Pantip-Cafe | Pantip-TechExchange | PantipMarket.com | Chat | PanTown.com | BlogGang.com | Torakhong.org | GameRoom


    ปารีส พิศวาส

    หากจะกล่าวถึงเพลงฝรั่งเศส ซึ่งเป็นที่รู้จักกันไปทั่วโลก คงจะไม่มีเพลงไหนเกินเพลง LA MER แปลเป็นไทยว่า ทะเล ซึ่ง ชาร์ลส์ เทรเนต์ (CHARLES TRENET) กวี นักร้อง


    นักแต่งเพลงชื่อดังเขียนไว้ในปี  ค.ศ. 1944  ขณะนั่งรถไฟจากเมือง  NARBONNE  ไปยังเมือง GARGASSONE  เขียนเสร็จภายในเวลา 20 นาที เนื้อเพลงถ่ายทอดถึงความผูกพันกับธรรมชาติสวยสดงดงามของท้องทะเลและชายฝั่ง   ซึ่งเทรเนต์ หมายถึง ทะเลเมดิเตอร์เรเนียน  ที่ไหลผ่านบริเวณใกล้บ้านเกิดในเมือง NARBONNE ด้วยเมโลดีที่เพราะหู  ฝังจับใจ คำร้องที่เรียบง่าย เมื่อเทรเนต์บันทึกเสียง LA MER ออกจำหน่ายในปี  ค.ศ.  1946 อันเป็นช่วงที่สงครามยุติลงใหม่ๆ ผู้คนโหยหาความรื่นรมย์และความสุนทรีย์ด้านสันทนาการ LA MER จึงกลายเป็นเพลงฮิต ที่ไม่เพียงแต่จะได้รับความนิยมในยุโรป   ยังแพร่กระจายไปตามประเทศต่างๆ   ทั่วโลก  ไม่นานหลังจากนั้น  แจ็ก   ลอว์เรนซ์ ได้เขียนเนื้อร้องเป็นภาษาอังกฤษ ตั้งชื่อใหม่ว่า BEYOND THE SEA มอบให้กับบ็อบบี้ ดาริน ขับร้อง กลายเป็นเพลงฮิตที่ดังไม่แพ้เพลงต้นฉบับ

    นอกจาก  LA  MER  ชาร์ลส์ เทรเนต์ ยังเขียนเพลงไว้กว่า 1,000 เพลง อาทิ  L'AME  DES POETES   (AT  LAST,  AT LAST), QUE RESTE-T-IL DE NOS AMOURS (I WISH YOU LOVE)  เป็นต้น แต่สำหรับคนฝรั่งเศสเองแล้ว  เพลงที่ได้รับความนิยมสูงสุดคงจะไม่มีเพลงไหนเกินเพลง  DOUCE  FRANCE    (ฝรั่งเศสที่อ่อนหวาน)   เขียนไว้ในช่วงฝรั่งเศสอยู่ภายใต้การปกครองของนาซีเยอรมัน ปลุกจิตสำนึก ส่งเสริมให้กำลังใจและความภูมิใจในชาติให้กลับคืนมาอีกครั้ง

    ชีวิตและผลงานของชาร์ลส์   เทรเนต์  ค่อนข้างน่าสนใจเกินกว่าจะมองข้าม  ชาร์ลส์ เทรเนต์  เกิดเมื่อวันที่  18 พฤษภาคม ค.ศ. 1913 ที่เมืองนาร์บอน (NARBONNE) เมืองเล็กๆ ในชนบททางตอนใต้ของฝรั่งเศส  ใกล้กับชายฝั่งทะเลเมดิเตอร์เรเนียน   พ่อทำงานเป็นจ่าศาล (NOTARY)  งานอดิเรกชอบสีไวโอลิน  ส่วนแม่เป็นแม่บ้าน อยู่กับเทรเนต์จนกระทั่งอายุ  4  ขวบ แล้วไปแต่งงานใหม่  ส่วนพ่อย้ายกลับภูมิลำเนาเดิม คือเมือง PERPIGNAN  ชีวิตวัยเด็กเทรเนต์อยู่กับพ่อ เรียนชั้นประถมที่ PERPIGNAN รับอิทธิพลด้านดนตรี  วัฒนธรรมด้านภาษา  บทกวีจากพ่อ สิ่งเหล่านี้กลายเป็นแรงบันดาลใจทำให้ชาร์ลส์   เทรเนต์  เขียนบทกลอนสำเร็จครั้งแรก เมื่ออายุ 14 ปี ได้ตีพิมพ์ในนิตยสาร LE COQ, CATALAN ซึ่งบรรณาธิการคือ ALBERT BAUSIL

    นอกจากเทรเนต์จะมีความสามารถด้านเขียนบทกลอนแล้ว  ยังวาดภาพได้สวยงามอีกด้วย  เมื่อ  BAUSIL  เห็นแววความสามารถ  จึงแนะนำให้เทรเนต์ไปเรียนต่อที่สถาบันศิลปะ  ACADEMIE  DES  ARTS DECORATIVES เทรเนต์ทำตาม ขณะเดียวกันเขาเข้าทำงานในฝ่ายเทคนิคของห้องบันทึกเสียง   PATHE  รวมทั้งทำงานด้านฉากละครกับนักออกแบบชื่อดัง JACQUES DE BARONCELLI

    ปี   ค.ศ. 1930  เมื่ออยู่ปารีส  ชาร์ลส์ เทรเนต์ มักเตร็ดเตร่อยู่ตามคาเฟ่และคลับย่าน  MONTPARNASSE  และ MONTMARTRE ทำให้เขามีโอกาสคุ้นเคยกับศิลปินและกวีชื่อดัง อย่างเช่น MAX  JACOB  และ  JEAN  COCTEAU  รวมทั้ง  จอห์นนี เฮสส์  (JOHNNY HESS) นักเปียโนชาวสวิส  ซึ่งอายุอ่อนกว่าเทรเนต์  2 ปี เฮสส์เคยเรียนเปียโนกับ HOROWITZ นักเปียโนคลาสสิกชื่อดัง  ภายหลังหันมาสนใจดนตรีแจ๊ส  เพราะรับอิทธิพลจากจังโก  ไรน์ฮาร์ด  และอาร์เธอร์   บริก  หลังจากคุ้นเคยระยะหนึ่งแล้ว  ทั้งคู่ตัดสินใจร่วมทีมเป็นนักร้องนักแสดงใช้ชื่อว่า  CHARLES  ET JOHNNY เริ่มแรกเฮสส์เขียนทำนอง ส่วนเทรเนต์เขียนคำร้อง แต่ภายหลังชาร์ลส์  เทรเนต์ เขียนทั้งหมด ทั้งคู่เปิดแสดงตามคลับ  จอห์นนีเล่นเปียโน ชาร์ลส์เป็นผู้ร้อง ทั้งคู่มีโอกาสบันทึกเสียงครั้งแรกในเดือนมกราคม ปี ค.ศ. 1934 บันทึกเสียงเพลงของ โคล พอร์เตอร์ รวมทั้งเพลงที่เทรเนต์แต่งเองอย่าง   เช่น  MAMAN, NE VENDS PAS LA MAISON (แม่ไม่ซื้อบ้านให้),  SOUS  LE  LIT   DE   LILY (ใต้เตียงของลิลี) และ RENDEZVOUS SOUS LA PLUIE (นัดกันท่ามกลางสายฝน)

    เนื่องจากความที่เพลงของเทรเนต์ทุกเพลงที่เขียนไว้  ฟังจับใจ เพราะหู อบอวลด้วยเมโลดีที่อ่อนหวานเรียบง่าย   คำร้องให้ข้อคิด คล้องจองเป็นบทกวี ทำให้นักร้องหลายคนในขณะนั้นสนใจที่จะนำเพลงของเทรเนต์ไปขับร้อง    อย่างเช่นเพลง    VOUS   QUI PASSEZ  SANS  ME VOIR เพลงเศร้ากับรักที่ไม่สมหวัง ชื่อเพลงมีความหมายว่าเธอเดินผ่านฉันไปโดยไม่เหลียวมอง  เมื่อ  ฌอง ซาบลัง  (JEAN SABLON) นำไปบันทึกเสียง  จุดประกายให้เขากลายเป็นนักร้องเสียงนุ่มฉายา   บิง    ครอสบี ฝรั่งเศส ส่วนอีฟ มองตองด์ ดาราภาพยนตร์และนักร้อง เข้าสู่วงการเพลงครั้งแรกในปี   ค.ศ. 1937  ด้วยการนำเพลงของชาร์ลส์  เทรเนต์ ไปบันทึกเสียง คือเพลง C'EST LA VIE QUI VA

    CHARLES  ET  JOHNNY  เปิดแสดงตามคาบาเรต์ ไนต์คลับ และโรงละคร อย่างเช่น PALACE  THEATRE ตั้งแต่ปี ค.ศ. 1933-1936 การแสดงต้องยุติลงเมื่อเทรเนต์ถูกหมายเกณฑ์ทหาร   ขณะเข้าประจำการ ยามว่างเทรเนต์ยังใช้เวลาร้องเพลงตามที่ต่างๆ อย่างเช่น โรงแรมแกรนด์ในเมืองมาร์เซล์ส เขาเริ่มเขียนเพลงอีกครั้ง หลายเพลงกลายเป็นเพลงฮิตในเวลาต่อมา   อาทิ   J'AI   TA  MAIN (ฉันมีมือเธอ) JE CHANTE  (ฉันร้องเพลง) และ Y'A D' LA JOIE (ความสนุกสนานมีอยู่ทุกหนแห่ง)

    ปี  ค.ศ. 1938  เมื่อสไตล์เพลงสวิงเริ่มเข้ามามีอิทธิพลต่อนักฟังเพลงฝรั่งเศส ชาร์ลส์  เทรเนต์ ได้เขียนเพลง BOUM ขึ้นเพื่อรับกระแสเพลงประเภทนี้ คำว่า BOUM เปรียบเหมือนกับเสียงเต้นของหัวใจ   ที่กำลังตื่นเต้นกับความรัก  เมื่อบันทึกเสียงออกจำหน่าย  BOUM กลายเป็นเพลงฮิตในฝรั่งเศส  มีผู้นำมาเขียนเนื้อร้องเป็นภาษาอังกฤษ  นักร้องชื่อดังหลายคน  อาทิ คลิฟ ริชาร์ด, แอนดี วิลเลียมส์ และแคธรีนา วาเลนเต นำไปขับร้อง

    เมื่อฝรั่งเศสอยู่ภายใต้การปกครองของนาซีเยอรมัน  (1940-1944)  ชาร์ลส์ เทรเนต์ ซึ่งสนิทสนมกับพรรคการเมืองฝ่ายซ้าย  (THE  POPULAR  FRONT) มักถูกโจมตีจากนักการเมืองฝ่ายขวา  อีกทั้งความสนิทสนมที่มีต่อเพื่อนชาวยิวอย่างเปิดเผย  ทำให้ฝ่ายนาซีเยอรมันสันนิษฐานว่าเขาสืบเชื้อสายยิว  เทรเนต์ต้องหาหลักฐานมายืนยันแก้ข้อกล่าวหา  ขณะฝรั่งเศสกำลังเผชิญหน้ากับภาวะสงคราม  ชีวิตคนฝรั่งเศสส่วนใหญ่ดำเนินอย่างปวดร้าว  เทรเนต์พยายามหนีความโหดร้าย ด้วยจินตนาการที่วาดฝันในบทเพลง DOUCE FRANCE (1943)  ถ่ายทอดความรู้สึก ความประทับใจชีวิตวัยเด็กขณะอยู่ชนบทรายล้อมด้วยธรรมชาติ แมกไม้ที่สวยสดงดงาม ปลุกจิตสำนึกกำลังใจกลับคืนสู่คนในชาติอีกครั้ง  นอกจาก  DOUCE   FRANCE ชาร์ลส์ เทรเนต์ ยังเขียนเพลงเกี่ยวกับความงดงามของผืนแผ่นดินฝรั่งเศสอยู่หลายเพลง โดยเฉพาะเสน่ห์และความสวยงามของนครปารีส  อย่างเช่น  LA  ROMANCE DE PARIS, MONIL MONTANT, QUARTIER LATIN และ COIN DE RUE เป็นต้น

    ชาร์ลส์   เทรเนต์ ได้รับสมญานามว่า LE FOU CHANTANT (THE SINGING MADMAN) เพราะชอบร้องเพลงอย่างไม่เหน็ดเหนื่อย  ส่วนตัวเขาเป็นคนโรแมนติก  เพลงรักรันทดหลายเพลงที่เขาเขียนกลายเป็นเพลงอมตะ   มีผู้นำมาใส่เนื้อร้องภาษาอังกฤษ อาทิ  QUE  RESTE-J-IL  DE  NOS  AMOURS?  (WHAT IS LEFT OF OUR LOVE?)  เทรเนต์เขียนไว้ในปี ค.ศ. 1943  จากนั้นอีก  25  ปีต่อมาในปี ค.ศ. 1968  ผู้กำกับฟรังซัวส์ ทรูโฟตต์ นำมาใช้เป็นเพลงประกอบในภาพยนตร์ เรื่อง STOLEN KISSES จากนั้น ลี วิลสัน เขียนคำร้องเป็นภาษาอังกฤษ ตั้งชื่อว่า I WISH YOU LOVE

    ชาร์ลส์   เทรเนต์  มีผลงานด้านแสดงภาพยนตร์อยู่หลายเรื่อง อีกทั้งเป็นกวี  นักกลอน เขียนบทประพันธ์ ADIEU LEONARD (1943) ร่วมกับกวีจ๊าค เปรเวร์ต บทเพลง L'AME DES POETES (วิญญาณของกวี) ซึ่งคำร้องพูดถึงบทกวี บทเพลงที่ศิลปินแต่งเสร็จจะเป็นสมบัติของประชาชนตลอดไป   ถึงแม้กวีหรือนักแต่งเพลงเหล่านั้นจะเสียชีวิตไปเป็นเวลานับร้อยปีก็ตาม ประชาชนยังคงเป็นเจ้าของสามารถนำไปอ่าน ไปร้อง ซึ่งความหมายดังกล่าวบอกถึงความใจกว้างของชาร์ลส์ เทรเนต์

    ช่วงฝรั่งเศสปลดแอกจากนาซีเยอรมัน  ในปี ค.ศ. 1944 ชาร์ลส์ เทรเนต์ ถูกห้ามไม่ให้เปิดการแสดงเป็นเวลา   10  เดือน เพราะถูกกล่าวหาว่าช่วงสงครามเปิดแสดงอยู่เสมอ เทรเนต์เริ่มเบื่อหน่ายการเมืองในฝรั่งเศส  เขาใช้เวลาส่วนใหญ่กับการแสดงคอนเสิร์ตตามประเทศต่างๆ  อย่างเช่น บราซิล เม็กซิโก ญี่ปุ่น และอเมริกา เทรเนต์ซื้ออพาร์ตเมนต์ห้องหนึ่งในนิวยอร์ก   ร้องเพลงตามคลับย่านบรอดเวย์   เขามีเพื่อนมากตั้งแต่หลุยส์  อาร์มสตรอง,  ชาร์ลี แชปปลิน  บางครั้งอดคิดถึงบ้านไม่ได้ เขาถ่ายทอดความรู้สึกดังกล่าวกับเพลง  REVOIR PARIS ช่วงทศวรรษ  1960s  กระแสดนตรีร็อกเข้ามามีอิทธิพลต่อนักฟังเพลงทั่วโลก   เลยพลอยทำให้ความนิยมในตัวเขาลดลง เขาใช้เวลาส่วนใหญ่เขียนหนังสือบันทึกความทรงจำ เทรเนต์กลับมาบันทึกเสียงอีกครั้งในปี ค.ศ. 1995 ด้วยอัลบั้มเพลงที่แต่งใหม่ทั้ง 12 เพลง ชื่อชุด FAIS TA VIE

    ถึงแม้ว่าชาร์ลส์  เทรเนต์  จะมีผลงานเพลงกว่า 1,000 เพลง ในช่วง 50 ปีที่ผ่านมา รัฐบาลฝรั่งเศสเพิ่งจะเห็นคุณค่า  ด้วยการมอบอิสริยาภรณ์  LEGION  D'HONNEUR   ให้ในปี ค.ศ. 1989  จากนั้นในปี   ค.ศ. 1998  ประธานาธิบดีชีรัก มอบอิสริยาภรณ์ชั้น  COMMANDER OF THE LEGION D'HONNEUR ใ ห้กับชาร์ลส์ เทรเนต์

    ช่วงบั้นปลายชีวิต   ชาร์ลส์ เทรเนต์ ประสบปัญหาสุขภาพ เส้นเลือดตีบตัน จนกระทั่งเสียชีวิตเมื่อวันที่   19 กุมภาพันธ์ ค.ศ. 2001 ที่โรงพยาบาลแห่งหนึ่งในปารีส ขณะมีอายุ  87  ปี  ปิดฉากตำนานนักร้องนักแต่งเพลงที่ยิ่งใหญ่ที่สุดของฝรั่งเศสในช่วงศตวรรษที่   20 ยากที่จะหาคนอื่นเทียบเท่า

    จาก..หน้าบันเทิงโดย ดำรัส โรจนพิเชฐ
    หนังสือพิมพ์ไทยโพสต์ 23 กันยายน 2550

    จากคุณ : coif - [ 23 ก.ย. 50 13:18:05 ]

 
 


ข้อความหรือรูปภาพที่ปรากฏในกระทู้ที่ท่านเห็นอยู่นี้ เกิดจากการตั้งกระทู้และถูกส่งขึ้นกระดานข่าวโดยอัตโนมัติจากบุคคลทั่วไป ซึ่ง PANTIP.COM มิได้มีส่วนร่วมรู้เห็น ตรวจสอบ หรือพิสูจน์ข้อเท็จจริงใดๆ ทั้งสิ้น หากท่านพบเห็นข้อความ หรือรูปภาพในกระทู้ที่ไม่เหมาะสม กรุณาแจ้งทีมงานทราบ เพื่อดำเนินการต่อไป



Pantip-Cafe | Pantip-TechExchange | PantipMarket.com | Chat | PanTown.com | BlogGang.com | Torakhong.org | GameRoom