พอดีเึคยถอดความเพลง butterfly เอาไว้เมื่อสองปีที่แล้วลงประทู้ในบอร์ดนี่แหละ พี่กอลฟไปค้นเจอเลยอยากให้เอามาลงใหม่ เห็นว่าหลายคนชอบ
Butterfly ของมารายอาจจะไม่ใช่เพลงรักหวานซึ้ง แต่มันคือเพลงเศร้าๆ(แต่แอบเชิงบวก)เกี่ยวกับความรักพูดถึงการเสียสละ ปล่อยให้คนที่เรารักโบยบินจากไปเหมือนผีเสื้อเพื่อเปิดโอกาสให้เค้าเรียนรู้ที่จะเลือกอย่างอิสระและรอคอยเค้ากลับมาด้วยความเชื่อมั่นว่าหากเค้ารักเรา เค้าจะกลับมาหาเราในที่สุด
นอกจากเนื้อหาที่ทำให้ผมชอบเพลงนี้มากๆแล้ว ในด้านการร้อง เพลงนี้มารายทำได้สวยงามหมดจด การดีไซเสียงร้องก็สอดรับกับอารมณ์เ้พลงทำนองและเนื้อหา่ เพลงนี้เป็นอีกหนึ่งเพลงที่เธอใช้เทคนิคการร้องเยอะมากๆ เริ่มต้นเล่าเรื่องด้วยเสียงพริ้วๆปล่อยลมออกมาเยอะ (หรือที่นักวิจารณ์เรียกว่า "breathy voice"ซึ่งเป็นเอกลักษณ์เด่นของมารายนับตั้งแต่อัลบั้มนี้เป็นต้นไป แต่บ้างก็บอกว่าเป็นสัญญาณบ่งบอกว่าเสียงเธอเริ่มเสีย - -) ลากไปจนกระทั่งท่อนบริจด์ที่เธอเปลี่ยนจากการร้องอันนุ่มนวลพริ้วไหวมาเป็นการเบลท์เสียงชนิดว่าเอาเป็นเอาตายเพราะท่อนเบลท์เพลงนี้แร๊ง ต่อด้วยการลากยาวแอดลิปอย่างบ้าคลั่งแต่ได้อารมณ์สุดๆ เพลงนี้เลยถือว่ามีไดนามิคในส่วนของการร้องเยอะมากๆ การันตีด้วยการเข้าชิงสาขา Best Female Pop Vocal Performance แกรมมี่ปี 98
ส่วนดนตรีก็ทำได้สะอาดดี เพราะเพลงนี้เน้นโชว์เสียงแต่ชอบตรงที่ดนตรีมันไปด้วยกันกับการร้องของมาราย เริ่มมาเบาๆแล้วก็ค่อยๆบิ้วอารมณ์ไปเรื่อยเข้าท่อนพีค เสียง percussion กระหน่ำรุนแรงมาก
Butterfly
"เมื่อเธอรักใครสักคนจนเค้ากลายเป็นส่วนหนึ่งของ ชีวิต มันง่ายมากๆเลยใช่มั้ยที่จะยอมแพ้ต่อความกลัวที่เริ่มเอ่อล้นขึ้นมาในจิตใจ เพราะแบบนี้แหละชั้นจึงเก็บเธอไว้อย่างไม่ลืมหูลืมตาเพียงเพราะกลัวว่าสัก วันหนึ่งจะต้องสูญเสียเธอไป
แต่ตอนนี้ชั้นเข้าใจแล้วว่าการจะรั้งเธอ ไว้ คือต้องปล่อยเธอไป...ปล่อยให้เธอโบยบินออกไปเหมือนผีเสื้อ และจำไว้นะ หากเธอได้เรียนรู้ว่าเราเป็นของกันและกันจริง...เจ้าผีเสื้อของชั้น เธอจะบินกลับมาหาชั้นเอง เพราะฉะนั้น...โบยบินไปเถิดผีเสื้อของชั้น...
ชั้นได้เรียนรู้ว่ารูปลักษณ์อันสวยงามภายนอกนั้นมันก็แค่เปลือกนอก ซึ่งเป็นสิ่งที่เรามองเห็นได้ด้วยตาภายใต้แสงไฟเท่านั้น ดูฝูงม้าป่าพวกนั้นสิ พวกมันวิ่งไปมาอย่างอิสระ ไม่มีบังเหียนคอยควบคุม เพราะหากถูกควบคุมแล้ว จิตวิญญาณของพวกมันก็คงตายทั้งเป็น ตลอดมาเธอคอยให้กำลังใจชั้นเพื่อให้ชั้นสามารถเป็นทุกอย่างที่ชั้นต้องการจะ เป็น และมาบัดนี้ เมื่อถึงเวลาที่ชั้นต้องปล่อยเธอไปบ้าง ชั้นรู้ว่าใจของเธอจะเรียกร้องให้เธอกลับมาหาชั้นเองเมื่อเธอพร้อมที่จะกลับ มา เพราะฉะนั้นจงโบยบินไปซะเถอะเจ้าผีเสื้อของชั้น....
....ชั้นคง ไม่สามารถเสแสร้งได้หรอกว่าชั้นไม่ได้กำลังร้องไห้ หรือน้ำตาที่กำลังไหลพร่างพรูอยู่นี้ไม่ใช่น้ำตาที่มาจากความเสียใจ ความรู้สึกเจ็บปวดที่กำลังทิ่มแทงชั้นอยู่นี้ก็เช่นกัน แต่อย่างไรซะ...ชั้นจะอดทนเพื่อกล่าวคำอาลานี้แก่เธอ...เธอผู้ซึ่งจะไม่ได้ เป็นของชั้นอีกจนกว่าเธอจะเข้าใจว่าทำไมชั้นถึงยอมปล่อยเธอไปหรือปล่อยเธอ ให้โบยบินจากไป...
เพราะฉะนั้น...จงสะบัดปิกของเธอและโบยบินไปสู่ดวงตะวันบนท้องฟ้าอันกว้างไกลซะเถอะ ผีเสื้อของชั้น..."
แก้ไขเมื่อ 21 ก.พ. 52 19:06:41