ความคิดเห็นที่ 11
[ขอยกจากที่เขียนโต้ตอบในกระทู้แนะนำมาปะไว้ครับ]
Rock
Rock นั้นดั้งเดิมแล้วมีชื่อเต็มว่า Rock N' Roll ซึ่งเป็นชื่อแนวดนตรีที่ถูกบัญญัติมาในกลางยุค 50's ของสหรัฐอเมริกา ในทางดนตรีแล้วดนตรี Rock N' Roll ยุคแรกสุดนั้นไม่ได้ต่างดนตรี Rhythm & Blues ที่นำหน้ามันมาเท่าไร กล่าวคือ มันจะเป็นดนตรีที่มีรากฐานทางดนตรีแบบ Blues อย่างเด่นชัด
อย่างไรก็ดีเมื่อดนตรี Rock N' Roll พัฒนาตัวเองมาในยุค 60's มันก็กลายเป็นดนตรี Rock เฉยๆ ดนตรี Rock ในยุคนี้ได้เริ่มออกห่างจากดนตรี Blues มากขึ้น และมีความเป็นเอกลักษณ์ทางดนตรีมากขึ้น ในยุคนี้เองที่กีต้าร์เสียงแตกเริ่มเข้ามามีบทบาทที่สำคัญในดนตรี Rock (ก่อนที่มันจะเป็นเครื่องหมายการค้าของดนตรี Rock ในเวลาต่อมา)
แม้ว่าในยุคนี้ดนตรี Rock จะยังไม่แยกแขนงย่อยๆ อย่างชัดเจน แต่แนวทางที่แตกต่างหลากหลายกันก็เริ่มเกิดขึ้นดังจะเห็นได้จากความแตกต่างหลายหลายของวงร็อคในกระแส British Invasion อย่าง Beatles, Rolling Stones, The Who ไปจนถึงบรรดาวงของ Eric Clapton นอกจากที่ยุคนี้จะมีกระแสของวงอังกฤษแล้วฝั่งอเมริกายังมีกระแสดนตรี Psychedelic ที่เชื่อมโยงกับขบวนการฮิปปี้อย่างเด่นชัด มีกระแส Folk Rock ซึ่งเชื่อมโยงกับขบวนการทางสังคม ไปจนถึงการเริ่มมี Guitar Hero ดังจะเห็นได้ว่าเซียนกีต้าร์ร็อคคนแรกๆ อย่าง Jimi Hendrix ก็เป็นผลผลิตของยุคนี้ ซึ่งสิ่งที่กล่าวมานี้ก็ยังไม่รวมกระแสดนตรีเล็กๆ ที่ปรากฏในวงกว้างอย่าง Garage Rock ยุคแรกที่เป็นผลผลิตของยุคนี้เช่นกัน
พอมายุค 70's ดนตรี Rock ก็เริ่มแตกแขนงย่อยๆ อย่างเด่นชัด ในอังกฤษเองลำพังตอนต้นทศวรรษก็มีแนวดนตรีร็อคใหญ่ๆ ที่ได้รับความนิยมถึง 3 แนวด้วยกันคือ Progressive Rock (อาทิ King Crimson, Pink Floyd, Yes, ELP), Glam Rock (อาทิ Marc Bolan, David Bowie, Roxy Music), Hard Rock (อาทิ Led Zeppelin, Deep Purple, Black Sabbath)
พอมาตอนปลายทศวรรษในอังกฤษก็มีกระแสดนตรี Punk Rock ที่ปฏิวัติแนวทางการเล่นอันซับซ้อนของดนตรี Rock ให้กลายเป็นดนตรี Rock ง่ายๆ แบบคนเล่นดนตรีไม่เป็น และช่วงเวลาไล่เลี่ยกันดนตรี Heavy Metal ที่ก็ตัวมาตั้งแต่ตอนต้นทศวรรษ (ตอนแรกไม่มีการแยก Heavy Metal ออกจาก Hard Rock) ก็ตั้งตัวขึ้นมาชัดเจนกับวงอย่าง Judas Priest, Motorhead ไปจนถึงกระแส New Wave of British Heavy Metal (อาทิวง Iron Maiden, Saxon, Praying Mantis, Raven, Venom, Girlschool, Angel Witch, Diamond Head, Vardis, Tank , Samson - อันนี้รู้เยอะหน่อยเลยใส่เยอะหน่อย)
พอถึงยุค 80's ความยุ่งเหยิงของแนวดนตรี Rock ก็ยิ่งรุงรังไปใหญ่ ดนตรี Punk และ Metal กลายมาเป็นสายพันธุ์ทางดนตรีที่แตกแขนงไปมากมายในระดับดนตรีนอกกระแส หรือ "ใต้ดิน"
Punk แตกเป็น Hardcore Punk, Oi!, Crust Punk, Grindcore, New Wave, Post Punk Avant Garde, No Wave, Gothic Rock, Alternative Rock, Indie Rock เป็นอาทิ
Metal แตกเป็น Speed Metal, Thrash Metal, Death Metal, Black Metal, Doom Metal, Power Metal เป็นอาทิ
ในขณะเดียวกันกับที่ Punk กับ Metal แตกแขนงไปในระดับใต้ดิน แวดวงร็อคบนดินที่โตมากับ MTV ก็คงจะหนีไม่พ้น Hair Metal (จริงๆ คำนี้บัญญัติมาทีหลัง เผลอๆ ในยุค 90's ด้วยซ้ำ ในยุค 80's พวก Metal อื่นๆ จะไม่นับว่าพวกนี้เป็น Metal ส่วนพวกนี้จะเรียกตัวเองว่า Heavy Metal เฉยๆ) ซึ่งจริงๆ ในทางดนตรีเป็นสิ่งได้การบุกเบิกมาตั้งแต่ปลายยุค 70's แล้วกับวงอย่าง Van Halen และ AC/ DC
Hair Metal นั้นรุ่งเรื่องมากๆ ในยุค 80's และสิ่งที่โตมาพร้อมๆ กันนั้นก็คือ Guitar Hero ดังจะเห็นได้ว่ายุคสมัยนี้เป็นยุคที่เซียนกีต้าร์นั้นรุ่งเรืองสุดๆ วง Hair Metal จำนวนมากก็มีขุนขวานประจำวงเป็นมือกีต้าร์ที่เป็นยอดฝีมือ
ยุค 80's เป็นยุคที่ Rocker ต้องแต่งหน้า, ทำหัวฟูฟ่อง, แต่ตัวสีฉูดฉาด, ใส่กางเกงรัดเจี๊ยว, โซโล่กีต้าร์เร็วไฟแล่บ, ร้องเสียงสูงปรี๊ด แท้ๆ
อย่างไรก็ดีในยุคเดียวกันนี้ร็อคเกอร์ที่ยังยืนยงข้ามยุคมาก็ยังออกงานมาเรื่อยๆ เช่นกัน และดนตรีร็อคที่ไม่ได้ดุดันรุนแรงอะไรก็ยังมีอยู่มากมาย
พอมายุค 90's จุดเปลี่ยนสำคัญก็เกิดขึ้นกับการปรากฏตัวของอัลบั้ม Nevermind ของสามหนุ่มแต่งตัวบ้านๆ จากซีแอตเติลอย่าง Nirvana จุดเปลี่ยนนี้ทำให้ Hair Metal ที่เป็นดนตรีร็อคกระแสหลักในยุค 80's ที่ค่อยๆ เสื่อมลงเรื่อยๆ นั้นตายสนิท
และดนตรีร็อคก็ย่างเข้าสู่ยุคที่ทุกวันนี้รู้จักกันว่ายุค Alternative (แม้ว่ามันจะมีมาตั้งแต่กลางๆ 80's แล้ว)
อย่างไรก็ดีนี่ก็คือ เรื่องราวของฝรั่งอเมริกา ทางฟั่งอังกฤษกระแสดนตรี Brit Pop ก็ขึ้นมาโด่งดังในระดับโลกในเวลาไล่เลี่ยกัน ซึ่งดนตรีทางฝั่งอังกฤษกูดูจะนุ่มนวลละเมียดกว่าพวกฝั่งอเมริกาที่เน้นความดิบ ความหนัก ไปจนถึงความเกรี้ยวกราด
พอจะเรียกได้ว่าช่วงเวลาตั้งแต่ต้นจนถึงกลางๆ 90's เป็นช่วงเวลาของ Alternative Rock กับ Brit Pop อย่างไรก็ดีช่วงปลายๆ 90's สิ่งเหล่านี้ก็เริ่มซาตัวลง และแนวดนตรีที่เริ่มก่อกระแสขึ้นก็คือดนตรีร็อคลูกผสม (ผสมได้หลายอย่างแต่ส่วนใหญ่จะเป็นการผสมดนตรี Metal เข้ากับ Hip Hop) ที่ทุกวันนี้รู้จักกันในนาม Nu-Metal
Nu-Metal ยิ่งใหญ่มากๆ ช่วงต้นปี 2000 อย่างไรก็ดี ก็เช่นเดียวกับกระแสดนตรีอื่นๆ ที่อายุของความยิ่งใหญ่นั้นไม่เกิน 4-5 ปี ช่วงครึ่งหลังของปี 2000 Nu-Metal มันก็เริ่มซาตัวไป
และเราก็มาถึงยุคปัจจุบันที่ผู้เขียนยังไม่อยากจะกล่าวอะไรถึงมันมากมายจนกว่ามันจะเป็นอดีต อย่างไรก็ดีในยุคนี้ดูเหมือนหลายๆ อย่างจะได้ย้อนกลับมาอีกครั้งไม่ว่าจะเป็น Garage Rock ไปจนถึง (New) Metalcore ที่ดูเหมือนจะเป็นการกลับมาของดนตรีที่เคยเกิดมาแล้วแต่ไม่ได้เป็นกระแสในวงกว้างทั้งสิ้น
อย่างไรก็ดีสิ่งเหล่านี้คือ เหล้าเก่าในขวดใหม่ หรือ ของใหม่จริงๆ นั้น ก็คงจะไม่ใช่หน้าที่ของผู้เขียนที่จะตัดสินในที่นี้ ผู้เขียนคงจะต้องรอคอยต่อไปว่าผู้คนในอีกหลายปีข้างหน้าจะจดจำสิ่งเหล่านี้อย่างไร ถึงจะเขียนถึงมันได้อย่างเหมาะสมในฐานะอีกหน้าหนึ่งของประวัติศาสตร์ของดนตรีร็อค
ป.ล. ที่เขียนมาทั้งหมดหยาบมากๆ เป็นการทำซ้ำๆ สิ่งที่หาอ่านได้ทั่วไป (แต่อาจทำด้วยภาษาที่รัดกุมขึ้น) เป็นการมองข้ามดนตรีร็อคบางกระแส เป็นการไม่กล่าวถึงนักดนตรีร็อคหลายๆ คนที่มีความสำคัญแต่ไม่สามารถจะจัดอยู่ในกระแสหลักๆ ในการเล่าเรื่องได้ และเป็นการมองข้ามวัฒนธรรมร็อคในอีกหลายๆ ประเทศอีกด้วย กล่าวคือ นี่คือการเขียนประวัติศาสตร์ร็อคแบบที่มี อเมริกาและอังกฤษ เป็นศูนย์กลาง ซึ่งจริงๆ ไม่เขียนแบบนี้ก็ได้ หากแต่ผู้เขียนคงจะต้องมีความรู้อีกมากมายถึงจะทำเช่นนั้นได้
จากคุณ :
FxxkNoEvil
- [
1 ก.ค. 52 10:57:10
]
|
|
|