|
รำลึกความหลังครั้งเพลงญี่ปุ่นยังรุ่งเรือง มาช่วยกันโพสต์หน่อยนะคะ
ช่วงนี้เป็นอะไรที่ เกาหลีครองเมืองจริงๆ -_-" ได้เห็นภาพเด็กๆ รุ่นใหม่ คลั่งไคล้นักร้องเกาหลีกัน ก็พาลให้นึกถึงบรรยากาศเก่าๆ ที่เกิดขึ้นกับตัวเอง เมื่อสักสิบปีที่แล้ว (แก่แล้วอ่ะ ^_^) ยุคที่ว่ากันว่า เพลงญี่ปุ่นรุ่งเรืองที่สุด
มานั่งนึกดู ตัวเองสมัยยังผูกคอซอง ก็มีอาการไม่ต่างจากเด็กๆ พวกนี้สักเท่าไหร่ แต่เผอิญความคลั่งไคล้ของดิฉัน มันไปเกิดกับนักร้องญี่ปุ่น โดยเฉพาะวง j-rock ทั้งหลาย ซึ่งคล้ายจะเป็นวัฒนธรรมเฉพาะกลุ่ม -_- เพราะคนรอบข้างดิฉันที่ไม่เข้าใจ ต่างพากันประณามหยามเหยียด ทั้งดิฉันและทั้งตัวนักร้องว่า บ้า บ้างล่ะ เหมือนปีศาจ บ้างล่ะ... แต่ที่ผ่านมา ก็ไม่เคยทำให้ตัวเองรู้สึกน้อยเนื้อต่ำใจ หรือท้อแท้ ถึงขั้นเลิกติดตามเพลง j-rockได้เลย ตรงกันข้าม นับตั้งแต่วันนั้น สิบปีผ่านไป ทุกอย่างยังเหมือนเดิม ถึงจะมีเบื่อบ้าง แต่ชีวิตด้านบันเทิง(และกระเป๋าสตางค์)ของดิฉัน ก็ยังคงวนเวียนอยู่กับวงการเพลงญี่ปุ่น ไม่เคยเปลี่ยน :>
เลยอยากให้ทุกคนที่เคยผ่านช่วงเวลาเหล่านั้นมา มาร่วมรำลึกความหลังกันหน่อยได้ไหมคะ ว่าช่วงนั้น คุณกำลังทำอะไรอยู่ และได้พบเจอกับอะไรมาบ้าง ของดิฉัน เท่าที่จำได้ ก็มีดังนี้ค่ะ
- วงแรกที่ฟัง คือ x japan ต่อจากนั้นก็ตามด้วย สี่จตุรเทพ luna sea, glay, larc en ciel, malice mizer
- J-pop เหรอ ไม่ค่อยรู้จักอ่ะ รู้แต่ว่า utada hikaru, tokio, speed และ v.6 ดังมากกกกกก เพลง white love ของ speed กับ made in japan ของ v.6 ยังฮัมท่อนฮุคได้จนถึงทุกวันนี้เลย
- หาซื้อเพลงญี่ปุ่นได้ที่สยาม >> เทป ซีดี วิดิโอ ซิงเกิ้ล >> ร้านอิชิฯ ร้านว้อยซ์ และคาเนะโมจิ
- บ้านอยู่ชานเมือง ไปได้แค่วันเสาร์ และต้องทนนั่งรถเมล์ร้อน ไป-กลับ สิริรวมเกือบ 3 ชั่วโมง
- พกตังค์ ทีละไม่เกิน 500 (ยังเด็ก) เลยมีปัญญาซื้อได้แค่ เทป กับซิงเกิ้ล(ที่คิดจะสะสมจริงๆ)
- วิดิโอซื้อบ้าง แต่ไม่เยอะ อาศัยยืมคนอื่นดู แต่ครั้นจะซื้อก็ทุ่มสุดตัว ม้วนละ 800 ยังเคยซื้อมาแล้ว -_- (ปกติถ้าของที่สั่งไว้ หมด ต้องทนรอประมาณ 1 อาทิตย์อย่างต่ำ)
- ไม่มีอินเตอร์เน็ต ไม่มี mv ฉายทางฟรีทีวี มีแต่รายการวิทยุของดีเจ eddy นิตยสาร I spy, idol Nippon เป็นแหล่งข้อมูล
- โยชิกิ ฮิเดะ เทรุ จิโร่ สุงิโซ่ อิโนรัน แก๊ก ไฮด์ และซากุระ คือยอดชายในดวงใจ
- โยชิกิตอนหั่นผมสั้น หล่อมากกกกกกก ได้ข่าวความเจ้าชู้ของแกทีไร แอบหวงนิดๆ ไม่อยากให้แกสนิทกับใครนอกจากฮิเดะเลย
- เพลง bel air, au reviour, ma charie (เขียนถูกรึเปล่า^^) ของ malice mizer ทำให้ปิ๊งวงนี้ทันทีตั้งแต่แรกฟัง เล่นเอาทึ่งในความเก่ง+หล่อ ของพี่แก๊ก แบบสุดๆ
- เพลงแรกของ larc ที่ฟังคือ blurry eyes ก่อนได้วิดิโอมาดู ได้รับการบรรยายสรรพคุณจากคนที่ให้ยืมว่า แกดูซะ นักร้องนำของวงนี้ เป็นลูกครึ่ง และเป็นผู้ชายที่หล่อที่สุดในญี่ปุ่น
- Shazna คือวง visual ที่ดังมาก เพลง melty love, white silent night, pearl white memory แทบไม่มีใครที่ชอบเพลงญี่ปุ่นไม่รู้จัก โปสเตอร์หน้า izam นักร้องนำ แปะเต็มหน้าร้านที่สยาม เธอช่างเป็นผู้ชายที่สวย และเหมือนผู้หญิงซะจริง (แต่เสียง แมน มากอ่ะ)
- ไปรับ chisato มือกีตาร์วง penicillin ที่ดอนเมือง ได้ชุลมุนชุลเกกับบรรดาแฟนคลับหลายร้อย สุดท้ายได้กอดเอวพี่จิด้วย (พี่แก หล่อ สูง ขาว และอัธยาศัยดีสุดๆ)
- คอนเสิร์ตของ penicillin ที่มาตอนงาน asian live ที่ the mall งามวงศ์วาน ถือเป็นคอนเสิร์ตวงญี่ปุ่นวงเดียวในชีวิตที่เคยดู
- เพลงแรกของ glay ที่ฟัง คือ however ตามด้วย beloved หลังจากนั้นก็ติดตามมาตลอด ไม่ได้ชอบเท่ากับ larc แต่ก็ทำให้บ้าเทรุ และจิโร่ไปพักใหญ่
- ดู mv ของ glay ทีไร อยากทะลุจอทีวี เข้าไปหอมแก้มจิโร่ทุกครั้ง ^0^
- ฮิเดะ เป็นคนที่น่าชื่นชมมาก ดูเป็นผู้ใหญ่ใจดี มีลูกบ้า แต่น่ารัก และเป็นคนที่ให้มุมมองการใช้ชีวิตว่า อย่าทำตัวแก่แล้วแก่เลย อายุเยอะแล้วไง? ต้องมีชีวิตชีวา สนุกกับมันให้สุดๆ สิ!!!
- การชมนักดนตรีว่า หล่อ อย่างออกนอกหน้า ถือเป็นเรื่องต้องห้าม ประมาณว่า เธอฟังเพลงเพราะหน้าตาเหรอ ไม่ดีเลยนะ ทั้งที่จริงๆ แล้ว ยัยพวกนี้ทุ่มซื้อรูปนักดนตรีหล่อๆ ใส่กระเป๋าสตางค์ยิ่งกว่าดิฉันเสียอีก -_-
- วง visual อื่นๆ ที่ดังพอตัว ก็มี baiser, la cryma Christi (เท่าที่รู้จักอ่ะนะ)
- หลังจากนั้น ก็จะเป็นยุคของ เดอ(ออง เกรย์) กับ ดิว(เลอ คว้อทซ์) ที่ว่ากันว่า เป็นคู่แข่งที่กินกันไม่ลง ดิฉันก็เออออ ตามเขา ทั้งที่ในใจแอบเชียร์เดอ เพราะรู้จักเพลงของดิวเพลงเดียว คือ rodeo
- X japan วงแตก ฮิเดะ เสียชีวิต luna sea ยุบวง ถือเป็นความทรงจำห้วงท้ายๆ ของดิฉัน ก่อนจะเริ่มเข้าสู่รั้วมหาวิทยาลัย ซึ่งแทบจะเลิกตามเพลงญี่ปุ่นไปเลย(เพราะเรียนทางด้านภาษาอังกฤษ และเรียนหนักมาก)
นี่คือความทรงจำคร่าวๆ เท่าที่ตัวเองจำได้ มารู้ตัวและบ้าเพลงญี่ปุ่นอีกที ก็ตอนที่ทำงาน มีเงินเดือน และอินเตอร์เน็ตเป็นของตัวเองแล้ว ทุกวันนี้ แม้จะรู้สึกแปลกๆ อยู่บ้าง ที่ร่ำเรียนและทำงานด้านภาษาอังกฤษ ซ้ำยังเปี่ยมไปด้วยความเป็น นิปปอน โอตาคุ เต็มร้อย เสมือน 2 คนในร่างเดียว แต่ก็รู้สึกภูมิใจ และไม่เคยทำให้ความคลั่งไคล้ของเรากลายมาเป็นอุปสรรคในการเรียนหรือทำงานเลย
แล้วของเพื่อนๆ พี่ๆ น้องๆ เป็นยังไงกันบ้างคะ?? อยากแบ่งปันประสบการณ์กับทุกคนค่ะ
จากคุณ :
เต่าหมุนชอบกินขนมโก๋
- [
25 ก.ค. 51 22:48:54
]
|
|
|
|
|