ตอนแรกผมคิดว่า จะยังไม่เขียนบทวิจารณ์ละครเวทีเรื่องนี้จนกว่าจะได้ชมอีกรอบเสียก่อน เพราะหลังจากดูจบในรอบกาล่า วันที่ 3กรกฏา
แล้วก็ยังไม่ได้มานั่งคิดขีดเขียนแต่อย่างใด เพราะมัวแต่ฮัมเพลงในละครเวทีไปๆมาๆจนเริ่มลืมรายละเอียดบนเวทีเสียแล้ว ฮ่าฮ่าฮ่า 
แต่ตอนนี้มันอดรนทนไม่ไหวละ จนต้องขอถอนหน่อยกระมัง
*** บทวิจารณ์ต่อไปนี้ อาจเผยเนื้อเรื่องบางส่วนของละครเวที ผู้ที่ยังไม่ได้ชมละคร ควรระมัดระวังในการอ่านนะครับ ^^
นับแต่อดีตจนถึงปัจจุบัน จะมีตำนานผีสักกี่เรื่องที่อยู่กับคนไทยมายาวนาน และเป็นเป็นที่รู้จัก ล่ำลือกันหนาหูตราบจนถึงโลกไซเบอร์สเปซ
ตำนาน "แม่นาคพระโขนง" เป็นอีกตำนานที่กล่าวถึงความรักของหนึ่งผู้หญิง ที่ทั้งเหนือธรรมชาติและเหนือกาลเวลา แม้กระทั่งทุกวันนี้
ชาวบ้านยังคงเคารพและบูชาเธอผู้นี้อยู่ แต่จะมีสักกี่คนที่จะรู้จะเข้าใจถึงเธอผู้นี้อย่างถ่องแท้
ดรีมบอกซ์ได้นำเสนอ แม่นาค ณ พระโขนง ตามรูปแบบผีเฮี้ยนตายทั้งกลม รักและห่วงสามีมากๆตนนี้แบบทั่วๆไป แต่ด้วยการตีความใหม่เสียจนแทบพูดได้ว่า
เป็นต้นฉบับอีกต้นฉบับหนึ่งที่มีความเป็นเอกภาพด้วยตัวเรื่อง และวลีที่ว่า "คนร้ายกว่าผี" ดังที่ผู้เขียนบทปรารถนาจะสื่อสารกับผู้ชมเช่นนั้น
ทำให้ผมรับรู้ถึงชะตากรรมชีวิตของหญิงที่น่าสงสาร ตกระกำลำบากในสภาพสังคม ที่ไม่คิดจะยอมรับหรือให้โอกาสเธอมากเท่าที่ควร (ก็แน่ละ ..ถามจริงๆเถอะ ทำอะไรเป็น!?)
จนเป็นคำถามในใจผมว่า เราจะคิดว่าเธอคือ หญิงผิดจารีตทิ้งพ่อทิ้งแม่ หนีตามผู้ชาย หรือ หญิงสาวผู้บูชาความรักที่เธอมีต่อชายคนรักอย่างมหาศาล...
เมื่อบทละครมีความละเอียดละออ มีเหตุผลรองรับแทบจะทุกๆอย่างที่เกิดขึ้นในชีวิตแม่นาคฉบับนี้ นับตั้งแต่พายเรือหนีจากพระนครฯ มอบคำมั่นสัญญา
ปะทะหน้าแม่ผัวจนตัวตายทั้งกลม และเฝ้ารอคอยสามีกลับมาตามคำสัญญา จนถึงบทสุดท้ายที่สะพานไม้
ทั้งเรื่องแม่นาคต้องพบเจอทั้งคนที่รักและเข้าใจตัวเธอ(พี่มาก แม่ทองคำ ป้าแก่ ตาฉ่ำ)
กับคนที่เกลียดเธอ และไม่อาจจะทนฟังเหตุผลเธอเลยสักนิด(ขุนประจัญฯ-คนนี้รักมากจนเกลียดมาก แม่เหมือน สายหยุด ชาวบ้านพระโขนง)
ประหนึ่งเหมือนแม่นาคตายเป็นผีแต่อยากกลับมาเป็นคนเพื่อมาอยู่กับคนที่ตนรัก
แต่คนเป็นอย่างแม่เหมือนและชาวพระโขนงต่างหากที่มีความคิดร้ายกาจ จ้องแต่จะทำร้ายแม่นาค โหดเหี้ยมอย่างผีร้าย แม้กระทั่งนางตายกลายเป็นผีก็ไม่ยอมเลิกราวี ตามหาเรื่องร่ำไป ทั้งหมดนี้ต่างย้ำให้เราเชื่อว่า แม่นาค ณ พระโขนงมีตัวตน มีชีวิตจริงๆในประวัติศาสตร์
ไม่ใช่แค่ตำนานแบนๆที่คนร่ำลือกันไปมาไม่จักจบสิ้น
ผมอึ้งและประทับใจกับความฉลาดเฉลียวของทีมงานผู้สร้างสรรค์ละครฉบับนี้เหลือเกิน ผมอาจจะไม่ค่อยได้ดูละครมิวสิคัลไทยหรือเทศสดๆสักเท่าไหร่
แต่เรื่องนี้กลายเป็นเรื่องที่ดีที่สุดของผมตั้งแต่ได้ดูละครเวทีมา (จากเดิมบ้า แมน ออฟ ลามันชา มากๆ)บางซีนบางฉากทำให้ผมถึงกับเกิดอาการขนหัวลุกเลยทีเดียว
ไม่ใช่ว่าเป็นอาการที่เกิดจากการกลัวผีนะ - - แต่มันประทับใจ จนบางครั้งถึงกับเหนือความคาดหมายในหลายๆฉาก จนต้องแอบกรีดร้องอยู่ในใจ
ทั้งการแสดง ดนตรี แสงสี เทคนิคพิเศษ สอดรับกับตัวเรื่องได้อย่างพอเหมาะพอตัว จนเกิดความสมบูรณ์ของโปรดักชันนี้อย่างยอดเยี่ยม
ฉาดที่ผมประทับใจมากจนถึงกับอึ้งว่าคิดได้อย่างไร ขอพูดเป็นฉากๆไปนะครับ
- มีฉากตอนแม่นาคคลอดลูก ที่เหมือนตัวบ้านของแม่นาคจะหมุนไปรอบเวที ที่เป็นลักษณะคล้ายๆ turn table แต่ผมคิดว่ามันไม่ใช่ รอผู้รู้มาตอบอีกทีดีกว่า
- ฉากเรือแห่งมรณา และข้ายังไม่พร้อมจะยอมตาย สุดยอดมากๆ จบพักครึ่งได้อย่างยิ่งใหญ่
- ชอบฉากหมอตำแยจมน้ำตายที่ท่านหลายๆคนบอกว่าไม่จำเป็นต้องมี แต่ผมว่ามีนี่แหละดีเลย มันทำให้รู้สึกสุดยอดว่า คิดเอามาใส่ในละครได้ยังไง
เมื่อผนวกกับเพลงกล่อมลูกของแม่นาค และแอร์ที่เย็นมากในโรงละคร บรื๋อออออ น่ากลัวมากๆ
- ฉากที่แม่นาคมาหาพ่อมากที่ไม่ทราบว่าเป็นความจริงหรือความฝันของพ่อมาก เพราะแม่นาคเหาะมาหลอนๆ ดูลางเลือน ให้ความรู้สึกหวงหาอาทรของทั้งคู่ ดูกินใจมากๆ
- ฉากความฝันพ่อมากที่ส่งต่อารมณ์ในฉากรู้ความจริงว่าเมียเป็นผีของพ่อมาก อึ้งมากๆกับเทคนิคธรรมดา ที่ทำให้เกิดความรู้สึกหลอนๆ พรั่นพรึงๆ
- ฉากแม่เหมือนวางยาสายหยุด ซึ้งกินใจมาก น้ำตาผมท่วมเลย เอามือปาดตลอดเวลา ทิชชู่กับผ้าเช็ดหน้าก็ไม่มี - - ทั้งตัวบทเพลงและการแสดงที่สะเทือนอารมณ์
- ฉากสะพานไม้ บทสรุปสุดท้ายของแม่นาคและพ่อมาก ที่ส่งให้ตำนานรักของสองผู้นี้ มีความเป็นอมตะได้ไม่ยากเลยทีเดียว
แก้ไขเมื่อ 06 ก.ค. 52 23:40:47
แก้ไขเมื่อ 06 ก.ค. 52 23:39:53