Pantip-Cafe | Pantip-TechExchange | PantipMarket.com | Chat | PanTown.com | BlogGang.com


    นำบทความดี ๆ มาให้อ่านค่ะ

    ไม่รู้ว่าเคยอ่านกันรึยังนะค่ะ ถ้าอ่านแล้วขอโทษด้วยนะค่ะ

    Register ที่ 4 Whistle สุดท้ายและท้ายสุด ก่อนกลายเป็นโรงเรียน

    แล้วเราก็เดินทางมาถึง register สุดท้ายของ รายวิชาว่าด้วย voice register กันแล้วนะครับ

    ต้อง ขอโทษที่เว้นช่วงไปนานเพราะไปประชุมเรื่องการผ่าตัดตกแต่งจมูกมา เนื่องจากผมทำด้าน facial plastic surgery ด้วย แล้วมีอาจารย์จาก Asan medical center ที่ดังที่สุดด้านทำจมูกของเกาหลี ซึ่งทำให้ดาราที่เราเห็นๆกัน เช่น ทำให้ คิมแตฮี เป็นต้น คือเทคนิคแกดีมากๆครับ ไม่ต้องใส่ซิลิโคนด้วย ผมดูแล้วคิดว่าผมจะพยายามพัฒนาตัวเองไปในทางนี้น่าจะดีเช่นกัน ผมเบื่อการทำจมูกให้คนไข้ด้วยซิลิโคนเต็มที

    ส่วนเรื่อง professional voice ที่เกาหลีนั้นก็มีความก้าวหน้าพอสมควรครับ โดยเน้นเพลงโบสถ์ แต่ผมว่าที่ญี่ปุ่นเจริญกว่า คิดว่าคงใช้เวลาอีกสักพัก professional voice ของเขาคงจะเจริญไม่แพ้ญี่ปุ่น

    สู่ register Whistle
    เป็น เสียงที่มีการร้องเพลงโดยให้ลมเกือบทั้งหมดตั้งแต่ 80-100% ไปที่จมูกทั้งหมด กลไกนี้ไม่เกี่ยวใดๆกับกล้ามเนื้อกล่องเสียง เพราะเมื่อเราใช้ whistle ปุ๊บ กล่องเสียงจะมีหน้าที่เพียงแต่สร้างลมและความถี่พื้นฐาน ส่วนความถี่ที่เราจะบังคับให้เป็นไปนั้น หน้าที่จะไปตกแก่ เพดานอ่อน

    ความแตกต่างจาก register อื่นๆ
    1.ต่างจาก chest tone ตรงที่ chest tone ใช้กล้ามเนื้อกล่องเสียงปรับความถี่ แต่ whistle ใช้เพดานอ่อนปรับความถี่ (คลำดูที่คอได้)
    2. ต่างจาก falsetto ตรงที่ falsetto ก็ใช้กล่องเสียงคล้าย chest tone แต่อาจจะคล้าย whistle กว่าตรงมีลมออกจมูกมาก แต่ก็มีลมออกปากด้วยอย่างชัดเจน ในขณะที่ whistle ไม่มีเสียงออกปากเลย

    การฝึกให้มี whistle
    1.การฝึกแบบ closed mouth คือการฝึกใช้เสียงดัง อึและอี ซึ่งเป็นเสียงที่ทำได้ในภาวะปิดปาก เพื่อเรียนรู้สภาพที่ลมออกจมูก 100% ไล่โน้ตในภาวะนี้พร้อมทั้งการทำ vibration แบบต่างๆให้ชำนาญ
    2.การฝึกแบบ opened mouth คือ เปิดปากทำเสียง whistle ซึ่งเราจะสามารถทำได้ทุกสระ (vowel) ซึ่งอาศัยการอ้าทำรูปปากต่างกันอีกทั้งให้เรียนรู้การแบ่งลมบางส่วนออกปาก แต่ยังให้คงความแหลมใสของ whistle ไว้ ไม่ตกเข้าสู่ falsetto ไปซะก่อน
    3.ฝึกการร้องออกคำ ในการใช้เสียง whistle มีประเด็นตรงที่ว่าการออกคำด้วย whistle นั้นไม่ชัดเจน 100% ดังนั้นในคำที่ต้องการเน้นคำจริงๆ จะต้องตีกลับ register ในขณะร้องลงมาใช้ high falsetto เสร็จแล้วตีหางเสียงในคำกลับไปใช้ whistle ต่อ ซึ่งเราจะเห็นอยู่บ่อยๆกับรูปแบบการร้องของนักร้องประเภท cloratura และ นักร้องเสียง soprano แนว bel canto

    ความไพเราะของเสียง whistle อยู่ที่ความพริ้วไหว ดังนั้นต้องฝึกในประเด็นนี้ให้มาก จะใช้มากในการร้อง coloratura , Bel canto ที่ต้องเลียนเสียงเปียโน มักใช้กับเนื้อเสียง soprano,sopranista,counter tenor,tenor

    ความจริงยังไม่สุดท้ายหรอก ครับ ยังมี passagio อีกอันที่จะต้องกล่าวถึงในบทนี้ก็รออ่านกันนะครับ แล้วจะเอาเสียง whistle มาฝากอีกที เผื่ออธิบายไม่เข้าใจ

    เครดิต http://www.bloggang.com/viewprofile.php?id=professionalvoice&action=viewprofile

    จากคุณ : melody - [ 8 ม.ค. 52 20:38:17 A:125.27.51.49 X: ]

 
 


ข้อความหรือรูปภาพที่ปรากฏในกระทู้ที่ท่านเห็นอยู่นี้ เกิดจากการตั้งกระทู้และถูกส่งขึ้นกระดานข่าวโดยอัตโนมัติจากบุคคลทั่วไป ซึ่ง PANTIP.COM มิได้มีส่วนร่วมรู้เห็น ตรวจสอบ หรือพิสูจน์ข้อเท็จจริงใดๆ ทั้งสิ้น หากท่านพบเห็นข้อความ หรือรูปภาพในกระทู้ที่ไม่เหมาะสม กรุณาแจ้งทีมงานทราบ เพื่อดำเนินการต่อไป



Pantip-Cafe | Pantip-TechExchange | PantipMarket.com | Chat | PanTown.com | BlogGang.com