Pantip-Cafe | Pantip-TechExchange | PantipMarket.com | Chat | PanTown.com | BlogGang.com | Torakhong.org | GameRoom


    Here's That Rainy Day : I've Got A Date With Young Blood Band : เล่าสู่กันฟัง

    25 สิงหาคม 2550

    '' Here’s That Rainy Day
    เมื่อฝนฟ้าเกเร เราขับเห่ ร้องเพลงท้าฝน
    พอเสียงดนตรีบรรเลง คงดังไปถึง ก้อนเมฆข้างบน
    สงบ สยบ จำนน ดังต้องมนต์ ของคนธรรณ์ที่บรรเลง ''


    วันนี้ฝนทำท่าเหมือนจะตก แต่ผมก็มีนัด นัดที่อยากไปมากอีกนัดหนึ่ง (ไม่แพ้นัดทานข้าวเย็นที่สยามสแควร์เมื่อช่วงต้นปีที่ผ่านมาเลย) เพราะว่าอาจจะได้เจอกับเพื่อนๆพี่ๆ และที่สำคัญก็คือนักร้องที่ผมชื่นชอบมากอีกท่านหนึ่ง โชคดีที่อะไรๆไม่ขลุกขลักอย่างที่ผมกลัว เพราะช่วงนี้เป็นช่วงที่ผมต้องบริหารเวลาให้ดีเป็นพิเศษ ซึ่งมันเป็นเรื่องยากสำหรับผมทีเดียว

    หลังจากที่เอางานไปปรินท์แถวๆมหาลัยเสร็จแล้ว ผมก็กลับมาที่ห้องพักทำโน่นทำนี่ไปอีกซักพักใหญ่ๆ มองนาฬิกาดูแล้วเห็นว่าน่าจะเป็นเวลาที่เหมาะแก่การออกจากบ้านยามบ่าย จึงรีบอาบน้ำแต่งตัวใหม่เพื่อที่จะได้ไปถึงที่งานทันเวลาเริ่มงาน ลมเย็นๆพัดโชยมา มีกลิ่นของฝนเจือมาจางๆ ผมไม่ลืมที่จะหยิบร่มคันเล็กๆยัดลงในกระเป๋าสะพายใบจิ๋วขนาด 7x7 นิ้ว รีบปั่นจักรยานออกมาจอดไว้หน้าปากซอย แล้วก็รีบขึ้นรถเมล์สายไหนก็ได้ที่จะพาผมมาถึงหน้าสวนจตุจักรเพื่อขึ้นรถไฟฟ้าบีทีเอส

    ก่อนที่จะออกมาผมโทรหาน้องพ่อมดเพื่อถามว่าจะมาด้วยกันไหม น้องบอกว่าพอดีมีงานเข้ามาต้องสะสางให้เสร็จก่อน ถ้าเสร็จทันจะตามไปสมทบ ผมวางสาย จากนั้นไม่นานผมโทรหาพี่หมีใหญ่บิ๊กบอยด์เพื่อถามว่าจะได้เจอกันที่นั่นไหม เพราะถ้าเจอกันผมจะได้นำอะไรบางอย่างไปฝาก พี่ชายใจดีของเราติดภารกิจหัวใจ มาไม่ได้อีกคน ผมมีใบหน้าของอีกหลายๆคนที่ผมอยากเจอ หลายคนที่ผมคิดถึง เบอร์โทรก็อยู่แค่ปลายนิ้วจะคลิกหา แต่บางสิ่งทำให้ผมไม่โทรหาใครที่เหลือ เวลาที่ผมคาดหวังอะไรมากๆ ผมมักจะผิดหวังเสมอ เลยพยายามทำใจสบายๆ ผมวางโทรศัพท์ลงข้างๆตัว สักพักมีเสียงโทรศัพท์เข้ามา ผมกดรับ เสียงสวยๆส่งมาตามสาย ไม่ใช่ใครอื่น เพื่อนที่แสนดีคนหนึ่งนั่นเอง
    “นี่ปุ๊ พรุ่งนี้เธอว่างหรือเปล่า?”
    “คิดว่าไม่ว่างนะ เพราะพรุ่งนี้ตั้งใจจะไปนั่งทำงานที่มหาลัย มีอะไรเหรอ จะชวนไปเที่ยวไหน?”
    “ก็จะชวนเธออกมากินไอติมงัย คือวันนี้เราคงไปเจอเธอที่ปิยรมย์ไม่ได้แล้วหล่ะ พอดีมีงานแต่งงานเย็นนี้ที่ต้องไปกะทันหัน เราขอโทษด้วยนะที่ไปด้วยไม่ได้”
    “อ้าว นี่อุตส่าห์จะเอาแผ่นคาราโอเกะโคโค่แจสไปฝากเธอตามสัญญาแล้วนะ เอาใส่กระเป๋าไว้แล้วด้วย แต่ไม่เป็นไรไอติมกินเมื่อไรก็ได้”
    “น่ารักจังเลยเธอ งั้นเอางัยดีหล่ะ แล้วช่วงอาทิตย์นี้เธอจะยังอยู่ กทม. หรือเปล่าหล่ะ?”
    “อยู่ แต่ช้าก่อน เร็วๆนี้เราจะมีข่าวดี เอาเป็นว่าเก็บไอติมไว้เลี้ยงฉลองให้เราดีกว่านะ”
    “ได้เลย งั้นแถมข้าวให้ด้วยอีกหนึ่งมื้อ แต่เธอคนเดียวนะ พี่ป็อปไม่เกี่ยว เลี้ยงไม่ไหว”
    “ฮ่าๆๆ ได้เลย”
    “งั้นแค่นี้ก่อนนะจ๊ะ บ๊าย บายจ้า ต้องไปรับลูกแล้ว”
    “จ้า โชคดีคุณแม่คนสวยของแนคกี้”

    วางสายจากมีนาแล้ว ผมก็กดเอสเอ็มเอสส่งไปให้พี่หมีบางกอกว่าเย็นนี้เจอกัน เพราะคิดว่าเย็นนี้คงได้เจอกันแน่ๆ เพราะบ้านพี่เขาอยู่แถวนั้น อีกอย่างมีนัดส่งมอบแผ่นซีดีกันด้วย

    ประมาณสถานีสะพานควายผมสังเกตเห็นพี่ผู้ชายร่างใหญ่หน้าตาคุ้นๆ มายืนอยู่ตรงหน้า สักพักมีสายโทรศัพท์เข้ามา เขาก็รับสาย โอว เสียงเขาทุ้มกังวานดีจัง นี่ถ้าร้องเพลงคงเพราะมากทีเดียว เขาคุยโทรศัพท์เสียงดังประมาณหนึ่ง ปกติผมจะไม่ค่อยปลื้มคนที่คุยโทรศัพท์ในที่สาธารณะด้วยเสียงดังจนเหมือนว่าโลกนี้มีเพียงฉันและเธอ แต่พี่คนนี้ก็ไม่ได้ถึงขนาดนั้นหรอกครับ หลังจากยืนพูดให้คนที่นั่งแถวนั้นฟังเสียงทุ้มๆนุ่มๆแล้ว พี่ท่านก็ย้ายไปเผื่อแผ่ความทุ้มนุ่มให้กับโบกี้อื่นๆ ผมจะไม่พูดถึงพี่ท่านนี้เลย ถ้าผมไม่ต้องมาเจอพี่คนนี้อีกหลังจากนั้นประมาณเกือบชั่วโมง

    ผมมาถึงงานทันเวลาพอดี นักดนตรีกำลังนั่งให้สัมภาษณ์กับสื่อที่มาทำข่าว งานนี้คลาคล่ำไปด้วยคนในวงการแจสที่คุ้นหน้าคุ้นตาผมเป็นอย่างดี ทั้งท่านที่เคยเห็นหน้าและเห็นชื่อในแผ่นซีดี ทั้งที่เคยสดับฟังเสียงดนตรีผ่านการบรรเลงของท่านเหล่านั้น อยากจะเข้าไปทักทายแนะนำตัวว่าเป็นแฟนเพลง แต่ก็เขิน เพราะนิสัยเสียๆ ที่ว่าถ้าไม่มีใครมาทักก่อน หรือไม่มีใครแนะนำให้รู้จัก ผมก็จะไม่กล้าคุยด้วยก่อน แต่ถ้ามีเรื่องที่จะต้องคุยด้วยก็จะเข้าไปคุยได้

    ลมพัดลิ่วๆ ฝนทำท่าเหมือนจะตก นักดนตรีสัมภาษณ์เสร็จแล้ว น้ามดหันมาเห็นผม เราจึงได้ทักทายกันเสียที หลังจากยืนเก้ๆกังๆอยู่นาน น้ามดกำลังยุ่ง จึงหันมาบอกว่า เพียงสายลมพัดผ่าน นั่งอยู่ตรงโน้นแหนะ น้ามดขอปลีกตัวไปเตรียมงานก่อน ผมจึงเข้าไปทักน้าเพียงฯ ตากล้องหน้าใหม่ของห้องแจส แต่วัยและฝีมือนั่นเก่าทีเดียว หึหึ โต๊ะนั้นก็มีคุณเอกเอซิดสตูดิโอนั่งอยู่ด้วย ก็ได้ทักทายอย่างเขินๆ เพราะเรารู้จักเขา เขาอาจไม่รู้จักเรา เหอะๆๆ พี่รัก อนันต์เข้ามาทักทายด้วยใบหน้ายิ้มแฉ่ง สองแก้มแดงปลั่งด้วยฤทธิ์ของยักษ์เขียว บ่ายนี้ไม่มีน้ำชาให้จิบหรือครับพี่ เหอะๆๆ อาร์มก็เข้ามาทักกันเหมือนเช่นทุกครั้งที่เจอกัน ยืนมากๆก็เบื่อ เลยชวนพี่รักหาที่นั่งใกล้ๆ เพื่อสอบถามถึง JazzLife เล่มใหม่ ก็ได้ความว่าทีมงานกำลังทำงานกันอย่างเต็มที่และกำลังมองหาทิศทางอะไรใหม่ๆ รวมถึงกำลังพัฒนาเวปไซต์ให้มีความสมบูรณ์แบบ และเร็วๆนี้จะมีปาร์ตี้จัดที่แซกโซโฟน นั่นก็คือความเคลื่อนไหวล่าสุดของ JazzLife : The Best Companion for Thai Jazz Society…

    แก้ไขเมื่อ 27 ส.ค. 50 15:38:58

    จากคุณ : 16เมษา - [ 27 ส.ค. 50 15:36:50 ]

 
 


ข้อความหรือรูปภาพที่ปรากฏในกระทู้ที่ท่านเห็นอยู่นี้ เกิดจากการตั้งกระทู้และถูกส่งขึ้นกระดานข่าวโดยอัตโนมัติจากบุคคลทั่วไป ซึ่ง PANTIP.COM มิได้มีส่วนร่วมรู้เห็น ตรวจสอบ หรือพิสูจน์ข้อเท็จจริงใดๆ ทั้งสิ้น หากท่านพบเห็นข้อความ หรือรูปภาพในกระทู้ที่ไม่เหมาะสม กรุณาแจ้งทีมงานทราบ เพื่อดำเนินการต่อไป



Pantip-Cafe | Pantip-TechExchange | PantipMarket.com | Chat | PanTown.com | BlogGang.com | Torakhong.org | GameRoom