Pantip-Cafe | Pantip-TechExchange | PantipMarket.com | Chat | PanTown.com | BlogGang.com | Torakhong.org | GameRoom


    Testimony : The Memoirs of Dmitri Shostakovich .. ขบถในคราบคีตกวี หรือ สหายผู้ภักดีแห่งโซเวียต

    Testimony: The Memoirs of Dmitri Shostakovich
    As Related to and Edited by Solomon Volkov, Translated by Antonina W. Bouis
    25th Anniversary edition, 292 Pages

    ไม่มีคีตกวีคนใดในประวัติศาสตร์โลกที่ข้องเกี่ยวกับการเมืองเท่าชอสตาโกวิช..

    ทุกครั้งที่ผมฟังดนตรีของเขา ผมมักคิดถึงเหตุการณ์ทางประวัติศาสตร์ของสหภาพโซเวียตที่แวดล้อมชีวิตเขา อย่างเวลาที่ฟังกระบวนที่สอง (Allegro) จากซิมโฟนีหมายเลข 10 ใจผมจะสั่นสะท้านทุกครั้ง เพราะรู้สึกถึงความน่าสะพรึงกลัวของสตาลินที่ถ่ายทอดผ่านบทเพลง หรือขณะที่ฟังกระบวนสุดท้ายจากซิมโฟนีหมายเลข 5 ผมสัมผัสถึงอารมณ์เย้ยหยันของชอสตาโกวิช ที่ถ่ายทอดความปลื้มปิติแบบ 'หลอกตัวเอง' เหมือนชาวโซเวียตผู้ขมขื่น ที่ต้องฝืนยิ้ม ฝืนหัวเราะ ว่าตัวเองมีความสุข ได้รับชัยชนะจากระบบใหม่

    เมื่อชอสตาโกวิชเสียชีวิตในปี 1975 สื่อในโลกตะวันตกต่างเขียนไปในทางเดียวกันว่าเขาเป็นคีตกวีแห่งโลกคอมมิวนิสต์ หนังสือพิมพ์ London Times เขียนถึงเขาว่า "One of the greatest twentieth-century composer and a committed believer in communism and soviet power." หนังสือพิมพ์ The New York Times พาดหัวข่าวว่า "A committed communist who accepted sometimes harsh ideological criticism." จนถึงขณะนั้น โลกภายนอกสหภาพโซเวียตมองว่า งานดนตรีของชอสตาโกวิชรับใช้พรรคคอมมิวนิสต์ มองเขาเป็นสหายผู้จงรักภักดีแห่งสหภาพโซเวียต

    จนกระทั่งปี 1979 ที่หนังสือ Testimony : The Memoirs of Dmitri Shostakovich ได้ออกวางจำหน่าย หนังสือขายดีเล่มนี้เปลี่ยนภาพลักษณ์มุมมองของโลกตะวันตกที่มีต่อชอสตาโกวิชอย่างสิ้นเชิง

    หนังสือเล่มนี้เขียนขึ้นโดยนักวิจารณ์ดนตรีหนุ่ม 'โซโลมอน โวลคอฟ' ในช่วงบั้นปลายชีวิตของชอสตาโกวิชเขาได้พบกับโวลคอฟและเห็นว่าโวลคอฟเป็นบุคคลที่ชาญฉลาดเชื่อถือได้ ทั้งคู่ได้นัดสนทนากันหลายครั้ง โวลคอฟจดบันทึกถ้อยคำสนทนาอย่างละเอียด ต่อมาเมื่อเขาได้ลี้ภัยมาสหรัฐอเมริกาในปี 1976 เขาได้รวบรวมเอกสารสัมภาษณ์ทั้งหมด เพื่อตีพิมพ์ออกมาเป็นหนังสือเล่มนี้

    ในหนังสือไม่มีประโยคคำถามของโวลคอฟ ดังนั้นขณะที่ผมอ่านจึงรู้สึกเหมือนกับว่า ชอสตาโกวิชเป็นผู้เขียนหนังสือเล่มนี้เอง เขาพูดถึงบุคคลต่างๆมากมาย อาทิ กลาซูนอฟ, ซอชเช็งโก, โปรโกเฟียฟ, สตราวินสกี้, เชคอฟ, มุสซอกสกี้ ฯลฯ แต่คนสำคัญที่สุดแน่นอนว่าเป็น 'สตาลิน'

    ชอสตาโกวินวิจารณ์สตาลินอย่างเข้มข้น เขาบอกว่าสตาลินเป็นคนป่าเถื่อนโหดร้าย และก่อความวิบัติแก่รัสเซียมากกว่าซาร์ที่ผ่านมาทุกพระองค์นำมารวมกัน มีเกร็ดตอนหนึ่งที่พูดถึงความหวาดกลัวของคนรัสเซียที่มีต่อสตาลิน ชอสตาโกวิชเล่าว่า มีอยู่วันหนึ่งในฤดูร้อน สตาลินได้ออกไปพักผ่อนที่บ้านพักชนบท (dacha) เขาฟังเพลงเปียโนคอนแชร์โตของโมสาร์ททางวิทยุแล้วชอบมาก จึงบอกเจ้าหน้าที่ให้หาแผ่นเสียงมาโดยด่วน เจ้าหน้าที่รู้ทั้งรู้ว่าเป็นการแสดงสดถ่ายทอดผ่านวิทยุ แต่ด้วยความกลัว จึงบอกว่าจะจัดหามาในวันรุ่งขึ้น คืนนั้นเจ้าหน้าที่เรียกนักดนตรีและวาทยากรมาอัดเสียงกันกลางดึก วาทยากรคนแรกหวาดกลัวจนไม่สามารถอำนวยเพลงได้ พอเปลี่ยนวาทยากรมาคนที่สองก็มือไม้สั่น เกรงว่าบทเพลงจะออกมาไม่ดี จนต้องเปลี่ยนวาทยากรมาคนที่สาม การบันทึกเสียงครั้งนั้นถึงสำเร็จ

    คนทั่วโลกมองซิมโฟนีหมายเลข 7 (Leningrad Symphony) ของชอสตาโกวิช เป็นสัญลักษณ์ของการต่อต้านนาซีในสงครามโลกครั้งที่ 2 ทว่าในหนังสือเล่มนี้ เขาบอกว่าทุกคนเข้าใจผิด เขาแต่งซิมโฟนีหมายเลข 7 เพื่อสะท้อนความทุกข์เข็ญของชาวรัสเซียช่วงก่อนสงครามโลกครั้งที่สอง บทเพลงนี้อุทิศแด่คนที่ตายจากไป แด่คนที่ต้องทุกข์ยากขมขื่นในยุคสมัยสตาลิน ไม่ใช่จากสงครามที่เกิดขึ้นกับนาซี เขาบอกว่าสงครามทำให้บรรยากาศหลายอย่างผ่อนคลายขึ้น เขามีอิสรเสรีภาพในการประพันธ์เพลงมากขึ้น (เขาแต่งซิมโฟนีหมายเลข 7 และ 8 ระหว่างสงคราม)

    นอกจากแง่มุมทางสังคมและการเมืองแล้ว หนังสือเล่มนี้ยังมีเกร็ดเล็กเกร็ดน้อยที่น่าสนใจ อาทิ ชอสตาโกวิชไม่ชอบทอสกานินี (แม้เขาไม่เคยได้ยินทอสกานินีอำนวยเพลงในคอนเสิร์ทฮอลล์ แต่ก็ได้ฟังจากแผ่นเสียง), เขาชื่นชอบดนตรีของสตราวินสกี้อย่างยิ่ง โดยเฉพาะผลงานช่วงหลังของชีวิต (Stravinsky is the only composer of our century whom I would call great without any doubt.), เขาไม่เคยเป็นเพื่อนกับโปรโกเฟียฟ โดยบอกว่าโปรโกเฟียฟเป็นคนไม่สุงสิงกับใคร สนใจแต่ดนตรีของตัวเอง ไม่มองเขาในสายตา มองเพียงสตราวินสกี้เป็นคู่แข่งเท่านั้น

    เนื่องจากหนังสือเล่มนี้เขียนขึ้นโดยโวลคอฟ ที่ผ่านมาจึงมีคำถามว่า นี่เป็นสิ่งที่ชอสตาโกวิชพูดกับโวลคอฟจริง 100% มั้ย? มีบางส่วนที่โวลคอฟแต่งเสริมเพิ่มขึ้นเองรึเปล่า? ประเด็นความน่าเชื่อถือของหนังสือยังคงเป็นที่ถกเถียงในแวดวงดนตรีศึกษาจวบจนทุกวันนี้.. อย่างไรก็ตาม ถ้าชอบและสนใจชอสตาโกวิช นี่เป็นหนังสือที่ 'ต้องอ่าน' ครับ

     
     

    จากคุณ : BlueWhiteRed - [ 31 พ.ค. 51 16:00:44 ]