 |
เล่านิทานเรื่องจุ้มจิ้ม เพื่อเป็นอุทาหรณ์สำหรับผู้ชมรายการ AF
เนื่องจากรายการAF เมื่อวาน มีกระแสต่างๆมากมาย ทั้งกระแสเรื่องนัท และรื่องลูกโป่งโดนป้ายด่า ดังนั้น จึงขอนำเอาเรื่องเก่าๆ มาย้อนเล่าให้คนที่ไม่เคยดูซีซั่นแรกได้ฟัง คือเรื่องราวของจุ้มจิ้ม หมอฟันสาวที่การเป็นเหยื่อคนแรกของรายการ และเป็นทั้งผู้แพ้และผู้ชนะในเวลาเดียวกัน ........................................................ ตอนนั้น รายการ AF ยังไม่มีใครรู้ว่าคืออะไร จู่ๆก็โฆษณาและจัดโครงการขึ้นมา ไม่มีใครรู้ด้วยซ้ำว่าคือโครงการประกวด แต่หลังจากคอนเสิร์ตผ่านไปหนึ่งสัปดาห์ คนดูเริ่มมี และเข้าใจว่าในตอนนั้นทางยูบีซีได้แอบแฝงเข้ามาสร้างกระแสในอินเตอร์เน็ตด้วย ถ้าจำไม่ผิด เคยมีบางคนอ้างตัวว่าเป็นพนักงานยูบีซีมาแสดงตัวเป็นวงในด้วย กระแสแรกคือเรื่องของจุ้มจิ้มนี่แหละ คนอื่นๆในตอนนั้นแม้ร้องเพลงยังไม่ดีมาก แต่จุ้มจิ้มร้องแย่อย่างโดดเด่น แต่สิ่งหนึ่งที่น่าสนใจมากๆ คือคะแนนโหวตของจุ้มจิ้มในระหว่างสัปดาห์สูงมาก เป็นอับดับหนึ่งที่สูงโดดจากคนอื่นๆอย่างเห็นได้ชัด เช่น คนอื่นได้9กว่าๆ เธอเล่นโดดไป 25 เธอเริ่มถูกกระแสที่ไม่มีใครทราบว่าเป็นกระแสจัดตั้งหรือเปล่า ว่าคะแนนของเธอเป็นคะแนนจัดตั้ง เพราะที่บ้านของจุ้มจิ้มรวย เธอเป็นหมอฟันมีฐานะ และบ้านของจุ้มจิ้มรู้จักกับผู้บริหารยูบีซี (ซึ่งไม่ใช่เรื่องจริง เพราะที่บ้านของจุ้มจิ้ม ไม่ได้มีใครรู้จักกับยูบีซี และบ้านของเธอไม่ได้รวยขนาดนั้น) ลือกันถึงขั้นว่าแม่ของจุ้มจิ้มซื้อซิมแจกชาวบ้านเพื่อให้โหวตให้ลูกตัวเอง รายการ AF 1 มีช่วงของการเปิดใจ เล่าเรื่องตัวเอง โดยเฉพาะในช่วงคลาสแอ๊คติ้ง ทำให้ทุกคนได้ทราบความเป็นมาของนักล่าฝันอย่างปอ และวิทย์ว่ายากจน ต้องทำงานเหนื่อยเพื่อหาเลี้ยงชีพ ขณะที่จุ้มจิ้ม และ เค มาจากครอบครัวที่ค่อนข้างมีอันจะกิน เมื่อสองคนนี้ทำผลงานได้แย่ จึงถูกโจมตีหนัก เพราะสองคนนี้ อยู่ในรายการมาเรื่อยๆ เคมีปากเหวบ้าง แต่ช่วงแรกของรายการ จุ้มจิ้มไม่เคยออกมายืนปากเหว หรือถึงเธอออกมาในช่วงกลางๆรายการ คนที่ต้องออกก็จะเป็นคนที่ยืนข้างเธอเสมอ และที่สำคัญคือในช่วงแรกๆของรายการ จุ้มจิ้มไม่ค่อยถูกคอมเมนท์หนักๆ (คอมเมนต์ยุคนั้นคือคุณตาล ดาเรศ) รายการที่คล้ายๆทรูโมเมนต์ในยุคนั้น คือรายการไฮไลท์ประจำสัปดาห์ของช่องยูบีซีอินไซด์ เป็นรายการสด พิธีกรมีสองคนคือปอและปูเป้จัดร่วมกัน ซึ่งรายการนี้ก็จะมาแนวยุยงส่งเสริม ยิ่งกว่าสมัยนี้ มีที่ฮือฮามากในช่วงแรก คือมีการนำเอาใบปลิวโปรโมตตัวเองของจุ้มจิ้มที่ขอนแก่น (เป็นใบปลิวโปรโมตให้คนขอนแก่นช่วยกันโหวตให้จุ้มจิ้ม) มาประจานในรายการ ซึ่งพิธีกรก็ไม่ได้พูดช่วยอะไรจุ้มจิ้มเลย ผลก็คือ ยิ่งมีใบปลิวแบบนี้ออกมา จุ้มจิ้มก็ยิ่งโดนด่าหนัก จุ้มจิ้มถูกทำให้กลายเป็นส่วนเกินของบ้าน ในวีคแรกๆ ครูโอ๋ ทิพวลัย ครูใหญ่ของบ้าน (ซึ่งออกมายอมรับในภายหลังว่าหน้าที่ของเธอนั้น เป็นเสมือนทีมงานที่อยู่หน้ากล้อง ชงให้เกิดเรื่องราวต่างๆ ไม่ใช่หน้าที่คอยดูแลนักล่าฝันเพียงอย่างเดียวเท่านั้น) ได้จับกลุ่มกับแก๊งค์เด็กโปรดของเธอ คือ ออฟ ปองศักดิ์ และ ซีแนม ทำการปิดไมค์ นินทาผู้เข้าแข่งขันคนหนึ่ง ด้วยข้อหา "เด็กเส้น" (ไม่ต้องบอกชื่อก็รู้เลยว่ากำลังนินทาใครอยู่) โดยในการนินทา มีน้องน้ำตาลเป็นผู้ร่วมสังเกตการณ์และผสมโรงด้วย จนกระทั่งทางรายการต้องเข้ามาแยกวงนินทาดังกล่าว เหตุการณ์ดังกล่าว แทนที่ออฟและซีแนมจะถูกมองในแง่ลบ แต่ปรากฏคนที่ซวยคือจุ้มจิ้ม เพราะคนสะใจที่จุ้มจิ้มถูกด่า ตอนนั้นในเว็บพันทิป มีการจับผิดจุ้มจิ้มรายวัน JJ คือชื่อที่คนพวกนี้ใช้เรียกเธอ คอยด่าว่า JJ เฟคบ้าง ไม่มีความตั้งใจในการมาล่าฝัน ร้องเพลงห่วยแตก สมควรออกไป และคอยจับผิดแม้กระทั่งว่านักล่าฝันคนอื่นๆก็ไม่มีใครอยากยุ่งกับเธอ เพราะ JJ น่ารำคาญ กระแสด่า JJ หนักขึ้น เมื่อในวีคที่เธอร้องเพลงโดเรมี ซึ่งเธอร้องได้แย่มาก ครูเป็ด มนต์ชีพเป็นคนแรกที่คอมเมนต์อัดเธอว่า เพลงนี้เขาให้ร้องเพี้ยนได้ แต่ไม่ได้ให้ร้องเพี้ยนได้มากขนาดนั้น ผลคือคนดูสะใจ ครูเป็ดดัง จุ้มจิ้มกลายเป็นตัวประหลาด SMS ในตอนนั้น เข้ามาด่าจุ้มจิ้มกันเกือบจะ 90% ยกเว้น SMS หนึ่งที่ดังมากในตอนนั้น ที่ว่า "จุ้มจิ้มผิด เพราะว่าจุ้มจิ้มเป็นคนอิสานหรือ" ซึ่ง SMS นี้ถูกส่งมาบ่อยมากจนคนรำคาญ ยิ่งด่าจุ้มจิ้มหนักมากขึ้น หาว่าทางบ้านจุ้มจิ้มส่งมาให้เองเพื่อแก้ตัวให้ลูก กระแสจุ้มจิ้มเริ่มแรงขึ้น ในวีคกลางรายการ ในวีคนั้น อาต้อยได้ประกาศให้ซีแนม สุนทร เป็นคนที่ได้คะแนนน้อยที่สุด คนฮือฮากันมาก เพราะซีแนมร้องเพลงได้ดี เต้นดี แต่จุ้มจิ้มก็รอดตามเคย จำได้ว่าหน้าของปอ AF1 ตอนนั้นโกรธมาก เข็ดเขี้ยวเคี้ยวฟันสุดๆ แต่สุดท้าย อาต้อยประกาศว่า SMS ล่ม ซีแนมไม่ต้องออก คนเฮกันทั้งฮอลล์ (ที่มูนสตาร์สตูดิโอ) จุ้มจิ้มโดนด่าเละตามเคย จุ้มจิ้มมาโดนด่าหนักๆที่สุด คือวีคที่ปอออก ทุกอย่างพีคมาก ตอนนั้นใครๆในพันทิปก็ด่าจุ้มจิ้ม ใครเชียร์จุ้มจิ้มจะถูกมองว่าจัดตั้ง แม้แต่ดาราบางคนที่พิธีกรไปสัมภาษณ์ก่อนชมคอนเสิร์ต พอแฟนของดาราคนดังกล่าวบอกว่าผมเชียร์จุ้มจิ้ม เจ้าตัวก็ยังแปลกใจ ว่าเชียร์เข้าไปได้ยังไง วีคนั้น เป็นวีค soundtrack และเป็นวีคแรก ที่ย้ายสถานที่ถ่ายทำจากมูนสตาร์สตูดิโอ มาเป็น อินดอร์สเตเดี้ยมหัวหมาก คนจึงเยอะมาก ดาราดังๆมากันหลายคน เช่น คริสติน่า ก่อนการแข่งขัน อาต้อยได้ให้แฟนคลับของแต่ละ V ส่งเสียงเชียร์ V ของตัวเองโดยไล่ไปทีละ V แต่มาถึง V5 ที่เป็นวีของจุ้มจิ้ม เธอถูกโห่จากผู้ชมดังมาก จนอาต้อยถึงกับหน้าเจื่อน (ภาพตอนนี้ถูกตัดออกไปจากวิดิโอรีรันคอนเสิร์ต) ปอร้องเพลง I don't want to miss a think ได้ดี แม้การออกเสียงจะเป็นไทยๆ ไม่เป็นสากล ขณะที่จุ้มจิ้มร้อง Stupid Cupid ได้แย่เช่นเคย และถูกคอมเมนต์อัดแหลก โดนเฉพาะครูเป็ด มนต์ชีพ ที่อัดเธอซะเละ เช่น "อยากให้พิจารณาว่าเรามาทำอะไรที่นี่ เราต้องการอะไร" แต่ถึงเวลา พิธีกรเรียกชื่อคนถอยออกไปทีละคนจนสุดท้ายเหลือยืนสามคน แล้วเรียกให้คนหนึ่งถอยไปสุดท้าย เหลือปอกับจุ้มจิ้ม และผลคือปอออก เสียงโห่กลับมาทันที และดังมากในคราวนี้ การที่ปอออก เป็นเรื่องที่ฮือฮามาก แม้ว่าในปัจจุบัน ปอจะไม่เหลือความดังอยู่แล้ว แต่ในตอนนั้นเขาดังมากๆ และมีแฟนคลับจำนวนมาก ซึ่งเขาดังด้วยความที่ดูซื่อแบบคนต่างจังหวัด การร้องเพลงที่ใช้ได้ และความสู้ชีวิต เพราะปอลำบากมามาก ตอนมาสมัครร่วมรายการก็ต้องออกจากงานที่ทำมาเลย เพราะต้องขึ้นมากรุงเทพฯ ส่วนจุ้มจิ้ม หลังจากนั้นทางรายการเริ่มพลิกภาพให้เธอ ด้วยการส่งคลาสครูรักมาให้เธอและเพื่อนๆได้เปิดใจ คลาสนั้นเป็นคลาสที่มีคนดูมากที่สุดคลาสหนึ่ง จุ้มจิ้มบ่อน้ำตาแตกในคลาสนั้น เคก็ร้องไห้เช่นกันเพราะเขาเป็นอีกคนหนึ่งที่โดนคนมาต่อว่าในตอนที่กำลังจะขึ้นรถกลับบ้านAF จนทำให้คนดูเริ่มรู้สึกเปลี่ยนไป แต่ก็ยังไม่วายมีคนหาว่าเธอเฟค สุดท้าย จุ้มจิ้มในวีคที่เธอออก เธอร้องเพลง ทั้งทั้งที่รู้ และไม่มีอีกแล้ว ซึ่งเพลงหลัง เธอร้องไห้ขณะที่ร้องเพลงนี้ ทำให้ฮือฮากันมาก จนกระทั่งเธอออกจากบ้านไปพร้อมกับเสียงกรี๊ดนั่นแหละ (แม้ SMS นรกจะบอกว่า "เฮ้อโล่ง คืนนี้หลับฝันดีแล้ว" ก็ตาม) สุดท้าย รายการล้างภาพให้จุ้มจิ้มได้จริง ดังที่เราจะได้เห็นในเวลาต่อมา จุ้มจิ้มออกมาปุ๊บก็มีงานทำกับกระทรวงสาธารณสุข แถมยังได้เล่นละครทีวีด้วย ......................................................... นี่เป็นเรื่อราวในอดีต สำหรับคนดูในอดีต ก็คงเหมือนเด็กๆทุกวันนี้ คืออินกับเนื้อหาของรายการมาก จนบางครั้งทำอะไรโดยไม่ยั้งคิด แต่เวลาเท่านั้นที่จะเป็นเครื่องพิสูจน์ทุกอย่างได้ วันหนึ่งคนเคยบอกว่าจุ้มจิ้มเป็นคนเฟค แสร้งทำดีกับคนอื่นเพราะหวังอยากให้คนมาช่วย ก่อนที่สุดท้าย เวลาจะพิสูจน์ให้เห็นถึงตัวจุ้มจิ้มว่าเธอเป็นคนดีจริงๆ ไม่ได้เป็นอย่างที่ใครเคยกล่าวหา ออฟ ปองศักดิ์ เคยเป็นคนตาโตโปน ร้องเพลงกลางๆ ร้องเพลงร๊อคได้ไม่ดีจนชมพู ฟรุตตี้ถึงกับเคยพูดว่า ดูอยู่ที่บ้านแล้วรู้สึกไม่ชอบคนๆนี้เลย แต่เวลาก็ได้ให้เขาพิสูจน์ตัวเอง จนวันนี้ เขาคือ AF1 เพียงคนเดียวที่พูดได้เต็มภาคภูมิว่า ประสบความสำเร็จในวงการบันเทิงอย่างแท้จริง ในขณะที่นักล่าฝัน AF1 บางคน ที่เคยมีคนรักมาก ถึงขนาดที่เด็กเห็นหน้าแล้วต้องร้องไห้ด้วยความตื่นเต้นและดีใจ ในเวลาต่อมา กลับถูกหนังสือพิมพ์เขียนด่า ว่าทำตัวหยิ่ง จนทำให้เสียแฟนคลับไปเรื่อยๆ โดยเฉพาะกลุ่มแฟนคลับที่เป็นไฮโซ ที่เข้าไปขอลายเซ็นของเขาแล้วถูกนักล่าฝันคนนั้นทำท่าทางที่ไม่ดีใส่ (ซึ่งตัวนักล่าฝันก็คงไม่ผิด หากอยากมีเวลาเป็นส่วนตัว แต่เขาก็ควรจำไว้เช่นกันว่ามวลชนมีบุญคุณกับเขามากขนาดไหน ที่พาเขามาได้ตรงจุดนี้ จากคนธรรมดาเป็นคนที่คนทั้งประเทศรู้จักไม่ใช่เรื่องเล่นๆ) ปัจจุบัน นักล่าฝันคนนี้ก็ค่อยๆหายไป ไม่ค่อยเห็นผลงานเท่าไหร่ แม้แต่ผู้ชนะอย่างวิทย์ ที่ครั้งหนึ่งเคยดังมาก คนกรี๊ดเขาดังที่สุดจนแทบไปเดินถนนไม่ได้ แต่ปัจจุบัน เป็นอย่างที่เราก็เห็นภาพกันนะคะ บ้านสารินซิตี้ รางวัลอันทรงเกียรติ สำหรับคนที่เช่าบ้านอยู่อย่างครอบครัววิทย์ เป็นแค่ภาพมายา ครอบครัวของวิทย์เคยเข้าไปอยู่ในบ้านนั้น และมีการถ่ายทำรายการแสดงให้เห็นถึงภาพที่ทุกคนเข้าไปอยู่ในบ้านหลังนั้นอย่างมีความสุข ว่ากันว่าหลังจากนั้น บ้านรอบๆบ้านวิทย์ก็สามารถขายได้หมด คนซื้อก็คือแฟนคลับหรือคนที่อยากใกล้ชิดกับนักล่าฝันนี่ล่ะ แต่ปรากฏว่า ปัจจุบัน บ้านหลังนั้นไม่ได้เป็นของวิทย์แล้ว มีกระแสข่าวลือว่าวิทย์ได้ขายคืนบ้านหลังดังกล่าวให้ทางโครงการในเวลาต่อมาไม่นานนัก ด้วยราคาที่ถูกมาก (เหมือนกับการรับรางวัลตามเกมโชว์ทั่วไป ที่ผู้เล่น อาจไม่ได้รางวัลที่มีมูลค่าจริงๆตามที่ผู้จัดกล่าวอ้าง) ครั้งหนึ่ง คอมเมนเตเตอร์เคยยกให้เขาเป็น EMINEM เมืองไทย มีคนพูดกันว่าเขาอาจมาเปลี่ยนวงการเพลงไทยด้วยเพราะมีฝีมือจริงๆ แต่สุดท้าย ผลที่ได้ก็อย่างที่เห็นนะคะ ถ้าคุณบอยไม่เลือกวิทย์ไปเล่นฟ้าจรดทราย เราก็คงไม่รู้ว่าจะได้เห็นหน้าของวิทย์อีกเมื่อไหร่ ดังนั้น น้องๆทั้งหลาย ก็ควรจะดูรายการนี้อย่างมีสติระลึกได้เสมอ ว่ารายการนี้เป็นแค่เกมที่ไม่ควรเอาจริงเอาจังอะไรกับมันให้มากนัก ไม่ว่าใครจะอยู่ใครจะไป มันไม่ได้มีผลอะไรกับใครทั้งสิ้น แม้แต่กับตัวของนักล่าฝันเอง แต่ถ้าเราดูโดยขาดสติ และกระทำอะไรที่ขาดสติลงไป เมื่อนั้น มันก็จะย่อมส่งผลกับนักล่าฝัน ซึ่งแม้ว่าเราจะไม่ชอบเขา แต่เขาก็เป็นคนๆหนึ่งที่มีจิตใจเหมือนกับเรา มีรักโลภโกรธหลง ไม่ใช่เทวดามาจากที่ไหน ลองคิดว่าถ้าเป็นตัวเราไปแข่งบ้าง ตัวเราเองจะแสดงท่าทางแบบใดออกมา ก็ขอฝากไว้เท่านี้ค่ะ
จากคุณ :
สุดา
- [
26 ส.ค. 50 16:34:48
A:58.8.168.59 X: TicketID:138330
]
|
|
|
|
|