สองสามปีมานี้
แม้วงการเพลงไทยจะหนืดๆไปบ้าง..ไม่เหมือนสมัยก่อน
แต่ก็ไม่ได้หมายความว่าจะไม่มี "คนหน้าใหม่" อยากเข้ามาสัมผัส
ทั้งเข้ามาในรูปแบบศิลปินนักร้อง , นักแต่งเพลง , เจ้าของค่าย
หรือ..ควบเหมารวมหลายๆอย่างทั้งหมดในคนๆเดียว
ซึ่งถ้าหากมีความสามารถจริง มีทุกสิ่งพร้อม - ก็ย่อมทำได้
รวยด้วย เก่งด้วย มีความเชี่ยวชาญชำนาญการ
มากพร้อมด้วย จิตสำนึกที่ดี และ ความจริงใจต่อวงการเพลง
สร้างผลงานจากเงินและมันสมองของตัวเอง
ทั้งในและต่างประเทศทั่วโลกก็มีให้เห็นเยอะแยะ ไม่ใช่เรื่องใหม่
และ ก็ไม่ใช่เรื่องแปลก
ความจริงเช่นนี้..
ก็ย่อมเป็นที่น่าชื่นชม และ ปรบมือให้
เพราะเป็น "ของจริง - ตัวจริง" ไม่ใช่นักหลอกต้ม - ตบตา
ที่วันวันคอยแต่สร้างภาพ สร้างราคาให้ตัวเอง
เพื่อให้คนจำนวนมาก - เข้าใจผิด..
..เหมือนนายทุนคนหนึ่ง ?!
นายทุน คนนี้เป็นหนุ่มใหญ่วัยสี่สิบต้น
ฐานะทางบ้านตั้งแต่วัยเด็กจนกระทั่งเดี๋ยวนี้
เรียกได้ว่าอยู่ในระดับ เศรษฐี
มีชีวิตที่สำราญอยู่กับการเที่ยวกลางคืนเป็นหลัก
งานอดิเรกคือการ แต่งรถ และ สะสมซีดีเพลงไทย แทบทุกชุด
หลงใหลวงการเพลง และ ฝันอยากเป็น นักแต่งเพลง ตั้งแต่เด็ก
แต่ผ่านไปกี่ปี ก็ไม่มีเพลงที่แต่งขึ้นเองได้เลย สักเพลง ?!
อาจเพราะสวรรค์ไม่ได้ประทานพรข้อนี้
แต่ด้วยคิดว่ามีเงิน และ คิดว่าเงินคงซื้อทุกอย่างได้
จึงใช้เงินเป็น ใบเบิกทาง สร้างฝันให้ตัวเอง
หวังอยากให้คนรอบข้างสนใจและพูดถึงตัวเอง..
..ในฐานะ นักแต่งเพลง
ไม่นานนัก "นายทุน" คนนี้..
จึงได้ว่าจ้าง นักร้องกลางคืนหน้าตาดี หลายคน ทั้งหญิง และ ชาย
บอกว่าจะแต่งเพลงให้ร้องออกเป็นอัลบั้มรวมศิลปิน
แถมให้ค่าจ้างร้องเพลงเป็นเงินเพลงละ 10,000 บาท
การจ่ายค่าร้องมากขนาดนี้ ทำให้นักร้องบางคน ลืมถาม ว่าพี่เป็นใคร ?
หรือถ้ามีใครที่ถาม ?
นายทุนคนนี้ ก็มักบอกใครต่อใครว่าเป็น โปรดิวซ์เซอร์
และ เป็นนักแต่งเพลงที่ไม่ค่อยอยากออกตัว !
ทั้งๆที่แต่งเพลงดังๆมาเยอะแล้วหลายเพลง ?!
เมื่อได้นักร้องครบ
ก็ได้เวลาไปควานหาจ้าง โปรดิวซ์เซอร์ มาดูแลงานให้
ทุกอย่างเลยไปลงเอยที่ นักแต่งเพลง คนหนึ่ง
จัดว่าเป็นคนมีฝีมือในการทำดนตรี และ รับงานโปรดิวซ์มาแล้วหลายชุด
ที่สำคัญตอนนี้กำลัง ถังแตก แม้เงินจะผ่อนรถก็ยังไม่มี !!
โปรดิวซ์เซอร์ คนนี้
ตกลงที่จะทำเพลงและดูแลการผลิตให้ นายทุน
โดยการจะแต่งเพลงให้ทุกเพลงจนเสร็จเป็นมาสเตอร์ซีดี
เงินที่ตกลงกันอยู่ที่เพลงละ 70,000 บาท
และ ดีลกันเป็นการขายขาด !
ไม่มีส่วนแบ่งจากการขายใดๆทั้งสิ้น !
ลิขสิทธิ์ทุกอย่างจะต้องตกเป็นของ นายทุน คนเดียว !!
แม้เป็นเช่นนั้น..
แต่โปรดิวซ์เซอร์ก็คิดว่าสมน้ำสมเนื้อ สมราคา
เพราะรายได้จากยอดขายในยุคสมัยนี้ ไม่เคยหวัง มานานแล้ว
เอาค่าทำเพลงหนักๆไปเลยดีกว่า..คุ้มกว่า !
จึงเดินหน้าทำงานเข้าออกห้องอัดอยู่นานร่วม 3 เดือน เพลงก็เสร็จ
ระหว่างที่ไปคุมร้องนักร้อง
หรือ มีคิวอัดเสียงที่ห้องอัดทุกครั้ง
นายทุน คนนี้จะมาอยู่ดู และ สังเกตุการณ์ด้วยตลอด
และ พยายามไม่ให้นักร้องพูดคุยหรือแลกเบอร์กับโปรดิวซ์เซอร์
ทั้งๆที่ความเป็นจริงคนทำงานด้วยกันควรจะต้องสนิทสนมกัน !
แม้ระหว่างการทำงาน
บรรยากาศจะเต็มไปด้วยความอึดอัด และ แปลกๆ เหมือนไม่สนิทใจ
แต่เมื่อเงินค่าทำงาน จ่ายตรงเวลา ทุกครั้ง
ก็ทำให้โปรดิวซ์เซอร์พลอยเลิกกังวลในข้ออื่นๆไปด้วย
ที่สุดแล้วอัลบั้มชุดนี้ มี 12 เพลง
โปรดิวซ์เซอร์คนนี้ ทำดนตรีไปทั้งหมด 9 เพลง
มีอีก 3 เพลง ส่งให้เพื่อนๆทำ
ส่วนด้านเนื้อเพลง ก็ส่งให้นักแต่งเพลงน้องๆพี่ๆฝิ่นงานกันไป
และ บอกทุกคนว่านี่เป็นการ ซื้อขาด ตามที่ดีลกับนายทุนไว้
รับเงินค่าแต่งแล้ว ก็จบกันไป ไม่ต้องรอเปอร์เซ็นต์
ซึ่งทุกคนก็โอเค..ไม่มีปัญหา
หลังส่งมาสเตอร์ไปแล้วสองเดือนกว่าๆ
โปรดิวเซอร์ก็โทรกลับไปหานายทุนว่า..
อัลบั้มที่ทำไว้วางหรือยัง ? ไม่เห็นส่งข่าวเลย ?!
นายทุนบอกกลับมา..ใครบอกผมจะทำขาย ?!
ผมทำไว้แจกเด็กๆ แจกน้องๆนุ่งๆในกลุ่มปาร์ตี้ด้วยกัน !!
โหพี่..หมดเงินไปเกือบล้าน ทำไว้แจกเนี่ยนะ ?! ใจดีจริงๆ
มีอะให้ผมช่วยก็บอกนะครับ ได้เลย..
พูดจบ โปรดิวซ์เซอร์ก็วางหูไปด้วยความงง !
แต่ถึงแม้จะงง..ก็ไม่ได้ติดใจอะไร
คิดว่า "โลกของคนรวย" ทำอะไรก็ได้
และคนเป็นนายทุนมีสิทธิ์เต็มที่ ที่จะเอาไปขาย หรือ ไม่ขาย !!
เรื่องน่าจะจบแบบแฮปปี้..แต่กลับไม่ใช่ ?!
((โปรดติดตามตอนต่อไป))
แก้ไขคำว่า ประธาน เป็น ประทาน (ขอบคุณ..คุณ NiGht pRincE )
แก้ไขเมื่อ 02 ม.ค. 52 11:13:57
แก้ไขเมื่อ 02 ม.ค. 52 11:08:58