ความคิดเห็นที่ 1 Fxxk Off! Free Downloader! ขำว่ะ... คงเลิกซื้อของจิงแล้วดิ Poser! จากคุณ : Milfhunter - [ 17 ม.ค. 51 14:20:16 ]

ความคิดเห็นที่ 2 ถึงจะเป็นยุคเปลี่ยนแปลงแล้ว แต่TAPE(Underground Metal)ก็ยังมีออกมาเยอะเหมือนเดิม ไหนจะแผ่นเสียงอีก ซื้อกันแทบไม่ทัน แต่มันขึ้นอยู่กับว่าเราจะฟังแนวไหน ถ้าพวกดังๆคงไม่ค่อยทำแล้ว สรุป ผมไม่รู้สึกเดือดร้อน ยังไงผมก็ไม่ตามมันอยู่ดี ตราบใดที่ยังหาซื้อFormatเดิมๆอยู่ได้ โหลดฟรีฟังเป็นตัวอย่าง หรือเพราะมันยากมากๆๆๆๆๆจิงๆ ก็พอได้อยู่ แต่โหลดฟรีทั้งที่ของจิงยังหาได้อยู่ แถมยังเอามาคุยโม้ มันน่าจะ...ไปซะ จากคุณ : Milfhunter - [ 17 ม.ค. 51 14:39:43 ]

ความคิดเห็นที่ 3 คิดแบบเดียวกับคุณข้างบนครับ ก็คงคำพูดเดิมๆ ที่เคย ๆลงไปในกระทู้ก่อนๆครับ ผมเป็นพวกคนฟัง เน้นเก็บสะสม จึงไม่บริโภคของไม่ดี หรืออะไรทำนองนั้น นอกซะจากหาไม่ได้จริง  ๆ อ่ะครับ ส่วน file mp มันสู้ของแท้ไม่ได้จริงๆ แหละครับ คุณค่าทางใจ รูปรส กลิ่น เสียงมันผิดกันเยอะ ...(ไม่พูดแล้ว พูดไปแล้วเสียอารมณ์กับคนที่ไม่รู้จักคุณค่าตรงนี้ เดี๊ยวก็ไปยาวอีก) แก้ไขเมื่อ 17 ม.ค. 51 15:10:00 จากคุณ : wicked man - [ 17 ม.ค. 51 15:00:52 ]

ความคิดเห็นที่ 4 จะดิจิตอลมากแค่ไหน ผมก็ยังต้องการซีดีอยู่ดีแหละครับ นอกจากจะมีฟอร์แมตต์อื่นๆที่ไม่ใช่แค่ไฟล์ในคอมพิวเตอร์ กระทั่งเทปผม(และหลายๆคน) ก็ยังคงเก็บเอาไว้ เพราะมันมีคุณค่าทางใจ อย่างน้อยเวลาเราไม่มีจะกินเรายังเอาไปขายได้ ...ซะงั้น จากคุณ : spontaneous - [ 17 ม.ค. 51 15:03:08 ]

ความคิดเห็นที่ 5 ผมไม่นิยมดาวน์โหลดเพลงในเพลงที่ผมมีปัญญาพอจะหาซื้อได้  ผมชอบฟอร์แมตแบบCDมากกว่า มันใจกว่า แก้ไขเมื่อ 17 ม.ค. 51 18:08:32 จากคุณ : Xelong - [ 17 ม.ค. 51 15:27:05 ]

ความคิดเห็นที่ 6 ^ ^ อืม...นั่นแหละคับพื้นๆที่สุด คือถ้ามีปัญญาพอจะซื้อได้ก็ซื้อบ้างเหอะคับ ถ้าไม่มองเรื่องละเมิดลิขสิทธิ์ ก็นึกถึงเศรษฐกิจโดยรวมคับ มันต้องมีผู้ขายและผู้ซื้อ เพื่อให้เศรษฐกิจมันดำเนิน....อัลบั้มเพลงชุดหนึ่งของวงๆหนึ่งไม่ได้มีคุณค่าแค่ใช้หู(อวัยวะ)ฟังเฉยๆเท่านั้นคับ.......ส่วนตัว..หลังจากผมซื้อซีดีซักชุดหนึ่ง ระหว่างทางกลับบ้านผมก็นั่งลูบคลำมันอย่างมีความสุขแล้วคับ....ฮา ...แล้วถ้าเรามีงานของ DT ทุกชุดแต่เถื่อนทั้งหมด จะรู้สึกยังไงน้าเวลาไปดูคอนเสิร์ตเค้าเนี่ย (อันนี้ไม่ใช่ผมนะคับ ขาดแค่สองชุดแต่คงไม่ซื้อแล้ว แค่นี้ก็แฟนตัวจริงสมฐานานุรูปล้ว) แก้ไขเมื่อ 17 ม.ค. 51 16:55:53 จากคุณ : * (โก๋โรงเรียนเก่า) - [ 17 ม.ค. 51 16:39:42 ]

ความคิดเห็นที่ 7 ิคิดว่าการดาวน์โหลดไฟล์ดิจิตอลแบบถูกลิขสิทธิ์เป็นทางเลือกที่ดีในหลายแง่ ทั้งสำหรับอัลบั้มที่หาซื้อตามแผงไม่ได้ และกรณีที่ไม่ได้ต้องการซื้อทั้งอัลบั้มเพื่อเพลงเพลงเดียว แม้คุณค่าที่จับต้องได้จะแตกต่างกัน แต่คิดว่ามันคุ้มค่าพอที่จะเลือกใช้ทางนี้ อย่างในแง่ของความคมชัดที่ว่าแตกต่างกันเหลือเกินนั้น สำหรับเรา 320 kbps ขึ้นไป (อันเป็นความละเอียดระดับที่การซื้อเพลงลิขสิทธิ์ทางอินเตอร์เน็ทส่วนใหญ่ให้มา) ก็ถือว่าคมชัดมากแล้วสำหรับเรา ณ เวลานี้ (แต่อนาคตยังไม่แน่) ยังไงก็ตาม ในส่วนของการดาวน์โหลดแบบผิดลิขสิทธิ์ ที่ทำให้คุณสูบได้วันละสิบอัลบั้ม ฟังกันจนหูพัง ก็พูดได้เต็มปากว่าเป็นเรื่องผิด ในยุคที่เทคโนโลยีเพิ่มความสามารถในการเข้าถึงข้อมูลให้คนอย่างไม่มีขีดจำกัด ก็ยิ่งทำให้คนมีความต้องการมากขึ้นเรื่อยๆ ไม่มีที่สิ้นสุด ก็คงเป็นความพอใจของแต่ละคนที่จะกอบโกยความสุขใส่ตัวให้มากที่สุดเท่าที่จะทำได้ แต่ยังไงก็ควรหยุดคิดสักนิดถึงคนที่เขาสร้างงานออกมาให้เราฟัง เราได้ทำอะไรตอบแทนที่เขาสร้างความสุขให้คุณได้บ้าง ถ้าไม่มี และมีแต่ทำให้เขาแย่ลง หรือเราเอาแต่ได้ฝ่ายเดียว ก็คงพูดไม่ได้ว่าเป็นคนรักดนตรีจริงๆ จากคุณ : Nutjung - [ 17 ม.ค. 51 16:43:19 ]

ความคิดเห็นที่ 8 ไอ้เพลงเต็มฮาดดิส3อัน อันละ200gbนี่ผมถามจริง คุรฟังมันบ้างรึเปล่า หรือสักแต่จะมี แล้วฟังแต่วงเดิมๆ จากคุณ : I Need Someone And Always - [ 17 ม.ค. 51 17:52:19 ]

ความคิดเห็นที่ 9 ผมก็โหลดนะครับ แต่เพื่อนฟังศึกษาวงไหนอัลบั้มที่ชอบก็ไปหาซื้อมา ส่วนมากก็ไปที่ร้าน ju ร้าน 666 และก็ร้าน Metal quest เพราะมันมีคุณค่าทางจิตใจกับเรา บางทีเปิดฟังก็ดูรูปปกไป อ่านบูตเลคไป อย่าว่าแต่ Cd เลยครับ Tape ต่างๆผมก็ซื้อมา จากคุณ : Life For Rock - [ 17 ม.ค. 51 18:35:24 ]

ความคิดเห็นที่ 10 600Gb เทพจิงๆ ถ้าเปิดเมทัลโหดๆ เล่นแบบrandom จะรู้มั้ยเนี่ยว่าเพลงไหนเป็นเพลงไหน- -" ฟังเพลงกับได้ยินเพลง มันไม่เหมือนกันนะครับ! จากคุณ : Milfhunter - [ 17 ม.ค. 51 19:53:55 ]

ความคิดเห็นที่ 11 คห.8 ฟังมั่งไม่ฟังมั่งคับ คห.10 รู้จักมั่งไม่รู้มั่งคับ จากคุณ : จขกท - [ 17 ม.ค. 51 19:57:06 A:58.9.224.89 X: TicketID:118525 ]

ความคิดเห็นที่ 12 พอดีฟังแต่ ร็อคเก่าๆแก่ๆ ที่ตายไปแล้ว เลยไม่เดือดร้อนที่ตามเทคโนโลยี่ไม่ทัน ตอนนี้ เลยยังนิยมเทปคาสเซ็ท และ แผ่นเสียง เหมียนเดิม... จากคุณ : blacksabbath - [ 17 ม.ค. 51 20:07:16 ]

ความคิดเห็นที่ 13 ผมซื้อ CD มาริพลง iTunes ครับ จากคุณ : เชื่อผมเหอะ แล้วดีเอง - [ 17 ม.ค. 51 21:03:10 ]

ความคิดเห็นที่ 14 "ควรหยุดคิดสักนิดถึงคนที่เขาสร้างงานออกมาให้เราฟัง เราได้ทำอะไรตอบแทนที่เขาสร้างความสุขให้คุณได้บ้าง" จากคุณ : Nutjung --------------------------------------------------------------- แล้ววันนึงเค้าก็หมดแรงจะสู้ทำงานเพลงมาให้คุณสูบ สู้ไปทำงานอย่างอื่นยังมีกินซะกว่า จากคุณ : + (saak12) - [ 17 ม.ค. 51 21:04:41 ]

ความคิดเห็นที่ 15 น่าเสียดายแทนคุณที่พลาดงานศิลปะบนปกซีดี จริงๆ :P จากคุณ : KP (Funky P) - [ 17 ม.ค. 51 21:47:44 ]

ความคิดเห็นที่ 16 โห คนที่เป็นตัวการทำลายวงการดนตรีอย่างคุณยังมีหน้ามาตั้งกระทู้แบบนี้อีกเหรอครับเนี่ย?  ไม่ได้สำนึกเลยใช่มั้ย? เทคโนโลยีต่างๆ ในปัจจุบัน เขาออกแบบมาโดยตั้งใจให้คนฟังเอาซีดีของตัวเองมา RIP เป็นไฟล์ หรือ จ่ายตังค์โหลดไฟล์อย่างถูกต้อง แล้วถึงเอาไฟล์เหล่านั้นมาฟังครับ ไม่มียี่ห้อไหนส่งเสริมให้คนโหลดไฟล์จาก bit ก๊อปไฟล์จากเพื่อน ก๊อปไฟล์จากแผ่นผีแต่อย่างใด เพราะนั่นมันเป็นการกระทำที่ผิดกฎหมาย และคุณก็คือหัวขโมยดีๆ นี่เอง เทคยโนโลยีพวกนี้ ผมก็ใช้ครับ และก็ใช้อย่างถูกวิธีตามที่มันควรจะเป็น Ipod 80GB ของผมอัดแน่นไปด้วยเพลงที่ผม rip มาจาก CD ลิขสิทธิที่ผมซื้อทุกเดือน เดือนละหลายๆ แผ่น ไม่เหมือนคุณที่ใช้เทคโนโลยีมาอ้างในการทำผิดกฎหมายอย่างหน้าด้านๆ แถมยังภูมิใจซะอีก สำหรับผม ความสุขของผมอย่างนึงคือ การที่ได้ตามหาแผ่นหายากๆ ระดับโลกหรือ แผ่นที่ผมอยากฟังจริงๆ แต่หาซื้อไม่ได้ง่ายๆ ในบ้านเรา แน่ละ มันง่ายนิดเดียวถ้าจะไปหาใน bit torrent แต่ผมเลือกที่จะไม่ทำ เพราะผมรู้ว่าการทำอย่างนั้นจะทำให้ซักวันนึงก็จะไม่มีเพลงใหม่ๆ มาให้ฟังอีกต่อไปครับ พูดไปก็เท่านั้น คนอย่างคุณมันก็คนเห็นแก่ตัวคนนึงเท่านั้นละ ไม่มีประโยชน์ จากคุณ : Headbanger - [ 17 ม.ค. 51 22:54:22 ]

ความคิดเห็นที่ 17 สิ่งที่ผมอยากจะพูดก็คือ ต้องแยกเรื่องการชอบ Format ที่จับต้องใด้ กับ การสนับสนุนศิลปินออกจากกันนะครับ ผมเป็นคนหนึ่งที่ไม่ได้รู้สึกว่าการสะสมเทปซีดีมี "คุณค่าทางจิตใจ" อะไรเป็นพิเศษ (ผมคิดว่าผมเขียนความเห็นของผมตรงๆ แบบนี้คงไม่ผิดอะไรและมีใครมาเถียง - เพราะ นี้เป็นรสนิยมส่วนตัวของผม) แน่นอนถ้าผมกลับไปนั่งดูเทปและซีดีที่วางกองกันเต็มอยู่บ้านผม ผมก็จะมีความทรงจำแต่ละอันของมันว่าผมได้มันมาได้อย่างไร บางอันผมจำได้กระทั่งกลิ่นตอนที่ผม Import มันมา (สิ่งที่น่าตลกคือ ณ ที่นี้ถ้าผมพูดถึงความหลังผมกับเทป Peacock บางม้วนก็อาจมีคนเคลิ่มส่วนหนึ่ง ในขณะที่ถ้าผมพูดถึงความหลังของผมสิ่งที่ผมดาวน์โหลดมาแบบ P2P คนคงรุมประนามผม ... ทั้งๆ ที้ทั้งคู่ก็ไม่ได้เป็นการสนับสนุนศิลปินเหมือนกัน และทำภายใต้ข้อจำกัดในการหาเพลงมาฟังในประเทศโลกที่สามเล็กๆ ภายใต้รายได้ที่จำกัดเหมือนๆ กัน - ยังไม่ต้องพูดว่าในหลายๆ ครั้งการ Download งานหายากบางชิ้นนั้นอาจลำบากยิ่งนัก ในบางครั้งอาจต้องเปิดคอมเปิดเน็ตข้ามวันข้ามคืนไว้เป็นเดือนทีเดียว ซึ่งของพวกนี้ในหลายๆ ครั้งมีเงินก็หาไม่ได้นะครับ) อย่างไรก็ดีจากผมไม่ใช่คนที่จะมองของเก่าๆ แล้วดื่มด่ำกับอดีต หน้าที่ของสิ่งเหล่านี้ในการบันทึกประวัติศาสตร์ส่วนตัวผมจึงไม่ค่อยทำให้ผมตื้นตันเท่าไร ถึงที่สุดแล้ว Function ของสิ่งเหล่านี้มันก็เอาไว้ฟังอยู่ดี ในแง่นี้ผมไม่เห็นความต่างระหว่างสิ่งที่ผมซื้อมากับมือกับการที่ผมได้ว่าด้วยวิธีการอื่นๆ (ซึ่งก็ไม่จะเป็นต้อง Download มาอย่างไม่ถูกต้อง, อาจ Download มาอย่างถูกต้อง, อาจอัดมาจากเพื่อน, อาจยืมเพื่อนมาไรท์, เพื่อนอาจไรท์มาให้, อาจยืมเพื่อนมา Rip ลงคอม ฯลฯ) เพราะ มันเอาไว้ฟังเหมือนกัน (แน่นอนผมขอย้ำอีกครั้งว่านี่คือความเห็นส่วนบุคคลผม) หลายๆ คนอาจเห็นว่าผมไม่ค่อยสนใจคุณภาพเสียง แต่มันบังเอิญจริงๆ ว่าสิ่งที่ผมชอบฟังนั้นการเปลี่ยน Format นั้นไม่ทำให้ผมรู้สึกว่าคุณภาพเสียงมันแตกต่างเท่าไรมัน "แทนกันได้" (ไม่ใช่ผมแยกไม่ออกนะ แต่มันแทนกันได้จริงๆ สำหรับผมในระดับหนึ่ง) ซึ่งผมอาจไม่มีความเห็นเช่นนี้ก็ได้ถ้าพื้นฐานการฟังเพลงของผมนั้นเป็นการฟังอะไรที่ละเมียดกว่านี้อย่าง Classical Music, Progressive Rock ฯลฯ ประเด็นต่อมาที่อยากจะพูดคือการตอบแทนศิลปินและแวดวงดนตรี แน่นอนคงไม่ต้องถกเถียงกันมากมายว่าการผลิตงานชิ้นหนึ่งๆ ออกมามันมีต้นทุน การเอาอะไรไปฟรีๆ ดื้อๆ อย่างไม่มีสำนึก (จริงๆ ผมไม่ชอบคำนี้เท่าไร เพราะ คนส่วนใหญ่ใช้คำนี้ในการบ่งถึงสำนึกแบบเดียว ผมว่ามันเป็นไปได้หลายแบบ - โปรดอ่านต่อไป) นั้นท้ายที่สุดอาจทำให้วงการเจ๊ง ซึ่งก็ดูจะไม่ดีแต่ๆ อย่างไรก็ดีการตอบแทนและให้อะไรต่อวงการดนตรีนั้นก็ไม่จำเป็นต้องเป็นการซื้อของจริงเสมอไป ผมอาจจะไปโหลดงานของวงใต้ดินประเทศอะไรก็ไม่รู้มา ผมฟังดูแล้วเข้าท่า ผมก็ไปแนะนำเพื่อนๆ ... กรณีแบบนี้ผมว่าวงได้แฟนเพลงฟรีๆ โดยไม่เสียยอดขายด้วยซ้ำ หรือ ผมอาจจะฟังงานจำนวนมากที่ download มา แล้วทำเพลงเยี่ยมๆ ออกมาบนฐานการฟังดังกล่าวก็ได้ (ซึ่งถ้าให้แฟร์พอคุณก็ต้องทำมาให้ download ฟรีๆ) ฯลฯ ทั้งหมดนี้ผมมองว่าเป็นการ Give Back ทั้งสิ้น ผมมองว่าการตอบแทนนั้นเป็นไปได้หลายแบบ นี่ไม่ได้หมายความว่าคนซื้อของที่จับต้องได้ไม่สำคัญ คุณอยากให้มีสิ่งเหล่านี้ต่อไปคุณก็ซื้อมัน เป็นสิ่งที่ถูกต้องแล้ว นอกจากนี้แล้วถ้ามองในแง่ของการแทนที่ (Substitution) การมีช่องทางให้เราดาวน์โหลดนั้น เป็นการเปิดโอกาสให้เราเข้าถึงงานได้จำนวนมากแบบฟรีๆ ซึ่งจากตรงนี้มันทำให้เราเลือกได้ว่าเราจะสนับสนุนอะไร คือ เราเลือกซื้อในสิ่งที่เราอยากสนับสนุน ทั้งนี้ผมคิดในฐานที่ว่า สำหรับนักฟังเพลงนั้นมันจะมี "งานบังคับ" ส่วนหนึ่งที่ต้องฟัง (ทั้งๆที่อาจไม่อยากฟังเท่าไร) และ มีงานที่ชอบส่วนหนึ่งที่อยากสนับสนุน ซึ่งสิ่งที่ผมอาจจะบอกตรงนี้คือ มันสมเหตุสมผลมากๆ ที่คุณจะหาทางฟังงานบังคับโดยใช้ต้นทุนที่น้อยที่สุด และเอาเงินที่ได้มาจากการประหยัดนั้นมาโปะสนับสนุนกลุ่มงานที่คุณชอบ นี่เป็นเหตุผลหนึ่งที่บางคนไม่จ่ายเงินให้งานแบบ Major เลย แต่เอาเงินมาลงให้วงการ Underground มากกว่า เหตุผลที่อาจมากไปกว่านั้นก็คือหลายๆ คนนั้นเกลียด Major คิดว่าจะนำเสนอแง่มุมที่ต่างออกไปในที่นี่แค่นี้ครับ อ้อ ผมเชื่อว่าเด็กๆ รุ่นใหม่ในปัจจุบันนั้น ในอนาคตก็คงต้องมีวันที่หวนรำลึกถึงการ Download ในแบบปัจจุบันเป็นแน่ (ผมมันใจว่าสักวันมันจะเป็นอดีต แต่อะไรจะมาแทนผมไม่รู้) อีกหน่อยคนที่ Download ทัน Napster นั้นอาจจะเป็นสิ่งที่คล้ายๆ นักฟังเพลงที่ทันเทป Peacock ในสมัยเราๆ ก็ได้ครับ แก้ไขเมื่อ 17 ม.ค. 51 23:14:36 จากคุณ : FxxkNoEvil - [ 17 ม.ค. 51 23:12:59 ]

ความคิดเห็นที่ 18 ของสะสม?ถ้าจับต้องได้ก็มีแค่ 3 ชิ้น(harddisc) ปกก็ไม่มี!สุดยอดCollection! งานดรีมฯ,ฮาโลวีน อย่าลืมเอา harddisc ไปขอลายเซ็นนะจ้ะ เอิ้กๆๆ จากคุณ : milfhunter (Milfhunter) - [ 17 ม.ค. 51 23:15:45 ]

ความคิดเห็นที่ 19 แบบว่า ยัง พกกล่องซีดีหลายสิบแผ่น ไปฟังอยู่ เพราะไม่ ไอพอด  โหลด อะไรก็ไม่เป็น หลังเขามากๆ   แต่มีความสุขดี  ที่ได้อุดหนุน ศิลปินที่รัก มันน่านับถือกับความทันสมัย ทันยุคทันโลก ของ จขกท เสียจริงๆ  ถ้า คนคิดแบบนี้ทั้งโลก ต่อไป ศิลปินหมดกำลังใจทำงาน ไม่มีอะไรใหม่ๆมาให้ฟัง เซ็ง แย่ จากคุณ : Modster - [ 17 ม.ค. 51 23:19:27 ]

ความคิดเห็นที่ 20 เสริมนิด สิ่งที่ผมอยากให้เกิดขึ้นก็คือ 1. การขายงานใน Format ที่หลากหลาย - คือถ้าผมไม่ได้เห็นคุณค่าของปก หรือการเก็บแผ่นที่จับต้องใด้ คุณก็ควรจะมีช่องทางให้ผมโหลดแบบจ่ายตังในแบบที่ถูกกว่า (จะเป็นเท่าไรก็ว่ากันอีกที) คือ ถ้า Technology มันเอื้อได้ ผมต้องการน้อยผมก็ควรจะจ่ายน้อย (ในระดับหลักการไม่ต้องพูดถึงการไม่จ่าย เพราะโดยทั่วไปมันไม่ใช่สิ่งที่ถูกอยู่แล้ว) มองในแง่ของ Marketing มันคือ Segmenting ที่แบ่งลูกค้าออกเป็นกลุ่มๆ ที่แต่ละกลุ่มต้องการสิ้นค้าที่ต่างกัน ซึ่งตรงนี้ระบบการเสนอขายและระบบจ่ายเงินก็น่าจะมีประสิทธิภาพขึ้นเพื่อความสะดวกของทุกๆ ฝ่าย (เพราะ ถ้าไม่สะดวกคนก็ไม่ใช้) 2. ผมคิดว่างานควรจะหมดลิขสิทธิ์เร็วกว่านี้มากๆ - แน่นอนถ้าคุณตามเรื่องระบบลิขสิทธิ์ในอเมริกาคุณก็จะรู้ว่าเรื่องพวกนี้มันเป็นเรื่องผลประโยชน์ของบรรษัทยักษ์ใหญ่ที่มีเงินจ้างพวก Lobbyist ล้วนๆ การหมดอายุของลิทสิทธิ์นั้นเดิมนับหลังจากผู้สร้างสรรค์งานตายไป 50 ปี ก็ถูกดันเป็น 70 ปี ตัวอย่างเช่น Robert Johnson (ซึ่งแต่งเพลงเอง เล่นดนตรีเอง) นั้นตายในปี 1938 ภายใต้กฎหมายแบบเก่านั้นในปี 1988 นั้นงานของ Johnson ก็ตกเป็นของสาธารณะทั้งหมด หมายความว่าทุกๆ คนเป็นเจ้าของลิขสิทธิ์ ดังนั้นเราจะ Download ผ่าน Program P2P ก็ไม่มีใครเอาผิดเราได้ เพราะ เราก็เป็นเจ้าของลิขสิทธิ์ผลงานดังกล่าว อย่างไรก็ดีเมื่อกฎหมายใหม่ออกมางานที่เคยจะเป็นของสาธารณะในปี 1988 ก็กลายเป็นของสาธารณะในปี 2008 เป็นต้น (ตัวอย่างผมอาจไม่ดีนัก ต้องขอโทษจริงๆ ผมไม่ใช่นักกฏหมาย แต่คิดว่าประเด็นนี้เป็นเรื่องสำคัญจึงต้องนำเสนอ) นี่ทำให้งานทั้งหลายเป็นของสาธารณะล่าช้าไปอีก และก็อาจช้าไปอีกเรื่อยๆ ถ้าพวกนี้ Lobby การออกกฏหมายอีก ผมคิดว่าหลังผู้สร้างสรรค์ตายไป 70 ปี หรือการทั่ง 50 ปี (เป็นเกณฑ์ทั่วๆ ไป ไทยก็ใช้อย่างนี้) นั้นเป็นเวลาที่นานไป ถ้าถามผมจริงๆ ผมอยากให้เปลี่ยนเป็นงานนั้นหมดลิขสิทธิ์หลังจากสร้างสรรค์ 50 ปีด้วยซ้ำ (ถ้าเป็นเช่นนั้นจริงตอนนี้เราก็จะทยอย Download งานของศิลปินในยุคบุกเบิก Rock N' Roll ได้อย่างถูกกฏหมายแล้ว - จริงๆ ผมก็ไม่เห็นใครจะบอกว่าการ Download นั้นจะทำร้ายศิลปินในยุคนี้ ... ผมว่าส่วนหนึ่งข้อโต้แย้งของผู้ต่อต้านการดาวน์โหลดจำนวนมากนั้นจะเหมาะสมที่จะใช้กับศิลปินที่ผลิตผลงานอยู่เท่านั้น) อย่างไรก็ดีถ้ามองว่าการกลับขั้วแบบนี้เป็นไปใด้ยากในทางปฏิบัติ ผมก็อยากลด 50 ปี 70 ปี ลงให้มากที่สุด ให้เหลือสัก 20 ปี 10 ปี 5 ปี หรือกระทั้งให้งานนั้นเป็นของสาธารณะไปพร้อมกับการตายของผู้สร้างสรรค์ผลงาน ที่ผมยกประเด็นนี้ก็อยากให้เราๆ ท่านๆ นั้นหันมามองว่า ในบริบทที่การละเมิดลิขสิทธิ์นั้นเป็นปกติจนหลายๆ ฝ่ายต้องออกมาปกป้องนั้น ตัวกฏหมายลิขสิทธิ์เองในหลายๆ ครั้งก็ดูจะเอื้อประโยชน์ให้กับเจ้าของลิขสิทธิ์มากเกินไปเช่นกัน (คือต้องไม่ลืมว่าแนวคิดพื้นฐานของกฏหมายลิขสิทธิ์นั้นไม่ใช่การให้สิทธิส่วนบุคคลโดยสมบูรณ์กับผู้สร้างสรรค์ผลงาน แต่เป็นการพยายามจะสร้างสมดุลระหว่างสิทธิส่วนบุคคลกับสิทธิสาธารณะในงานที่ผลิตออกมามากกว่า กล่าวคือ ต้องมีหลักประกันเบื้องต้นที่จะจูงใจให้คนผลิตผลงาน ในขณะเดียวกันก็ต้องมีมาตรการที่จะทำให้สังคมโดยรวมนั้นสร้างสรรค์ขึ้นได้อย่างมากที่สุดจากงานเช่นกัน - ซึ่งจริงๆ ต้องพูดถึงหลักการใช้อย่างเป็นธรรม หรือ fair use อีก แต่คงจะยาวเกินไปในที่นี้) ซึ่งผมว่าสิ่งเหล่านี้ก็ต้องคิดและสู้ไปพร้อมๆ กัน จากคุณ : FxxkNoEvil - [ 17 ม.ค. 51 23:45:55 ]

ความคิดเห็นที่ 21 ถ้าชอบในตัวอัลบั้มหรือศิลปินนั้นจริงๆ อารมณ์อยากได้สื่อที่จับต้องได้มันจะตามมาเองครับ ส่วนเรื่องเทคโนโลยีการฟังเพลงปัจจุบันผมว่ามันก็ดีนะ ยังหาข้อเสียของมันไม่เจอเลย ชัดเท่ากัน แต่สะดวกกว่ากันเยอะ ฟัง CD กับฟังสื่อ Loseless ผมยังหาความแตกต่างไม่เจอเลย ถ้าพูดถึงพฤติกรรมการฟังเพลงสิ ถึงจะต้องถกกันต่อไป จากคุณ : Thrasher Maniac - [ 18 ม.ค. 51 00:01:20 ]

ความคิดเห็นที่ 22 อ้อ นึกออกอีกเรื่อง ผมไม่คิดว่าคนที่โหลดเพลงมาฟังเยอะๆ ถึงขนาด Hard Disk เต็มแล้วเต็มอีกจะมีความสุขกับการฟังเพลง ผมค่อนข้างไม่เชื่อว่าจะสามารถฟังได้ทันโหลด เกิดอาการสำลักได้ง่ายๆ (แต่ไม่ได้หมายความว่าผมจะไม่ได้เห็นว่าการเจียดเงินซื้อแผ่นของคนรายได้น้อยๆ แต่อยากฟังมากๆ จะไม่ใช่การขาดแคลน) ยังไม่ต้องพูดถึงภาระที่ต้องเอาสิ่งที่ล้น Hard Disk ออกมาเรื่อยๆ อีก ความเร็วและภาระแบบนี้ดูจะไม่สนุกแน่ๆ กับคนที่คุ้นเคยในการนั่งเอนกายกระดิกเท้าชิลๆ หน้า Stereo พร้อมๆ กับอ่าน Booklet ไปพร้อมๆ กัน อย่างนั้นสบายกว่าแน่ๆ แต่นั่นแหละคำถามคือ คุณฟังไปทำไม? ผมไม่คิดว่าฟังเพื่อความสบายอารมณ์ ฟังเพื่อความสุข จะเป็นคำตอบในทุกกรณี? ผมเชื่อว่านักฟังเพลงจำนวนมากฟังเพลงด้วยความสงสัยใครรู้ ฟังเพลงด้วยความกระหายงานใหม่ๆ อย่างต่อเนื่อง (ขอปรบมือให้คนที่ยังมีอยู่ เพราะ ผมไม่ค่อยมีแล้ว) ซึ่งผมว่าถ้าฟังด้วยเป้าหมายเหล่านี้แล้ว การเลือกปริมาณมากกว่าคุณภาพ ก็ดูจะเป็นเรื่องสมเหตุสมผลดีอยู่ จากคุณ : FxxkNoEvil - [ 18 ม.ค. 51 00:01:23 ]

ความคิดเห็นที่ 23 55+ พูดถึง Napster เราก็มีความหลังกับมันเหมือนกัน เรื่องนี้ว่ากันไม่ได้จริงๆ เรื่องในอดีตยังไงมันก็มีสิ่งที่เขาเรียกกันว่า "คุณค่าทางจิตใจ" ให้กับแต่ละคน จากคุณ : Nutjung - [ 18 ม.ค. 51 00:01:50 ]

ความคิดเห็นที่ 24 "ถ้าชอบในตัวอัลบั้มหรือศิลปินนั้นจริงๆ อารมณ์อยากได้สื่อที่จับต้องได้มันจะตามมาเองครับ" อืม ผมว่าไม่เสมอไปนะ (ถึงแม้ว่าโดยทั่วไปผมจะโตมาในความคิดคล้ายๆ แบบนั้น) ผมว่าคนรุ่นใหม่ๆ ที่โตมาอาจมีสำนึกตรงนี้ต่างไป อย่างไรก็ดีผมว่าสื่อที่จับต้องใด้ก็มีต้นทุนของมันนะ ลองคิดดูในกรณีที่ต้องเลือกระหว่างซื้อสื่อ Digital ที่ถูกกว่ามากๆ กับซื้อสิ่งแบบจับต้องได้ที่แพงกว่ามากๆ ตัวอย่างง่ายๆ CD วง XXX นั้นอาจราคา 400 บาท แต่ถ้าดาวน์โหลดทั้งอัลบั้มมาอาจคิดราคาราว 100 บาท สำหรับผมนั้นผมอาจพิจารณาอันหลังนะครับ (แน่นอนที่ภายใต้เงือนไขว่าเรามีทรัพยากรที่จำกัด) ผมคิดว่าแทบจะไม่ต้องถกเถียงกันเลยครับถ้าต้องเสียต้นทุนเท่าๆ กันแล้วให้เลือกสื่อ Digital หรือสื่อจับต้องได้ คนแทบจะ 100 ทั้ง 100 ก็คงเลือกอย่างหลัง ผมก็เลือก แต่ถ้าเอาต้นทุนที่ต่างกันมาคิดดูผมก็ว่าเป็นอีกแบบครับ ซึ่งก็คงต้องพิจารณาเป็นกรณีๆ ไป (ที่ปัจจัยอย่างต่ำๆ ที่ต้องนำมาคิดก็เช่น ความต่างของราคา, ความเข้มข้นของความชอบ เป็นอาทิ) พูดถึงวงที่ชอบๆ งานที่ชอบๆ จะว่าไปผมมีแทบทุกอย่างเลยนะเนี่ยทั้ง เทปผี, เทปจริง, CD ผี, CD จริง, VDO,VCD ขาดแต่ไวนีลและเลเซอร์ดิสต์กระมัง (อย่างไรก็ดีผมก็รู้สึกตลกตัวเองเสมอที่ซือมาซ้ำซ้อนแบบนั้นแทนที่จะเอาเงินไปทำอย่างอื่น ถ้าให้ผมมองตอนนี้ผมก็คงมองว่าเป็นความคะนองของวัยหนุ่มกระมัง) จากคุณ : FxxkNoEvil - [ 18 ม.ค. 51 00:14:21 ]

ความคิดเห็นที่ 25 ผมยอมรับว่าผมเป็นคนเห็นแก่ตัว แต่ก็อยากพูดอะไรนิดนึง ตอนนี้ผมเป็นนักศึกษาเพิ่งจบใหม่ เงินเดือนยังไม่ถึงหมื่นเลย แต่ชอบฟังเพลง ผมไม่แก้ตัวอะไรนะ ผมอาจจะคิดไม่เหมือนคนอื่น เรื่องปกซีดี ปกเทป ผมก็ไม่เคยมาเปิดดู คือซื้อมาก็ฟัง(สมัยก่อนฟังกับwalkman) ยิ่งตอนนั้นยังเรียนหนังสือผมต้องซื้อเพลงฟังเดือนเป็นพัน(ได้แค่3-4วงต่อเดือน คืออยากได้ไปหมด) ซีดีสมัยก่อนสากลถูกสุดก็399บาท เดี๋ยวนี้ไม่รู้ราคานี้รึปล่าวเพราะไม่ได้ซื้อมา3-4ปีได้แล้ว อัลบัมสุดท้ายที่ซื้อคือ The Killersชุดแรก ซื้อมาก็RIPลงคอม ลงIpodอยู่ดี แผ่นก็เก็บเข้าตู้ ตอนนี้แผ่นเป็นร้อยแผ่นฝุ่นจับหมดแล้ว เทปเป็นร้อยๆม้วนก็แพคลงกล่องเบียร์ช้างเพราะมันเต็มห้องไปหมด เครื่องเล่นเทปก็เสียไปนานแล้ว แล้วผมคงไม่มานั่งกรอ นั่งฟังหมดม้วนก็ต้องกลับด้าน ตอนแรกผมก็ไม่ค่อยนิยมโหลดหรอกครับเพราะตอนแรกๆยังหาไม่ค่อยเก่ง แต่พอเก่งขึ้นๆ หาโปรแกรมDL มามากขึ้นเช่นBittorrent,soulseek เป็นต้น ทำให้หาเพลงได้ ผมเลยไม่ต้องซื้ออีกต่อไป ไม่ใช่แค่เพลง รวมทั้งDVDคอนเสิร์ตเอย โปรแกรมsoftwareเอย เกมส์เอย (ผมเพิ่งโหลดFM2008มาเล่นเอง) ขนาดหนังAV ก็ยังมีให้โหลด(อิอิ) ผมสามารถมีตังค์ไปดูหนังในโรงทุกสัปดาห์ ซื้อการ์ตูนอ่าน หรือ เก็บเข้าธนาคารก็ได้ ผมอาจเห็นแก่ตัว แต่ผมก็เขียนข้อดี 1.สามารถมีตังค์เก็บ ได้เป็นพันๆต่อเดือน สมารถเอาเงินไปทำอะไรก็ได้ 2.ไม่ต้องตามล่าอัลบัมที่ไกลๆ ไปร้านไกลๆบ้าน โดยไม่รู้ว่าจะมีหรือไม่ 3.ไม่ต้องง้อค่ายเพลงว่าจะimportหรือปั๊มขายหรือไม่ 4.สามารถหาเพลงทุกเพลง วงทุกวงในโลกได้ ผมไม่ได้เวอร์ (ตอนที่ผมยังซื้อซีดี ซื้อเทปอยู่ผมเคยตามหาวงBritpopวงนึงชื่อVenus หามาไม่รู้กี่ร้านต่อกี่ร้าน หามาตั้งแต่ม.ต้น จนมหาลัย ไม่เคยหาเจอ จนผมรู้จักbittorrentแค่นั้น ผมก็สามารถหาได้) 5.ไม่ต้องกัดฟันซื้ออัลบัมที่อยากได้ในราคาแพงๆ บางแผ่นราคา3000 (อะไรจะราคาเวอร์ได้ขนาดนั้น) 6.ได้ค้นพบวงใหม่ๆ แนวใหม่ๆ หรือเปิดโลกอดีตกับวงที่ไม่เคยรู้จักมาก่อนได้อีกมากมาย และ 7.จะสร้างจิตสำนึกที่ดี มันก็สายไปแล้วครับ มันก็เป็นกันทั่วโลกแหละ จากคุณ : จขกท - [ 18 ม.ค. 51 00:45:03 A:58.9.224.89 X: TicketID:118525 ]

ความคิดเห็นที่ 26 เห็นด้วยกับคุณ FxxkNoEvil ผมก็ไม่ใช่คนหัวรั้นอะไร ผมก็ฟังไม่ทันโหลดจริงๆนั่นแหละ บางวงฟังรอบเดียว บางวงโหลดมายิ่งวงใหม่ๆไม่รู้จัก บางวงยังไม่ได้ฟังด้วยซ้ำ บางวงโหลดมามันก็อันเดอร์กราวน์ไปบ้างหูไม่ถึง เมเจอร์ไปบ้างก็กระแด๊ะไม่ฟังมันอีก และเกินครึ่งที่โหลดมาฟังแต่ตัวซิงเกิลมัน ก็เคยแรนดอมเล่นแบบrepบนได้บอกเหมือนกัน ฟังผ่านๆบางทียังไม่รู้ใครร้องเพราะมันมีเยอะเหลือเกิน อันนี้ผมไม่ได้โม้(ถ้าไม่นับเกมกับav555ในฮาร์ดิส) ในฮาร์ดดิส3ตัวมีเพลงถึง6หมื่นกว่าเพลง ใครมันจะบ้าฟังหมด เพราะผมโหลดหมดอะ(เมทัล โมเดิร์นร็อค ร็อคแอนด์โรล บริทป็อป อีเลคโทร พังค์ สกา ฮิปฮอป แจ๊ส โหลดมันได้ทุกแนว) จากคุณ : จขกท - [ 18 ม.ค. 51 00:58:11 A:58.9.224.89 X: TicketID:118525 ]

ความคิดเห็นที่ 27 แน่นอนข้อดีที่จขกท ว่ามา มันดีต่อตัวเราเองทั้งนั้น (ต่อตัวเราเองแต่เพียงผู้เดียว) ก็อย่างที่หลายคนเขาร่ายกันมานานแล้วว่า ถ้าศิลปินเขาไม่ได้อะไรกลับคืนจากผู้บริโภค เขาก็อยู่ไม่ได้เหมือนกัน เรื่องของอายุลิขสิทธิ์เพลงน่าจะเป็นประเด็นรองออกไป แต่ตอนนี้มองเห็นเรื่องนึง นอกจากการดาวน์โหลดฟรีโดยไม่เคยซื้องานที่เราชอบ จะไม่ให้อะไรแก่ตัวเจ้าของงานเลยแล้ว เรายังเอาเงินไปให้ที่อื่นเสียอีก เช่นบริษัทขายฮาร์ดดิสก์ หรือสมัครเว็บดาวน์โหลดไฟล์ เงินก็ไปตกอยู่กับเจ้าของเว็บ ส่วนผู้ผลิตงานก็ไม่ได้อะไรสักนิด อย่ามองว่า ไอ้คำว่าการสร้างจิตสำนึก เป็นเรื่องกระแดะน่าเบื่อที่ไม่มีวันเป็นจริง แค่อยากให้นึกถึงความเป็นจริง ง่ายๆ ก็ลองสมมติตัวเองสร้างงานอะไรก็ตามออกมา แล้วมีคนเอาไปเสพ เอาไปใช้ โดยไม่สนใจจะให้อะไรตอบแทนกับเราเลย แถมเผลอๆ ยังเอาไปหาเงินเข้าตัวอีกต่างหาก เอาง่ายกว่า คุณไปทำงาน แต่ไม่ได้เงินเดือน คุณจะอยู่ยังไง แค่นั้นแหละ คิดว่าคนทั้งโลกคงไม่ได้เป็นอย่างที่คุณ จขกท เข้าใจ ไม่อย่างนั้นวงการเพลงบ้านเมืองเขาคงซบเซาเหมือนบ้านเรา และต้องมาออกแคมเปญต่อต้านการละเมิดลิขสิทธิ์กันปาวๆ (อาจจะมีบ้างในบางประเทศที่ยังมีปัญหาความยากจนอยู่มาก << จุดนี้คงแก้ยาก) เรื่องหนึ่งที่อาจจะเปิดโอกาสให้คนแถวนี้ (ที่ยังพอจะมีความคิดอยากช่วยสนับสนุนศิลปิน) ยังคงต้องพึ่งพาของเถื่อน อาจเป็นเพราะเทคโนโลยีการซื้อเพลงลิขสิทธิ์ทางอินเตอร์เน็ท ยังมาไม่ทั่วถึงทุกภูมิภาคของโลก อย่าง iTunes Store, Amazon mp3 หรือของมายสเปซ ก็ยังรองรับการซื้อจากเพียงบางประเทศเท่านั้น ในส่วนนี้ก็คงจะต้องรอกันต่อไป เมื่อถึงเวลาที่เราสามารถซื้อเพลงจากทั่วโลกได้อย่างสะดวกแล้ว ข้อดีข้อ 2-6 ที่ จขกท เขียน ก็คงเป็นอันต้องตกไป เหลือแค่เรื่อง จิตสำนึก ที่ว่าสร้างยาก กับ การให้ความสำคัญกับดนตรีทีหลังเรื่องอื่น อยากเอาเงินไปเสียให้อย่างอื่นมากกว่าดนตรี เพราะความคิดนี้คงจะเปลี่ยนยากมากจริงๆ เพราะมันมากับสภาพเศรษฐกิจ สังคม ระบบการศึกษา การปลูกฝังความคิดให้กับประชาชน ของประเทศเรา บลาๆๆๆ... จากคุณ : Nutjung - [ 18 ม.ค. 51 02:39:43 ]

ความคิดเห็นที่ 28 คุณ FxxkNoEvil  เขียนได้ดีมากคับ จากคุณ : 5150_b - [ 18 ม.ค. 51 07:05:47 ]

ความคิดเห็นที่ 29 ทุกวันนี้ก็ยังนิยมฟังเพลงจาก CD อยู่ครับ แบบว่า บ้าเครื่องเสียงด้วย เนี่ยก็กำลังเก็บเงินซื้อ เครื่องเล่นแผ่นเสียงกับ ปรี Phono ดีๆอยู่ครับ จากคุณ : melodic - [ 18 ม.ค. 51 08:05:53 ]

ความคิดเห็นที่ 30 ถ้ามีจิตสำนึกรักศิลปินกันระดับ Die hard เขาก็เลือกที่จะเก็บซีดีกันไป ยอดขายก็มีส่วนนะที่ศิลปินจะเลือกว่าจะมาทัวร์ที่นั่น ที่นี่เหรอไม่? และเป็นข้อดีสำหรับนักสะสมจริง ๆ เพราะถ้าคุณแบกฮาร์ดดิซมาอวย / โชว์เพื่อน คงไม่เข้าท่าแน่ ๆ แต่ถ้าพวกคุณ ประเทศคุณ เมืองคุณ ไม่ใช่ ศิลปินเหล่านั้นก็คง Say No... เช่นกันแหละครับ ...+! ศิลปินนักดนตรีก็เฉกเช่น ศิลปินจิตรกรแหละครับ หากงานเขียนของเขาเกินขายไม่ได้ มีแต่คนชม หรือแค่สนใจ หรือถ่ายภาพไว้แต่ไม่ได้ซื้อผลงานศิลปินก็......(ระเว้นไว้ในฐานที่เข้าใจครับ) PS. กล้าพูดว่าชื่นชอบเขาได้ไง ทั้งๆที่คุณยังโหลดมาและไม่เคยคิดจะซื้อผลงานของเขาเลย . แก้ไขเมื่อ 18 ม.ค. 51 09:04:34 จากคุณ : wicked man - [ 18 ม.ค. 51 08:56:01 ]

ความคิดเห็นที่ 31 -เพ่ๆ ผมจะหัดแกะเพลง เอาเพลงไรดี I Can't Tell ของ อีเกิ้งไง ง่าย ,เพราะ ,สาว(แก่) กรี้ด ด้วย 2 วันต่อมา ไหน แกะมายัง -โหลดมาแล้วแต่ ผมว่า Hotel เจ๋งกว่าเยอะ เลย ยิ่ง Ver. Hell Freeze นะ ...เปลี่ยนเป็นเพลงนี้ดีกว่า อืม 1 อาทิตย์ต่อมา -พี่ฟัง DT ชุดใหม่ยัง ยังเลย -ผมเพิ่งโหลดมา เนี่ย Constant Motion เจ๋งสุดๆ แล้วผมจะหามือกลองมาตีให้ได้มั้ยเนี่ย 1 เดือนต่อมา -พี่ๆ เพลง In The Presence เขาเล่น 7/8 กับ 6/8 ด้วยเจ๋งอ่ะ -Solo กลางอย่างหวาน พี่ถ้าเล่นเพลงนี้ไม่มี Key Board มันจะ Work มะ เล่น 4/4 ให้มันไม่คร่อมก่อนเหอะ -เออ พี่ Rush นี่เจ๋งมั้ย ผมจะหามาฟัง ดีทุกชุดแหล่ะ -โอเค เดี๋ยวผมโหลด Discograp เลยละก้น -พี่เพลงไทยสมัยนี้ห่วยแตก หว่ะ ไม่พัฒนาเลย เล่นซ้ำซากไปมา -อาศัยขายหน้าตาอย่างเดียว พี่ว่า Big Ass ก็ไม่เห็นมีใครหล่อเลยนะ -โห.. ยิ่ง Big Ass นะ ไม่เห็นมี Solo เลย ฝีมือ งั้นๆ กระแสพี่ ....Emo กะลังมา แล้ว Emo นี่มันเป็นยังไง - มันมาจาก Emotion งัยพี่ คือแบบเป็นดนตรีที่ ต้องใช้อารมณ์เล่น แล้ว Blues มันไม่ใช้อารมณ์เล่นหรือไง เล่นดนตรีมันก็ต้องใช้อารมณ์ทั้งนั้นแหล่ะ -Blues นี่ฟังของใครดีครับ แกะ Hotel มายัง ลูกมันจะประมาณนั้นแหล่ะ -ยังเลยพี่ ช่วงนี่ผมสอบไม่ค่อยมีเวลา เอางี้ดีกว่ามา Jam เพลงกัน @#$%^^&&**(*&^^%$ เอ้ย ไมมันเพี้ยนยังงั้นหน่ะ -Feel ไงพี่ By Heart แต่พี่ว่าเราเล่น ผิด Key นะ -โหพี่จะเอาอะไรกับดนตรี ดนตรีไม่มีผิดมีถูก เมื่อตะกี๋ แกเล่นอะไรมั่ง ไหนลองบอกมาซิ -ไม่รู้เหมือนกันพี่ผมก็ไหลไปเรื่อย แกไม่รู้ว่าแกเล่นอะไรนั่นแหล่ะ คือเล่นผิด -แต่ดนตรีไม่มีผิดมีถูกไม่ใช่เหรอพี่ ถูกครึ่งเดียว...เออใช่สำหรับคนอย่าง Pat Metheny ดนตรีมันไม่มีผิดมีถูก แต่สำหรับนาย มันยังไม่ถึงเวลา คือมันไม่มี แต่มัน มี -ผมไม่เข้าใจ ห้ามเข้าใจ นายต้องรู้ด้วยตัวเอง อย่าได้แต่ฟังเขาพูดมา อ่านมา หรือแม้แต่คิดตาม นายต้องลงมือ -ว่าแต่ Pat Metheny ฟังชุดไหนดีอ่ะ Hard Disk ผมจะเต็มแล้วจะได้เลือกโหลดเป็นชุดๆไป นายแกะ Hotel ก่อนแล้ว ฉันจะบอก ... ... ... ... ตอนนี้น้องเขากำลังซ้อม "เล่นของสูง" อยู่ เสียงเขาลอยมาแต่ไกล "อ.ตุ้ม บอกว่า เล่นดนตรีต้องมีความสุขครับพี่" จากคุณ : เจ็บ...ใจ - [ 18 ม.ค. 51 10:09:16 A:125.27.79.72 X: TicketID:114114 ]

ความคิดเห็นที่ 32 ฺิBulldozer!! จากคุณ : Milfhunter - [ 18 ม.ค. 51 10:10:02 ]

ความคิดเห็นที่ 33 เห็นด้วยกับคุณ Fxx ในหลายประเด็น เช่น - เรื่องราคาของสื่อที่จับต้องใด้ ผมเป็นคนสะสม CD ครับ ส่วนใหญ่จะ Import ด้วยซ้ำ เพราะในไทยดันไม่ทำวงที่ผมชอบซื้อ แต่ว่าผมมักจะมีปัญหาว่าแผ่นที่จะซื้อ บางครั้งมันแพงมากและหายากอย่างน่าแปลกใจ บางแผ่นตอนนี้ยังหาซื้อ (ในราคาที่ถูกพอ) ไม่ได้เลยด้วยซ้ำ เช่น Setherial อัลบั้ม Nord (20USD++) ไม่รู้ทำไมถึงแพงบ้าเลือดนัก อันนี้ของเมืองนอกนะครับ ส่วนแผ่นเมืองไทย ถ้ามีขายผมซื้อแน่อยู่แล้ว แต่อยากให้พยายามทำ booklet ให้ดีๆหน่อยครับ อย่าให้เหมือนแผ่นเถื่อนนัก - เรื่องฟังแล้วรู้สึก "ล้น" อันนี้จริงๆครับ ผมไม่มีเวลาฟังจากเครื่องเสียงบ้าน เนื่องจากงาน จำเป็นต้องฟังจาก Ipod Nano ซึ่งความจุกิ๊กก๊อกมากแค่ 2GB แค่นี้ยังรู้สึกว่า ล้นเลยครับ แม้ว่าจะเลือก RIP เฉพาะอัลบั้มที่ชอบมากๆก็ตาม (RIP จาก CD ที่ซื้อมานะครับ) - เรื่องโหลด mp3 ผมก็โหลดเหมือนกันทั้งdemo จากเว็บวง mySpace หรือ torrent แต่หลังจากฟังแล้วผมจะตาม ซื้อ CD ด้วย นั่นคือผมเลือกโหลดเฉพาะวงที่ผมสนใจจะซื้อ CD อยู่แล้วตั้งแต่ต้น   แต่หลังๆเจอวงที่ซื้อ CD มาแล้วผิดหวังเยอะเหมือนกัน (ของฝรั่งก็มีเพราะเพลงเดียวเหมือนกันครับ) แต่อย่างไรก็ตาม มาคิดดูแล้ว การที่ค่ายเพลงจะขายเพลงได้เป็นกอบเป็นกำนั้น แฟนเพลงประเภทเดนตาย ที่ศรัทธาในผลงานของวง ผมว่ายังไม่เพียงพอที่จะทำให้ค่ายเพลงได้กำไรมากพอที่จะสนับสนุนศิลปิน/นักร้อง/นักดนตรี ต่อไปได้ครับ คือผมคิืดว่าแฟนพันธ์แท้ นั้นอย่างมากก็ช่วยให้ขายได้เท่าทุน (ซึ่งแฟนกลุ่มนี้นั่นเองที่ตามซื้อสินค้าทุกๆอย่างของวงที่ตนรัก) แต่สิ่งที่ค่ายเพลงต้องการคือกำไร มากๆ ซึ่งแน่นอนต้องมาจากแฟนพันธ์ทาง หรือ ผู้ฟังเพลงตามกระแสนั่นเอง แต่ผู้ฟังกลุ่มนี้ มีไม่น้อยที่กระทำการละเมิดลิขสิทธ์ เพราะแท้จริงแล้วเขาไม่ได้ชอบศิลปินและงานอย่างแท้จริง แค่ตามกระแสเท่านั้น แต่ค่ายเพลงจะทำไงได้ล่ะ ในเมื่อแฟนเพลงกลุ่มนี้ใหญ่ กว่าแฟนกลุ่มแรกมาก (ยกเว้นบางวงนะครับ) เขาก็ต้องมาทำวิธีใหนก็ได้ให้แฟนกลุ่มนี้ ซื้อของเขาให้ได้ ซึ่งก็ออกมาดังที่เป็นในปัจจุบัน (เช่น การจับลิขสิทธ์ ฯลฯ) ส่วนเรื่องความเห็นเกี่ยวกับประเด็นเทคโนโลยี ผมเห็นว่า เทคโนโลยี ไม่ค่อยมีผลต่อคนที่จะซื้อสื่อที่จับต้องได้ เพราะอย่างไรก็จะซื้ออยู่แล้ว ไม่ว่ารูปแบบใด แต่จะมีผลมากในกลุ่มที่ไม่คิดจะซื้อแต่แรก เมื่อเขาสามารถหาได้ (แบบละเมิดลิขสิทธิ์) เขาจะหามาใช้อย่างแน่นอนครับ ปล. ความเห็นส่วนตัวครับ จากคุณ : Aufklarung - [ 18 ม.ค. 51 11:09:19 ]

ความคิดเห็นที่ 34 สุดท้ายนี้กระทู้นี้ก็ไม่ได้อะไรขี้นมาหรอก เหมือนพูดเข้าหูหมูทะลุหูแมว อะไรประมาณนั้น ผมไม่ได้ว่า จขกท นะครับ และผมก็ไม่คิดจะเถียง จขกท ซักคำ ไม่ว่าจะเรื่องประหยัดเงิน ไม่ต้องลำบากลำบน ไอ้เรื่องโหลดผมก็ยอมรับผมก็โหลด แต่ผมก็โหลดมาเพื่อทดลองฟังก่อน ผมชอบผมก็ซื้อ อันไหนมันแพงมากหน่อยก็กลั้นใจหน่อย อดบ้างก็มี เงินสมัยนี้หาง่ายที่ไหน แล้วทำเพื่ออะไร ในเมื่อสามารถฟังได้โดยไม่ต้องลำบากขนาดนั้น อืม.. มันคงเป็นความสุขที่ได้ฟังมั้ง ความสุขที่ได้ดูอาร์ตเวิร์ค เนื้อเพลง แพ๊คเกจ ฟังได้กับได้ฟัง ความรู้สึกมันต่างกันเยอะครับ ผมก็ไม่ใช่นดิบดีอะไรนักเรื่องโหลดเพลง แต่ถ้าทันทีผมมีปัญญาสามารถซื้อได้ ผมซื้อครับ จากคุณ : Xelong - [ 18 ม.ค. 51 11:33:15 ]

ความคิดเห็นที่ 35 .....ผมนึกตั้งกะวานแล้วกระทู้นี้ต้องร้อนฉ่าแน่...... .....ส่วนตัว ผมสรุปหยั่งที่คุณ Xelong ว่าไว้ครับ "ผมก็ไม่ใช่นดิบดีอะไรนักเรื่องโหลดเพลง แต่ถ้าทันทีผมมีปัญญาสามารถซื้อได้ ผมซื้อครับ" .....ไม่ต้องดีเบทกันมาก ฟันธงครับ จากคุณ : * (โก๋โรงเรียนเก่า) - [ 18 ม.ค. 51 12:24:14 ]

ความคิดเห็นที่ 36 ลองเปลี่ยนอาชีพไปเป็นนักดนตรีดูบ้างไหมครับ จขทก.เอาแผ่นที่เคยซื้อๆไว้มาขายต่อผมก็ได้นะ ถ้าคุณไม่เห็นคุณค่าของมันแล้ว จากคุณ : Jose Pasillas ll - [ 18 ม.ค. 51 12:33:05 ]

ความคิดเห็นที่ 37 "ผมก็ไม่ใช่นดิบดีอะไรนักเรื่องโหลดเพลง แต่ถ้าทันทีผมมีปัญญาสามารถซื้อได้ ผมซื้อครับ" เห็นควรด้วยครับ จากคุณ : Counting Crow - [ 18 ม.ค. 51 13:14:10 ]

ความคิดเห็นที่ 38 เห็นด้วย พูดไปก็เท่านั้น อีกหน่อยก็รู้เองแหละ เอิกๆ จากคุณ : Nutjung - [ 18 ม.ค. 51 13:34:58 ]

ความคิดเห็นที่ 39 คิดว่าซื้อเท่าที่เรามีกำลังจะซื้อได้น่าจะดีที่สุดนะครับ เพราะปกติก็โหลดเยอะเหมือนกัน โหลดทั้งเมนสตรีมทั้งอินดี้ แต่ว่าก็พยายามซื้ออันที่ชอบๆ ด้วย คือตั้งใจเอาไว้ว่าถ้าชอบอัลบั้มไหนก็จะพยายามซื้อแผ่นจริงให้หมด แม้ว่ามันจะต้องค่อยๆ ใช้เวลาตามเก็บไปเรื่อยๆ ก็เหอะ คิดว่าถ้าไม่ซื้อเลยก็คงไม่มีใครว่าคุณได้ แต่ก็ไม่รู้ว่าศิลปินที่เราชอบจะยังมีแรงเหลือจะทำอัลบั้มต่อไปหรือเปล่า หรือไม่ก็อาจเปลี่ยนอาชีพไปขายเต้าทึงแทน น่าจะรุ่งกว่า จากคุณ : strawberry machine gun - [ 18 ม.ค. 51 15:57:49 ]

ความคิดเห็นที่ 40 quoteจาก หัวกระทู้ "เอาง่ายๆวงอะไรอัลบัมไหนที่คุณภูมิใจว่าข้ามีคนเดียว ผมจะหาทางเนทให้ดู ไม่เกินครึ่งชม. หาเจอแน่นอน" จขกท บอกว่าหาได้ทุกเพลง ทุก album การบ้าน จงหา album ต่อไปนี้ -Maury Muelleisen - Gingerbreadd มือกีตาร์ที่เล่นคู่กับ Jim Croce album ออกปี 1970 ก่อน Jim ออกผลงานตนเองไม่กี่เดือน ผมมี album นี้ ซื้อจากน้องสาวของ Maury ส่งจาก USA มาถึงผมภายใน 5 วัน ผมเคยปล่อย torrent นี้ทาง demonoid.com ที่ปิดไปแล้ว มีคน load ไปได้ประมาณ 6-7 คน -Amin Bhatia - Interstellar suite ผมซื้อแผ่นนี้จาก Amin หลังจากตามหามานาน ผมตัดสินใจไม่ปล่อย album นี้ทาง bit -Annie Haslam - Woman Transcending ของอดีตนักร้องของ Renaissance ออกปี 2007 ผมซื้อจาก white dove records -Dan Seals - Stones,Harbinger มาออกใหม่ด้วย woundedbird records -Dan Seals ชุดอื่นๆ ที่ out of print แล้วได้แก่ - Rebel Heart,San Antone,Won't be blue anymore,On the front line,Rage on -Tony Orlando and Dawn ทั้ง 6 albums ผมมีเป็น boxset ส่วนที่เป็นเพลงเดี่ยวๆ กรุณาหาเพลงดังนี้ครับ -Engelbert Humperdinck -Lady of the night,My friend the wind -Troglomen - Ding dong -Twiggy - Vanilla o'lay ถ้าหาได้กรุณาทำ link ไว้เป็นหลักฐาน ว่าคุณสามารถ หา เพลงเหล่านี้ได้จริง ดั่งที่คุยไว้ กำหนดส่งการบ้าน ภายใน 7 วัน กรุณาสนใจ และตั้งเป็นกระทู้ใหม่ด้วย ถ้าหาได้ซัก 1-2 อย่างที่กล่าวมา ผมจะกราบซะ 10 รอบ ผมเองก็ load bit และ ใช้ HDD รวม 800 GB แต่ก็ยังเก็บแผ่น และ ม้วนเทป เพราะมันจับต้องได้ มี cover art,booklet,liner notes ไม่เหมือนพวกที่ load ลูกเดียว บางครั้ง ถามว่าฟังอะไรอยู่ ยังอ่านชื่อเพลง หรือ ศิลปินไม่ถูกเลย แก้ไขเมื่อ 18 ม.ค. 51 19:22:25 แก้ไขเมื่อ 18 ม.ค. 51 19:21:29 จากคุณ : dr. buska - [ 18 ม.ค. 51 18:33:10 ]

ความคิดเห็นที่ 41 บัวเหล่าไหน ไม่รู้ และไม่เห็น บัวไม่เป็น ไม่ฟัง และไม่สน วันหนึ่งบัว ถูกขโมย เมล็ดของตน กว่าบางคน เห็นค่า ก็สายเกิน .... นิทานอีแร้ ... ชาวนาปลูกข้าวกลางแดด ไอ้หยาเผลอไปนอนวันเดี่ยว ถูกโจรขโมยเกี่ยวข้าวไปหมดนา .. โจรแฮปปี้ประหยัดค่าข้าวได้หลายมื้อ... ชาวนาทำหน้าเหนื่อยล้า แต่ไม่ได้ร้องไห้อันใด เพราะหันไปเป็น สิ่งที่ยืนเซ็งกว่าร้องไห้น้ำตาไหลหลั่งอยู่ ... "ควาย" แอบตัดพ้อในใจ นี่กรูต้องเหนื่อยไถนาอีกกี่รอบกันนี่... .... บังเอิญว่า นิทานเรื่องนี้ "ควาย" แต่งเพลงเป็น .... จากคุณ : แร้ไฟ ศาลพระภูมิ ณ ห้องร็อก (แร้ไฟ) - [ 18 ม.ค. 51 20:20:09 ]

ความคิดเห็นที่ 42 พูดอะไรกันไม่รู้เรื่อง ผมกำลังบ้าแผ่นเสียง ไปที่เว็บล่าแผ่นมือสองราคาถูกโคตรของพี่หน่อยอนุสรณ์ (Crossroads) ดีกว่า... http://recordhunter.net จากคุณ : winston - [ 18 ม.ค. 51 21:16:06 ]

ความคิดเห็นที่ 43 ไม่วายอยากแสดงความเห็นว่า ถึงแม้จะถึงวันที่งานบันทึกเสียงจะกลายเป็นของสาธารณะไม่มีใครได้เงินจากมันโดยตรงอีกต่อไป ผมก็ยังเชื่อว่าจะมีคนทำเพลงให้เราฟังกันอยู่ดี ดูอย่างใน myspace ทุกวันนี้สิครับ แทบจะจ้างให้ฟังด้วยซ้ำ นี่ว่ากันตามเนื้อผ้านะ ถ้า internet radio พัฒนาถึงขีดสุด ก็คงไม่ต้องโหลดใส่ HD ด้วยซ้ำไป อยากฟังอะไรก็หาคลื่นเซิร์ชกันเลยมั้ง? จากคุณ : winston - [ 18 ม.ค. 51 21:27:12 ]

ความคิดเห็นที่ 44 ข้าพเจ้าจำได้ว่า เมื่อหลายปีก่อน ประเทศไทยมีนิตยสารเกี่ยวกับดนตรีหลายฉบับ อยู่ๆ วันหนึ่ง หนังสือดนตรีก็ค่อยๆ ทะยอยหายไปทีละเล่ม ทีละเล่ม ที่ยังเหลืออยู่ก็ต้องพยายามทำทุกอย่างเพื่อให้อยู่รอด หลายๆ อย่างที่ทำไป ก็โดนคนอ่านตำหนิ บางคนเริ่มหันไปหาทำอย่างอื่น คนที่ยังทำอยู่แทบกินแกลบ ไม่มีคนฟังเพลง ไม่มีงาน . จากคุณ : SSTR Revised - [ 18 ม.ค. 51 21:40:15 ]

ความคิดเห็นที่ 45 เดี๋ยวสิท่าน เรื่องหนังสือต้องอีกประเด็นหนะ เดี๋ยวผมแจมด้วยหนะ 555 แก้ไขเมื่อ 21 ม.ค. 51 22:55:55 จากคุณ : FxxkNoEvil - [ 19 ม.ค. 51 00:55:06 ]

ความคิดเห็นที่ 46 7.จะสร้างจิตสำนึกที่ดี มันก็สายไปแล้วครับ มันก็เป็นกันทั่วโลกแหละ จากคุณ : จขกท - [ 18 ม.ค. 51 00:45:03 A:58.9.224.89 X: TicketID:118525 ] ----------------------------------------- รู้สึก ขำปนเศร้าใจกับ ความคิด จขกท จริงๆ - -" จากคุณ : + (saak12) - [ 19 ม.ค. 51 01:06:41 ]

ความคิดเห็นที่ 47 ถึงท่าน จขกท ฉันเพื่อนมนุษย์ธรรมดาคนหนึ่ง ประการแรก ผมว่าท่านกล้าหาญมากๆ ที่ออกมาพูดประเด็นนี้ (ผมเชื่อว่าคนจำนวนหนึ่งในโลกนี้อยูกพูดอย่างนี้) ประการที่สอง ถ้าท่านปฏิบัติต่างที่ท่านกล่าวอ้างจริง ข้าพเจ้าขอวิงวอนให้ท่านให้กลับคืน (Give Back) ต่อวงการดนตรีบ้านเถอะครั่บ ข้าพเจ้าเชื่อว่าท่านต้องชอบศิลปินบางกลุ่มที่ท่านได้มาฟัง ท่านก็ให้พวกเขาเหล่านั้นกลับบ้างเถอะครั่บ (ผมไม่ได้บอกให้ท่านซื้อนะ อย่างที่ผมบอกการตอบแทนมีได้หลายแบบ) ไม่รู้นะทุกวันนี้ผมฟังใครแล้วผมชอบจริงๆ ผมก็ดินรน (เท่าที่ผมจะทำได้) เพื่อที่จะบอกเขาว่า "เพลงคุณเจ๋งว่ะ" ผมว่านั่นเป็นการตอบแทนขั้นต่ำแล้วครับ (และมันมีความหมายมากๆ สำหรับวง Underground - เน้นว่ามีความหมายจริงๆ นะครับ) ขั้นต่อๆ มาก็แล้วแต่วิจารญาณ สรุปคือ ผมว่าเราต้องทำให้เขารู้ (ด้วยบางวิธี) ว่าเราอยากให้เขาทำงานต่อไปครั่บ เท่านี้ก่อนครั่บ จากคุณ : FxxkNoEvil - [ 19 ม.ค. 51 01:26:28 ]

ความคิดเห็นที่ 48 "จะสร้างจิตสำนึกที่ดี มันก็สายไปแล้วครับ มันก็เป็นกันทั่วโลกแหละ" จริงๆ ผมคิดว่ามันต่างกันนะครับ ดังที่ผมบอก ผมคิดว่าคนจำนวนมากในโลกเกลียด Major Label ซึ่งบนฐานความคิดแบบนี้ก็ไม่แปลกที่เขาจะ Download เพลง แต่นั่นไม่ใช่บนฐานที่เขาจะฟรีได้ฟรีเอานะครับ ผมคิดว่าเขาทำบนฐานที่จะประหยัดส่วนหนึ่งมาลงทุนอีกส่วนหนึ่ง ซึ่งนั่นต่างจากสำนึกแบบคนไทยที่ชอบสร้างภาพว่าฟรีได้ฟรีเอาแนะครับ สรุปคือ ผมเชื่อว่ามันยังมี "จิตสำนึกที่ดี" ในระดับโลกครับ แต่นั่นเป็นจิตสำนึกที่เด็ดขาดพอที่จะฆ่าใครทิ้งและเก็บใครไว้ (ไม่ใช่ฆ่าทั้งหมด) จากคุณ : FxxkNoEvil - [ 19 ม.ค. 51 01:35:04 ]

ความคิดเห็นที่ 49 ค่อนข้างเห็นด้วยกับคุณ Fxxk ในหลายประเด็นนะ (แต่คร้านแจง ประเด็นเยอะกระจัดกระจายมาก) แต่มีเรื่อง "กำลังซื้อ" มาพูดกันแล้วค่อยอุ่นใจหน่อยว่ายังไม่ลืมเรื่องนี้กันว่า ประเทศเราเป็นยังไง ผมขอเอาแต่ความรู้สึกเลยละกัน ไม่คิดอะไรละ - อิจฉาเจ้าของกระทู้ฟ่ะ ตูไม่มี HD เยอะอะไร เวลาจะโหลดอะไรทีก็ต้องชั่งใจ (เผลอ ๆ คิดนานกว่าตอนจะซื้อแผ่นอีกนะเออ เพราะเวลาเดินดูแผ่นในร้านแล้วทั้ง Cover art ที่มันดี ๆ บวกกับบรรยากาศมันดลใจให้จ่าย) เพราะทั้งพื้นที่ HD และเงินในกระเป๋าก็ล้วนเป็นทรัพยากรที่มีวันหมดเหมือนกัน - เรื่องจิตสำนึกเป็นเรื่องที่พูดง่ายแต่ทำยากนะครับ มนุษย์มีความอยากเป็นธรรมดาอยู่แล้ว "จิตสำนึกที่ดี" สำหรับบางคน (ที่อาจจะมีปัจจัยเสริมดีกว่า เข้าถึงทรัพยากรได้ง่ายกว่า) อาจจะเป้นแค่ "เรื่องตลก" สำหรับบางคน (ที่เข้าถึงอะไรได้ยากกว่า) ก็ได้ เผลอใช้ความคิดอีกจนได้สิน่า !! จากคุณ : ShadowServant - [ 19 ม.ค. 51 03:02:23 ]

ความคิดเห็นที่ 50 จำเป็นต้องซื้อหลายๆๆ ฟอแมต เพราะรักวงนั้น จริงๆๆ อะครับ (อีกอย่าง ฟังจากซีดีผมเห็นความแตกต่างจากที่ripจากซีดีหรือโหลดมาอะครับ เบสมันมาอะครับ นอกจากจะซื้อหูฟังใหม่แบบแพงกว่าเครื่องเล่นไอพอตเบสมันถึงใกล้กะซีดี กลับเข้าประเด็นเดี๋ยวหลุด) อีกอย่างหลายๆๆวงที่ผมอยากฟังมันก็ไม่มีให้โหลดอะสิครับ (สนับสนุนนักดนตรีเต็มที่) อยากให้วงต่างประเทศมาเล่นที่บ้านเราไหม (อยากครับ) แต่ก็ขอแย้งตัวเองครับ ว่าที่ซื้อแต่แผ่นนอกมันก็ไม่ได้ทำให้นักดนตรีเหล่านั้น เห็นว่าประเทศเรามีคนสนับสนุนมันอีก (เฮ้ออออ อยากฟังแต่ไม่มีลิขสิทธิ์ในบ้านเราอะสิครับ) ถามผมว่าโหลดไหม (ก็โหลดนะ ถ้าไม่แน่ใจกะวงนั้น ไม่แน่ใจก็วงใหม่ๆๆทั้งหลายซึ่งมันก็ไม่ค่อยมีให้โหลดเช่นกัน แต่วงที่ชอบและรู้จัก ซื้อหมด แม้ว่ามันไม่ดีก็ตาม)๕๕๕๕๕๕๕ตัวอย่าง วงSoilwork อัลบั้มใหม่ ได้ดูเล่นสดเพลงใหม่สองเพลง พออัลบั้มออก ไปซื้อครับ ฟังรอบเดียว ไม่หมดอัลบั้ม เก็บเข้ากรุโลดครับ ไม่ริฟมาฟังด้วย (คงเข้าใจนะครับ) สรุป สนับสนุนนักดนตรีตามกำลังทรัพย์ดีที่สุดครับ เพื่อให้นักดนตรีมีกำลังใจที่จะสร้างสรรผลงานใหม่ๆออกมาครับ ปล. เห็นด้วยกับคุณFxxkNoEvil เขียนตอบดีอะครับ ชอบที่ตอบหลายกระทู้แล้ว จากคุณ : Ball_In_Flames - [ 19 ม.ค. 51 06:00:12 A:81.99.215.64 X: ]

ความคิดเห็นที่ 51 อีกประเด็น ก็พอเข้าใจอะครับ ว่าการบริหารเงินให้คุ้มค่า หลายๆๆคนในบ้านเรา ช่วงนี้จำเป็นอย่างมากช่วงข้าวยากหมากแพง(น้ำมันแพงเลยแพงหมด) คงมีไม่กี่คนที่ทุ่มเงินที่ทำงานทั้งเดือนหรือเงินที่ได้ไปรร หรือมหาลัย เพื่อไปซื้อซีดีหมดอะครับ (เคยเป็นแบบเจ้าของกระทู้ช่วงผมเรียนมหาลัย เก็บเงินที่ได้ไปเรียน เอาไปซื้อซีดี (กินซีดีแทนข้าวได้ไหมเนี่ยอาทิตย์นั่นก็ซัดน้ำแทนข้าวสิครับ๕๕๕๕๕) เอาเข้าจริงๆๆแผ่นที่ซื้อๆมา ผมก็ฟังมันวนๆๆไปอะครับ บอกเลยว่า ที่ripมา ฟังเอาจริงๆๆ ก็ยังฟังไม่ครบเลย (สงสัยจริงๆๆ เจ้าของกระทู้เอาเวลาที่ไหนไปฟังตั้ง 600GB) จากคุณ : Ball_In_Flames - [ 19 ม.ค. 51 06:30:08 A:81.99.215.64 X: ]

ความคิดเห็นที่ 52 ิbit มีดีแค่ีโหลดหนัง x กับหนังหายาก เท่านั้นแหละ จากคุณ : lossman - [ 19 ม.ค. 51 17:31:22 ]

ความคิดเห็นที่ 53 ๋่javtalk.com มีหลายวง แก้ไขเมื่อ 19 ม.ค. 51 17:47:03 จากคุณ : Milfhunter - [ 19 ม.ค. 51 17:46:19 ]

ความคิดเห็นที่ 54 เก็นด้วยกับ จขกท ครับ ผมเปนคนรุ่นเดียวกับเทป peacock ได้เห็นความเบ่งบานของโอกาสในการฟังดนตรีของคนไทย ก็จากการละเมิดลิขสิทธิ์นี่ล่ะ มีงานสารพัดรูปแบบจากเทปผี ที่พวกคุณ ๆ ดูถูก แล้ววันหนึ่งกฏหมายลิขสิทธิ์ออกมา การล้มหายตายจากของเทปผี ผมก็มีโอกาสเหมือนกันที่ได้เห็นความเห็นแก่ตัวของ distributer ที่จะขายเฉพาะงานที่มันขายได้ บีบให้คนฟังเพลงเฉพาะแนวแคบ ๆ ต้องหางาน import ราคาแพงเท่านั้น และโอกาสฟังงานก็แทบไม่เห็น จนมาถึงวันที่เทคโนโลยีก้าวหน้า โอกาสนั้นได้กลับมาอีกครั้ง งานเพลงหายากที่ไม่คิดว่าจะมีโอกาสได้เจอะเจอ ก็มาปรากฏอยู่หน้าบ้าน งานเพลงเก่า ๆ ที่เคยไขว่คว้ามาด้วยความยากลำบาก ก็มาให้หยิบง่าย ๆ ที่สำคัญคือ ฟรีเสียด้วย ถ้าเปนเช่นนี้ ผมคงไม่สนใจหรอกครับ ว่ามันถูกลิขสิทธิ์หรือไม่ วงการดนตรีจะพังไหม ศิลปินจะอดตายไหม เรื่องของมันครับ เพราะผมได้เห็นแล้วว่า เมื่อช่วงที่ลิขสิทธิ์ และ ตัวแทนจำหน่ายถูกกฏหมายเปนใหญ่ พวกผมที่ชอบฟังเพลงแนวที่ "ไม่ขาย" ถูกกระทำมาอย่างไร จากคุณ : RAKANG - [ 19 ม.ค. 51 20:26:15 ]

ความคิดเห็นที่ 55 เหอะๆ จากคุณ : + (saak12) - [ 19 ม.ค. 51 22:50:22 ]

ความคิดเห็นที่ 56 54ไป...ซะ จากคุณ : Milfhunter - [ 19 ม.ค. 51 23:31:52 ]

ความคิดเห็นที่ 57 FxxK Off To RAKANG!!มันน่าจะ....นานแล้ว จากคุณ : Milfhunter - [ 19 ม.ค. 51 23:34:25 ]

ความคิดเห็นที่ 58 เพลงโหลด เราจะไม่ค่อยเห็นคุณค่า เพราะไม่ได้เสียเงินซื้อมันมา อีกอย่าง .. ผมไม่นิยม MP3 เพราะผมเน้น Quality ดังนั้น หากเป็นศิลปินที่ชื่นชอบ แล้วไม่มี .CDA ให้ผมโหลด ผมก็ซื้อแผ่นจริงอยู่ดี ^O^ จากคุณ : PrE[M]aX - [ 20 ม.ค. 51 04:10:19 ]

ความคิดเห็นที่ 59 คนอย่าง Milfhunter นี่คงไม่เคยเห็นอิสรภาพกระมัง สงสัยเกิดมาในยุคที่ถูกตัวแทนจำหน่ายล้างสมองไปแล้ว FxxK Off  .... เหมือนกันครับ 5555 จากคุณ : r (RAKANG) - [ 20 ม.ค. 51 04:53:36 ]

ความคิดเห็นที่ 60 ซื้อของแท้ครับ มันมีปก แพ็คเกจ และอะไรต่อมิอะไรมากมาย ให้ได้เก็บไว้ดู อย่างน้อยเจอตัวจริง ยื่นแผ่นให้เขาเซ็นได้ ถ้าอยากเอาไปฟังกับพวก ipod จริงก็เอาไปแปลงมาฟังได้เหมือนกัน จะเสียตังค์ซื้อมันก็ตังค์ของผมเอง ผมเต็มใจที่จะจ่ายค่าความสุขตรงนี้ พูดไปก็คิดไม่ตรงกัน เสียเวลาเปล่า ๆ จากคุณ : AW Milan - [ 20 ม.ค. 51 11:18:42 ]

ความคิดเห็นที่ 61 สงสัยเกิดมาในยุคที่ถูกตัวแทนจำหน่ายล้างสมองไปแล้ว 555 ทำไมต้องง้อตัวแทนด้วยครับ คนเก่งโคด ที่ผมฟังก็ไม่มีตัวแทนจำหน่ายอยู่แล้ว และหายากกว่าแนวที่คุณฟังแน่ๆ ผมก็ยังหามาได้ หาไม่ได้ก็ไม่คิดมาก มันอยู่ทีู่่การขวนขวายครับ Stupidจิงๆพี่น่ะ Ok.พอแล้ว ถอนหอกบนหัวคุณมันเมื่อยว่ะ จากคุณ : Milfhunter - [ 20 ม.ค. 51 14:13:12 ]

ความคิดเห็นที่ 62 มีดหั่นผักได้ ก็ ฆ่าคนได้ คำพุดทำให้คนมีกำลังใจแต่ก็ทำให้คนหมดหวังได้ ของแบบนี้มันอยุ่ที่คนจะใช้ยังไงให้เกิดประโยชน์แก้ตนมากที่สุด บางคนยังกล้าถ่ายรุปเทปผีมาลง แล้ว แสดงตนราวกับเป็นสิ่งที่น่าภาคภุมิใจก็มี จากคุณ : Ventures - [ 20 ม.ค. 51 17:55:39 A:84.169.207.245 X: ]

ความคิดเห็นที่ 63 แล้วคุณก็ฆ่าเพลงแบบ"ไม่ขาย"ของคุณ ไปพร้อมกับ distributer ที่คุณเกลียดนั่นแหละ คุณ RAKANG จากคุณ : Jose Pasillas ll - [ 21 ม.ค. 51 00:16:07 ]

ความคิดเห็นที่ 64 มาตอบมั่ง ผมก็ ยังซิ้อ CD ของวงโปรดอยู่ แม้เทโนโลยี้ จะก้าวหน้า ไปไหน ถ้าเป็นวงโปรด  ก็ยังซื้อ CD มา RIP ลงIpod ไว้ฟัง ระดับ เก่าเก๋ากึ้ก ที่หาไม่ได้ ก็ เลี่ยงยาก ที่จะต้อง Download เอา แต่ น้อยเพลงมากๆ เพราะ Load ไว้เยอะยังไง ก็ฟังแต่ วงเดิมๆ จากคุณ : hedgehog - [ 25 ม.ค. 51 01:11:28 ]

ความคิดเห็นที่ 65 ฮาร์ดดิสค์ 3 ตัว ตัวละ 200 MB หึหึ ก็แค่สักแต่ว่ามีเพลงเยอะแหละครับ มีประโยชน์แค่เอาไว้คุยข่มพวกหัวเกรียนทั้งหลาย ว่าข้านี้ก็ฟังเพลงมาเยอะนะว้อย... เปรียบเหมือนคุณสะสมเสื้อฟุตบอลที่ขายแถวสนามศุภฯ มีทุกทีม ทั้งเหย้าและเยือน แต่กลับไม่รู้ว่าตอนนี้เดวิด เบ็คแฮ่ม ติดทีมชาติไปแล้วกี่นัด จากคุณ : Ozzy Osbourne (Ozzy Osbourne) - [ 29 ม.ค. 51 03:16:54 ]