ความคิดเห็นที่ 1
ม่ายยย ขอมาเสริมประเด้นเรื่องน้ำหอมนะครับ + แืทรกความรู้ให้อ่านด้วย เด้วจะฮากันอย่างเดียว อิอิ
"For me, creating this scent was like creating a song - it takes many notes to compose a fragrance. It's like a beautiful melody." Mariah Carey
คือ อ้างอิงจากในรายการ BET มีช่วงที่พิธีกรถามว่า การสร้างกลิ่นน้ำหอมเนี่ย ยากมั้ยสำหรับมารายห์? แล้วมารายห์ก็บอกว่า
"ง่ายมากคะ ไม่ยากเลยนะ จริงแล้วการสร้างน้ำหอมขึ้นมาสักกลิ่นมันก็เหมอืนกับการแต่งเพลงนะคะ เพราะแต่ละกลิ่นหลากหลายที่มาประกอบ (กลิ่นของน้ำหอม ภาษาอังกฤษเรียกว่า Fragrance Notes ครับ) เป้นน้ำหอมขวดนึงเนี่ย ก้เหมอืนกับ ตัวโน้ตในบทเพลงนะละคะ มันมีทั้ง high notes ทั้ง low notes เหมือนๆกัน จริงๆแล้วน้ำหอมขวดนี้ก็เหมือน บทเพลง เพราะๆเพลงหนึ่งละคะ"
========== แทรกเกร็ดความรู้ว่าด้วยเรื่อง กลิ่นของน้ำหอมนะฮะ ==========
อันนี้ต้องขอบคุณ ลังโคม เพราะการได้ทำงานที่ลังโคมและดูแลน้ำหอมด้วย เลยทำให้ทราบว่า จริงๆแล้วน้ำหอมขวดนึง กว่าจะได้ออกมาเป็นกลิ่นสักกลิ่นนึงเนี่ย ประกอบด้วยส่วนผสมมากมาย บางกลิ่นเนี่ย สกัดจากดอกไม้เป้นพันๆดอกก็มี (เช่น กลิ่น อูน โรส ของลังโคม สกัดจาก กุหลาบพันชนิด)ดังนั้น เรามาดูกันดีกว่า ว่า กลิ่นแต่ละกลิ่น (Scent) ประกอบด้วยส่วนอะไรบ้าง
Top Notes : กลิ่น top notes ถ้าเป็นบทเพลงเนี่ยก็เปรียบเสมือนอินโทรครับ ออกมาก่อนเพื่อนเลย แล้วก็จะหายไปอย่างรวดเร็ว เพราะว่า top notes เป็นกลิ่นที่บางเบา และจะออกมาหอมฟุ้งแค่ไม่กี่นาทีก็จางไป แต่กลิ่น top notes นั้นเป็นกลิ่นที่ทำให้คนส่วนใหญ่ตัดสินใจซื้อครับ (เพราะจะได้กลิ่นนี้ก่อนนิ) ดังนั้น โทนกลิ่นของ top notes จะเป็นแนว fresh หรือ sheer หน่อยๆ ส่วนใหญ่เราจะได้กลิ่นของส่วนนี้ตอนหลังฉีดใหม่ๆ และกลิ่นจะติดกับตัวเราแค่ 5-10 นาที แรกเท่านั้น
Middle Notes : เจ้ากลิ่น middle notes ถ้าเป็นเพลง มันก็เสมือน ท่อน Verse นั่นเองครับ คือท่อนวนไปวนมาของเพลง ที่ทำให้เราได้ติดหูร้องตามๆกันนั่นคือ นั่นแปลว่ากลิ่น middle notes จะฟุ้งให้เราได้ดอมดม หลังจากฉีดไปแล้ว ประมาณ 15 นาทีหลังจากกลิ่น top notes จางไป เราก็จะได้กลิ่น middle notes แทนครับ และมันก็จะติดทนบนตัวเรานานเป้นชั่วโมงๆเลยครับ จึงเรียกได้ว่า กลิ่น middle notes เป้นกลิ่นนางเอกของน้ำหอมนั้นๆ และจะ represent น้ำหอมนั้นๆได้ดีที่สุด
Bottom Notes หรือ Base Notes : เปรียบเป็นเพลง bottom notes ก็คือ Chorus ที่ก็จะประกบติดกับ ท่อน Verse เรื่อยๆ นักร้องร้องเพลง คอรัสก็ร้องคลอ กลิ่นที่เป็น bottom notes จะออกมาพร้อมกับกลิ่น Middle แต่ทำหน้าที่ต่างกัน เพราะ ด้วยส่วนผสมที่มักจะเข้มข้นที่สุด กลิ่นนี้จะสร้าง ความ นุ่มลึก ความสุขุม ให้กับ น้ำหอมครับ (เหมอืนเสียงคอรัสของมารายห์ ที่มักจะไม่ใช่เสียงใสแจ๋ว แต่จะมีความเป้นโซลสูง เพื่อสร้างมิติที่ลึกล้ำ และ สุขุมให้กับเพลง) อีกอย่าง กลิ่นของ bottom notes จะอยู่ทน อยู่นาน อยู่นานแล้วก็อยู่ทนมาก อิอิ หลายชั่วโมงเชียวครับ
========== ส่วนของ Top, Middle และ Bottom ของ M by Mariah Carey นั่นมีดังนี้ครับ ==========
Top: Marshmallow Middle: Tiare Flower Bottom: Amber incense
รายละเอียดเพิ่มเติม ลอง search ดูแล้ว คุณแมวเลียขน เคยโพสต์ไว้ ไปชมกันได้ครับที่ http://topicstock.pantip.com/chalermkrung/topicstock/2007/06/C5537057/C5537057.html
ปล. การเปรียบเทียบกลิ่นน้ำหอมกับส่วนต่างๆของเพลงนี่เอกเปรียบเองเพื่อทำให้เข้าใจง่ายขึ้น(หรือเปล่า?) นะครับ ยังไงอาจจะอ่านแล้วงงๆ ก็ไปอ่านเพิ่มเติมได้ที่ลิงค์ข้างล่างนะฮะ http://www.girlsguidetobeauty.com/makeupkit/8316-fragrance-notes.html
แก้ไขเมื่อ 24 ต.ค. 50 03:33:14
แก้ไขเมื่อ 24 ต.ค. 50 03:29:36
แก้ไขเมื่อ 24 ต.ค. 50 03:20:26
จากคุณ :
coombe lane's guy
- [
24 ต.ค. 50 03:16:33
]
|
|
|