เพิ่งกลับจากงานเปิดจำหน่ายอัลบั้มมาดอนน่าพร้อมกันทั่วโลกมา...
ที่จะมาเขียนมาแจ้งให้ทราบนี้ จะพูดถึงการจัดงาน บรรยากาศ และภาพรวมของงานเป็นหลัก...
ส่วนรายละเอียดอื่นๆ ที่อาจจะสร้างความขัดแย้งได้ ของดเว้น
(ขอความร่วมมือในความคิดเห็นต่างๆ ด้วย)
ก่อนอื่นขอเล่างานของมาดอนน่าก่อน...
งานของมาดอนน่าจัดขึ้นที่ B2S ชั้น G Central World งานเริ่ม 5 โมงเย็น
เป็นการจัดของค่ายเพลงวอร์เนอร์โดยไม่มีสปอนเซอร์อื่นๆ ปนเหมือนของมารายห์ (ยูนิเวอร์แซลกับลักซ์)
...พอไปถึงก็ไปลงทะเบียน มีโต๊ะลงทะเบียนด้านนอก
มีเจ้าหน้าที่หญิงหน้าตายิ้มแย้มนั่งอยู่ พอเซ็นชื่อปุ๊บ...
เอกสารข่าวทั้งภาษาไทยและภาษาอังกฤษก็วางอยู่ตรงหน้าพร้อมซีดีและชอกโกจุ๊บ
...โดยไม่ต้องถามอะไรให้มากความ
ด้วยสถานที่อันจำกัด เวทีหรือพื้นที่ต่างๆ อาจจะไม่ได้กว้างขวางใหญ่โตเหมือนของมารายห์ตอนจัดที่พารากอน
ของมาดอนน่าเป็นเพียงมุมหนึ่งทางซ้ายของ B2S ชั้นแรก
มีฉากขนาดใหญ่ปริ้นท์รูปมาดอนน่าสีสดใสกั้นไว้
ยกพื้นเวทีสูงประมาณ 5 นิ้วจากพื้น คือ...ไม่สูงมาก แต่ก็จัดเป็นสัดเป็นส่วนชัดเจนดี
ระหว่างนั้นก็เปิดเพลง 4 Minutes สร้างบรรยากาศไปเรื่อยๆ...
สังเกตว่าคนที่มาร่วมงาน...แม้กระทั่งสื่อเองก็ตามจะเป็นคนที่ทำงานแล้วมากกว่าเป็นเด็กวัยรุ่น
และแต่ละคนก็แสดงตัวตนชัดเจนดี แต่งตัวกันเปรี้ยวมาก และไม่ได้มาสุงสิงเป็นกลุ่มใหญ่
เดินกระจายๆ กันไปเป็นคู่ๆ 2 คนบ้าง 3 คนบ้าง
แต่เมื่อรวมกันในพื้นที่ขนาดนั้นก็ถือว่าเยอะและหนาแน่นพอควร
งานเริ่มช้าไปนิดแต่ก็ไม่น่าเกลียด...
เริ่มจากพิธีกรขึ้นกล่าว เล่นเกมส์เกี่ยวกับมาดอนน่าพออุ่นเครื่อง
(ถามว่าอัลบั้มใหม่ชื่ออะไร และ ใครมีริงโทนเพลง 4 Minutes ให้ขึ้นมารับรางวัล)
แล้วเชิญแฟนคลับของมาดอนน่า...
ซึ่งก็เป็นสมาชิกมาดอนน่าพันธุ์ทิพย์ (ได้พูดโปรโมตชื่อบอร์ดด้วย--อิจฉาจัง)
ซึ่งเธอก็ได้ให้เกียรติเชิญเพื่อนขึ้นมาบนเวทีโดยให้เครดิตว่าเพราะมาดอนน่าทำให้เจอเพื่อนที่ดีคนนี้
หลังจากนั้นก็เริ่มพูดคุยว่าชอบมาดอนน่าสมัยไหม เพราะอะไร...
และเอาของหายากจริงๆ มาให้ชม
อย่างภาพสกรีนหน้ามาดอนน่าพร้อมลายเซ็น
ที่ต้องตอบคำถามในเวปไซด์แฟนคลับและมีเพียง 2 ชิ้นเท่านั้นในโลก เป็นต้น
เสร็จก็เป็นโชว์จากทีมเช้เดย์ที่ถือว่าเป็นไฮไลท์ของงาน
โชว์คนเยอะมากๆ
มีมาดอนน่า 2 คน ทิมเบอร์แลนด์ 2 คน จัสติน 3 คน...ล้นทะลักเลย
ถามว่าดีไหม...รู้สึกว่าเยอะไป
แต่ดูรู้ว่าตั้งใจทำ ตั้งใจซ้อมเต้นและฝึกร้อง
แต่งตัวก็เหมือนอยู่ แรงอยู่...เพียงแต่รู้สึกว่ามันขาดเสน่ห์ไปนิด
จบโชว์ก็มีสัมภาษณ์ป้าเดย์ผู้อยู่เบื้องหลังโชว์
ซึ่งขอบอกตรงนี้ว่าป้าเดย์พูดดีมากๆ แลดูมีความรู้และฟังเพลงมาดอนน่าจริงๆ
บอกชื่ออัลบั้ม แนวเพลง ทิศทางของศิลปินกับกระแสเพลงได้ดี...ทำให้ประทับใจมาก
อีกคนที่อยากชมคือพิธีกร (ขอโทษด้วยที่จำชื่อไม่ได้...เธอเป็นดีเจ)
คือ...จริงใจและไม่ได้เสแสร้ง รู้ก็บอกว่ารู้ ไม่ทราบก็ถาม
ทำให้รู้สึกเป็นกันเองและได้ข้อมูลหลายอย่างด้วย
แถมยังย้ำเรื่องซื้อของลิขสิทธิ์และดาวโหลดริงโทนด้วย
ปิดท้ายงานด้วยการแจกของที่ระลึกพิเศษสำหรับผู้ที่ซื้อซีดี Hard Candy ในงาน 150 คนแรก
เป็นผ้าขนหนูสีดำปักตัวอักษร M สวยมาก
ข้อแตกต่างที่จะพูดถึงก็คือ
1. การจัดงานแบบมีสปอนเซอร์และไม่มีสปอนเซอร์
ในขณะที่งานของมารายห์ใหญ่โต เชิญคนดังมากมาย แต่ภายในงานรู้สึกเบาโหวง
เพราะต้องแบ่งความสำคัญระหว่างสินค้า+พรีเซนเตอร์ใหม่กะมารายห์
...แน่นอนว่าทีมงานแบ่งน้ำหนักไม่ดี คนแทบจะไม่ได้สนใจหรือรู้อะไรเกี่ยวกับมารายห์เลย
ในขณะที่ของมาดอนน่ามีเพียงคนที่เป็นแฟนของจริง
การพูดคุยและเล่นเกมส์ต่างๆ เน้นไปที่ตัวศิลปินและผลงานโดยตรง
เป็นการประชาสัมพันธ์ที่ตรงจุดตามที่ต้องการได้ทันที
2. การให้ความสำคัญกับกลุ่มแฟนคลับ
ขณะที่ของมาดอนน่าแฟนคลับมีบทบาทในงานมาก
ทั้งมีการพูดคุยบนเวทีเป็นเรื่องเป็นราว แต่งตัวโปรโมตงาน
แม้จะไม่มีซีดีอะไรกองใหญ่โต แต่ของไม่กี่ชิ้นที่เตรียมมาซึ่งเป็นของที่ซื้อไม่ได้ด้วยเงิน
และการพูดคุยเพียง 10 นาทีก็ทำให้เชื่อว่าติดตามงานจริงๆ
ถ้าหากผู้จัดงานของมารายห์ให้ความสำคัญกับแฟนคลับสักนิด มีการพูดคุยนานกว่านี้สักหน่อย
จะช่วยโปรโมตตัวศิลปินได้ดีขึ้น
ทำให้คนทั่วไปได้เข้าใจว่าทำไมเราถึงคลั่งไคล้ศิลปินคนนี้ขนาดนั้น
3. การเลือกแขกรับเชิญ
แน่นอนว่าของมารายห์ต้องเน้นไปที่พรีเซนเตอร์ ซึ่งภาพของพรีเซนเตอร์ก็ไม่ได้เชื่อมโยงอะไรกับมารายห์มาก
การสัมภาษณ์ก็ไม่ได้ช่วยให้คนรักมารายห์มากขึ้น
กลับกันกับของมาดอนน่าที่ให้ป้าเดย์พูดถึงการแสดงและความชอบของมาดอนน่า
แม้ว่าป้าเดย์จะไม่ได้บอกว่าตามทุกอัลบั้ม ชอบศิลปินคนนี้มากๆ
แต่มุมมองบางอย่างที่เธอพูดออกมา ความคิดเห็นบางส่วนก็ทำให้รู้ว่าเธอติดตามและสนใจจริงๆ
แขกรับเชิญเหล่านี้จะช่วยเสริมบรรยากาศของงานให้มีสีสันและดึงความสนใจของผู้ร่วมงานเป็นอย่างดี
4. การแสดง
การแสดงของทั้งสองงานขอชมว่าดีไม่ด้วยไปกว่ากัน
แต่เสียดายที่ว่า...ของมารายห์นั้นให้เธอแสดงตอนงานปิดไปแล้ว
ไม่ได้ให้เกียรติมาพูดคุยหรือแนะนำผู้แสดงเลย
แต่ของมาดอนน่ามีการหยุดเรียกให้ถ่ายภาพก่อน มีการพูดคุย มีการชมโน่นนี่
ซึ่งตรงนี้มองว่าเป็นกำลังใจให้คนแสดงนะ
อุตส่าห์ซ้อมมาแต่จะลืมกันง่ายๆ ก็กระไรอยู่
คนดูบางทีก็อยากจะรู้จักชื่อผู้แสดงด้วย ว่าคิดอะไร เป็นมายังไงอะไรแบบนี้
5. การมองการไกล
มาดอนน่าได้เปรียบในการจัดที่ B2S มากๆ
แม้ว่าสถานที่จะไม่ใหญ่โต แต่...ที่ B2S มีซีดีมาดอนน่าขาย
งานเปิดตัวของมารายห์คือวันแรกที่อัลบั้มวางแผง
...แต่กลับไม่มีใครในงานได้ซื้ออัลบั้มเลย เพราะไม่มีการจำหน่ายหน้างาน
ทั้งๆ ที่นี่เป็นโอกาสอันดีในการสนับสนุนศิลปิน ซื้อของแท้
เชื่อว่าคนที่ไปร่วมงานมีจำนวนหนึ่งที่ต้องการซื้อซีดีและกะไปซื้อหน้างานอยู่แล้ว
แต่ทางผู้จัดไม่ได้ให้ความสำคัญตรงนี้...
ถือว่าพลาดโอกาสไปอย่างน่าเสียดาย
วันแรกที่จำหน่ายแท้ๆ คุณอาจจะได้ค่าซีดีจากแฟนๆ และคนที่ผ่านไปมาด้วยก็ได้
และแม้ว่าของมาดอนน่าจะออกขายมาได้สักพักแล้ว
แต่ในงานเมื่อมีการมอบของพิเศษสำหรับผู้ซื้อในงานตอนนั้น
แฟนเดนตายหรือคนที่ยังไม่มีครอบครองก็ต้องล่าให้ได้เป็นธรรมดา
ยิ่งเพิ่มยอดจำหน่ายขึ้นไปอีก...
สรุปแล้ว...
งานของมาดอนน่านั้น จัดแล้วได้ผลตามที่ต้องการทุกอย่าง
ให้คนรู้จักศิลปินและผลงานเพลงมากขึ้น
สร้างความสนใจในการติดตามผลงาน และสร้างผลตอบรับที่ดี
ประชาสัมพันธ์เพื่อกระตุ้นยอดขายได้ถูกกลุ่มเป้าหมาย
ทั้งแฟนคลับและบุคคลทั่วไป
แถมพอจะกลับจากงานมาดอนน่า...มีการบอกว่าเดือนหน้าจะมีปาร์ตี้อัลบั้มอีก
หวังว่า...
ถ้ามีคราวหน้าทางยูนิเวอร์แซลและผู้จัด...
เอาใหม่นะ
แก้ไขเมื่อ 29 เม.ย. 51 20:44:42
แก้ไขเมื่อ 29 เม.ย. 51 20:42:43