเขียนเพลงให้ได้ ที่ผ่านมาก่อนหน้านี้ไม่นาน ไม่เคยเขียนเพลงออกเลย แต่เพิ่งมาเริ่มเขียนเพลงตอนมีโปรเจค "Jazz Monk แจ๊ส มั๊ง" แต่ก็ยังเขียนได้ไม่เต็มที่นัก เนื่องจากยังประหม่าและเกร็งๆยังงัยก็ไม่รู้ แต่ไม่เชื่อก็ต้องเชื่อว่าหลังจากมาฟังการพูดคุยในวันนั้นแล้ว ทุกวันนี้ผมเขียนเพลงออกมาได้แล้วหลายเพลงที่พิศดารที่สุดคือคืนหนึ่งสามารถเขียนได้ถึงสี่ห้าเพลงเลยทีเดียว (แต่มีมาขัดๆเกลาๆทีหลังอีก เหอะๆๆ) แน่นอนว่าแม้จะเขียนได้อย่างลื่นไหล ข้อจำกัดน้อยกว่าเมื่อก่อนแล้ว แต่ฝีมือการเขียนก็ยังไม่ค่อยดีเท่าไรนัก อันนี้ก็ต้องฝึกกันต่อไป แต่ความมั่นใจนี่มาเต็มที่เลยครับ เหอะๆๆ พี่ฉ่ายเล่าให้ฟังถึงเรื่องการสร้างศิลปินซักวง หรือแต่งเพลงซักเพลง พูดถึงความจำเป็นในการหาแรงบันดาลใจ และการหาแนวเพลงที่เหมาะสมกับศิลปิน รวมไปถึงการแต่งเพลงที่อ้างอิงจากเพลงอื่นๆ ทั้งในเรื่องโครงสร้าง หรือแนวเพลง เพื่อเป็นการสื่อสารกับผู้ที่ทำงานร่วมกันในส่วนต่างๆ เช่น แต่งทำนองมาแล้ว ก็นำเพลงบางเพลงมาอ้างอิงว่าอยากได้การเรียบเรียงประมาณนี้ จังหวะแบบนี้ โครงสร้างแบบนี้ สไตล์นี้  เนื้อหาประมาณนี้ ฯลฯ แล้วเมื่อพูดถึงเรื่องเมโลดี้เดจาวู พี่ฉ่ายบอกว่า มันเกิดขึ้นได้บ่อยมาก ทุกครั้งที่มีการแต่งเพลงหนึ่งๆเสร็จแล้ว เมื่อมานั่งฟังกัน ก็มักจะมีคนนั้นคนนี้บอกว่าเหมือนเพลงโน้นเหมือนเพลงนั้น ซึ่งคนแต่งมักจะไม่ค่อยรู้สึก เพราะพี่ฉ่ายบอกว่าโน๊ตมันก็มีอยู่ไม่กี่ตัววนเวียนอยู่ในหัวเนี่ยหล่ะ บ่อยครั้งที่มันไปจะเอ๋เหมือนกับเพลงอื่นในบางท่อนบางตอนบ้าง ซึ่งถ้าแก้ไขได้ ก็จะพยายามแก้เพื่อไม่ให้มันเหมือนมากจนเกินไป ในกรณีนี้ท่านอื่นๆก็สมทบอีกว่าเกิดขึ้นได้บ่อยๆ หมอเอิ้นเล่าว่า หมอเอิ้นไม่มีความรู้เรื่องทฤษฎีดนตรีเลย เวลาแต่งเพลงเนี่ยก็จะออกมาจากเมโลดี้ที่อยู่ในหัว ฉนั้นการที่เพลงที่ตนแต่งออกมาจะไปคล้ายเพลงอะไรบ้างก็ไม่ใช่เรื่องแปลก เพราะการที่เราฟังเพลงมาเยอะๆ เมโลดี้ที่มันสวยๆก็ถูกฝังอยู่ข้างใน พอเราแต่งเพลง บางทีมันก็ออกมาอยู่ในเพลงของเราโดยที่เราไม่รู้ตัว ท่านอื่นๆก็เห็นด้วยกับข้อนี้เช่นกัน อ่า เหนื่อย เดี๋ยวมาต่อ งุงิ มาเล่าด้วยนะ จากคุณ : 16เมษา - [ 14 ก.ค. 50 00:20:48 ]

ความคิดเห็นที่ 14 ก่อนอื่นต้องกราบงาม ๆ ที่พี่ปุ๊จัดรูปสวย ๆ พร้อมการบรรยายที่ละเอียดมาก ๆ เลยจ้า กะลังแบบว่า ฟังพี่ ๆ เค้าพูดแล้ว จำไม่ได้เลย คิคิ ได้กระทู้ที่พี่ปุ๊โพสเนี่ยละ ขอบคุณงับ แต่................ ไม่อยากบอกเลยว่า ตอนแรกที่เปิดมาเจอกระทู้ คิดอยู่ว่าจะปาดพี่ปุ๊ดีไหม แต่คิดไปคิดมา รอดูตอนจบดีกว่า เพราะว่า...เพราะว่า...เพราะว่า พี่ปุ๊ต้องเอารูปอืด ๆ ของนู๋มาแปะแน่ ๆ เยย และแล้ว โอ้ววววววววววววววววววววววว...หมอลักษณ์ไม่ต้อง งุงิฟันธงไปแย้ว กรี๊ดดดดดดดดดดดด พี่ปุ๊ฮับบบบ ทำเอาหมอเอิ้นหมองไปทันที เอ้ หรือทำให้หมอเอิ้นดูสวยขึ้นเลยหว่า งุงิ ***************************** แต่ไม่อยากบอกว่า คุยกะหมอเอิ้นแบบนี้พี่ปุ๊ หมอเอิ้น : อ่านคอลัมน์พี่ในอะเดย์บ้างหรือเปล่าค่ะน้องเพชร เพชร : เอ่อ มะได้อ่านเลยฮับ เพราะว่าไม่มีตังค์ คิคิ หมอเอิ้น : อ้าว แล้วเอาตังค์ไปไหนหมดอ่ะจ้า....นี่พี่เซ็นต์ลายเซ็นต์ให้น้องเพชรอย่างสวยเลยค่ะ อ่อ นี่พี่เขียนเบอร์โทรของพี่ให้น้องเพชรด้วยเลยนะค่ะ แต่ห้ามโทรมาจีบนะค่ะ หน้าตาแบบน้องเพชรไม่ผ่านจ้า แต่โทรมาปรึกษาปัญหาสุขภาพได้เลยค่ะ พี่เป็นหมอค่ะ เพชร : อ่า ตังค์หรือจ้า หมดไปกับการหม่ำฮับ 555+ เลยอ้วนน่ากัวแบบนี้ไงอ่ะฮับ คิคิ เอ้ย แต่เรื่องสุขภาพเนี่ย...งั้นดีเลยครับ ตอนนี้หัวใจกะลังอ่อนแอมั่ก ๆ เยยฮับ อยากได้คนมารักษาหัวใจให้อบอุ่นเหมือนพี่ ๆ ห้องแจ๊สคนอื่นอ่ะฮับ อิอิ ว่าแต่ว่าพี่หมอเอิ้นเป็นหมอทางด้านไหนคับ หมอเอิ้น : พี่เป็น "จิตแพทย์" ค่ะ...โดยเฉพาะคนโรคจิตแบบว่าเป็นโรคหัวใจอ่อนแอ แบบนี้อ่ะจ้า เจอมาเยอะแย้ว ง่ายนิดเดียวเลยจ้า ทำใจจ้า...เตรียมไปดาวด์คนโสดคานทองธานีได้เลยจ้า หุหุ เพชร : =.+" แง งุงิ ง่ะ ไง เซงปุ๊กันไป ปล. แฟนคลับน้องเพชชี่...อันนี้พี่ปุ๊เขียนผิด ต้องเป็น แฟน(ไม่มี)ขับไล่น้องเพชชี่ไปไกล ๆ แต่ภาพคู่เนี่ย เรียกว่า โฉมงามกับอสูรนรก ได้เลยนะเนี่ย ฮิ้วววว จากคุณ : UnDeRMiLeS dAvIs (UnDeRMinE) - [ 14 ก.ค. 50 00:30:32 ]

ความคิดเห็นที่ 15 โอ้ว น่าดูจริงๆ เสียดายไม่ได้ไป แต่จำไม่ได้แล้วว่าติดอะไร จากคุณ : เทเลทับขี้ - [ 14 ก.ค. 50 00:42:01 ]

ความคิดเห็นที่ 16 อ่า งุงิ ไม่ยอมทำงานเลยยยยย +++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++ มาเล่าต่อ เอาเรื่องไหนดี จำไม่ค่อยได้แล้ว มาพูดถึงอาวุธของการแต่งทำนองเพลงดีกว่า ทุกท่านพูดเป็นเสียงเดียวกันว่าสิ่งที่ต้องอยู่คู่กายนักแต่งเพลงก็คือ sound recorder พี่โก้เล่าว่าสมัยก่อนจะต้องมีซาวน์อะเบ้าท์อยู่ติดตัวตลอดเวลา หมอเอิ้นกับปิงก็ยืนยันว่าโทรศัพท์ที่ใช้ฟังค์ชั่นที่สำคัญที่สุดคือ จะต้องอัดเสียงได้ เพราะว่าต้องพร้อมเสมอเมื่อไรที่มีเมโลดี้แว๊ปมาเข้าหัว ก็จะต้องหยิบมาอัดในทันที ไม่เช่นนนั้นก็จะลืม สำหรับพี่ฉ่ายเล่าว่าพี่ท่านจะมีเรคคอร์ดเดอร์วางอยู่บนหัวนอน บางทีนอนๆหลับฝันไป มีโมโลดี้ลอยอยู่ในฝัน เมื่อตื่นขึ้นมาก็จะหยิบมาอัดเมโลดี้นั้นไว้ทันที เพราะถ้ารอให้ถึงเช้าก็คงจะลืมเช่นกัน และนี่ก็เป็นอีกหนึ่งสาเหตุของเมโลดี้เดจาวู เพราะก็ไม่รู้ว่าเมโลดี้ที่มาเข้าฝันนั้น เป็นเพลงของคนอื่นหรือเปล่า กับคำถามที่ว่า สภาพแวดล้อมมีผลต่อการแต่งเพลงบ้างไหม หมอเอิ้นยืนยันว่ามีแน่นอน เพราะสมัยตอนเป็นเด้กนักเรียน หมอเอิ้นอยู่ต่างจังหวัด คือที่จังหวัดเลย และหมอเอิ้นก็เป็นสาวโรแมนติกเสียด้วย ชอบปีนหลังคาบ้านขึ้นไปนั่งมองดาวบนฟ้า ทำให้เพลงในยุคนั้นของหมอเอิ้นก็จะเต็มไปด้วยบรรยากาศโรแมนติกของดวงดาว จนต้องถูกโปรดิ๊วเซอร์ให้เพลาเก็บดาวออกจากเพลงบ้าง ต่อเมื่อมาอยู่ในกรุงเทพ สไตลืการเขียนเพลงก็หลากหลายออกไป ปิงกับแมคก็เห็นด้วยว่า เมื่อก่อนเนี่ยสมัยที่อยู่เชียงใหม่ บรรยากาศที่สุนทรีย์ของเชียงใหม่นั้นช่วยบิ๊วในการแต่งเพลงมาก และเมื่อเกิดนึกอยากจะแต่งเพลงขึ้นมาเมื่อไร ก็สามารถนั่งรถไปหาปิงแล้วแต่งเพลงได้ทันที แต่ถ้ามาอยู่ในกรุงเทพฯพอมีอารมณ์จะแต่งเพลง แล้วต้องนั่งรถเจอรถติดนานๆ ไปถึงอารมณ์การแต่งเพลงก็หมดไปแล้ว ต่อข้อซักถามเกี่ยวกับ การร่วมแต่งเพลงกับคนอื่นมีผลอย่างไรบ้างกับเพลง ผู้ดำเนินรายการได้กล่าวถึง การที่พอล แมคคาร์ทนีย์ กับ จอห์น เลนนอน จับคู่แต่งเพลงกัน ทำให้เกิดส่วนผสมระหว่างความสวยงามของแมคคาร์ทนีย์ กับจินตนาการและการมองโลกแบบแตกต่างของเลนน่อน ในส่วนนี้ปิงกับแม็คเห็นด้วย โดยแมคเล่าว่า เราสองคนมีความถนัดที่แตกต่างกัน โดยปิงจะเป็นคนที่มีคำสวยๆเยอะ เขียนอะไรก็ดูสวยไปหมด แต่อ่านหรือฟังไม่รู้เรื่อง แมคจะเป็นคนที่จับคำเหล่านั้นมาจัดวางใหม่ให้เพลงมันออกมาฟังรู้เรื่องและคงความไพเราะของถ้อยคำนั้นๆไว้ (เข้าข่าย คนเดียวหัวหาย สองคนเพลงฮิตถล่มทลาย อย่างที่ผมว่าไว้เลย) อ่า มีเรื่องอะไรอีกหว่า นึกๆๆๆ เดี๋ยวนึกออกมาต่อครับ แก้ไขเมื่อ 14 ก.ค. 50 01:08:29 จากคุณ : 16เมษา - [ 14 ก.ค. 50 01:05:43 ]

ความคิดเห็นที่ 17 ต่ออีกนิด เพิ่งนึกออกบางเรื่อง พูดถึงเรื่องการเข้าสู่วงการเพลงของนักแต่งเพลง หมอเอิ้นเล่าว่า ก่อนอื่นจะต้องมั่นใจและแน่ใจในฝีมือของตัวเองก่อน ถ้ายังไม่พร้อมและถูกปฏิเสธอาจจะเขวได้ (เอ๊ะ พูดประมาณนี้หรือเปล่า?) หมอเอิ้นบอกว่าต้องไม่อายที่จะทดสอบฝีมือตัวเอง เธอเล่าว่าเธอต้องบังคับให้เพื่อนของเธอมาฟังเพลงที่เธอร้องให้ฟังว่าใช้ได้หรือเปล่า เธอยังกล้าและไม่อายขนาดที่ว่า เข้าไปในลิฟท์เธอยังกล้าร้องเพลงให้คนในลิฟท์ฟังว่าเพราะไหม? เป็นอย่างไรบ้าง และเมื่อนำเพลงไปเสนอโปรดิ๊วเซอร์ เธอก็จะร้องให้โปรดิ๊วเซอร์ฟังสดๆเลย ทุกวันนี้สบายกว่านั้น เพราะเมื่อโปรดิ๊วเซอร์ต้องการเพลง ก็จะโทรศัพท์มาหาเธอเลย ประมาณว่าอยากทำเพลงให้ลูกปัด มีเพลงเพราะๆอยู่ในสต็อกบ้างหรือเปล่า เธอก็จะคัดเพลงที่คิดว่าเหมาะกับนักร้องคนนั้นไปให้โปรดิ๊วเซอร์ ที่ทำอย่างนี้ได้ เพราะว่าเธอแต่งเพลงเก็บเอาไว้ในสต็อกเยอะมากกกกกกกก เธอบอกว่าอาชีพหลักของเธอคือเป็นหมอ แต่การแต่งเพลงนั้นเป็นงานอดิเรก แถมเป็นงานอดิเรกที่ได้เงินเสียด้วย (น้องเพชรรู้สึกจะตาโตกับประโยคท้ายนี้ อิอิ) สำหรับปิงกับแมคผมจำไม่ได้ จำได้เลาๆว่าเมืองเชียงใหม่เป็นเมืองของนักดนตรี ปิงก็แต่งเพลงให้กับ ETC ตั้งแต่อัลบั้มชุดแรก มีเพลง "เจ้าชายนิทรา" เป็นเพลงดัง ส่วนแมคก็ออกอัลบั้มกับอาร์เอสในนามของอะคาเปลล่าเซเว่น สำหรับพี่ฉ่ายก็บินกลับมาจากอเมริกา แล้วก้มาทำเพลงที่แกรมมี่ เอ ทำไมจำของพี่เจี๊ยบไม่ได้หว่า แต่พี่เจี๊ยบก็แต่งเพลงให้กับแกรมมี่มาอย่างยาวนานเท่าที่ผมจำความได้ กับคำถามที่ว่ายุคสมัยของคน และความต่าง ระยะห่างของวัยมีผลต่อบทเพลงอย่างไรบ้าง พี่เจี๊ยบเล่าว่าคำที่พี่เจี๊ยบเลือกใช้ในบทเพลงจะเป็นคำที่ใช้กันอย่างสามัญไม่คิดประดิษฐ์อะไรมาก เพราะไม่เช่นนั้นพอถึงวันหนึ่งมันจะฟังดูเชย นอกเสียจากบางบทเพลงก็จะเลือกเขียนเพลงด้วยภาษากวี ซึ่งมันก้าวข้ามผ่านข้อจำกัดของเรื่องเวลาได้ กลับมาที่หมอเอิ้น เธอเล่าว่าเธอแต่งเพลงด้วยภาษาของคนรุ่นราวคราวเดียวกับเธอ และสิลปินนักร้องที่ร้องเพลงของเธอก็เป็นคนร่วมสมัยกับเธอ จึงไม่มีปัญหาอย่างนั้น ทั้งสองท่านยืนยันเหมือนกันว่า จะไม่แต่งเพลงที่ตัวเองรู้สึกว่าไม่ถนัดเด็ดขาด เช่นเพลงร็อคฮาร์ดคอร์ หรือแร่ป ถ้ามีคนมาให้แต่งก็อาจจะแต่งได้แต่อาจไม่ดี ขอให้เอาไปให้คนอื่นแต่งจะดีกว่า +++++++++++++++++++ อ่า หมดมุข  มีอะไรอีกเนี่ย นึกๆๆๆ จากคุณ : 16เมษา - [ 14 ก.ค. 50 01:44:10 ]

ความคิดเห็นที่ 18 ชอบตอนที่พี่โก้กับพี่แมคแจมกัน นั้นพี่เค้าอิมโพรไวส์สดๆเลยหรือเปล่า เพราะมากๆๆๆๆๆๆๆ จากคุณ : Shutty (Shutty) - [ 14 ก.ค. 50 10:39:00 ]

ความคิดเห็นที่ 19 โอ้ววววว สุดยอดไปเลย แต่อยากใช้คำว่า สุดปลายเตียง มากกว่า คิคิ พี่ปุ๊รีวิวได้สุด ๆ ไปเยยก๊าบบ เด่วเอาดอกไม้ธูปเทียนมาบูชากันไปเลย อิอิ อยากจะมาช่วยพี่ปุ๊รีวิวนะจ้า แต่ 5555+ กัว รีวิวมั่วอ่ะ หุหุ เอาแนวพี่ปุ๊เนี่ยละ สาระเต็ม ๆ ฮิ้วววว ว่าแต่ Shutty ไปด้วยหรือจ้า ไม่เห็นทักทายกันเยย งุงิ งอนน คิคิ คราวหน้าเจอทักด้วยนะจ้า...อ่า ตอนนั้นพี่โก้เห็นบอกว่า คิดเมโลดี้สด ๆ เลยนะจ้า คิดว่า อิม ละ จากคุณ : UnDeRMiLeS dAvIs (UnDeRMinE) - [ 14 ก.ค. 50 16:11:15 ]

ความคิดเห็นที่ 20 โทดค้าบบบบบบบ คือตอนนั้นผมยังไม่รู้จักหน้าตาของพี่ๆ ณ แจ๊สพันทิพเลยครับ ต้องกราบขอประทานอภัยโทษ อิๆๆ จากคุณ : Shutty (Shutty) - [ 14 ก.ค. 50 19:38:30 ]

ความคิดเห็นที่ 21 ขอคารวะ 3 จอก จากคุณ : izogzag - [ 16 ก.ค. 50 08:21:21 ]

ความคิดเห็นที่ 22 อ่า 3 จอก ยังไม่ทันเมาเลยยยยยยย อิอิ จากคุณ : 16เมษา - [ 17 ก.ค. 50 14:40:51 ]