ความคิดเห็นที่ 1 นี่คือเรื่อง "ซีดีเถื่อน ราคาดี แต่มีบาป" จากคุณ : กึ่งยิงกึ่งผ่าน - [ 26 มี.ค. 52 23:57:44 ]

ความคิดเห็นที่ 2 จากคุณ : กึ่งยิงกึ่งผ่าน - [ 26 มี.ค. 52 23:58:17 ]

ความคิดเห็นที่ 3 จากคุณ : กึ่งยิงกึ่งผ่าน - [ 26 มี.ค. 52 23:58:51 ]

ความคิดเห็นที่ 4 จากคุณ : กึ่งยิงกึ่งผ่าน - [ 26 มี.ค. 52 23:59:28 ]

ความคิดเห็นที่ 5 จากคุณ : กึ่งยิงกึ่งผ่าน - [ 26 มี.ค. 52 23:59:52 ]

ความคิดเห็นที่ 6 ขอบคุณที่เข้ามาอ่านกันนะครับ ธรรมะสวัสดีครับ จากคุณ : กึ่งยิงกึ่งผ่าน - [ 27 มี.ค. 52 00:00:34 ]

ความคิดเห็นที่ 7 ยินดีคะ ขอบคุณที่นำเรื่องดีๆมาแบ่งปัน:) จากคุณ : ~*หนึ่งตะวันพันเม็ดทราย*~ - [ 27 มี.ค. 52 00:16:35 ]

ความคิดเห็นที่ 8 ขอบคุณครับ จากคุณ : aka shuri - [ 27 มี.ค. 52 00:27:00 ]

ความคิดเห็นที่ 9 Give ไม่พอ ต้องโหวตให้ลุงกึ่งด้วย จากคุณ : bbiggy - [ 27 มี.ค. 52 09:13:20 ]

ความคิดเห็นที่ 10 ใช่ๆๆ แบบนี้ต้องโหวต จากคุณ : กุ้งมังกรน้อย - [ 27 มี.ค. 52 10:34:07 ]

ความคิดเห็นที่ 11 พุทธศาสนานี่ไม่เคยตกยุคเลยจริง ๆ จากคุณ : supertarokung - [ 27 มี.ค. 52 14:07:42 ]

ความคิดเห็นที่ 12 ขอบคุณที่นำมาแบ่งปันค่ัะ จากคุณ : หมูจ้ำม่ำ - [ 27 มี.ค. 52 14:25:47 ]

ความคิดเห็นที่ 13 ขอบคุณคับ รอกิ๊ฟเดือนหน้ามาก่อนนะ จากคุณ : น้องบอย (hydehalf) - [ 27 มี.ค. 52 14:40:02 ]

ความคิดเห็นที่ 14 แจ่มมวกกก จากคุณ : เทเลทับขี้ - [ 27 มี.ค. 52 15:34:12 ]

ความคิดเห็นที่ 15 "บางคน"เขาอาจจะทำบาปจนชินชา จนไม่รู้สึกละอายและเกรงกลัวบาปแล้วมั้ง จากคุณ : เจ้าชายแห่งทะเล - [ 27 มี.ค. 52 15:49:23 A:118.174.71.168 X: TicketID:151264 ]

ความคิดเห็นที่ 16 ^ ^ ^ นั่นน่ะสิครับ กับมีอีกแบบนะครับ ที่พยายามจะบอกว่า ก็ค่ายเพลงขโมยของคนอื่นมานี่นา อ้าว ก็แสดงว่านั่นเป็นบาป เป็นการขโมยของคนอื่น แล้วคุณต้องไปขโมยของเค้าอีกต่อเพื่อให้สาสมอย่างนั้นเหรอ ไม่หรอก... ก็แค่อยากได้ของถูก .. เพราะเราไม่จำเป็นต้องไปทำอย่างนั้น ไปด่าเค้าแต่กลืนน้ำลายตัวเองเอาของที่ด่าขโมยมาฟังซะงั้น ถ้ารังเกียจการก๊อบปี้เพลงจริงๆ ก็ควรไม่สนับสนุนเลย ทั้งของแท้หรือแผ่นเถื่อน การมาอ้างว่าต้องซื้อแผ่นผีซีดีเถื่อนเพราะอย่างอย่างอย่างนี้.. ก็.. แค่อยากได้ของถูก ปล.ผมว่าเรื่องที่หลวงพี่ท่านพูดถึง มันรวมไปถึงการโหลดด้วยครับ จากคุณ : กึ่งยิงกึ่งผ่าน - [ 27 มี.ค. 52 16:00:44 ]

ความคิดเห็นที่ 17 เหลือ Give อันสุดท้าย ให้ไปแล้วนะคะ จากคุณ : Matriarchal Miaw - [ 27 มี.ค. 52 16:11:04 ]

ความคิดเห็นที่ 18 ผ่านมา 2,552 ปี ธรรมะก็ยังคงเข้ากับยุคสมัยอยู่เสมอ แต่คิดเล่นๆ มองในอีกแง่มุมหนึ่ง เวลาสองพันกว่าปีที่ไหลไป จิตใจมนุษย์ไม่ได้พัฒนาขึ้นเลยหรือเปล่า? ฮ่า ฮ่า ฮ่า ขำๆครับ จากคุณ : Sic6siX - [ 27 มี.ค. 52 16:38:41 ]

ความคิดเห็นที่ 19 ขอบคุณสำหรับเรื่องดีดีครับ จากคุณ : +++เย็นจันทรา+++ - [ 27 มี.ค. 52 16:46:00 ]

ความคิดเห็นที่ 20 สมกับคำกล่าวที่ว่า ธรรมะ เป็นอกาลิโล จากคุณ : Raycer_X - [ 27 มี.ค. 52 18:22:23 ]

ความคิดเห็นที่ 21 ด้วยความเคารพ ขออนุญาตแก้ข้อความของคุณ Raycer_X เล็กน้อย คงตั้งใจจะพิมพ์ว่า อกาลิโก = ไม่ประกอบ/ไม่ถูกจำกัดด้วยกาลเวลา ใช่ไหมคะ :) ขอบคุณ จขกท สำหรับหนังสือดี ๆ ค่ะ จะไปซื้อมาอ่านให้ลูกฟัง จากคุณ : Eeyore - [ 27 มี.ค. 52 22:44:31 ]

ความคิดเห็นที่ 22 ถ้ามีโอกาส อยากซื้อมาเป็นของตัวเองซักเล่มค่ะ ขอบคุณนะคะ จากคุณ : sasuke_hikaru - [ 27 มี.ค. 52 23:03:14 ]

ความคิดเห็นที่ 23 ดี......... จากคุณ : คนพเนจร หมอนไม่มี - [ 27 มี.ค. 52 23:34:13 ]

ความคิดเห็นที่ 24 เอาง่ายๆนะครับ ผมคิดว่า ศิลปินเค้าแต่งเพลงมา คุณฟังแล้วมีความสุข แต่คุณกลับตอบแทนพวกเขาด้วยการไปขโมยของเขามาเสพ อย่างงั้นเหรอครับ?? จากคุณ : เชื่อผมเหอะ แล้วดีเอง - [ 28 มี.ค. 52 00:06:34 ]

ความคิดเห็นที่ 25 ดีครับ แต่ผมไม่รู้จะทำยังไง  แผ่นเพลงก็หายาก แพงด้วย แล้วก็ยังหาเงินไม่ได้ด้วย เพลงที่ถูกใจก็หายาก   ทำไงดี ??? จากคุณ : tinpo4 - [ 28 มี.ค. 52 00:44:35 ]

ความคิดเห็นที่ 26 #25 ที่โหลดถูกกฎหมายก็มีโฆษณา มีโปรโมชั่นออกมาเยอะแยะครับ ลองเข้าเว็บของค่ายเพลงที่คุณชอบเพลงนั้นๆ อยู่ เข้าไปก็คงเจอได้ง่ายๆ เลยล่ะครับ มีทั้งเพลงเก่าเพลงใหม่ ลองหาดูนะครับ หนทางมีเยอะแยะ ราคาก็ไม่ได้แพงจนซื้อแล้วล่มจมล้มละลาย ซึ่งถ้าจะไม่ซื้อผีหรือโหลดมาจริงๆ เรื่องแค่นี้ไม่เหลือบ่ากว่าแรงหรอกครับ จากคุณ : กึ่งยิงกึ่งผ่าน - [ 28 มี.ค. 52 00:49:29 ]

ความคิดเห็นที่ 27 หากคนเราไม่เชื่อเรื่องบาปบุญคุณโทษ ไม่นับถือศาสนาใดๆ ก็ไม่เห็นมันจะทำอะไรเราได้ ชีวิตคนเราถูกล่ามโซ่ทางความคิดมามากพอแล้วล่ะครับ ผมอาจจะชอบเทคนิคการพูดของท่าน ว. วชิรเมธี แต่ผมไม่คิดว่าการนับถือศาสนา เชื่อในเรื่องบาปบุญคุณโทษจะเป็นสิ่งที่ถูกต้องสำหรับผมเท่าไหร่ จากคุณ : Privatepassion (Privatepassion) - [ 28 มี.ค. 52 00:51:01 ]

ความคิดเห็นที่ 28 #26 รับทราบครับ โลกอินเตอร์เน็ตทำให้ผมได้เพลงที่หลากหลายๆและกว้างมากๆ  จนไม่ได้ฟังเพลงไทยกันแล้ว  (ส่วนใหญ่เพลงฝรั่งทั้งหลาย,ญี่ปุ่นด้วย )(ส่วนใหญ่มีความเป็น Art rock)  ผมคิดออกแล้วคือตั้งใจเรียนให้จบไว้ทำงานมีเงินแล้ว  ค่อยกลับมาตามซื้อก็แล้วกัน แก้ไขเมื่อ 28 มี.ค. 52 01:36:12 จากคุณ : tinpo4 - [ 28 มี.ค. 52 01:34:22 ]

ความคิดเห็นที่ 29 #28 ถ้ายังไม่สามารถซื้อได้ ก็ไม่มีใครว่าหรอกครับ แต่ไม่ใช่ว่า ตอนนี้ซื้อไม่ได้ไม่มีเงิน แต่ไปซื้อแผ่นผีมาฟัง อันนั้นก็อีกเรื่องครับ ไว้มีกำลังซื้อตอนไหนได้ก็ตามสบายครับ อ้อ... ที่ผมบอกว่าดาว์นโหลดถูกกฎหมายเนี่ย ราคามันไม่เท่าซื้อแผ่นผีเลยนะครับ (ขออภัยถ้าไม่ได้ซื้อแผ่นผีครับ แต่บอกกล่าวโดยทั่วกัน) ถ้าซื้อแผ่นผีมา แล้วฟังได้ไม่กี่เพลง เพลงอื่นๆ ห่วยจัง โหลดมาอย่างถูกกฎหมายคุ้มกว่าครับ ปล. ผมเห็นน้องๆ หลายคนที่เรียนอยู่ แต่เค้าเก็บเงินค่าขนมซื้อแผ่นแท้ก็มีอยู่เยอะแยะเลยครับ แต่ในขณะเดียวกัน คนทำงานที่มีเงินเดือนแล้ว ซื้อแผ่นผีก็เห็นอยู่เยอะเหมือนกัน มันไม่เกี่ยวกับเรื่องเงินที่ว่าจะพอซื้อได้ไหมแล้วล่ะครับ มันอยู่ที่จิตสำนึกแล้วล่ะครับ สุดท้ายก็คงไม่มีใครทำอะไรได้ คนที่ยินดีที่จะซื้อแผ่นผีก็คงซื้อกันต่อไป และปริมาณก็เยอะเสียด้วย ก็คงได้แต่ทำใจครับ #27 ตามสบายเลยครับ เรื่องบาปบุณคุณไม่สนใจ เรื่องความภูมิใจก็คงไม่สนใจเช่นกัน อันนี้ห้ามกันไม่ได้จริงๆ ครับ ถ้าคิดว่าการซื้อแผ่นเถื่อนเป็นเรื่องที่ถูกต้อง ไม่ทำผิดต่อใคร ก็ทำต่อไปเลยครับ จากคุณ : กึ่งยิงกึ่งผ่าน - [ 28 มี.ค. 52 03:05:20 ]

ความคิดเห็นที่ 30 ขอบคุณเรื่องดีๆครับคุณกึ่งยิงกึ่งผ่าน จากคุณ : U can do! - [ 28 มี.ค. 52 08:37:41 ]

ความคิดเห็นที่ 31 โหวตไปเลยเน้น  ๆ จากคุณ : Fluoxtine - [ 28 มี.ค. 52 10:30:10 ]

ความคิดเห็นที่ 32 ขอบคุณค่ะ เรื่องนี้โดนจริงๆ เป็นคำถามในใจมานาน จากคุณ : กังวันละนิด จิตแจ่มใส - [ 28 มี.ค. 52 10:37:25 ]

ความคิดเห็นที่ 33 ขอบคุณท่านกึ่งมากครับ สำหรับเรื่องราวดีๆ จากคุณ : หน่วยต่อสู้อากาศยาน - [ 28 มี.ค. 52 11:49:21 ]

ความคิดเห็นที่ 34 บาปก็คือบาป แม้ว่าจะเห็นเข้าข้างตัวเองว่า ว่า ใครๆ เขาก็ทำกัน _/\_ จากคุณ : semplice - [ 28 มี.ค. 52 12:04:35 ]

ความคิดเห็นที่ 35 #27 คุณเห็นเหมือนผม ว่าเอาเข้าจริงคนเรามีสิทธิ์ที่จะ "ไม่นับถือศาสนา" ได้นะครับ...แต่ทั้งนี้ทั้งนั้น เราต้องไม่ลืมว่าเราเองก็ต้องอยู่ร่วมกับคนอื่นๆ ร่วมสังคมด้วย สรุปง่ายๆ ว่าถึงไม่นับถือศาสนา หรือไม่เชื่อเรื่องบาปบุญคุณโทษ แต่อย่างไรเสีย การใช้ชีวิตโดยไม่เบียดเบียนหน่วยอื่นๆ ในสังคม ก็เป็นสิ่งที่ควรกระทำครับ จากคุณ : new kid in town - [ 28 มี.ค. 52 12:05:38 ]

ความคิดเห็นที่ 36 ความจริง ทุกสิ่งอาจเป็นเพียงภาพลวงตา ...  อันดับแรก ข้าพเจ้า ฟัง เพลงสากล ไม่ได้ซื้อแผ่นไทย มานานมากหลายปีแล้ว  6-7 ปีได้ ช่วงที่เค้า เอาระบบ ป้องกันการ ทำซ้ำ มาใช้ เลยเลิกฟัง ถามว่า แผ่น  ผี เคยซื้อมั๊ย ถ้าเป็น แผ่น mp 3 เพลงสากล เคยซื้อ 2 แผ่น ในชีวิตนี้ ...  สาเหตุที่ซื้อเพราะ ... อัลบั้ม ที่อยากฟัง ไม่มี เอเจนซี่ นำมาขายในเมืองไทย  อย่างถุกต้อง มีศิลปิน งานเพลงสากล มากมาย ที่ ไม่มี ตัวแทน บ้านเรา นำเข้า  มาขาย แบบเป็นทางการ รอแล้ว รออีก บางอัลบั้ม รอข้ามปี ยังไม่มา ส่วนแผ่น  ราคา 850 บาท อย่านึกว่าไม่มีจริง เพราะข้าพเจ้าเคย ซื้อ แผ่นสากล  อิมพอร์ต มาแล้ว มัน 850 บาท จริงๆ เปรี้ยวไหมละ ซื้อที่ร้านในห้าง พารากอน ในความเห็นของเรา คือ โลกสมัยนี้ มัน ซับซ้อนมากๆๆๆๆ มีกลเม็ดต่างๆ นานา คนผลิต หวังฟันกำไรกันทีละมากๆๆ  ... อันดับแรก เราคิดว่า เราต้องรู้ทัน กลุ่ม คนผู้ผลิตพวกเขา เหล่านั้น ว่าจะมาไม้ไหน ... เช่น อันนี้ ตีม นี้ มาได้ยังไง โลกใบนี้มันซับซ้อน กว่า ในสมัย ก่อน หลายเท่านัก  ถ้าเกิดเราอยากฟัง แผ่นสากลไหน ที่ไม่มีขายในเมืองไทย เรา จำเป้นต้อง ขึ้น เครื่องบินไปซื้อแผ่นแท้ที่อเมริการึป่าว ? จึงจะไม่บาป ... นั่นก้อกลายเป็นทาง แห่ง การสร้างความทุกข์ให้กับตัวเอง บาปหนักเค้าไปอีก คำตอบคือไม่จำเป็น เรามีทางเลือกง่ายๆ 2 ทาง คือ ...  1 . ไม่ต้องฟังมัน  2. หาช่องทางอื่น ซื้อแผ่น ผี หรือโหลด เอา   การเป็นศิลปิน ในสมัย นี้ มันไม่ได้ง่ายเหมือนเมื่อ 20 ปีก่อน อีกแล้ว มนุษย์เราสร้างทั้ง เทวดา และีปีศาจ ดิจิตอลขึ้นมา ... บทสรุปของ แผ่นผี และ mp 3  ในยุคนี้ ก็เป็นแค่เพียงจุดเปลี่ยนครั้งยิ่งใหญ่ ว่า ถ้าคุณจะมาเป็นนักร้อง คุณไหวมั๊ย กึ๋นคุณมีมากพอไหม  ก้เท่านั้น ส่วนประเด็นของเรา เราซื้อแผ่นกีอป เฉพาะกรณี ที่อธิบาย ข้างบนเท่านั้น ถ้าจะบาป ก้อเป็นบาปที่เรา ขออนุญาตเต็มใจรับมันมา ..  "มีอยู่สิ่งเดียวในโลกนี้ ที่คุณดาวน์โหลดไมได้ นั่นคือ .. การแสดงสด  อีกอย่างก้อคือ ..ชีวิต " แก้ไขเมื่อ 28 มี.ค. 52 12:22:19 แก้ไขเมื่อ 28 มี.ค. 52 12:18:40 จากคุณ : davish1980 - [ 28 มี.ค. 52 12:15:55 ]

ความคิดเห็นที่ 37 เวลาถามใครๆว่าทำไมไม่ซื้อแผ่นแท้ คำตอบก็จะประมาณว่า แพงเกิน, ไม่มีตังค์, ไม่คุ้ม, หาซื้อไม่ได้ ไม่มีขาย เราไม่เคยซื้อแผ่นปลอมนะคะ แต่เคยโหลดอัลบั้มที่หาซื้อไม่ได้แล้วมาสองอัลบั้ม ที่โหลดเพราะว่าชอบมาก อยากฟังบ่อยๆ แต่ปรากฎว่าพอโหลดมาแล้วก็ไม่ค่อยได้ฟัง เพราะคุณภาพมันไม่ดี และเราก็ติดใจอยู่เรื่อยว่ามันของปลอม สุดท้ายก็ลบทิ้งไป เพราะถึงจะชอบมากๆแต่มันก็ของปลอม ไม่มีคุณค่าเท่าของจริง ทุกวันนี้ยังหาซื้อแผ่นแท้ไม่ได้ แต่ก็ยังหาต่อไป อยากฟังทีก็เปิดฟังในเนต แต่ไม่คิดจะโหลดแล้ว เราคิดว่าถ้าเราไม่สามารถเป็นเจ้าของอะไรสักอย่างได้ จะด้วยเหตุผลใดก็ตาม เราก็ไม่จำเป็นต้องไปเอาของคนอื่นมานี่นา ไม่ใช่ว่า.. อยากได้อันนั้นจัง.. แต่มันหาซื้อไม่ได้แล้ว เขาไม่เอามาขาย งั้นเราไปขโมยของคนอื่นมาดีกว่า คงไม่เป็นไรหรอก ก็มันหาซื้อไม่ได้นี่นา.. อยากให้ลองถามตัวเองว่า "ถ้ามันซื้อไม่ได้ หรือไม่อยากซื้อ แล้วจะไม่เป็นเจ้าของมันได้มั้ย??" คนเราไม่จำเป็นต้องได้ทุกอย่างที่อยากได้ซะหน่อย ไม่ใช่แค่เฉพาะเรื่องซีดีนะคะ แต่เราหมายถึงทุกเรื่องแหละ ทุกวันนี้คนเรามีความอยากกันมาก ลองปล่อยวางกันบ้างดีมั้ย :D จากคุณ : mayv - [ 28 มี.ค. 52 13:18:36 ]

ความคิดเห็นที่ 38 ผมขออนุญาตส่ง เมล์ให้เพื่อนนะครับ จากคุณ : เขาหาว่าผมเป็นเด็กแนว - [ 28 มี.ค. 52 13:46:05 ]

ความคิดเห็นที่ 39 การโหลดมาฟัง กับ การฟังทางเน็ท มันต่างกันตรงไหน ???  ขอบเขต คำนิยาม ของ "การเอามาเป็นเจ้าของ" อยู่ตรงไหน ??  ในเมื่อ ไม่มีอะไรเป็นของเราแท้จริงซักอย่าง  ส่วน นักร้องไทย ไม่ต้องเป็นห่วง เพราะข้าพเจ้าไม่  ได้ฟังเพลงของเขาเหล่านั้น ส่วน นักร้องศิลปินที่ข้าพเจ้าฟัง  เค้า มีกึ๋น พอที่จะบอกว่า ประโยค ข้างต้นนั้น ที่ว่า ...        "มีอยู่สิ่งเดียวในโลกนี้ ที่คุณดาวน์โหลดไมได้ นั่นคือ .. การแสดงสด  อีกอย่างก้อคือ ..ชีวิต"    ส่วน เรื่องความอยากนั้น เป็นปัญหาโลกแตก ละ เอาเข้าจริงๆ วันนึง สิ่งที่เรา ต้องพบเจอ มันอาจกลับตารปัตร อย่างที่เราคาดเดาไม่ได้ เราคิดว่า เราอยู่ใน โลกแห่งความฝัน ทุกอย่างต้องดี หมด วงการเพลง เนื้อใน มันไม่ได้สวยหรู อย่างที่เห็น เนื้อแท้ ต้องเสี่ยงกับการโดนด่า ตาต่อตาฟันต่อฟัน ไปเอาของคน อื่นเค้ามาทำขายต่อบุคคลที่ 3 อีกทอดนึง .. ถ้ารอดก้อ รวย ถ้าโดนด่า ก้อเงียบๆ เข้าไว้  เพราะเอาเข้าจริงๆ .. ความอยาก มันมีขอบเขตอาณาจักรกว้างไกล กว่านั้น วันนึงถ้ามันไม่ใช่ ซีดี แต่กลายเป็นคนรักซักคน ที่รักมา แล้ว ต้องปล่อยเค้าไป มันคงไม่ใช่ ดีดนิ้ว ทีเดียว แล้วตัดใจได้ เหมือนซีดีเป็นแน่ เพราะถ้าไม่มีความ อยาก พันทิพย์คงไม่มีกระทู้มากมายเต็มเว็บ แบบทุกวันนี้ ... จากคุณ : davish1980 - [ 28 มี.ค. 52 15:27:39 ]

ความคิดเห็นที่ 40 จริงๆ เรื่องลิขสิทธิ์เป็นเรื่องซับซ้อนนะครับ ผมว่าการทำให้เรื่อง ดาวน์โหลด = โขมย ดังนั้นมันบาปจะทำให้ภาพมันดูง่ายไปหน่อย ความเป็นเจ้าของที่ได้รับการคุ้มครองผ่านกฏหมายลิขสิทธิ์ มันเป็นเรื่องทางกฏหมายล้วนๆ เลยนะครับ ซึ่งมันก็บางอยู่บนฐานความคิดเรื่อง Authorship แบบหนึ่ง Authorship แบบนี้เชื่อว่างานสร้างสรรค์ชิ้นใดชิ้นหนึ่ง จะต้องมีผู้สร้างสรรค์คนใดคนหนึ่ง อย่างไรก็ดีนี่เป็นวิธีคิดของคนยุโรปในยุคหนึ่งครับ ก่อนหน้านั้นแนวคิดอย่างนี้ยังไม่มี เราจะเห็นได้ว่างานศิลปะเก่าๆ จำนวนมากไม่สามารถระบุผู้สร้างได้ รูปเก่าๆ จำนวนมากไม่มีการลงชื่อคนวาด ดนตรีเก่าๆ จำนวนมากระบุผู้แต่งไม่ได้ นั่นเป็นเพราะคนในสมัยก่อนไม่มีความคิดว่าตนเองเป็นเจ้าเข้าเจ้าของงานเหล่านั้นโดยสิ้นเชิงครับ เขาถือว่าสิ่งที่เขาทำเป็นการต่อยอดภูมิปัญญาในอดีต แน่นอนนะครับสำนึกเหล่านี้มันก็เปลี่ยนไปเรื่อยๆ เมื่อวิธีคิดแบบทุนนิยมมันเข้ามาในโลกมากขึ้น มันก็มาพร้อมกับสำนึกเรื่อง "ทรัพย์สินส่วนบุคคล" มากขึ้นเรื่อยๆ อะไรที่คนหนึ่งๆไม่เคยเป็นเจ้าของได้ก็เป็นได้ นี่เป็นผลจากบริบทสังคมการเมืองที่เปลี่ยนไป และความเปลี่ยนแปลงนี้ก็สะท้อนออกมาในรูปแบบของกฏหมายลิขสิทธิ์ที่ขยายตัวและแข็งขึ้นเรื่อยๆ ในโลกยุคปัจจุบัน จากการคุ้มครองหลังจากการผลิตงานออกมาแค่ราวๆ 10 ปี ก็ขึ้นมาเรื่อยๆ เป็น 50 ปีหลังผู้สร้างสรรค์ตาย (และหลายๆ ที่ในโลกก็ขึ้นเป็น 70 ปีแล้ว) แน่นอนครับว่าปรากฏการณ์เหล่านี้โดยรวมๆ ทำให้ทรัพย์สินทางปัญญาที่เป็นของสาธารณะมีแนวโน้มจะลดลงเรื่อยๆ และสิ่งเหล่านี้ก็จะตกไปอยู่ในการถือครองของเอกชน สรุปคือแนวคิดเรื่องลิขสิทธิ์เป็นแนวคิดที่เกิดขึ้นในสังคมการเมืองชุดหนึ่งครับ ซึ่งการเมืองของมันก็คือการที่ทำให้ปัจเจกหรือกลุ่มคนเล็กๆ เป็นเจ้าของทรัพย์สินทางปัญญาแทนที่สังคมทั้งหมดจะเป็นเจ้าของ หรือถ้าจะพูดแบบหนึ่งแล้วหากจะมองในมุมกลับ กฏหมายลิขสิทธิ์นั้นให้สิทธิเอกชนในการปล้นและเด็ดยอดทรัพย์สินทางปัญญาของส่วนรวมครับ แต่มันก็มีเหตุผลของมัน ซึ่งต้นกำเนิดมันก็ซับซ้อนนะครับ คือมันไม่ได้ง่ายๆ แบบว่าวันดีคืนดีคุณก็บัญญัติกฏหมายมาให้ของที่ไม่เคยมีใครเป็นเข้าของในทางกฏหมายมีเจ้าของ กำเนิดกฏหมายลิขสิทธิ์มันเกิดจากการเมืองชุดหนึ่งในบริบทของการเติบโตของเทคโนโลยีการพิมพ์ครับ คำว่า Copyright ความหมายตรงตัวของมันคือสิทธิ์ที่จะ Copy แต่โลกในสมัยโบราณที่ไม่มีการผลิตซ้ำในแบบอุตสาหกรรม สิ่งเหล่านี้มันไม่เป็นประเด็นเพราะ การ Copy มันทำได้ยากอยู่แล้ว ถ้าคุณอยากได้หนังสือมาอีกเล่ม คุณก็ต้องให้คนมาคัดลอกหนังสือ แต่เมื่อมันเกิดแท่นพิมพ์หนังสือมันก็เกิดขึ้นได้จำนวนมาก การไม่มี Copyright ทำให้พวกโรงพิมพ์เอาเปรียบเจ้าของงานเขียนโดยการพิมพ์ออกมาตามใจชอบ ดังนั้น Copyright ก็เป็น Concept ที่นักเขียนใช้ต่อสู้กับอุตสาหกรรมการพิมพ์ครับ - พูดจากความจำนะครับ) คำถามคือ "การพิมพ์งานของโรงพิมพ์โดยไม่จ่ายเงินให้นักเขียนในยุคที่ยังไม่มีกฏหมายลิขสิทธิ์นั้นเป็นบาปในทางพุทธศาสนาหรือไม่?" และประเด็นที่เชื่อมโยงก็คือ "การปั๊มเทปผีในยุคสมัยที่ยังไม่มีกฏหมายลิขสิทธิ์เป็นบาปในทางพุทธศาสนาหรือไม่?" ถ้าใช่หมายความว่า บาปในการขโมยไม่ขึ้นกับกฏหมาย ปัญหาก็คือ ขอบเขตมันแค่ไหน? แล้วการที่กฏหมายมันเปลี่ยนไปเรื่อยๆ หมายความว่าอย่างไร? ถ้าไม่ใช่หมายความว่า ความบาปนี่สัมพัทธ์กับกฏหมายของแต่ละยุคหรือ? ไม่ต้องตอบผมนะครับ ผมไม่ต้องการคำตอบ ผมว่ามันดูเหมือนข้อสอบที่ให้อภิปรายมากกว่า แต่ผมคิดว่าถ้าคุณเริ่มมองสิ่งแบบนี้ด้วยฐานของพุทธศาสนาแล้วคุณน่าจะมีคำตอบให้ตัวคุณเอง ประเด็นอีกประเด็นที่ผมอยากจะชี้ก็คือ ปัญหาระหว่างเส้นแบ่งระหว่าง การขโมย กับ การแบ่งปัน เส้นแบ่งของสิ่งเหล่านี้มันอยู่ตรงไหนเหรอครับในยุคสมัยของการผลิตซ้ำในแบบดิจิตอล? ในทางหลักการมันต่างอะไรกันครับระหว่างเพื่อนๆ กัน Copy เทปให้ Write แผ่นให้ กับ การแชร์เพลงผ่านเครือข่าย P2P? ผมว่าเส้นแบ่งมันคลุมเครืออยู่ แต่ถ้าคุณไม่แบ่งให้ชัดมันยุ่งตายเลยครับ เพราะถ้าความเอื้อเฟื้อเผื่อแผ่ กับ การลักขโมย มันดันแยกกันไม่ออก แล้วคุณจะตัดสินการกระทำหนึ่งๆ ได้อย่างไรว่ามันบุญหรือบาปได้อย่างไรในมิติศาสนา? อันนี้ก็ฝากไปคิดเล่นๆ ครับ เพราะ ถ้าคุณแยกมันออกจากกันไม่ได้ การแบ่งบันทรัพย์สินทางปัญญาอะไรก็ตามมันก็อาจจะเป็นบาปไปหมด มันก็คงพออยู่กันได้นะครับ แต่ผมว่ามันก็คงพิลึกๆ อยู่ ที่เราจะต้องซื้อของพวกนี้เป็นของตัวเองหมดและหยิบยืมอะไรไม่ได้เลย แต่นั่นไม่ใช่อาการของสังคมที่เอื้อเฟื้อเผื่อแผ่แน่ๆ ครับ ผมขอเน้นนะครับว่าผมไม่ได้มาชวน Debate แต่อยากจะชี้ให้เห็นหลายๆ มุมและความซับซ้อนของปัญหาเฉยๆ จากคุณ : FxxkNoEvil - [ 28 มี.ค. 52 15:49:48 ]

ความคิดเห็นที่ 41 เห็นเป็นประเด็นเรื่องลิขสิทธิ์ ผมก็ขอเอาข่าวมาฝากหน่อย เกี่ยวกับการเปิดตัวสัญญาลิขสิทธิ์ทางเลือก Creative Commons ที่จะเป็นทางออกหนึ่งของสภาวะที่กฏหมายลิขสิทธิ์แข็งขึ้นเรื่อยๆ อย่างทุกวันนี้ ซึ่งงานนี้มีคุณวันฉัตรเข้าร่วมด้วย "เครือข่ายครีเอทีฟคอมมอนส์ประเทศไทย เปิดตัวสัญญาอนุญาตครีเอทีฟคอมมอนส์สำหรับประเทศไทย 2 เมษายน 2552 13:00-16:00 น. @ ห้องประชุม ชั้น 5 หอศิลปวัฒนธรรมแห่งกรุงเทพมหานคร (แยกปทุมวัน ตรงข้าม MBK) ขอเชิญทุกท่านที่สนใจในการเผยแพร่งานให้สาธารณะได้ใช้งานและพัฒนาต่อยอด ร่วมหรือส่งตัวแทนร่วมงานเปิดตัวสัญญาอนุญาตครีเอทีฟคอมมอนส์สำหรับประเทศไทย ไม่ว่าคุณจะเป็น บล็อกเกอร์ นักเขียน นักถ่ายภาพ นักสร้างหนัง นักแต่งเพลง นักดนตรี หน่วยงานที่ต้องการเผยแพร่ข้อมูลต่อสาธารณะ องค์กรสาธารณประโยชน์ ห้องสมุด พิพิธภัณฑ์ คลังข้อมูล เว็บไซต์เพื่อการศึกษา ผู้ให้บริการเนื้อหา พื้นที่บล็อก เว็บบอร์ด ฯลฯ * รู้จักสัญญาอนุญาตครีเอทีฟคอมมอนส์แบบต่าง ๆ แนวทางการเลือกใช้สัญญาอนุญาตแต่ละแบบ พร้อมตัวอย่าง * วิธีการใช้สัญญาอนุญาตครีเอทีฟคอมมอนส์กับงานแต่ละประเภท เช่น งานเขียน บล็อก ดนตรี วีดิโอ งานรีมิกซ์ ฯลฯ * รู้จักเพื่อน ๆ และหน่วยงานที่สนใจครีเอทีฟคอมมอนส์และแนวคิดวัฒนธรรมเสรี * พูดคุยแลกเปลี่ยนความคิดเห็น ในประเด็นวัฒนธรรมเสรีและการเผยแพร่เนื้อหาแบบเปิด (open content) กับผู้เชี่ยวชาญทรัพย์สินทางปัญญา ศิลปินผู้สร้างงาน และผู้เผยแพร่เนื้อหา ---- == กำหนดการ == "เปิดตัวสัญญาอนุญาตครีเอทีฟคอมมอนส์สำหรับประเทศไทย" วันพฤหัสบดีที่ 2 เมษายน 2552 เวลา 13:00 – 16:00 ณ ห้องประชุม ชั้น 5 หอศิลปวัฒนธรรมแห่งกรุงเทพมหานคร ตรงข้ามเอ็มบีเค (BTS สนามกีฬาแห่งชาติ, มีที่จอดรถในอาคาร แผนที่: http://www.bacc.or.th/contactus.html) 13:00 ลงทะเบียน 13:30 แถลงข่าวเปิดตัว สัญญาอนุญาตครีเอทีฟคอมมอนส์สำหรับประเทศไทย * คุณพิชัย พืชมงคล หัวหน้าโครงการ (สำนักกฎหมายธรรมนิติ) * คุณสุนิตย์ เชรษฐา ภาคีสนับสนุน (สำนักงานกองทุนสนับสนุนการสร้างเสริมสุขภาพ) 14:00 ตอบข้อซักถาม 14:15 นำเสนอตัวอย่างหน่วยงานและเว็บไซต์ที่ใช้สัญญาอนุญาตครีเอทีฟคอมมอนส์ 14:45 เสวนาเรื่อง “การเผยแพร่เนื้อหาดิจิทัลเพื่อส่งเสริมวัฒนธรรมเสรี” ดำเนินรายการโดย คุณวิริยะ สว่างโชติ  ศูนย์วัฒนธรรมศึกษา วัฒนศาลา ร่วมเสวนาโดย * คุณพิชัย พืชมงคล  โครงการครีเอทีฟคอมมอนส์ประเทศไทย * คุณสุนิตย์ เชรษฐา  สำนักงานกองทุนสนับสนุนการสร้างเสริมสุขภาพ * คุณวันฉัตร ผดุงรัตน์  พันทิป.คอม * คุณสุภาพ หริมเทพาธิป  เครือข่ายสื่อใหม่สร้างสรรค์ * คุณปราบดา หยุ่น  นักเขียนและสำนักพิมพ์ (*รอยืนยัน) 16:00 ปิดงาน ถาม-ตอบ พูดคุยกันต่อตามอัธยาศัย == อะไรคือ สัญญาอนุญาตครีเอทีฟคอมมอนส์ ? == สัญญาอนุญาตครีเอทีฟคอมมอนส์ (Creative Commons License) เป็นสัญญาที่จัดทำขึ้น เพื่อให้เจ้าของงานอันมีลิขสิทธิ์ สามารถเปิดให้บุคคลอื่นนำงานของตนไปใช้ได้สะดวกยิ่งขึ้น โดยไม่จำเป็นต้องขออนุญาตจากเจ้าของลิขสิทธิ์ก่อน เพียงแต่ทำตามเงื่อนไขที่เจ้าของลิขสิทธิ์ กำหนดไว้ เช่น อ้างที่มา ไม่ใช้เพื่อการค้า หรือ คงต้นฉบับไม่ดัดแปลง เป็นต้น การใช้สัญญาอนุญาตครีเอทีฟคอมมอนส์ ไม่ใช่การสละลิขสิทธิ์ที่มีในงานของตนเอง หรือการอุทิศงานของตนเป็นสาธารณสมบัติ เพราะเจ้าของงานยังคงเป็นผู้ถือครองลิขสิทธิ์ เพียงแต่ได้มอบสิทธิบางประการให้บุคคลอื่นสามารถนำงานไปใช้ได้ ตามเงื่อนไขที่กำหนดไว้ล่วงหน้า หากมีการนำงานไปใช้โดยผิดเงื่อนไข เจ้าของงานยังสามารถฟ้องร้องและบังคับ ผู้ที่ทำผิดเงื่อนไข ได้ตามที่กฎหมายลิขสิทธิ์คุ้มครอง สัญญาอนุญาตครีเอทีฟคอมมอนส์ เปิดให้สาธารณะแลกเปลี่ยนงานสร้างสรรค์ได้โดยง่าย สะดวก และแทบไม่มีค่าใช้จ่าย รวมทั้งส่งเสริมการพัฒนาต่อยอดเพื่อสร้างงานใหม่ ๆ ทำให้งานที่ใช้สัญญาอนุญาตดังกล่าว สามารถไหลเวียนไปในสังคมได้อย่างเสรี ส่งเสริมการเรียนรู้และพัฒนาของเยาวชนและประชาชน ลดความเหลื่อมล้ำในการเข้าถึง ของกลุ่มที่ด้อยโอกาส อีกทั้งช่วยลดการละเมิดลิขสิทธิ์ด้วย ปัจจุบัน ทั่วโลก มีงานที่เผยแพร่โดยใช้สัญญาอนุญาตครีเอทีฟคอมมอนส์ประมาณ 130 ล้านชิ้น  เฉพาะในเว็บฝากภาพ Flickr มีมากกว่า 100 ล้านชิ้นแล้ว == เราคือใคร? == เครือข่ายครีเอทีฟคอมมอนส์ประเทศไทย (cc.in.th) เป็นหน่วยงานที่ร่วมงานกับ Creative Commons International อย่างเป็นทางการ ในการจัดทำสัญญาอนุญาต ครีเอทีฟคอมมอนส์สำหรับประเทศไทย โดยทีมกฎหมายของเครือข่ายฯ ซึ่งนำโดย สำนักกฎหมายธรรมนิติ ได้ปรับสัญญาฉบับทั่วไป ให้สอดคล้องและสามารถใช้บังคับได้ ตามกฎหมายไทย นอกจากนี้เครือข่ายฯ ยังดำเนินงานประชาสัมพันธ์ รณรงค์ ให้ผู้สร้างสรรค์งานเข้าใจถึงประโยชน์และหันมาใช้สัญญาอนุญาตครีเอทีฟคอมมอนส์ ในการเผยแพร่งานของตน ปัจจุบันมีหน่วยงานสำคัญ ที่ใช้ครีเอทีฟคอมมอนส์ในการเผยแพร่เนื้อหาแล้ว เช่น สถาบันวิจัยทีดีอาร์ไอ, เว็บไซต์มหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์, GotoKnow.org, ThaiGoodView.com, Fuse.in.th และ นิตยสารโอเพ่นออนไลน์ โครงการนี้ได้รับการสนับสนุนจาก แผนงานไอซีทีเพื่อสุขภาวะออนไลน์และการสนับสนุนภาคีเครือข่าย สำนักงานกองทุนสนับสนุนการสร้างเสริมสุขภาพ (สสส.) == ติดต่อ == RSVP สำรองที่นั่งได้ที่ คุณชิตพงษ์ (guopai) ผู้ประสานงาน - guopai (at) gmail.com เครือข่ายครีเอทีฟคอมมอนส์ประเทศไทย http://cc.in.th/ ccthailand (at) googlegroups.com" จากคุณ : FxxkNoEvil - [ 28 มี.ค. 52 15:55:05 ]

ความคิดเห็นที่ 42 คห.27 ถึงเราจะไม่เชื่ออะไรที่พิสูจน์ไม่ได้ หรือว่าเราคิดว่าบาปบุญมันไม่มีจริง แต่ก็ขออย่างนึงได้มั๊ยครับ ในฐานะที่ผมก็เป็นคนดนตรีคนนึง ผมก็กำลังตั้งใจทำเพลงออกมาเหมือนกัน ก็เลยอยากจะขอให้ "เอาใจเขามาใส่ใจเราบ้างครับ" นึกถึงคนที่เค้าตั้งใจทำเพลงบ้าง ถึงค่ายใหญ่หรือค่ายไหนที่เค้าไปเอาเพลงคนอื่นมาดัดแปลง มันก็ไม่ได้จะดัดแปลงแล้วเสร็จเลย มันมีหลายขั้นตอนและบางทีศิลปินก็ไม่ได้เป็นคนออกความคิดครับ เห็ฯใจคนที่หากินด้วยอาชีพนี้บ้างครับ จากคุณ : Rusty Boyd - [ 28 มี.ค. 52 15:57:19 ]

ความคิดเห็นที่ 43 ตอบ คห.39 นะคะ ฟังทางเนตจาก myspace ของศิลปินค่ะ เขาลงเพลงไว้ให้เปิดฟังได้ แต่ไม่ได้ให้โหลด เปิดฟังโดยที่คนทำอนุญาต กับโหลดมาเก็บไว้โดยที่คนทำไม่อนุญาต ก็น่าจะต่างกันนะคะ ส่วนเรื่องการเป็นเจ้าของตามที่เราพูดถึงใน #37 หมายถึงมีไว้ในครอบครอง ในรูปของรูปธรรมนะคะ เราเข้าใจที่คุณ davish1980 บอกว่า "ไม่มีอะไรเป็นของเราแท้จริงซักอย่าง" แต่ขอไม่พูดถึงในแง่ที่เป็นนามธรรมละกันนะคะ เพราะมันยากที่จะคุยให้เข้าใจกันได้ด้วยดี ^_^ การเมือง ฟุตบอล ศาสนา ขอเลี่ยงคุยแง่ลึกดีกว่าค่ะ จากคุณ : mayv - [ 28 มี.ค. 52 16:29:28 ]

ความคิดเห็นที่ 44 ขอสมัครเป็นแฟนคลับน้ากึ่งฯ นะครับ โดนใจๆ ต้องรอให้โดนกับตัวเองก่อนครับ พวกนี้ แล้วจะเข้าใจ ว่าด้วยกฏแห่งกรรม... จากคุณ : HappyPC - [ 28 มี.ค. 52 22:13:25 A:124.121.245.43 X: TicketID:192972 ]

ความคิดเห็นที่ 45 สาธุ จากคุณ : น้องลูกหมู - [ 29 มี.ค. 52 03:29:51 ]

ความคิดเห็นที่ 46 # 27 การไม่นับถือศาสนาใดๆ เลยก็เป็นเรื่องที่ไม่ผิด อาจเกิดขึ้นได้กับคนที่ไม่ฝักใฝ่ศาสนาใด ศาสนาหนึ่ง เพราะทุกศาสนาย่อมสอนให้คนเป็นคนดี  ศาสนาคือหลักคำสอน ให้คนเรานำไปยึดถือปฏิบัติ  โดยส่วนตัวเราไม่เชื่อเรื่องการกราบไว้บูชาวัตถุต่างๆ ที่บอกว่าคุณไม่เชื่อเรื่องบาปบุญคุณโทษ นี่ มันเป็นอย่างไร ช่วยอธิบายหน่อย มันก็ไม่ต่างทำดีได้ดี ทำชั่วได้ชั่ว ก็เป็นอีกหลักคำสอนของศาสนา จากคุณ : Modster - [ 29 มี.ค. 52 14:46:37 ]

ความคิดเห็นที่ 47 #๒๗ ผมไม่เห็นว่าการนับถือศาสนาจะเป็นพันธนาการทางความคิดเลยนะ อย่างน้อยก็สำหรับตัวผม และคนรอบข้างอีกหลายๆ คน ถ้าจะมีบ้างก็เป็นไปในแง่ที่จะทำให้สังคม (ความหมายกว้างๆ) ดีขึ้น ไม่ใช่แย่ลง (อย่างไรก็ดี มันก็เป็นความจริงสำหรับบางคน อย่างที่เห็นในประวัติศาสตร์ แต่ผมไม่โทษว่าเป็นความผิดของศาสนาโดยตัวของมันเองหรอกนะ) อย่างไรก็ดี บาปบุญคุณโทษ ถ้ามันมีจริงน่ะ มันทำเราได้แน่ๆ ครับ แต่ถ้ามันไม่มี ไม่ว่าอย่างไรมันก็ทำอะไรเราไม่ได้ (ไม่นับกรณีที่อุปโลกน์ขึ้นมาเอง) ไม่ได้เกี่ยวกับที่ว่าเราต้องเชื่อก่อนแล้วถึงจะทำอะไรเราได้ แต่ปัญหาก็คือ มันจะมีจริงหรือเปล่านี่สิ อันนี้แล้วแต่ความเชื่อ แล้วแต่ประสบการณ์ของแต่ละคน ทำตามสบายเลยครับ สิทธิแต่ละคนอยู่แล้ว ไม่ถูกต้องสำหรับตัวเองก็อาจจะถูกต้องเหมาะสมสำหรับคนอื่นครับผม แต่ที่มีอยู่จริง และทำอะไรเราได้จริงๆ ก็คือกฏหมายนะครับ ผมก็เคยเห็นอยู่หลายคนเหมือนกันที่ไม่เชื่อเรื่องบาปบุญคุณโทษ แต่เขาก็ไม่ได้เป็นคนเลว ไม่ได้ทำให้ใครเดือดร้อนหรือทำให้สังคมโดยรวมแย่ลง เพียงแค่เชื่อในกฏหมาย โดยเฉพาะเรื่องสิทธิและหน้าที่ก็น่าจะเพียงพอแก่การครองเรือนแล้วนะ ศาสนาเป็นออพชั่นเสริม :) แต่ผมก็ยังเห็นว่าศาสนาเป็นสิ่งจำเป็นที่ขาดไม่ได้ในสังคมนะ (อย่างน้อยก็ในขณะนี้) อนึ่ง ไม่นับถือศาสนาใดๆ เลย กับ นับถือศาสนา"ไม่นับถือศาสนา" นี่มันต่างกันนะครับ มีคนในหว้ากอ (จำไม่ได้ว่าใคร) เคยบอกว่า แก้วที่ไม่มีอะไรอยู่ จะใส่อะไรไปก็ย่อมได้ แล้วแต่จะเลือกใส่ (และเลือกที่จะเอาออกไป) แต่แก้วที่มีความ"ไม่มีอะไรอยู่เลย" จะใส่อะไรไปก็ไม่ได้ทั้งนั้น เพราะฉะนั้น ... เอ่อ พยายามอย่าละเมิดลิชสิทธิ์เท่าที่จะทำได้ ดีกว่า (พยายามสรุปให้เป็นเรื่องเดียวกับกระทู้) จากคุณ : มนุษย์หิมพานต์ - [ 29 มี.ค. 52 21:55:07 ]

ความคิดเห็นที่ 48 ธรรมมะอยู่รอบๆ ตัวเราจริงๆด้วย ว่าแล้วก็ต้องไปหาซื้อบ้างแล้วหล่ะค่ะ ขอบคุณคุณ จขกท. มากๆเลยค่ะ จากคุณ : Vesp@ - [ 29 มี.ค. 52 22:00:34 ]

ความคิดเห็นที่ 49 ฝากให้ #27 ครับ : ) ... บุญรักษาครับ : ) จากคุณ : Bother Boy ! - [ 3 เม.ย. 52 17:54:20 ]

ความคิดเห็นที่ 50 สาธุกับ คห.49 ครับ อ้อ ท่านที่เข้าใจว่าศีลข้อ 2 สัมพันธ์กับกฎหมายแต่ละยุคนั้นผิดนะครับ ศีลข้อ 2 หัวใจสำคัญอยู่ที่ "ทรัพย์ที่เจ้าของไม่ยินยอม ไม่อนุญาต" นะครับ จากคุณ : เม็ดทรายสีฟ้า - [ 7 เม.ย. 52 22:42:43 ]