Pantip-Cafe | Pantip-TechExchange | PantipMarket.com | Chat | PanTown.com | BlogGang.com | Torakhong.org | GameRoom


    ****ความรู้สึกของซวี่หมีคนหนึ่งที่ไปรับซวี่ที่สนามบินเซี่ยงไฮ้ค่ะ****

    สวัสดียามเที่ยงคืนกว่าๆค่ะ อ่านเจอบทความนี้เธอบรรยายความรู้สึกได้กินใจมากเลยแปลมาแบ่งปันกันน่ะกระพริบตา

    กระดิ่งความรู้สึกของซวี่หมีคนหนึ่งที่ไปรับซวี่ที่สนามบินเซี่ยงไฮ้ค่ะกระดิ่ง

    ลูกโป่งเขา ผอมมากไปแล้วจริงๆ! ลูกโป่ง

    เมื่อคืนนี้ เป็นคืนดาวจรัสแสง!
    เมื่อคืนนี้ สนามบินผู่ตงที่เซี่ยงไฮ้ อาคารสองประตูทางออกสอง ทั้งสองประตู ถูกแออัดไปด้วยผู้คน เพราะว่าวันนี้ พวกเค้าจะไปรอรับคนในครอบครัวที่พิเศษที่จากกันไปนานสองปีเต็มๆ เขาคนนั้นคือ...เหยียนเฉิงซวี่

    ห้าทุ่มยามดึก อาคารใหม่ที่ค่อนข้างใหญ่เงียบสงัด มีผู้คนที่มารอรับผู้โดยสารเดินผ่านไปมาบ้าง แต่ทางออกอินเตอร์เนชั่นเนล กลับมีผู้คนนับร้อยนามซวี่หมีตื่นเต้นดีอกดีใจชะเง้อคอยด้วยความระทึกใจ มีหลายคนที่คุ้นหน้า สายตาทุกคู่จับจ้องไปที่ประตูทางออกด้านในที่ไกลออกไป เสมือนจะมองให้ทะลุผนังที่ขวางกั้นสายตาเราไว้ อยากรีบส่งความคิดถึงความโหยหาให้กับเขาคนนั้นที่เจอตัวยากแสนยากเหลือเกิน

    มีผู้คนออกมาจากด้านในไม่ขาดสาย แต่ก็ไม่เห็นแม้แต่เงาของเขาเลย จ้องจนตาแทบทะลักจริงๆ ตอนนี้ไม่มีผู้โดยสารออกมาแล้ว แล้วเขาล่ะ? หรือว่าเขาแวะไปที่ที่ทุกครั้งจำเป็นต้องแวะหรือ? (ซื่อมามาขอเดาว่าห้องน้ำค่ะ) มีเสียงเบาๆถามด้วยความสงสัย

    ห้าทุ่มกว่าๆ ในที่สุดรูปร่างสูงๆที่คุ้นตาก็เข้าสู่สายตาของพวกเรา เขาใส่หมวกสีดำ ใส่ผ้าปิดปาก ใส่เสื้อสีน้ำเงิน กางเกงสีกากี ที่เท้ายังคงเป็นรองเท้าหัวโตคู่เดิมที่ติดตามเขามาถึงเจ็ดปี เป็นเพื่อนเคียงกายปรากฏตัวให้เห็นพร้อมเขา ที่ประตูทางออก นาทีนั้นเสียงปิติยินดีดังขึ้นทันที “อาซวี่” “เจอร์รี่”ไม่ขาดสาย ทุกคนต่างรู้ดีว่าเขา Low profileมาตลอด จึงพยายามควบคุมอารมณ์คิดถึงเร่าร้อนที่อยู่ในใจ ควบคุมเสียงให้อยู่ในระดับที่พอเหมาะพอควรที่สุด
    ก็คือเหมือนเรียกคนในครอบครัวของตัวเองที่รักใคร่ พอได้ยินเสียงร้องเรียก อาซวี่รีบโบกมือทักทายทุกคนอย่างเอาใจ ก็เลยทำให้เกิดการชุลมุนขึ้นมาเล็กน้อย เขากับผู้ช่วยและพี่น้องที่ตามขึ้นเครื่องเดินมาด้วยกัน ค่อยๆเดินมาถึงที่เครื่องเช็คสัมภาระ ซึ่งระยะอยู่ห่างพวกเราไม่ไกลนัก รอเช็คกระเป๋า นาทีนั้น ทุกคนยกกล้องถ่ายรูปและกล้องโทรศัพท์ขึ้นมากระหน่ำถ่าย ฉับพลันฉันก็รู้สึกว่าทำไมพวกเราถึงคล้ายพวกปาปารัสซี่นะ  และวินาทีนั้น ภาพเหตุการณที่ทำให้ทุกคนนึกไม่ถึงก็ปรากฏขึ้น

    อาซวี่ผละจากผู้ช่วยที่กำลังรอตรวจสัมภาระอยู่ เงยหน้าขึ้นสูง เดินตรงมาหาพวกเราเพียงลำพังอย่างเด็ดเดี่ยว (กริ๊ดดดดดดดดดดดด..ซื่อมามาขอแจมล่วย) นาทีนั้น ในอาคารประตูทางออก นอกจากคนกลุ่มหนึ่งที่อยู่ข้างหลังเขา และเบื้องหน้าที่มีเหล็กกั้นมีใบหน้าจำนวนนับไม่ถ้วนที่ดูโหยหาด้วยความคิดถึง ส่วนทางด้านซ้ายขวาของเขาว่างเปล่าไม่มีคนเลย  เขาก้าวอย่างมาดมั่นตรงมาที่พวกเรา เดินส่ายเล็กน้อย เท่ห์หน่อยๆ  ดูอ่อนโยนนิดๆ (ลองจินตนาการภาพคุณชายเต้าหมิงซื่อเดินเข้าหาคุณสิ) เดินไปพร้อมโบกมือทักทายพวกเราไปด้วย ท่วงท่าสง่างาม ณ เวลานั้นประตูทางออกดูราวกับเป็นแคทวอล์คของเขาไปเสียแล้ว ทีละก้าว ทีละก้าว ก้าวอย่างมาดมั่นขนาดนั้น หล่อและเท่ห์ได้ขนาดนั้น รู้สึกคุ้นตามากและก็รู้สึกแปลกหน้ามากเช่นกัน ทั้งหมดนี้ดูบริสุทธิ์จริงใจเด็ดขาด เป็น step ที่เรียบง่าย แต่อ่อนพลิ้วไปด้วยลีลาหลากหลาย ราวกับภาพในความฝัน แต่กลับชัดเจนจริงแท้ที่เขาเดินจากความฝันตรงมาหาพวกเรา

    ณ เวลานั้น สรรพสิ่งในโลกเงียบสงัด ดูเหมือนฉันลืมแม้กระทั่งหายใจ ไม่อยากเชื่อ ไม่กล้าที่จะเชื่อ เขาทำไมถึงไม่กลัวความรักอันเร่าร้อนที่อยู่ตรงหน้าจะกลับกลายเป็นความบ้าคลั่งในพริบตาจับเขากลืนกินเข้าไป

    บางทีนะ เขาอาจจะถูกความรักของพวกเรารู้สึกซาบซึ้งอยู่ลึกๆ ช่วงเวลาที่ดึกสงัดขนาดนี้ ละทิ้งการนอน บุกมารับเขาถึงที่นี่ต้องเป็นเพื่อนจริงๆของเขาแน่ สำหรับเพื่อนที่ไม่ทิ้งเขา เขายังต้องระวังตัวอะไรอีกล่ะ ดังนั้นเขาจึงเลือกที่จะเดินมาหาพวกเราโดยลำพัง

    หรือบางที เขาเห็นอาคารใหญ่ในสนามบินยามเที่ยงคืน นอกจากพวกเราแล้วไม่มีคนอื่นอีก ถ้าเช่นนั้นเขาจะต้องกังวลอะไรอีกล่ะ อยู่ต่อหน้าญาติที่ใกล้ชิด ทำตัวให้ไฮเปอร์หน่อยจะเป็นไรไป ดังนั้นเขาจึงเลือกที่จะเดินมาหาพวกเราโดยลำพัง

    หรือบางที เขาก็อาจเหมือนพวกเรา โหยหาที่อยากจะเจอหน้าพวกเรา แล้วรับรู้ถึงความรู้สึกของพวกเราที่อยากเจอเขาอยู่ลึกๆ เขาเงยหน้าขึ้น เปลี่ยนแปลงจากที่เคย Low profile จะได้ให้พวกเรามองซะให้พอ ดังนั้นเขาจึงเลือกที่จะเดินมาหาพวกเราโดยลำพัง

    พอได้เห็นภาพนี้ พวกเรารู้สึกเป็นเกียรติและมีความสุขมากแค่ไหนนะ ใช้สนามบินแทนแคทวอล์ก อันนี้น่าจะเป็นความสุขฉากหนึ่งที่รู้สึกได้เฉพาะระหว่างเรากับเขาในคืนนั้น ช่างดื่มด่ำเปี่ยมสุข เหนือคำบรรยาย

    เมื่อเขาเดินใกล้เข้ามาห่างจากพวกเราแค่ก้าวเดียวนั้น จึงทำให้พวกเราที่ตกในความฝันได้ตื่นขึ้น “ทำไมถึงผอมอย่างนี้ล่ะ” “ผอมไปแล้วนะ” มีเสียงเล็ดรอดออกมาจากกลุ่มคน

    ผ้าปิดปากได้ปิดบังใบหน้าแค่ฝ่ามือของเขาไว้ ...................................

    ยังไม่จบค่ะแต่เลยเที่ยงคืนแย้วต้องขออำลาพรุ่งนี้มาต่อค่ะhoho


    http://news.67.com/files/2008/5/27/120185.shtml

     
     

    จากคุณ : พี่ R - [ 28 พ.ค. 51 00:18:49 ]

 
 


ข้อความหรือรูปภาพที่ปรากฏในกระทู้ที่ท่านเห็นอยู่นี้ เกิดจากการตั้งกระทู้และถูกส่งขึ้นกระดานข่าวโดยอัตโนมัติจากบุคคลทั่วไป ซึ่ง PANTIP.COM มิได้มีส่วนร่วมรู้เห็น ตรวจสอบ หรือพิสูจน์ข้อเท็จจริงใดๆ ทั้งสิ้น หากท่านพบเห็นข้อความ หรือรูปภาพในกระทู้ที่ไม่เหมาะสม กรุณาแจ้งทีมงานทราบ เพื่อดำเนินการต่อไป