Pantip-Cafe | Pantip-TechExchange | PantipMarket.com | Chat | PanTown.com | BlogGang.com | Torakhong.org | GameRoom


    มักง่าย ไร้มารยาท ไม่ใช่มืออาชีพ..!!

    บ่าย 3 โมง  
    12 ธันวาคม 2550

    นายเข่ง จากบริษัท ว๊อยซ์เปิ๊ก
    โทรติดต่อหา นายชิน
    นักร้อง นักแต่งเพลงอินดี้มีสไตล์
    เพื่อขอให้เข้าไป
    ร้องเพลงประกอบภาพยนตร์ไทยเรื่องหนึ่ง

    ซึ่งยังไม่รู้ว่าชื่อเรื่องอะไร ?!

    โดยบอกนายชินว่า..
    งานนี้ด่วนมาก !!
    ต้องเข้ามาร้องภายใน 1 - 2 วัน

    -----------------------------------------------------------

    10 โมงเช้า
    13 ธันวาคม 2550

    นายเข่ง โทรมาหานายชินอีกครั้ง
    ขอให้เข้ามาร้องเพลงวันนี้เลยได้ใหม ?
    นายชิน ตอบกลับไปว่า  ขอเป็น 3 โมงเย็นก็แล้วกัน
    นายเข่ง ตกลง
    และ  นัดกันที่ห้องอัดเสียง บ.ว๊อยซ์เปิ๊ก

    นายเข่ง บอกให้นายชินเอาสำเนาบัตรประชาชนมาด้วย
    เพื่อเป็นหลักฐานในการรับเงิน  
    ซึ่งได้ตกลงราคาค่าร้องกันไว้แล้ว
    เพราะตั้งใจจะทำงานกันให้เสร็จกัน..ในวันนี้เลย

    สักพัก
    นายเข่ง ก็แฟ็กซ์แผนที่ บ.ว๊อยซ์เปิ๊ก มาให้

    บ.ว๊อยซ์เปิ๊ก อยู่ไกลมากถึงปทุมธานี
    นายชินไม่เคยไปมาก่อน
    ขับรถงมหาทาง และ หลงอยู่นาน
    กว่าจะถึงก็ปาเข้าไปใกล้ 4 โมงเย็น

    เมื่อมาถึง  
    นายเข่งก็พานายชินเข้าไปที่ห้องอัดเสียง

    พอเข้าไปในห้องอัด
    มีทีมงาน 3 - 4 คน เปิดเพลงให้ฟังเดี๋ยวนั้นเลย
    เป็นแนวเพลง "ดิ๊กซี่แลนด์แจ๊ส"
    ซึ่งเป็นแนวทางของศิลปินอย่างนายชินอยู่แล้ว

    เพลงนี้มีจังหวะ และ เมโลดี้ที่เร็วมาก
    นายชินดูเนื้อเพลง
    พร้อมฟังเพลงนี้อยู่เพียง 10 - 15 นาที
    ก็ถูกทีมงานเชิญให้เข้าไปลองร้องดู

    โดยทีมงานบอกให้ซ้อมดูก่อน..เพื่อให้คุ้นกับเพลง

    นายชิน ซ้อมร้องอยู่ประมาณ 15 นาที
    จึงเริ่มอัดจริงทีละท่อน
    อัดมาเรื่อยตั้งแต่ท่อน A1 ไป A2
    คนคุมร้องซึ่งเป็นคนทำดนตรีของเพลงนี้..ก็ดูอยู่
    และ ก็แสดงความพอใจ

    อัดมาจนถึงท่อนแยก  ขณะนั้นเป็นเวลา 16.50 น.
    ทางผู้แต่งเนื่อร้อง  ซึ่งฟังอยู่ด้วยตลอดเวลา
    เข้ามาบอกว่า..ให้นายชินพักก่อน
    แล้วบอกกับนายชินว่า..คุณร้องนิ่งไป

    เพลงนี้ ต้องแทน "ตัวเอก" ของเรื่อง
    ซึ่งเป็นดาราตลกมีชื่อเสียงของบ้านเรา
    และ ชื่อหนัง ก็เป็นชื่อดาราตลกเองด้วย

    นายคนที่แต่งเนื้อเพลง
    บอกให้นายชินกลับไปซ้อมร้องที่บ้าน
    พร้อมดีไซน์การร้องมาด้วย
    เอ็นจิเนียร์ก็ไรท์แผ่นเดโมเพลงนี้
    ให้นายชินเอากลับไปฟังทันที..

    นายชินถึงกับ อ้าว..คิดในใจว่า ไม่บอกก่อนนี่หว่า !!

    มาถึงก็ให้ฟังเพลงเลย
    ไม่บรีฟงานให้รู้เรื่องก่อน
    ถ้าบอกแต่แรกว่าเป็นหนังที่ดาราตลกชื่อดังเล่น
    รวมถึงบอกว่า..
    ต้องการอารมณ์ในการร้องแบบไหน ?  ให้ละเอียด
    ก็จะได้ร้องให้ถูกต้อง..ตามความต้องการ

    ซึ่งการทำงานที่ถูกต้อง..ก็ควรจะเป็นเช่นนั้น !!

    เพราะสำหรับนายชินแล้ว
    การร้องแบบใดก็ไม่ใช่เรื่องยากเลย

    นายชินเป็นนักดนตรี
    เป็นนักร้องอาชีพมานานกว่า 20 ปี
    ไม่ใช่เด็กๆที่อ่อนประสบการณ์
    อีกทั้งยังเป็นโปรดิวเซอร์
    เรียบเรียงดนตรี และ คุมร้องนักร้องมามากมาย

    นับเวลาตั้งแต่นายชินมาถึงห้องอัด
    รวมกับเวลาฟังเพลง และ ซ้อมเพลง
    แค่ 50 นาทีเอง
    ก็ "ตัดสิน" นายชินไปแล้ว..ว่าการร้องยังใช้ไม่ได้
    โดยที่ไม่มีการบรีฟก่อนให้ละเอียด !!

    การมาร้องเพลงในวันนี้
    ต้องอย่าลืมว่า..
    นายชิน ไม่ได้ "ขอ" มาทดสอบการร้อง
    เพื่อที่จะได้งานร้องเพลงประกอบหนังเรื่องนี้

    นายชินถูกขอร้องให้มา !!

    และ ก็ต้องเคลียร์เวลาในตอนเย็น
    เพื่อมาร้องเพลงนี้โดยเฉพาะ

    วันนั้นนายชิน
    เลยกลับไปด้วยความรู้สึกเซ็งเล็กๆ
    พร้อมซีดีเดโมเพื่อไปซ้อมร้องที่บ้าน

    -----------------------------------------------------------

    ตอนเช้า
    14 ธันวาคม 2550

    นายเข่ง โทรมาบอกนายชินว่า..
    ตอนนี้กำลังแก้ไขเนื้อเพลงกันอยู่
    เสร็จแล้วจะโทรมานัดใหม่อีกที

    นายชินได้แต่รู้สึกแปลกๆ
    ตอนแรกบอกเร่งด่วน..แต่ตอนนี้
    กลับมากำลังแก้ไขเนื้อเพลง !!

    แต่นายชิน
    ก็ใช้เวลาซ้อมร้อง
    และ  ดีไซน์การร้องไปเรื่อยๆ

    -----------------------------------------------------------

    ตอนสายๆ
    15 ธันวาคม 2550

    นายชิน
    โทรไปหานายเข่งเพื่อบอกว่า
    วันนี้ กับ วันพรุ่งนี้ จะว่างทั้งวัน
    สามารถไปร้องได้ตลอดเวลา

    นายเข่ง บอกกลับมาว่า
    กำลังแก้ไขเนื้อเพลงอยู่

    -----------------------------------------------------------

    17 ธันวาคม 2550

    นายชินโทรไปถามนายเข่ง..ว่าจะเอายังไง ?
    เห็นตอนแรกบอกงานเร่ง
    นี่ก็ซ้อมร้องทุกวันเลย
    อยากรู้ว่าเนื้อเพลง..แก้ไปถึงไหนแล้ว
    จะให้ไปร้องตอนไหน
    จะได้จัดสรรเวลาถูก
    กลัวเดี๋ยวจะให้ไปตอนฉุกละหุกอีก

    นายเข่งพูดด้วยเสียงเบาๆ รัวๆ
    ครับๆ  เดี๋ยวผมโทรกลับไปบอก..

    -----------------------------------------------------------

    19 ธันวาคม 2550

    นายชินโทรไปหานายเข่ง
    แต่นายเข่งไม่รับสาย
    โทรอยู่หลายครั้ง..ก็ไม่รับสาย ?!!

    นายเข่ง ก็ไม่ได้โทรกลับมาเลย

    ถึงตรงนี้
    นายชิน เริ่มรู้สึกว่า..ตัวเองกำลังถูกเด็กหลอก
    ถูกหลอกให้ขับรถไปไกลๆถึงปทุมธานี
    ถูกหลอกให้ไปทดลองร้องเพลง
    ถูกหลอกว่าร้องเสร็จ..รับเงินเลย
    ถูกหลอกให้รอ  
    ให้ซ้อม และ ดีไซน์การร้องเพลงแทบทุกวัน !!

    บทอยากได้ก็โทรมาขอร้องให้ไป
    แต่พอจะไม่เอา
    กลับหลบหน้ากันไปเฉยๆ

    ไม่ให้คำตอบ
    ไม่ชี้แจงเหตุผล
    แถมมาหลอกให้รอรายวันอีก !!

    เงินสักบาทเป็นค่าเสียเวลา
    เป็นค่าน้ำมันก็ไม่ได้ !!

    -----------------------------------------------------------

    24 ธันวาคม 2550

    นายชิน มีโอกาสได้คุยกับผู้ใหญ่คนหนึ่งทางโทรศัพท์
    ซึ่งเป็นคนที่นายเข่งรู้จัก และ เกรงใจ
    นายชิน ได้เล่าถึงเรื่องราวที่เกิดขึ้นทุกอย่าง
    ให้ผู้ใหญ่คนนี้ฟัง..เชิงบ่นๆ

    ว่าไม่ได้งานไม่เป็นไร
    แต่ควรบอกกันตรงๆ
    ทำอย่างนี้เหมือนดูถูก..ไม่ให้เกียรติกันเลย

    เพียงวางหูจากผู้ใหญ่คนนั้น..ไม่ถึง 2 นาที
    นายเข่ง ซึ่งหายหน้าไปร่วมอาทิตย์
    โดยไม่เคยโทรกลับมาชี้แจงใดๆ
    ก็โทรกลับมาหานายชินนักร้องผู้ถูกหลอก..ทันที

    ขอโทษครับพี่..ขอโทษครับ
    ที่ไม่ได้โทรแจ้งไป
    งานมันรีบมากๆเลย
    กลัวจะไม่ทัน..เลยให้ทีมงานร้องแทนไปแล้ว !!

    -----------------------------------------------------------

    ถึงวันนี้
    หนังไทยเรื่องนี้ก็ได้ลงโรงฉายไปแล้ว
    นายชินก็ได้รู้มาว่า
    คนที่ร้องเพลงนี้..ไม่ใช่ทีมงาน
    แต่เป็นนักร้องอินดี้คนหนึ่ง

    สรุป นายเข่ง ก็ได้หลอกนายชินอีกครั้ง
    หลอกจนวินาทีสุดท้าย !!

    ไหนบอกว่างานเร่งมาก
    ต้องเอาทีมงานร้องแทน
    ยังจะมีเวลาไปหานักร้องอินดี้มาอีก ?!

    -----------------------------------------------------------

    นายชิน
    ได้แต่เอียนกับพฤติกรรมของนายเข่ง
    ไม่น่าเชื่อว่า บ.ว๊อยส์เปิ๊ก ที่ใหญ่โต และ มั่งคั่ง
    จะมีพนักงานที่มักง่าย  ไร้มารยาท
    และ ไม่มีความเป็นมืออาชีพอย่างนี้อยู่

    ทำให้คนอื่นเดือดร้อน  เสียเวลา  เสียความตั้งใจดีๆ
    และ มากกว่าอะไรทั้งหมด
    คือ เสียความรู้สึก

    มีพนักงาน
    ที่ขาดความ "จริงใจ" ในการติดต่องานอย่างนี้
    สุดท้าย
    บริษัทนี้ก็ต้องเสียชื่อ
    อย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้
    ไม่ว่า..จะรู้เห็นหรือไม่ก็ตาม !!








    เขียนอะไรยาวๆอย่างนี้
    เพิ่งรู้ว่าเมื่อยเหมือนกัน



    แก้ไขเมื่อ 15 ก.พ. 51 06:57:02

    แก้ไขเมื่อ 15 ก.พ. 51 01:34:24

    จากคุณ : แจ็ค รัสเซล - [ 15 ก.พ. 51 01:26:08 ]

 
 


ข้อความหรือรูปภาพที่ปรากฏในกระทู้ที่ท่านเห็นอยู่นี้ เกิดจากการตั้งกระทู้และถูกส่งขึ้นกระดานข่าวโดยอัตโนมัติจากบุคคลทั่วไป ซึ่ง PANTIP.COM มิได้มีส่วนร่วมรู้เห็น ตรวจสอบ หรือพิสูจน์ข้อเท็จจริงใดๆ ทั้งสิ้น หากท่านพบเห็นข้อความ หรือรูปภาพในกระทู้ที่ไม่เหมาะสม กรุณาแจ้งทีมงานทราบ เพื่อดำเนินการต่อไป



Pantip-Cafe | Pantip-TechExchange | PantipMarket.com | Chat | PanTown.com | BlogGang.com | Torakhong.org | GameRoom