ความคิดเห็นที่ 1 "I am thrice homeless, as a native of Bohemia in Austria, as an Austrian among Germans, and as a Jew throughout the world. Everywhere an intruder, never welcomed." จากคุณ : jassb1 - [ 6 ก.ค. 52 23:45:24 ]

ความคิดเห็นที่ 2 .... ทายกันเล่นๆครับ สองคนนี้ใครนะ หน้าคุ้นๆ อิอิ จากคุณ : jassb1 - [ วันอาสาฬหบูชา 02:20:58 ]

ความคิดเห็นที่ 3 gluecklich Geburtstag Herr Mahler แก้ไขเมื่อ 07 ก.ค. 52 10:33:00 จากคุณ : davebartus - [ วันอาสาฬหบูชา 10:32:28 ]

ความคิดเห็นที่ 4 สวัสดีทุกท่านที่เช้ามาร่วมรำลึกถึงมาห์เลอร์ครับ นี้ก็เป็นอีกท่านหนึ่งที่เคารพมาห์เลอร์อย่างสูง ดูที่ข้างฝาผนังสิครับ มีรูปวาดมาห์เลอร์ที่เค้าวาดเอง และภาพถ่ายของมาห์เลอร์ติดไว้เป็นที่ระลึกด้วย ท่านนี้คือ Arnold Schoenberg คีตกวีผู้โดดเด่นในศตวรรษที่ยี่สิบครับ จากคุณ : jassb1 - [ วันอาสาฬหบูชา 15:10:52 ]

ความคิดเห็นที่ 5 Schoenberg portrait of Mahler. ภาพนี้ก็คือผลงานของ เชิร์นเบิร์ก ในภาพด้านบนล่ะครับ จากคุณ : jassb1 - [ วันอาสาฬหบูชา 15:14:58 ]

ความคิดเห็นที่ 6 และอีกภาพที่เชิร์นเบิร์กวาดไว้ คือภาพที่ระลึกการเสียชีวิตของมาห์เลอร์ครับ จากคุณ : jassb1 - [ วันอาสาฬหบูชา 15:16:05 ]

ความคิดเห็นที่ 7 และสตรีใน คห.2 จะเป็นใครไปไม่ได้นอกจาก Alma Mahler ... อดีตภรรยาของมาห์เลอร์นั่นเองครับ จากคุณ : jassb1 - [ วันอาสาฬหบูชา 15:21:25 ]

ความคิดเห็นที่ 8 โห alma ตอนแก่รืเนี่ย....คิดตั้งนาน จำได้แต่ตอนสาวๆ จากคุณ : Vitamin_C - [ วันอาสาฬหบูชา 15:32:57 ]

ความคิดเห็นที่ 9 จัดให้อีก .... เผื่อจะหลงใหลในความเหี่ยว อัลมา ขณะชมการแสดงซิมโฟนีหมายเลขสอง ของอดีตสามีเธอ ณ นิวยอร์ค อำนวยเพลงโดย เบิร์นสไตน์ สงสัยว่าคงซาบซึ้งมาก ตาพริ้มเชียวครับ จากคุณ : jassb1 - [ วันอาสาฬหบูชา 23:25:55 ]

ความคิดเห็นที่ 10 รางวัลเหรียญทองของสมาคมกุสตาฟ มาห์เลอร์ เพื่อเป็นเกียรติแก่บุคคล หรือหน่วยงานที่ศึกษา-สืบทอดเจตนารมย์ และทำให้ดนตรีของมาห์เลอร์เข้าถึงสาธารณชนครับ The Golden Mahler-Medal Die Golden Mahler-Medal was introduced in 1958 by Erwin Ratz in order to promote the understanding and knowledge of Mahler's works , and also to make the public more aware of the activities of the Society. The medal is awarded to worthy persons or institutions by vote of the board of directors. Previous recipients of the Mahler-Medal: 1958  Carl Schuricht 1958  Eduard van Beinum 1958  Concertgebouworkest Amsterdam 1958  Rotterdam Philharmonisch Orkest 1958  Eduard Flipse 1958  Herm. J. Nieman 1960  Rafael Kubelik 1960  Dimitri Mitropoulos 1966  Utrecht Orkest 1966  Dresdner Philharmonie 1967  Leonard Bernstein 1969  Wiener Symphoniker 1971  Bernard Haitink 1974  Kyrill Kondraschin 1974  Joseph Krips 1974  Hans Swarowsky 1979  Residentie-Orkest Den Haag 1980  Wiener Philharmoniker 1980  Alice Strauss - posthum Franz Strauss 1980  Christa Ludwig 1980  Dietrich Fischer-Dieskau 1980  Carlo Maria Giulini 1981  Stadtisches Symphonieorchester der Stadt Munster 1981  Alfred Walter 1982  Vaclav Neumann 1982  Eleonore and Bruno Vondenhoff 1984  Federico Sopena y Banez 1985  Claudio Abbado 1985  George Alexander Albrecht 1985  Niedersachsisches Staatsorchester Hannover 1987  Donald Mitchell 1996  Marjana Lipovsek 1996  Rafael Fruhbeck de Burgos 1997  Edward R. Reilly 1999  Thomas Hampson 2005  Henry-Louis de La Grange 2005  New York Philharmonic Orchestra 2005  MahlerFest Colorado 2005  Gustav Mahler Committee Toblach 2007  Vladimir Fedoseyev 2007  Knud Martner 2007  Peter Weiser แก้ไขเมื่อ 07 ก.ค. 52 23:39:12 จากคุณ : jassb1 - [ วันอาสาฬหบูชา 23:35:31 ]

ความคิดเห็นที่ 11 วันเกิดตัวพ่อทั้งที เหล่าสาวกหายไปไหนโม๊ด จากคุณ : <โหน่ง> - [ วันเข้าพรรษา 01:51:58 ]

ความคิดเห็นที่ 12 ^ ^ สวัสดีครับคุณโหน่ง มีเรื่องอะไรสนุกๆมาเล่าสู่กันฟังไหมครับ ป.ล.กำลังดูถ่ายทอดสดพิธีศพ ไมเคิล แจ็คสัน อย่างอาลัยสุดแสน จากคุณ : jassb1 - [ วันเข้าพรรษา 02:24:23 ]

ความคิดเห็นที่ 13 เนื่องในโอกาสวันเกิดและฟื้น "อาศรมมาห์เลอร์"ขึ้นมาใหม่ ผมก็กะจะเล่าเรื่องเกร็ดเล็กๆน้อยๆเกี่ยวกับ Mahlerแล้วแต่จะนีกได้ คงจะเขียนไปเรื่อยๆวันละกระทู้สองกระทู้จนว่าจะนึกไม่ออกก็แล้วกัน แต่ก่อนอื่นอยากฟังเรื่องของนักฟังทั้งหลายก่อนว่าไปมายังไงถึงได้มาติดใจ Mahler กัน เมื่อก่อนมันมีเว๊บที่ชื่อ Mahler Shrine เป็นพื้นที่ที่ให้พูดความในใจถึง Mahler เราจะเริ่มกันแบบนั้นก่อนในกระทู้นี้ก็ได้ แก้ไขเมื่อ 08 ก.ค. 52 03:10:50 จากคุณ : <โหน่ง> - [ วันเข้าพรรษา 03:02:19 ]

ความคิดเห็นที่ 14 ผมพยายามอย่างเต็มที่ให้คุณสิทมาเขียน ... เพระาผมอยากอ่านอะไรที่มาจากสำนวนแกแบบยาวๆ ไม่รู้จะจัดมาให้ได้ไหม ....................................................................................................................... จุดเริ่มต้นในดนตรีของมาห์เลอร์สำหรับผม แหะๆ พูดแล้วก็เหมือนฟื้นความจำอะไรหลายๆอย่าง สมัยมัธยมต้น ผมมีแผ่นรวมฮิตเพลงคลาสสิกชนิดเอมพีสาม อย่างราคาถูกๆ รวมมาเกือบๆสองร้อยเพลง เอาที่ฮิตๆ เน้นๆ มาใส่ นั่นเป็นประสบการณ์ทางดนตรีที่ทำให้ผม รู้จักคีตกวีมากและหลากหลายแนวขึ้น ในแผ่นนั้น มีเพลงของมาห์เลอร์สองเพลง คือ ท่อน Scherzo. Wuchtig จาก Symphony No. 6 in A minor และ IV. Von der Schonheit. Comodo. Dolcissimo จาก Das Lied von der Erde แต่ครั้งแรกที่ฟัง ผมก็ยังไม่รู้สึกเปรี้ยงปร้าง หรือ "โดนใจ" ในมาห์เลอร์แต่อย่างใด แต่ที่ต้องบันทึกไว้ก็เพราะว่ามันเป็นเพลงมาห์เลอร์เพลงแรกๆที่ผมได้ฟัง จนผ่านไปอีกปี หรือ สองปี ผมได้แผ่นเพลงคลาสสิกที่รวมมาจากภาพยนตร์ ซึ่งแน่นอนว่า มันมีท่อน Adagietto อันโด่งดัง จากหมายเลขห้า รวมมาด้วย ผมชักสนใจว่า มาห์เลอร์ เป็นใคร (ฟะ) ทำไมถึงแต่งเพลงที่มีอารมณ์ต่างกันสุดขั้ว แถมอารมณ์แต่ละงานยังฉีกไปไกลมาก ก็พยายามเสาะหาข้อมูลมาตลอด ...จนเข้ามาอ่านในบอร์ดพันทิป ตอนนั้นกระทู้ของคุณบลู ที่ถามว่าชอบซิมโฟนีมาห์เลอร์เบอร์ไหนมากสุด และของคุณสตาเกเซอร์ ที่พูดถึงเบอร์เก้า ผมก็เข้าไปอ่านเก็บความรู้ และทำให้คิดได้ว่า มาห์เลอร์นี่น่าจะฟังสนุกดี และคงเป็นความท้าทายใหม่ๆในการฟังดนตรี (โดยส่วนตัวผมชอบเพลงที่มีโครงสร้างใหญ่โต อลังการในสุ้มเสียงครับ) สมัยนั้นฟิวเจอร์ปาร์ครังสิต มีร้านขายดีวีดีคอนเสิร์ตของเก๊ ในราคาย่อมเยา ผมเลือกเก็บแผ่นมาห์เลอร์ (ซึ่งส่วนใหญ่เป็นอับบาโดกับวงลูเซิร์น) โห ... เอามาเปิดดู ชอบมากๆ วงใหญ่โตอลังการ เล่นกันมันส์ถึงใจ แต่บอกตามตรงว่า พอเอามาเปิดจริงๆแล้ว ผมฟังไม่รู้เรื่องเลย คือจับไอเดียไม่ได้ เพลงเต็มไปด้วยความคิดต่างๆนาๆ โดยที่ผมมักจะ "เลื่อน" ไปฟังแทร๊คสุดท้าย ที่มีตอนจบแบบมันส์ๆ ซะส่วนมาก (แหะๆ) จนกระทั่งไปเจอรีวิวบ็อกเซตดีวีดีมาห์เลอร์ที่กำกับโดยเบิร์นสไตน์ ผมคิดว่าน่าจะดี หากเราดูเป็นคอนเสิร์ต เพราะในบล็อกคุณโหน่งก็ให้เครดิตเบิร์นสไตน์พอสมควรว่าเล่นด้วยอารมณ์อย่างลึกซึ้งมาก ก็กดไป ด้วยราคาอันแพงระยับ ปรากฏว่า ดีวีดีคอนเสิร์ตชุดนี้ ภาพเก่าโคตร แถมมีเสียงไอค่อกแค่ก เสียงเครื่องเคาะตีก็ฟังดูเก่าๆชอบกล ทำไปทำมาผมเริ่มจะไม่ชอบซะแล้วแฮะ (เพราะฟังยังไงก้ไม่รู้เรื่อง) จึงอาศัยความใจกล้าหน้าด้าน หลังไมล์ไปหาคุณโหน่ง ขอไอเดียเกี่ยวกับซิมโฟนีทั้งหมดของมาห์เลอร์ คุณโหน่งจึงได้กรุณาพิมพ์เล่าออกมาพร้อมภาพบรรยายอย่างสวยงาม หลังจากนั้นผมก็ใช้ความพยายามในการฟัง และเริ่มสะสมแผ่นมาห์เลอร์ บางงานที่หาไม่ได้ก็ใช้วิธีสูบเอาจากเนตนี่แหละครับ จนเริ่มหลงรักสุ้มเสียงและไอเดียในดนตรีของมาห์เลอร์อย่างมาก มันกอปรไปด้วย "อารมณ์" "เลือดเนื้อ" และ "จิตวิญญาณ" ที่ล้นเอ่อ มีทั้งเศร้า โศก สนุกสนาน และความปิติอย่างมากมาย และจนกระทั่งผมตั้งกระทู้เรื่องหนังสือ (ที่ไปโง่ซื้อมาในราคาแพง) คุณโหน่งได้เข้ามาคุยมาตอบในข้อสงสัยอีกหลายๆประเด็นของมาห์เลอร์ โดยมีคุณสิทเข้ามาร่วมแจม ถามกันวันละคำถาม ความสนุกในการฟังก็เพิ่มขึ้นอย่างมากมาย ................................................................................................................................ ก็ตอบไม่ค่อยตรงว่าชอบมาห์เลอร์ตรงไหนยังไง แต่เล่าเรื่องการฟังซะมากมาย แฮ่ๆ คงไม่ว่ากันนะครับ ถ้าถามย้ำอีกครั้งว่าชอบมาห์เลอร์ได้ยังไง ก็ต้องยืมคำคุณสิทว่า Destiny โดยแท้ครับ อ้อ ... เบอร์ที่ผมชอบมากในตอนฟังหนแรกๆนั้น คือ เบอร์หนึ่งครับ เพราะคุณโหน่งเขียนในบล็อกได้ละเอียดมาก แฮ่ๆ แต่ตอนนี้ชอบเบอร์ห้าครับ เพราะฟังทวนไปทวนมาจากหลายๆแผ่น คิดว่ามันแสดงอารมณ์อย่างมาห์เลอรืได้ดีมาก (ผมยังไม่บรรลุกับเบอรืเก้าซะทีครับ) แก้ไขเมื่อ 08 ก.ค. 52 04:58:00 แก้ไขเมื่อ 08 ก.ค. 52 04:57:27 จากคุณ : jassb1 - [ วันเข้าพรรษา 04:53:29 ]

ความคิดเห็นที่ 15 คุณสิทอย่าเพิ่งนั่งแจกซีดีเพลิน มาเล่าความหลังให้ฟังก่อน แฟนๆเรียกร้อง จากคุณ : <โหน่ง> - [ วันเข้าพรรษา 20:42:08 ]

ความคิดเห็นที่ 16 ระหว่างที่รอคุณสิท ผมชวนคุณโหน่งคุยดีกว่า นี่ก็ใกล้จะคอนเสิร์ตเบอร์ห้าแล้ว ... อยากถามความประทับใจที่มีต่อเบอร์ห้า ในคอนเสิร์ตครั้งก่อนๆของคุณโหน่งครับ จากคุณ : jassb1 - [ 9 ก.ค. 52 04:42:57 ]

ความคิดเห็นที่ 17 เรียน คุณโหน่ง และ jassb1 ที่เคารพ มันเป็น destiny โดยแท้ มันเป็น อิทัปปัจจยตา โดยแท้ -------- โลกนี้ และ จักรวาลนี้ --- ไม่มี เรื่องบังเอิญ ( series -- lost เอา--เรื่องนี้--มาเล่นอย่างสนุกสนาน ) ขอ--เท้าความ--เมื่อ ชาติที่แล้ว ครับ ปี 1957 ---------- ตอนนั้น ผมเป็น engineer ของ sonny rollins ( jazz saxophonist -- ว่ากันว่า เขาเป็น no. 5 ของโลกตลอดกาล ) ------------------------------------------------------------------ พอมาถึง ชาตินี้ ---- วิบากกรรม ทำให้ผมชอบเพลง jazz อย่างคลั่งไคล้ ค่าย jazz ที่ผม--โปรดปราน--มากที่สุด คือ ecm ( ในเมืองไทย ---- ขาย ecm แพง schiff-หาย มารดามันเถอะ.............. แผ่นเดี่ยว -- 880 บาท แผ่นคู่ -- 1500 บาท ) artist no. 1 ของ ecm คือ keith jarrett เขาเป็น jazz pianist คนโปรดของผม ใน repertoire ของเขา -- จะมี เพลง classic ด้วย -- well - tempered caviar ( ผมกินทุกวัน ) --goldberg variation --shostakovich ---------- 24 preludes -- ทูล ทองใจ -- ศรคีรี ศรีประจวบ ----- เป็นต้น ปกติ ผมจะซื้อเพลง jazz ที่ gram ( เพราะ ร้านอื่น เจ๊งหมด ) และวันนั้น ------- october 2008 ผมก็เดิน ข้ามฟาก ไปดูฝั่ง classic เห็น world trade center ของ glenn gould ก็เลยซื้อมา หลังจากที่ ฟังแล้ว --- ผมก็ search ใน internet ---------------------------------- ด้วยพรหมลิขิต ดลบันดาล เจอชื่อของ คน ๆ หนึ่ง ----- เขาคือ คุณโหน่ง link ข้างล่างนี้แหละ http://www.thaiprog.net/webboard/index.php?topic=549.30 ---------------------------------------- หลายวันต่อมา -------- ด้วยพรหมลิขิต ดลบันดาล ( ครั้งที่ 2 ) มีคนเอา cd ของ mahler มาฝากขายที่ --- พระโขนง ------ mahler no. 1 ---------- abbado + berlin ( ปก โคตรเชย ) http://www.amazon.com/Mahler-Symphonie-No-1-Gustav/dp/B000001GEZ/ref=sr_1_2?ie=UTF8&s=music&qid=1247122705&sr=8-2 ผมจำได้ว่า เมื่อวันก่อน --- มีคนพูดถึงใน internet -- นินา ก็เปิดฟังดู ---- ไม่รู้สึกอะไรเลย --- แม้แต่น้อย ( not one bit ) --------------------------- 16 october 2008 ---- วันนี้แหละ -- วันสำคัญ ************************************** ไปกินข้าว ( พร้อมกับ น้ำ เสาวรส ) ก่อน ------ เดี๋ยวมา จากคุณ : sitt666 - [ 9 ก.ค. 52 14:20:16 A:10.100.1.4 X:58.10.167.113 TicketID:169971 ]

ความคิดเห็นที่ 18 http://digitaldreamdoor.nutsie.com/pages/best_jazz/best_sax.html จากคุณ : 666 - [ 9 ก.ค. 52 14:25:57 A:10.100.1.4 X:58.10.167.113 TicketID:169971 ]

ความคิดเห็นที่ 19 ต่อจาก ------------------ ความเห็นที่ 17 16 october 2008 ผมไปร้าน gram เห็น mahler 5 -- chailly mahler 6 -- bernstein -- sony ก็ซื้อมา--ลองดู--อีกครั้ง เริ่มด้วย --- no. 5 แค่ 3 นาทีแรกเท่านั้น ผม--ตะลึง--ในความ gorgeous ของคุณ vitamin_c ทันที เฮ้ย................ยยยยยยยย **** ไม่ใช่ ผม--ตะลึง--ในความ --เจิดจรัส--ของ brass ต่างหาก ผม รู้สึก ติดใจ ในความ graceful ของ no. 5 ขึ้นมาทันที ( มาดูซิว่า วันที่ 21 july --- conductor สมเถาจะ graceful ไหม ) ----------------------------------- จากนั้น เข้าไป search ใน internet เจอ blog และ บทความอื่น ใน web อื่นของ คุณโหน่ง ผมอ่าน กลับไป กลับมา ประมาณ 200 รอบ และอ่าน บทความอื่น ที่ คุณโหน่ง link ให้ใน musicweb.com -- tony duggan http://www.musicweb-international.com/Mahler/index.html ----------------------------------------------------------------- ตอนที่ผมอ่านเจอใน internet -- มีคนบอกว่า mahler ยากหยั่งงั้น ยากหยั่งงี้ ผมไม่เคยรู้สึกเลยว่า mahler เป็นของยาก ( แม้แต่นิดเดียว -- not one bit ) ขออนุญาต--เฮ้าเลี่ยน-- jazz บาง album ยากกว่านี้ -- หลายเท่านัก ************************************ ผมคิดว่า brass ของ mahler นั้น โดดเด่นกว่า composer คนอื่น ๆ ในเมื่อ--ชาติที่แล้ว--ผมเคยร่วมงานกับ sonny rollins ก็ต้อง ชื่นชอบ brass เป็นพิเศษอยู่แล้น........นนนนนนน ---- brass ของ mahler จะมี--ความเร้าใจ--ความอลังการ ----------------------------------- ถ้าย้อน--กระแส อิทัปปัจจยตา -- ขึ้นไป เป็นเพราะ keith jarrett และ คุณโหน่ง โดยแท้ ถ้า jarrett ไม่เล่น well - tempered clavier ผมคงไม่รู้จักว่า mahler เป็นใคร ถ้า คุณโหน่ง ไม่เขียน blog และ บทความ ผมคงไม่รู้จักว่า mahler เป็นใคร ----------------------------- 4 February 2009 ผมเข้ามาถาม คุณโหน่ง เป็นครั้งแรก ------------------------------- http://topicstock.pantip.com/chalermkrung/topicstock/2009/02/C7481632/C7481632.html ความเห็นที่ 25 ---------------------------------- และก็ ติดพัน เรื่อยมา -------- จนถึง ทุกวันนี้ ( zarathustra -- เสร็จหรือยังครับ --- ผมรอจน เกศาขาว แล้ว ) ******************* และนี่ ก็คือ อิทัปปัจจยตา ************************ ผมชอบ mahler no. 3 มากที่สุด โดยเฉพาะ last movement จับใจมาก --- very touching ผม หลั่งน้ำตา เพราะ movement นี้ ประมาณ 70 ครั้ง ทุกครั้งที่ฟัง --- ผมจะรู้สึกว่า เทพยดา Gabriel กางปีกของเขา โอบกอดผมไว้ ด้วยความอ่อนโยน ( ถ้าใครอยาก--ขาย หรือ แลกเปลี่ยน -- mahler no. 3 กรุณา mail หาผมครับ -- sitt666@hotmail.com ) ผมชอบ เพลง classic ที่---- slow tempi ครับ นี่จึงเป็นสาเหตุที่ ผมแจก kubelik เพราะว่า เขาเล่น---เร็ว---ทุกเบอร์เลย ********************************* ผมฟัง mahler เพราะ คุณโหน่ง --------sibelius ---------stargazer --------shostakovich --- blue white red --------celibidache ---- genzo และ ฟัง--เสียงเต้นของหัวใจตัวเอง --- เพราะ vitamin_c the end เมื่อยมือโว้ย...............ยยยยยยยยยยยยยยย จากคุณ : sitt666 - [ 9 ก.ค. 52 23:14:31 A:124.122.79.16 X: TicketID:169971 ]

ความคิดเห็นที่ 20 อ้าว กลายเป็นกระทู้จีบสาวซะแล้ว สงสัยจะไม่ใช่ความในใจถึง Mahler ซะแล้วสิ ;) ว่าแต่ว่าสำนวนคุณสิทนี่อ่านเพลินดีจริงๆเหมือนอ่านมติชนสุดสัปดาห์ น่าจะเขียนอะไรยาวๆบ่อยๆ อย่ามัวแต่เล่นหวย เอ้ย นั่งแจกซีดีเพลิน ;) มาต่อกระทู้ศาลาคนเศร้า  Mahler Virtual Shrine กันต่อ เพื่อความเสมอภาคผมจะเล่่าเรื่องของผมบ้าง ผมได้ยินชื่อ Mahler ครั้งแรกจากหนังสือคีตกวี:ปรัชญาเมธีแห่งภาษาสากล ตอนนั้นอยู่ประมาณม.3 หรือ ม.4 นี่แหละ จริงแค่อ่านประวัติอย่างเดียวโดยที่ไม่ได้ฟังด้วยนี่ก็ไม่มีอะไรพิเศษนัก เนื่องจากประวัติ Mahler ก็ค่อนข้างธรรมดา อ่านประวัติ Mozart, Beethoven หรือ Tchaikovsky ยังสนุกกว่าเยอะ แต่สิ่งที่สะดุดตาผมเลยคือรูปประกอบหนังสือข้างล่างนี่ คือ เป็นรูปของชายที่มีนัยย์ตาครุ่นคิดซึ่งดูลึกเกินจะหยั่งถึง มันเป็นนัยย์ตาที่เหมือนแบกรับความเศร้าของโลกทั้งโลกไว้  นี่เป็น impression อันแรกของผมที่มีต่อ Mahler โดยที่ยังไม่เคยได้เริ่มฟังดนตรีของ Mahler เลย เนื่องจากตอนนั้นยังเป็นนักเรียนอยู่ ยังไม่มีรายได้เป็นของตัวเอง การขวนขวายหาเพลงมาฟังนั้นก็ค่อนข้างยาก inter net ก็ยังไม่มี จะซื้อซีดีตอนนั้นก็ยังราคาแพง ไอ้เทปคาสเส็ทที่พอซื้อได้นั้น ก็ดันยาวไม่พอซิมโฟนีของ Mahler ซะอีก  ที่พึ่งที่ดีที่สุดตอนนั้นก็คือรายการเพลงคลาสสิควิทยุจุฬาฯนั่นเอง ซิมโฟนีของ Mahler ที่ผ่านรูหูผมเป็นครั้งแรกในชีวิตก็คือซิมโฟนีหมายเลขห้าที่เล่นโดย Karajan/Berlin PO นั่นเอง แค่ขึ้นต้นไปได้ไม่กี่นาทีก็ทำผมหูผึ่งทันที จะเรียกว่าเป็นรักแรกพบก็ว่าได้ มันเหมือนกับแบบว่าเพลงแบบนี่แหละที่เราเฝ้ารอมานาน  หลังจากฟังจนจบเพื่อรอฟังว่าเป็นผลงานของใครก็ได้ความว่าเป็นของพ่อหนุ่มนัยย์ตาเศร้าคนนี้นี่เอง ผมรีบกลับไปเปิดหนังสือเล่มนั้นใหม่เพื่ออ่านรายละเอียด (ที่ตอนนั้นอ่านผ่านๆ)ของ Mahler เพิ่มเติม ก็ได้ความว่างานของ Mahler นั้น "หนัก" และ"สะเทือนอารมณ์อย่างรุนแรง" ซึ่งผมก็เห็นด้วยอย่างยิ่ง หลังจากนั้นวิทยุจุฬาก็นำเสนอผลงานของ Mahler เป็นพักๆ เท่าที่ผมจำได้ก็มี เบอร์หนึ่งโดย Kubelik และ Solti เบอร์สองโดย Slatkin เบอร์สามโดย Tennstedt  เบอร์แปดโดย Ozawa ส่วนเบอร์อื่นๆจำไม่ได้แล้ว่าใครเล่น แต่ก็ล้วนแล้วแต่สร้างความประทับใจให้ผมทั้งสิ้น จากวันนั้นถึงวันนี้สภาพของผมเป็นอย่างที่เห็นๆกันนั่นแหละครับ เอาไว้พรุ่งนี้มาต่อกันกับปกิณกะ Mahler ส่วนสมาชิกท่านอื่นๆอยากบอกความในใจถึงสาว เอ้ย ถึง Mahler ก็เชิญได้เลยครับ จากคุณ : <โหน่ง> - [ 10 ก.ค. 52 02:09:13 ]

ความคิดเห็นที่ 21 แฮ่ๆคห. คุณสิท อ่านเพลินดีแท้ มาวอร์มอั๊พการฟังมาห์เลอร์ที่จะถึงนี้กันดีกว่าครับ (ถ้ามันไม่โดนยุบเพราะไข้หวัดมรณะนะ) http://www.somtow.com/music.html นี่เป็นเวปของ อ.สมเถา ครับ แกเคยคอนดักต์เบอร์สี่แบบเต็ม และท่อน Adagietto ของเบอร์ห้ามาแล้ว ยังไงลองกดฟังออนไลน์ดูไอเดียได้ครับ จากคุณ : jassb1 - [ 10 ก.ค. 52 02:40:00 ]

ความคิดเห็นที่ 22 มิน่าเมื่อคืนสะดุ้งตื่นตอน 5 ทุ่มกว่าๆ ที่แท้มีคนบ่นถึงนี่เอง ปล. แม้คุณสิทธิจะปากหวานอย่างไร แต่ในใจดิฉันก็ยังคงมีแต่นาย Gould ผู้เดียวค่ะ (พิมพ์ไปเครียดไปนะเนี่ย อ๊าย...อาย) แก้ไขเมื่อ 10 ก.ค. 52 12:07:27 จากคุณ : Vitamin_C - [ 10 ก.ค. 52 12:06:56 ]

ความคิดเห็นที่ 23 to คุณโหน่ง destiny จริง ๆ ********* no. 5 เป็น cupid ---------------------------------------------- ซิมโฟนีของ Mahler ที่ผ่านรูหูผมเป็นครั้งแรกในชีวิต ก็คือซิมโฟนีหมายเลขห้า ที่เล่นโดย Karajan/Berlin PO นั่นเอง แค่ขึ้นต้นไปได้ไม่กี่นาที ก็ทำผมหูผึ่งทันที จะเรียกว่าเป็นรักแรกพบก็ว่าได้ มันเหมือนกับแบบว่าเพลงแบบนี่แหละ ที่เราเฝ้ารอมานาน จากคุณ : lost season 666 - [ 10 ก.ค. 52 17:29:24 A:10.100.1.4 X:58.10.167.192 TicketID:169971 ]

ความคิดเห็นที่ 24 จากวันนั้นถึงวันนี้สภาพของผมเป็นอย่างที่เห็นๆกันนั่นแหละครับ อ่านแล้วก็กลับมาดูสภาพตัวเอง HAHAHAHA จากคุณ : jassb1 - [ 10 ก.ค. 52 18:04:18 ]

ความคิดเห็นที่ 25 เมื่อคืนนอนเพลินเลยวุ้ย เช้านี้มาแจ้งข่าวกันก่อนก็แล้วกันครับ เพื่อนๆผู้ฟังที่รักครับ ปีหน้าปี 2010 ยาวไปจนถึงปี 2011 นั้นจะเป็นช่วงปี สำคัญสำหรับชาว Mahlerian ทั่วโลก นั่นคือ จะมีวันครบรอบ 150 ปีวัน คล้ายวันเกิดของ Mahler ในวันที่ 7 ก.ค. ปี 2010  และวันครบรอบ 100 ปี หลังการเสียชีวิตในวันที่ 18 พ.ค. ปี 2011หลายๆแห่งตระเตรียมการเฉลิม ฉลองไว้แล้ว ที่ประกาศมาเป็นทางการแล้วก็เป็นของ Concertgebouw ซึ่ง จะทยอยเล่นซิมโฟนีทั้งสิบบทของ Mahler + Das Lied von der Erde เริ่ม จากปลายปีนี้ไปจนถึงปี 2011 ภายใต้การอำนวยเพลงของวาทยากรรับเชิญ มากมาย รายละเอียดไปดูได้ที่ http://www.concertgebouworkest.nl/Mahlerindex.aspx?pageid=82 ส่วนในสาธารณรัฐเช๊คนั้นก็จะมีกิจกรรม Project Mahler ประกาศออกมา แล้วเช่นกัน รายละเอียดไปดูได้ที่ http://en.gustavmahler.eu/ highlight อันหนึ่งของงานคือการเปิดอนุสรณ์สถานของ  Mahler ที่เมือง Jihlava (เมืองที่ Mahler อาศัยอยู่ตอนเป็นวัยรุ่น) แก้ไขเมื่อ 11 ก.ค. 52 19:51:39 จากคุณ : <โหน่ง> - [ 11 ก.ค. 52 11:11:35 ]

ความคิดเห็นที่ 26 จริงๆ Concertgebouw ก็เคยจัดงานยักษ์แบบนี้มาแล้ว ถ้าไม่นับงาน Mahler Feest ของ Mengelberg ที่จัดมาตั้งแต่ปี 1920, Mahler Feest  อีกครั้งเพิ่งมีไปเมื่อปี 1995 นี่เอง เป็นงาน แสดงซิมโฟนีทุกบทของ Mahler ภายในระยะประมาณ 2 อาทิตย์เท่านั้น โดยเล่นโดย Concertgebouw, Vienna PO, Berlin PO และ Gustav Mahler Youth Orchestra อำนวยเพลงโดยวาทยารับเชิญมากมายเช่นกัน ลองไปดูบทวิจารณ์งานนี้ที่ http://www.nytimes.com/1995/05/16/arts/critic-s-notebook-in-a-grand-procession-of-mahler.html?pagewanted=1 ส่วนงานบันทึกเสียงจากงานนี้ก็มีออกมาแล้วเช่นกัน ไปดูได้ที่ http://media.rnw.nl/en/production/1075 ข้อมูลงานนี้หายากหน่อย พอพิมพ์คำว่า Mahler Feest เข้าไปใน google ปุ๊บส่วนใหญ่จะมีแต่เว๊บ โหลดบิตออกมาทั้งนั้น จากคุณ : <โหน่ง> - [ 11 ก.ค. 52 11:23:26 ]

ความคิดเห็นที่ 27 โอ... สัมผัสแรกของผมกับมาเลอร ก็คงจะเป็นเบอร์9 ของบรูโน่ วอลเธอร์ซึ่งก็ยังไปกันไม่รอดจนทุกวันนี้ มาชอบเบอร์6 ของ คูบิลีก นี่เองหลังจากนั้นก็มี เบอร์ 1, 2, และ 8 ตามๆกันมา แต่ชั่วโมงบินยังต่ำนัก แก้ไขเมื่อ 11 ก.ค. 52 15:54:08 จากคุณ : Genzo - [ 11 ก.ค. 52 15:51:08 ]

ความคิดเห็นที่ 28 Concertgebouw เริ่มปั๊มแผ่นมาห์เลอร์ออกมาขายได้ระยะ แต่พึ่งทราบจริงๆครับว่ากะจะทำให้ครบทุกเบอร์ ปี 2007 ออกแผ่นนี้มา (มีอีกหลายเบอร์เหมือนกันนะนี่) (ฟอนต์เหมือนของที่คุณพี่โหน่งที่ยกมาเลย) จากคุณ : jassb1 - [ 11 ก.ค. 52 16:33:33 ]

ความคิดเห็นที่ 29 โอ ... แต่ให้ดิ้นเถอะ เอาปิแยร์ บูเลซ มากำกับเบอร์เจ็ด ?????? คุณสตาท้วงมา นัยว่าไอ้เบอร์ที่เฮงซวยมันทำกับ The Cleveland Orchestra ต่างหาก เอ้อ ช่ายจริงๆแฮะ ... ผมเสียรู้บูเลซเข้าให้แล้น เพราะแผ่นนี้ผมก็มี ย๊ากกกกกก Mahler: Symphonie No. 7 - The Cleveland Orchestra / Pierre Boulez แก้ไขเมื่อ 11 ก.ค. 52 17:34:25 จากคุณ : jassb1 - [ 11 ก.ค. 52 16:39:59 ]

ความคิดเห็นที่ 30 เรียน คุณโหน่ง mahler no. 10 r. chailly พอจะ challenge simon rattle + berlin ได้ไหมครับ จากคุณ : sitt666 - [ 11 ก.ค. 52 20:21:18 A:10.100.1.6 X:58.10.167.189 TicketID:169971 ]

ความคิดเห็นที่ 31 เห็นข้างบนมีรูปของ Alma เลยนึกได้ว่ามีภาพยนต์ชีวประวัติของเธอในชื่อเรื่อง Bride of the Wind จริงๆผมพูดถึงไว้ใน blog แต่วันนี้เอา trailer มาฝากซะเลย ภาพยนต์เรื่องนี้เป็น เกี่ยวกับชีวิตของ Alma กับสามีทั้งสามคน + ชู้รักอีกหนี่งคนของเธอ นำแสดงโดย Sarah Wynter เป็น Alma Mahler, Jonathan Pryce ดาราเจ้าบทบาทเป็น Gustav Mahler และ Vincent Perez ขวัญใจสาวๆเป็น Oskar Kokoschka กำกับโดย Bruce Beresford จริงๆชื่อ Bride of the Wind นั้นเป็นชื่อรูปเขียนของ Oskar Kokoschka ซึ่งเป็นภาพ portrait ของตัว Oskarเองกับ Alma ซึ่งก็มีธีมตรงกับตัวหนังดี (ในหนังนั้นความรัก ระหว่าง Alma กับ Oskar นั้นเป็นความรักที่ร้อนแรงและดิบออกซักหน่อย) จริงๆภาพยนต์เรื่องนี้ผมตั้งความหวังไว้ค่อนข้างสูงเพราะ Bruce Beresford นั้นเป็นผู้กำกับ ระดับรางวัลออสก้าร์จากเรื่อง Driving Miss Daisy และผมยังชอบเรื่อง Paradise Road ของแกมากด้วย แต่พอมาดูแล้วค่อนข้างผิดหวังจริงๆ พูดอย่างไม่ลำเอียงเลยคือช่วงที่ดีที่ สุดของหนังนั้นคือตอนที่มี Mahler อยู่ด้วย หลังจาก Mahler ตายไปตัวเรื่องก็เป๋ไปเลย ซึ่งก็ เป็นเรื่องค่อนข้างน่าเสียดายเพราะหนังเรื่องนี้ใช้ในงานศิลป์ของ Gustav Klimt และดนตรี ของ Mahler เป็นวัตถุดิบ แต่ยังออกมาไม่เป็นชิ้นเป็นอันเท่าไหร่ทำให้รู้สึกเสียดายของจริงๆ จากคุณ : <โหน่ง> - [ 12 ก.ค. 52 02:59:36 ]

ความคิดเห็นที่ 32 ถึงแม้ตัวหนังจะไม่ค่อยได้เรื่อง แต่ตัว soundtrack นั้นทำออกมาได้น่าสนใจทีเดียว ตัว OST นั้นประกอบไปด้วยสามส่วนคือดนตรีของ Gustav Mahler, ของ Alma Mahler และของที่ แต่งใหม่โดย Stephen Endelman ซึ่งแต่งโดยนำ motif ต่างๆจากซิมโฟนีของ Mahler ให้ร้อยเรียงเข้าด้วยกันขึ้นมาเป็นเพลงใหม่ซึ่งผมก็ว่าได้ผลพอสมควรทีเดียว เนื่องจากข้อจำกัด ทางด้านเวลาทำให้ต้องมีการนำแค่บางส่วนของ movement จากซิมโฟนีมาทำเป็น soundtrack ส่วนที่เป็นเพลงร้องนั้นขับร้องโดย Rene Fleming ซึ่งก็มีบทรับเชิญเล็กๆในภาพยนต์ด้วย คนที่ฟัง Mahler อยู่แล้วอาจจะรู้สึกเฉยๆ แต่สำหรับมือใหม่ที่อยากจะลองฟัง Mahler นั้น ผม ว่าอัลบั้มนี้เป็นอัลบั้มที่น่าสนใจทีเดียว แก้ไขเมื่อ 12 ก.ค. 52 03:06:38 จากคุณ : <โหน่ง> - [ 12 ก.ค. 52 03:00:27 ]

ความคิดเห็นที่ 33 ส่วนนี่ครับ Bride of the Wind จากคุณ : <โหน่ง> - [ 12 ก.ค. 52 03:01:47 ]

ความคิดเห็นที่ 34 ชีวิตของอัลมา ... โลดโผนกว่า กุสตาฟ จริงๆ เรียนคุณโหน่งที่เคารพ ... ถ้าให้คุณเลือกแผ่นซีดีติดตัวไปได้หนึ่งชุด เพื่ออพยพไปอยู่ดาวอังคาร เพราะโลกโดนไข้หวัด 2009 เล่นงาน เห็นแก่มนุษยชาติ คุณจะเลือกงานของใครและอัลบั้มไหนติดตัวไปครับ ... อิอิ จากคุณ : jassb1 - [ 12 ก.ค. 52 03:25:17 ]

ความคิดเห็นที่ 35 ความเหมือน ผ่านอดีต สู่แผ่นฟิล์ม .... น่าตกใจมาก จากคุณ : jassb1 - [ 12 ก.ค. 52 07:07:48 ]

ความคิดเห็นที่ 36 ...น่าดูน่าชม ในส่วนของรายละเอียดปลีกย่อยในเรื่องนี้จริงๆ จากคุณ : jassb1 - [ 12 ก.ค. 52 07:09:04 ]

ความคิดเห็นที่ 37 อ่านมาแล้วสนุกดีครับ ยังไง ๆ ผมก็ไม่คุ้นกับมาห์เลอร์เลย (แม้จะได้จากคุณ sitt ไป 3 แผ่นแล้วก็ตาม) ที่พอฟัง ๆ บ้าง ก็มีแต่เบอร์ 5 mvt 1. (ผมเรียกเองว่า star war symphomy - HAHA) แต่อยากถามคุณ jassb1 นิดครับ ว่า บูเลซ์ กับเบอร์ 7 มันเปนอย่างไรหรือ เพราะรู้สึกว่าแกก็กำกับแทบจะครบทุกเบอร์ กำลังอยากจะหามาฟัง เพราะแกน่ะ composer/conductor คนโปรดผมคนนึงเลย จากคุณ : RAKANG - [ 13 ก.ค. 52 08:48:17 ]

ความคิดเห็นที่ 38 to rakang เท่าที่ ผมฟังดู ก็ไม่เลวร้ายอะไรครับ แต่ว่า -- ขาย -- ไปแล้ว 5555555555555555555555555555 จากคุณ : boutique 666 - [ 13 ก.ค. 52 16:25:45 A:10.100.1.6 X:58.10.167.185 TicketID:169971 ]

ความคิดเห็นที่ 39 หนังใน คคห ที่ 31-32 ของคุณโหน่ง น่าดูจังค่ะ(แม้ว่าคุณจะบอกว่ามันห่้วยก็เถอะ) ดิฉันสนใจเรื่องประวัติของ Alma ไม่ทราบว่าคุณโหน่ง พอจะแนะนำหนังสือให้บ้างได้ไหมคะ อยากรู้จักว่าผู้หญิงคนนี้คิดอย่างไรถึงมีสามีมากมายขนาดนี้ แล้วก็อยากรู้ด้วยว่าบรรดาหนุ่มๆปัญญาชนทั้งหลายคิดอย่างไรถึง เลือกเธอเป็นภรรยา ทั้งๆที่เธอมีสามีอยู่แล้ว จากคุณ : Vitamin_C - [ 13 ก.ค. 52 21:25:12 ]

ความคิดเห็นที่ 40 คคห.36 ...น่าดูน่าชม ในส่วนของรายละเอียดปลีกย่อยในเรื่องนี้จริงๆ ใช่ครับ จะว่าไปแล้วงานกำกับศิลป์น่าจะเป็นส่วนที่ดีที่สุดในเรื่อง พวกฉากและ prop ประกอบฉากต่างๆนั้นทำให้รู้สึกเหมือนอยู่ในสมัยนั้นจริงๆ นอกจากนั้นแล้วยังใส่ใจในราย ละเอียดดีมาก ตัวอย่างเช่นรูปของ Gustav และ Justine Mahler ถ้าใครอ่านประวัติ Mahler แบบละเอียดๆคงจะเคยได้ยินชื่อ Justine ผู้ซึ่งเป็นน้องสาวที่สนิทที่สุด ในหนังนั้นมี ฉากหนึ่งซึ่งกล้องแพนไปบนโต๊ะทำงานของ Mahler ซึ่งมีรูปคู่ของ Gustav และ Justine ตั้งอยู่ ในหนังนั้นสองคนที่อยู่ในรูปคือดาราที่เล่นซึ่งก็คือ Jonathan Pryce กับดาราหญิงอีกคน คหห. 39 ค่อนข้างน่าแปลกอยู่สักหน่อยที่ไม่ค่อยมีหนังสือชีวประวัติของ Alma ในท้องตลาดเลย เล่มที่ผม เคยเห็นมีวางขายก็จะเป็นเล่มนี้ครับ The Diaries, 1898-1902 ซึ่งเขียนโดยตัว Alma เอง เขียนถึงปี 1902 ซึ่งเป็นปีที่แต่งกับ Mahler ผมก็ไม่เคยอ่านเหมือนกันกัน แต่เดาว่าเมื่อ อ่านแล้วคงสามารถรู้ถึงนิสัยของเธอได้ดีระดับหนึ่ง http://www.amazon.com/Diaries-1898-1902-Alma-Mahler-Werfel/dp/0801436540/ref=sr_1_1?ie=UTF8&s=books&qid=1247511055&sr=1-1 ส่วนอีกเล่มที่น่าสนใจคือ Gustav Mahler Memories and Letters ซึ่งเป็นชีวประวัติของ Mahler ที่เขียนโดย Alma เอง ฉากในหนังตอนที่ Mahler กับ Alma เจอกันครั้งแรกนั้น เหมือนกับที่บรรยายในเล่มนี้เด๊ะๆ เล่มนี้จริงๆ out of print ไปนานแล้ว แต่ผมมีไฟล์ที่เป็น .djvu อยู่ ขนาดประมาณ 17 MB คงอีเมล์ให้ไม่สะดวก ถ้ามีเว๊บที่สามารถ upload ไฟล์ใหญ่ๆให้คนเข้าไปดาวน์โหลดได้น่าจะดีกว่า ชีวประวัติ Alma ที่มีสีสันมากกว่า Gustav เยอะ นอกจากภาพยนต์แล้วยังมีคนเอาประวัติเธอ มาทำละครเวทีด้วย http://www.alma-mahler.at/ แก้ไขเมื่อ 14 ก.ค. 52 03:00:05 จากคุณ : <โหน่ง> - [ 14 ก.ค. 52 02:18:51 ]

ความคิดเห็นที่ 41 ขอนอกเรื่องต่ออีกเล็กน้อย พอดีพูดหนึ่งภาพยนตร์เรื่อง Paradise Road ของผกก.คนเดียวกัน ก็เลยนึกได้ว่ามันเป็นภาพยนตร์อีกเรื่องที่คนรักดนตรีควรได้ดู เรื่องย่อๆเป็นเรืื่องของกลุ่มนักโทษ หญิงที่ฟอร์มวงนักร้องประสานเสียงในค่ายกักกันของกองทัพญี่ปุ่นบนเกาะสุมาตราระหว่างสงคราม โลกครั้งที่สอง soundtrack เพราะมากครับ เป็นการเรียบเรียงเพลงคลาสสิคที่เป็น เพลงบรรเลงมาขับร้องด้วยวงนักร้องประสานเสียง ลองไปฟังตัวอย่างได้ใน amazon ครับ http://www.amazon.com/Paradise-Road-Original-Soundtrack/dp/B0000029WD/ref=sr_1_2?ie=UTF8&s=music&qid=1247512997&sr=8-2 แก้ไขเมื่อ 14 ก.ค. 52 02:27:44 จากคุณ : <โหน่ง> - [ 14 ก.ค. 52 02:27:13 ]

ความคิดเห็นที่ 42 นอกเรื่องต่อ พอพูดถึง Alma และ Justine Mahler กับ Paradise Road แล้วก็ทำให้ผมนึก ถึงหญิงสาวคนหนึ่งขึ้นมา สุภาพสตรีท่านนี้มีชื่อเดียวกับ Alma และมีศักดิ์เป็นหลานของ Gustav Mahler โดยที่เธอนั้นเป็นบุตรสาวของ Justine เธอมีชื่อว่า Alma Rose ครับ บิดาของเธอคือ Arnold Rose ผู้เป็นหัวหน้าวง Vienna Philharmonic ในสมัยนั้นและยังเป็นสมาชิดก่อตั้งวง Rose Quartet ซึ่งเป็นวง quartet ในตำนานอีกด้วย หลังจากที่ Mahler ได้มารับงานใน Vienna, Justine ซึ่งปกติเป็นคนคอยดูแลบ้านให้ Gustav ก็มีโอกาสได้พบกับ Arnold Rose และต่อมาก็พัฒนาเป็นความรักในที่สุด แต่ Justine นั้นน่ารักมากครับ เธอเก็บเรื่องของเธอกับ Arnold ไว้เป็นความลับเพราะ เธอจะไม่แต่งงานจนกว่าพี่ชายจะหาภรรยาได้ ซึ่งพอ Gustav กับ Alma แต่งงานกันปุ๊ป เธอกับ Arnold ก็แต่งกันในวันถัดมาทันที Alma ซึ่งเป็นลูกสาวของ Justine และ Arnold นั้น ได้รับการศึกษาทางดนตรีจากครอบ ครัวเป็นจากดี เธอเติบโตขึ้นมาเป็นนักไวโอลินที่มีชื่อเสียง นอกจากนั้นแล้วเธอยังก่อตั้งวง ออร์เคสตร้าหญิงล้วนออกตระเวณแสดงทั่วยุโรปอีกด้วย แต่ขีวิตของเธอนั้นไม่ได้จบแบบ happy ending กล่าวคือในช่วงสงครามโลกครั้งที่สองนั้น เธอการตามล่าจากนาซีไม่พ้น และถูกจับส่งไปที่ Auschwitz ซึ่งเป็นค่ายกักกันและค่ายสังหาร ชาวยิวที่ใหญ่ที่สุด ภายใน Auschwitz นั้นเธอได้รับตำแหน่งให้เป็นวาทยากรประจำวง นักโทษหญิง ซึ่งเธอก็ได้ยกระดับคุณภาพการเล่นของวงซึ่งมีแต่มีสมัครเล่นขึ้นมาในระดับที่ผู้คุมยัง ยอมรับ แต่สาเหตุจริงๆก็คือเธอและสมาชิกวงนั้นต้องเล่นเพื่อความอยู่รอดครับ ต้องพยายาม เล่นให้ดีที่สุดเพื่อให้ตัวเองมีค่าพอที่จะไม่นำไปถูกฆ่า Alma นั้นเสียชีวิตอยู่ภายในค่ายกักกันก่อน สงครามเลิกได้ไม่นาน พอ Arnold ทราบข่าวก็ตรอมใจตายตามหลังจากนั้นไม่นาน ในขณะนี้สามารถอ่านประวัติของเธอได้จากหนังสือเล่มนี้ครับ Alma Rose: Vienna to Auschwitz http://www.amazon.com/Alma-Rose-Auschwitz-Richard-Newman/dp/1574670859/ref=sr_1_7?ie=UTF8&s=books&qid=1247511055&sr=1-7 จากคุณ : <โหน่ง> - [ 14 ก.ค. 52 02:59:25 ]

ความคิดเห็นที่ 43 สารภาพว่าก่อนหน้านี้สัก3-4ปี ผมไม่สนใจมาห์เลอร์เลย ด้วยอารมย์ประมารว่า กลัวเพลงยาวๆ กลัวฟังยาก จนกระทั่ง2ปีก่อน ต้องวิเคราะห์ท่อนนึงในซิมโฟนีของท่าน ถึงกับประจักษ์ฺ จากนั้นมา ตอนนี้มีแผ่นซิมโฟนีครบทุกเบอร์ โดยท่านคูเบอลิค และมีดีวีดีทุกเบอร์เช่นกันโดยท่านอับบาโด จากคุณ : short ride in a fast machine - [ 14 ก.ค. 52 22:04:50 ]

ความคิดเห็นที่ 44 โหย...เรื่องใน คคห ที่  42 นี่ก็น่าอ่าน แต่สงสัยจะน้ำตาท่วมจอ - -" จากคุณ : Vitamin_C - [ 15 ก.ค. 52 11:12:11 ]

ความคิดเห็นที่ 45 เข้ามาบอกว่าตามอ่านอย่างต่อเนื่องครับคุณพี่โหน่ง ... นอกเรื่องบ่อยๆก็ดีเหมือนกัน ฮิฮิ เพราะเราก็ชอบอ่านอยู่แล้น ................................................................................................ เรียนคุณระฆัง ที่ผมไม่นิยมชมชอบ บูเลซ ซึ่งได้"กระทำ" ซิมโฟนีหมายเลขเจ็ดแผ่นนั้น เป็นเพราะมันไร้ซึ่งความโรแมนติก อย่างที่ "เนื้อ" ดนตรีพึงมี กระทั่งตอนนี้ผมก็พยายามฟังมันซ้ำอีกครั้ง ผมก็ไม่ได้สาระอะไรจากวาทยกรชาวฝรั่งเศสท่านนี้นัก จะว่าไปแล้ว สิ่งที่ผมพูดมามันเป็นความคิดเชิงอัตถนิยม ลางเนื้อ นั้นชอบ ลางยา ครับ อ่อ ... อีกอย่างหนึ่งคือ ผมไม่นิยมมาห์เลอร์จากตะแกเท่าไรอยู่แล้วครับ ยิ่งคอนเสิร์ตฉลอง 80 ชนม์วารของแกที่เบอร์ลินด้วยไซร้ ตะแกเล่น ซิมโฟนีบทที่สอง ของมาห์เลอร์ นัยว่าเอาเคล็ดรึป่าวไม่ทราบ (คืนชีพ) ผมฟังตอนแรกปลื้มนักหนา เพราะเสียงใสสดสะใจ ... แต่ฟังไปฟังมาก็ปลื้มน้อยลง จนกระทั่งไม่ปลื้มเลย เพราะมวลหรือเนื้อดนตรี หลั่งไหลออกมามากจริง แต่ไม่ซาบซึมหรือประทับในรอยทรงจำซักกะติ๊ด ดทีว่า แกจะเหมาะกับงานที่ "ล้ำ" กว่านี้นะครับ จากคุณ : jassb1 - [ 15 ก.ค. 52 23:55:23 ]

ความคิดเห็นที่ 46 รูป Gustav และ Justine Mahler ที่คุณโหน่งพูดถึงใน คห.40 ผมไปค้นมา มีสองรูปที่เข้าเค้า คือรูปแรก ถ่ายเมื่อปี 1890 ณ บูดาเปสต์ จากคุณ : jassb1 - [ 16 ก.ค. 52 00:18:00 ]

ความคิดเห็นที่ 47 อีกรูปดูใหม่กว่า เพราะถ่ายปี 1899 ณ กรุงเวียนนา ดูสนิทสนมกันดี ... ผมไม่ค่อยเห็นรูปพี่น้องต่างเพศถ่ายรูปคู่กันบ่อยนัก (ในสมัยก่อน น่ะนะครับ) จากคุณ : jassb1 - [ 16 ก.ค. 52 00:22:57 ]

ความคิดเห็นที่ 48 มาตอบคำถามก่อนดีกว่า เบี้ยวไปอยู่หลายวัน คคห.16 ความประทับกับคอนเสิร์ตซิมโฟนีหมายเลขห้า ซิมโฟนีหมายเลขห้ากับผมเนี่ยเคยมีคดีความกันอยู่ เริ่มจากที่มันเป็น Mahler ชิ้นแรกที่ผมเคยได้ ฟัง มีอยู่ช่วงหนึ่งผมเลยฟังบ่อยมากจนเอียนเบอร์นี้ไปอยู่พักใหญ่ๆ ตอนนี้ดีขึ้นแล้วแต่ก็ยังมีอาการอยู่ คือหาแผ่นที่โดนได้ค่อยข้างยาก อาการนี้ก็ยังดันติดมาตอนดูคอนเสิร์ตด้วย ผมได้ไปดูเบอร์ห้ามา สองครั้งด้วยกัน ครั้งหนึ่งกับ Northwest Mahler Festival ซึ่งก็เล่นได้ไม่ดีตามปกติของงาน อีกครั้งกับ Seattle Symphony กับ Gerald Schwartz เช่นเคย ก็เล่นได้ดีตามมาตรฐาน มืออาชีพ แต่ก็เหมือนกับฟังแผ่นนั่นแหละครับคือยังไม่โดนเท่าไหร่ แต่แน่นอนว่าตอนจบนี่มันส์จริงๆ ไม่ว่าจะวงไหนก็ตาม วาทยากรนี่แทบจะกระโดดไปอำนวยเพลงไปแทบทุกคน คคห.27 ของคุณ Genzo แผ่นหมายเลขเก้าของ Walter/Vienna PO/EMI นั้นเป็น historic recording ที่บันทึก มาตั้งแต่ปี 1938 ครับ คุณภาพเสียงนี่ไม่ต้องให้ said เป็นที่รู้กันว่าไม่ควรเริ่มด้วยแผ่นนี้ก่อน ถือว่าคุณ Genzo ดวงเฮง(หรือเปล่า?)มากที่ดันมารู้จักกับ Mahler ด้วยแผ่นนี้ก่อน ถ้ายังต้อง การ Walter กับหมายเลขเก้าอยู่ แนะนำให้ฟังของ Sony ที่เล่นกับ Columbia Orchestra ครับ จะมีความสุขกว่ากันเยอะ ผมคงอาจจะมีโอกาสได้เล่าถึง Water-M9 1938 แผ่นนี้ต่อไป ในกระทู้นี้ คคห.30 ของคุณ Destiny ผมไม่เคยฟังหมายเลขสิบของ Chailly เลยให้ความเห็นส่วนตัวไม่ได้ แต่เล่าให้ฟังถึงข้อ สังเกตอยู่บางอย่างได้ ถ้าจะนับกันจริงๆของ Chailly กับของ Rattle/BPO นี่เป็นคนละ เวอร์ชั่นกันครับ ของ Chailly เป็น Cooke II ส่วนของ Rattle/BPO เป็น Cooke III ครับ (Rattle ก็เคยออก Cooke II กับ Bournemouth SO มาก่อนเหมือนกัน) แผ่นแรก ของ Cooke III ที่ออกมาเนี่ยเป็นของ Mark Wigglesworth/BBC National Orchestra of Wales ซึ่งทำเป็นแผ่นแถมมากับนิตรสาร BBC music ไม่ได้ทำขายตามปกติ แผ่นนี้ก็เลยไม่ค่อยแพร่หลายนัก อีกเกีือบสิบปีต่อมา Rattle ถึงค่อยออก Cooke III กับ BPO ทีนี้ออกมาตู้มก็กลายเป็นแผ่นอ้างอิงเลย (เพราะมันไม่มีมาก่อน) แต่ก็ต้องยอมรับว่าเป็น หมายเลขสิบที่เล่นดีมากจากฝีมือของ BPO ซึ่งเป็น world leading orchestra จากไม่กี่ วงที่ยอมเล่น performing version Rattle นี่แทบจะแจ้งเกิดกับแผ่นนี้ไปเลย แผ่น Cooke III ถัดจากนั้นมาก็จากวงระดับรองๆทั้งนั้น Rattle/BPO Cooke III ตอนนี้ก็เลยยังไร้คู่แข่ง (แว่วๆว่าแผ่น Noseda/New Philharmonia/Chandos นั้นก็เยี่ยมเหมือนกันแต่ยังไม่ได้ลอง เลย) ส่วน Cooke II ของ Chailly นั้นมีแต่คู่แข่งหินๆไม่ว่าจะเป็นของ Kurt Sanderling, Wyn Morris, James Levine, Eliahu Inbal ก็เลยดูไม่โดดเด่นเท่าไหร่ คคห.34 แผ่น (Martian) desert island แผ่นที่ผมจะเอาไปคงไม่ได้เอาไปเพื่อมนุษยชาติหรอก แต่จะไปเพื่อตัวเองมากกว่าสำหรับที่จะ รำลึกถึงชีวิตบนโลก ผมคงเอาอัลบั้มแรกในชีวิตที่ผมเคยฟังในสมัยเด็กๆไปด้วย อัลบั้มนั้นคือ... . . . . . บ้านบนดอย ของคุณ จรัล มโนเพ็ชร ครับ คหห.45 Mahler ที่ดีที่สุดของ Boulez ที่แนะนำกันก็คือหมายเลขสามกับหกที่เล่นกับ Vienna PO/DG กับอีกแผ่นที่รวมเพลงร้อง ผมฟังแล้วยังชอบเลย เอาไว้พรุ่งนี้เดี๋ยวค่อยคุยกันถึง early recording ของ Mahler กัน แก้ไขเมื่อ 16 ก.ค. 52 02:21:33 จากคุณ : <โหน่ง> - [ 16 ก.ค. 52 02:20:33 ]

ความคิดเห็นที่ 49 เรียน คุณโหน่ง Symphony No.9 in D major ซิมโฟนีบทนี้เป็นซิมโฟนีที่หม่นและเศร้าที่สุดของ Mahler บรรกาศโดยรวมนั้นมืดหม่นมาก (ถึงขนาดที่คนฟังหลายๆคนไม่สามารถฟังจนจบได้เพราะมันทำให้ซึมเศร้ามากเกิน) ในความเห็นส่วนตัวแล้ว ผมว่าเศร้าพอๆกับซิมโฟนีหมายเลขหกของ Tchaikovsky และซิมโฟนีหมายเลขสองของ Rachmaninov เลยทีเดียว ************************** อีกไม่นาน จะมี concert --- rachmaninov -- sym. 2 อยากให้คุณโหน่ง --- เล่าเบื้องหลังของ symphony นี้ ซักหลาย ๆ บรรทัด ครับ จากคุณ : sitt666 - [ 16 ก.ค. 52 15:00:29 A:10.100.1.4 X:58.10.167.228 TicketID:169971 ]

ความคิดเห็นที่ 50 เป็นเพราะเจอของแข็งโป๊ก ก่อนนี่เอง จากคุณ : Genzo - [ 16 ก.ค. 52 20:22:08 ]

ความคิดเห็นที่ 51 คืนนี้เอารายชื่อนักดนตรีหญิงจากค่ายเอาชวิทซ์มาลงไว้ครับ (สืบเนื่องจาก คห.42) Members of the Women's Orchestra of Auschwitz Alma Rose, conductor and violinist, Jewish, Austrian Zofia Czajkowska, conductor, Polish Esther Bejarano, accordion, Jewish, German; still plays today with the group Coincidence — they play songs from the Ghetto, Jewish and anti-fascist songs Fania Fenelon, piano and voice, Jewish, French Ewa Stojowska, piano and voice, Polish Helena Dunicz Niwinska, Polish Zofia Cykowiak, violin and copyist, Polish Anita Lasker-Wallfisch, violoncello, Jewish, German Helene Scheps, violin, Jewish, Belgian Violette Jacquet, violin, Jewish, French, born in Romania; became a pop singer after the war Flora Schrijver, accordion, Jewish, Dutch Julie Stroumsa, violin, Jewish, Greek Fanny Birkenwald, mandolin, Jewish, Belgian Helene Rounder, violin and copyist, Jewish, French Lily Mathe, violin, Jewish, Hungarian Eva Steiner, voice, Jewish, Hungarian Lola Kroner, flute, Jewish, German Else Felstein, violin, Jewish, Belgian Sonia Vinogradovna, piano, Russian Margot Anzenbacher (Wtrovcova), Jewish, Czech Lotte Lebeda, Jewish, Czech, voice Rachela Zelmanowicz (Olewski), mandolin, Jewish, Poland Masza Pietrkowska, mandolin, Jewish, Poland Hilde Grunbaum (Simha), notes copier, Jewish, German Rivka Bacia (Regina Kuperberg), Alma's maid (officially known as a notes copier), Jewish, Polish Helen Spitzer Tichauer, mandolin, Jewish, Czech Ruth Bassin, piccolo, Jewish, German Sylvia Wagenberg, recorder, Jewish, German Karla Wagenberg, recorder and piccolo, Jewish, German Yvette Maria Assael (Lennon), accordion, piano, double bass, Jewish, Greek Lily Assael, Jewish, Greek ขอดวงวิญญาณทุกท่าน จงสู่สุขติในสัมปรายภพด้วยเทอญ แก้ไขเมื่อ 17 ก.ค. 52 01:22:59 จากคุณ : jassb1 - [ 17 ก.ค. 52 01:21:13 ]

ความคิดเห็นที่ 52 ภาพประกอบเป็นวงผู้ชายครับ แต่ดูบรรยากาศแล้วเศร้าจริงๆ จากคุณ : jassb1 - [ 17 ก.ค. 52 01:22:19 ]

ความคิดเห็นที่ 53 ผมคงอาจจะมีโอกาสได้เล่าถึง Water-M9 1938 แผ่นนี้ต่อไป ในกระทู้นี้ เล่าเลยครับๆ อิอิ แผ่นเสียงผุๆนี่ ผมบ๊ายบายจริงๆน้า จากคุณ : jassb1 - [ 17 ก.ค. 52 02:42:20 ]

ความคิดเห็นที่ 54 นอนหลับๆ ตื่นๆ เปิดดูในกรุภาพ มีรูปนี้น่าสนใจ ... ให้ทายเล่นๆว่า ถ่ายเมื่อปี ค.ศ.อะไร ฮิฮิ จากคุณ : jassb1 - [ 17 ก.ค. 52 05:59:23 ]

ความคิดเห็นที่ 55 นี่อีกปะไร ... นอกจากกระทู้นี้จะเป็นอาศรมมาห์เลอร์แล้ว ยังรวมไปถึงแชมเปี้ยนมาห์เลอร์อย่างวอลเตอร์ด้วย อิอิ จากคุณ : jassb1 - [ 17 ก.ค. 52 06:01:28 ]

ความคิดเห็นที่ 56 และจะว่าไปแล้ว .... ออตโต เคมเพอเรอ ... ก็ละม้ายคล้ายคลึง มาห์เลอรือยู่ในที จากคุณ : jassb1 - [ 17 ก.ค. 52 06:10:08 ]

ความคิดเห็นที่ 57 คหห.49 Mr.Destiny ซิมโฟนีหมายเลขสองของ Rachmaninov นี่ผมรู้จักครั้งแรกจากหนังสือดนตรีปริทรรศน์ของอ.ไขแสงครับ ท่านเขียนบรรยายไว้ดีมากแบบเห็นภาพเลย ขอแนะนำให้ลองหาอ่านครับ ผมเองอ่านแล้วก็ไม่คิด จะเขียนเกี่ยวกับซิมโฟนีชิ้นนี้เลย เพราะทำยังไงก็คงไม่มีปัญญาเขียนได้แบบนั้น :) คหห.51 น่าดีใจที่รายชื่อเหล่านี้รอดออกมาใช้ชีวิตหลังสงครามได้เกือบหมด ส่วนหนึ่งต้องยกเครดิตให้ Alma Rose ด้วยเพราะตอนที่เธอเป็นผู้นำวงนั้น ไม่มีใครถูกนำไปฆ่าเลยแม้แต่คนเดียว น่า เสียดายที่เธอไม่มีโอกาสออกมาชื่นชมอิสรภาพเหมือนคนอื่น คหห.54 เห็นแล้วนึกถึงเรื่องของ Mahler กับ Rachmaninov ขึ้นมา หลายๆท่านคงทราบกันมาก่อน แล้วว่าการแสดงรอบปฐมทัศน์ของ Rach 3 นั้นเกิดขึ้นในอเมริกา หลังจากนั้นหลายอาทิตย์ Rachmaninov ก็นำออกแสดงเป็นครั้งสองซึ่งในครั้งนี้ Rachmaninov เป็นผู้เดี่ยวเปียโนส่วน วาทยากรก็ไม่ใช่ใครอื่นแต่เป็น Gustav Mahler นั่นเอง ไม่อยากจะจินตนาการว่าการแสดง ครั้งนั้นจะเทพเพียงใด Rachmaninov ได้เขียนบันทึกความประทับในครั้งนั้นไว้ใจความว่า Mahler เป็นวาทยากรที่เคร่งครัดและเป็น perfectionist ชนิดที่ส่วนของ orchestra นั้น ผู้ประพันธ์อย่าง Rachmaninov แทบไม่จำเป็นต้องยื่นมือเข้ามายุ่งเลย เพื่อเป็นของกำนัลแก่เจ้าภาพ เย็นนี้เราจะคุยกันถึงแผ่นเสียงผุๆกัน ;) จากคุณ : <โหน่ง> - [ 17 ก.ค. 52 10:30:38 ]

ความคิดเห็นที่ 58 หนังสือดนตรีปริทรรศน์ของอ.ไขแสง ศุขวัฒนะ เป็นหนังสือแนะนำดนตรีคลาสสิคที่ "คลาสสิค" เล่มนึงเลย สมัยก่อนไม่มี internet ไม่มี คลิป ไม่มีอะไรทั้งนั้น หนังสือแนะนำดนตรีเล่มแรกๆของเมืองไทยคือคอลัมน์ของจิ๋ว บางซื่อในนิตยสารกลางกรุง ซึ่งใช้การบรรยาย มีรูปประกอบนิดหน่อย ผู้เขียนบรรยายไป ไม่มีเสียงประกอบ คนอ่านต้องจินตนาการเอาเอง นอกเสียจากต้องขวนขวายไปหาซื้อแผ่นเสียงหรือ cassette tape มาฟัง แต่หนังสือดนตรีปริทัศน์นอกจากบรรยายเกี่ยวกับบทประพันธ์ดนตรีต่างๆอย่างเยี่ยมยอดแล้วยังเพิ่มเติมโน๊ตเพลงที่ยกมาจากบทประพันธ์นั้นๆด้วย คนอ่านที่อ่านโน๊ตได้ ก็สามารถจินตนาการตามไปด้วยกับเรื่องที่เขียน เท่าที่จำได้ นอกจากมี Rachmaninov Symphony no.2 แล้วก็ยังมี The Carnical of Animals ของ Saint-Seans ผมรู้จักทำนองของ Le Cyne หรือ the Swan ก็จากโน๊ตตัวอย่างในหนังสือเล่มนี้แหละ ฟังในหัว ก่อนที่จะได้ฟังจากเทปซะอีก แล้วก็มี Midsummer Night Dreams ของ Mendelssohn ยังจำได้ถึงทำนองของ Scherzo เลยครับ แล้วก็มี The Rite of Spring ของ Stravinsky ด้วยมั๊ง สมัยนี้น่าจะยังหาได้จากห้องสมุดต่างๆอยู่นะ จากคุณ : davebartus - [ 17 ก.ค. 52 13:28:42 ]

ความคิดเห็นที่ 59 thank you จ้ะ mr. davebartus จากคุณ : devdas 666 - [ 17 ก.ค. 52 16:17:05 A:10.100.1.3 X:58.10.167.131 TicketID:169971 ]

ความคิดเห็นที่ 60 หลังจากที่คุณ 666 ได้กล่าวถึง symphony #2 ของ Rachmaninoff ทำให้ผมกลับไปหาฟังจาก youtube และได้ REDISCOVER งานชิ้นนี้ ต้องขอขอบคุณมาไว้ ณ ทีนี้ด้วย ผมเคยฟังงานชิ้นนี้ตั้งแต่ยังเด็กๆ แต่หลังจากยุค cassette tape (หาเครื่องเล่นไม่ได้แล้ว) ก็ไม่ได้ฟังอีกเลย รวมถึงงาน orchestra หลายๆชิ้นก็ละเลยไป มาได้ฟังตอนโตแล้วนี่ก็รู้สึกต่างกัน สำหรับผม sym#2 นี่ไม่ได้เศร้าเท่าไหร่นะครับ แน่นอนว่าได้รับอิทธิพลมาจากอาจารย์ของเขาคือ Tchaikovsky แต่ที่ต่างไปคือ harmony ที่ฟังดูกลมกลืน แต่หม่นๆ และ orchestration ที่แน่นหนากว่า คนที่มาทีหลังก็ย่อมได้เปรียบยังงี้แหละครับ รู้สึกว่างานของ Rachmaninoff ค่อนข้างจะมีอิทธิพลต่อ Hollywood พอสมควรนะ เพราะฟังแล้วดูจะคล้ายๆที่เราได้ยินจากในหนังหลายๆเรื่องเลยทีเดียว  ท่อนที่ 3 เพราะมาก และ น่าจะมีคนเอาไปทำเป็นเพลงร้องนะครับ คุ้นๆ ถ้าจำไม่ผิด อจ ไขแสง (จำผิดขออภัยด้วย อ่านเมื่อ 20 กว่าปีที่แล้วได้มั๊ง) เปรียบเทียบ sym #2 ของ Rachmaninoff กับ sym #6 ของ Tchaikovsky ว่า เหมือนภาพวาด ภาพของ Tchaikovsky คือภาพวาดที่สีสันฉูดฉาดเตะตา ใครเห็นก็ต้องชอบแต่แรก ส่วนภาพของ Rachmaninoff คือภาพที่เรียบง่าย แต่มีรายละเอียดที่ประณีต ยิ่งดูยิ่งค้นพบ ยิ่งดูยิ่งชอบ จากคุณ : davebartus - [ 18 ก.ค. 52 09:23:43 ]

ความคิดเห็นที่ 61 อ้อ ต้องขออภัยที่มาคุยเรื่องนักประพันธ์คนอื่นในกระทู้ Mahler ต้องยอมรับว่าผมเองยังไม่เข้าถึงงานของ Mahler แต่ก็ไม่ได้คิดว่ามันเป็นงานที่ไม่ดีแต่อย่างใด ยังคงต้องเรียนรู้ตามหลังท่านทั้งหลายในที่นี้ต่อไป จากคุณ : davebartus - [ 18 ก.ค. 52 09:27:45 ]

ความคิดเห็นที่ 62 คห.61 ไม่เป็นไรเลยครับ กระทู้นี้ตั้งขึ้นมาเพื่อให้เรามีพื้นที่เล็กๆ ในการแลกเปลี่ยนถึงคีตกวีและงานดนตรีคลาสิกที่ชื่นชอบ ดีซะอีกที่ไม่ได้คุยกันสามคนเหมือนตอนแรกที่ตั้งอาศรมมาห์เลอร์ขึ้นมาครับ (ฮาาา) เข้ามารับรองหนังสือของ อ.ไขแสง อีกคนว่าดีมาก ผมอาศัยอ่านจากหอสมุดที่ ม. มีสองเล่มที่ปลื้มมาก คือดนตรีปริทรรศน์ และสังคีตนิยมว่าด้วยเครื่องดนตรีในวงดุริงยางค์ (ซึ่งละเอียดโคตร) จากคุณ : jassb1 - [ 18 ก.ค. 52 11:40:23 ]

ความคิดเห็นที่ 63 เอามาฝากอีกรูปครับ .... อาจจะเล็กไปโหน่ย แต่มีคุณค่ามากมาย จากคุณ : jassb1 - [ 18 ก.ค. 52 12:09:40 ]

ความคิดเห็นที่ 64 (จำผิดขออภัยด้วย อ่านเมื่อ 20 กว่าปีที่แล้วได้มั๊ง) *************************************** นอกจาก จะมี --- ราชสีห์ขนทอง ( muggle ) แล้ว ยังมี อินทรีคิ้วขาว ด้วย ขอ คารวะ จากคุณ : เสือดาว หูหนวก 666 - [ 18 ก.ค. 52 18:25:51 A:10.100.1.2 X:58.10.167.23 TicketID:169971 ]

ความคิดเห็นที่ 65 เรียน คุณโหน่ง year 1910 c. debussy บอกว่า second movement of --- resurrection ------- too schubertian , too slav คุณโหน่ง ------ พอจะรู้ history ตอนนี้ไหมครับ จากคุณ : sitt666 - [ 18 ก.ค. 52 18:30:57 A:10.100.1.2 X:58.10.167.23 TicketID:169971 ]

ความคิดเห็นที่ 66 ^ เอ ผมคุ้นๆว่าเคยคุยเรื่องนี้กันไปแล้วนะ แต่ไม่เป็นไรเล่าใหม่ได้ แต่ต้องขอเวลาไปเปิด หนังสือก่อน :) คุณ davebartus เชิญเสวนาได้ตามสบายครับ สองสามวันที่ผ่านมานี้ไม่รู้เป็นอะไร กลับถึงบ้านแล้วสลบไปเลยทุกวัน เลยเบี้ยว กระทู้ตลอด แหะๆ ผมว่าเริ่มกันดีกว่ากับแผ่นเสียงผุๆ เอ้ย ประวัติศาสตร์ recording ของ Mahler จริงๆส่วนที่กำลังจะเล่านี้เคยคุยกันไปเมื่อนานมาแล้วครั้งหนึ่ง แต่วันมาลงราย ละเอียดกันดีกว่า recording แรกสุดของ Mahler ก็ไม่ใช่ของใครอื่นแต่เป็น ของ Mahler นี่เองนี่แหละ นั่นคือ Welte-Mignon Piano Roll สี่บทที่ Mahler บันทึกไว้ในปี 1905 สำหรับท่านที่ไม่รู้นะครับ piano roll เป็นอุป- กรณ์ในการบันทึกเสียงเปียโนยุคแรกๆ ลักษณะเป็นคีย์บอร์ดที่เวลาผู้เล่นกดคีย์ ลงไป ก็จะมีกลไกกดลงไปยังกระดาษม้วนที่กำลังหมุนอยู่ (คล้ายๆเทปคาสเส็ตต์ นั่นแหละ) สุดท้ายก็จะได้ม้วนกระดาษที่มีรูๆซึ่งเมื่อนำไปใส่ในเครื่องเล่นซึ่งมี piano built-in อยู่ก็จะสามารถ playback ออกมาเป็นเสียงเปียโนตาม ที่บันทึกไว้ในกระดาษได้ ระบบ piano roll ของ Welte-Mignon นั้นมีชื่อเสียงมากในการบันทึกและ ถ่ายทอดออกมาได้อย่างแม่นยำทั้งน้ำหนัก, dynamics ไปจนถึงแม้กระทั่งการ เหยียบ pedal ส่วนกลไกของมันนั้นไม่เป็นที่เปิดเผย เมื่อได้ม้วน piano roll ออกมาแล้วสามารถนำไป playback ได้กับเปียโนที่ติดตั้งเครื่อง Welte-Mignon หรือกับอุปกรณ์ที่เรียกว่า Vorsetzer ซึ่งเป็นเครื่องเล่นม้วน piano roll ที่ มีนิ้วไม้จำนวนเท่ากับคีย์เปียโนยื่นออกมา เวลาใช้ก็นำเจ้าเครื่อง Vorsetzer นี้ ไปวางอยู่หน้าเปียโนให้นิ้วกลเหล่านี้อยู่บนคีย์เปียโนแต่ละคีย์พอดี แล้วก็เล่นม้วน piano roll ซะ นิ้วกลเหล่านี้ก็จะกดลงบนคีย์เปียโนเหมือนกับนิ้วคน ด้วยความ ที่ piano roll ของ Welte-Mignon นั้นมีความแม่นยำมาก ว่ากันว่าเมื่อนำมา เล่นนั้นจะเหมือนกับนักเปียโนท่านนั้นๆมานั่งเล่นให้ฟังตรงนั้นเลยทีเดียว เจ้า Vorsetzer ที่ว่ามีหน้าตาประมาณในรูปนี้ครับ โปรดสังเกตว่ามีกระทั่ง'เท้า เทียม' สำหรับเล่น pedal ด้วย แก้ไขเมื่อ 19 ก.ค. 52 00:51:54 จากคุณ : <โหน่ง> - [ 19 ก.ค. 52 00:12:19 ]

ความคิดเห็นที่ 67 บ่ายวันที่ 9 พฤศจิกายน ปี 1905 Mahler เดินเปิดประตูเข้าในสตูดิโอของบริษัท Welte & Sohne ที่เมือง Leipzig เพื่อบันทึกเสียง piano roll ด้วยงานประพันธ์ของตนเอง ไม่มี ใครรวมทั้งตัว Mahler เองและบริษัทจะทราบได้ว่าในอนาคต piano roll เหล่านี้จะเป็น recording หนึ่งเดียวของ Mahler และกลายเป็นหนึ่งในหลักฐานทางประวัติศาสตร์ที่ สำคัญที่สุด ในการบันทึกเสียงคราวนี้ Mahler เลือก lieder และ symphonic movement อย่างละ สองบทรวมทั้งหมดสี่แทรคมาเล่นตามนี้: -Ging heut' morgens ubers Feld  จาก Lieder eines fahrenden Gesellen -Ich ging mit Lust durch einen grunen Wald  จาก Lieder und Gesange -1st mvt of Symphony No.5 -4th mvt of Symphony No.4 'Das himmlische Leben' การเล่นของ Mahler ในวันเหมือนกับว่า Mahler นั่งลงแล้วก็เล่นไปเฉยๆเหมือนเล่นให้ฟัง เล่นๆทำให้คุณภาพการบรรเลงนั้นพูดตามตรงว่าไม่ดีนักคือมีแม้กระทั่งโน๊ตที่เล่นผิด แต่อย่างไรก็ ดี piano roll นี้เป็นหลักฐานที่สำคัญมากถึง dynamics และจังหวะในการตีความของตัว Mahler เอง ใน lieder ทุกเพลงรวมทั้งท่อนสุดท้ายของซิมโฟนีหมายเลขสี่นั้น Mahler เล่นเร็วมาก เร็วกว่าปกติในซีดีที่บันทึกยุคหลังๆถึง 2-3 นาที จะมีแต่ซิมโฟนีหมายเลขห้านั้น มีความยาวเท่ากับความเฉลี่ยที่ปกติเล่นๆกัน เป็นที่น่าสังเกตว่าในเพลง Ging heut' morgens ubers Feld และท่อนสุดท้ายของซิมโฟนีหมายเลขสี่นั้น Mahler เล่นได้ยืดหยุ่น มากนั่นคือมีการเปลี่ยนจังหวะเดี๋ยวเร็วเดี๋ยวช้าที่ค่อนข้างอิสระแตกต่างจากที่เขียนไว้ในสกอร์ อย่างชัดเจน Mahler นั้นได้ค่าจ้างอย่างงามจากบริษัท แต่ต่อมาปรากฏว่าบริษัทนั้นขาดทุนจากการลงทุน ครั้งนี้เนื่องจาก piano roll ของ Mahler ขายได้ไม่ถึงสิบม้วน สามารถหาฟัง piano roll เหล่านี้ได้ใน youtube ครับ เสิร์ชว่า mahler piano roll หรือ Mahler plays Mahler ก็ได้ ข้อดีอย่างหนึ่งของ Piano Roll ก็คือเมื่อนำมาเล่น กับเปียโนในสมัยนี้ก็สามารถอัดใส่แผ่นเป็น DDD ได้ครับ แก้ไขเมื่อ 19 ก.ค. 52 09:37:11 แก้ไขเมื่อ 19 ก.ค. 52 01:24:53 จากคุณ : <โหน่ง> - [ 19 ก.ค. 52 00:47:22 ]

ความคิดเห็นที่ 68 ทักทายยามดึกนะครับคุณพี่โหน่ง ปรากฏว่าบริษัทนั้นขาดทุนจากการลงทุน ครั้งนี้เนื่องจาก piano roll ของ Mahler ขายได้ไม่ถึงสิบม้วน ... ผมว่าเป็นเพราะส่วนใหญ่ คนคงไม่มีปัญญาซื้อ Vorsetzer มาใช้มังครับนั่น เหอๆๆ แก้ไขเมื่อ 19 ก.ค. 52 01:02:20 จากคุณ : jassb1 - [ 19 ก.ค. 52 00:55:50 ]

ความคิดเห็นที่ 69 ถัดจาก piano roll แล้วถามว่านอกจากนี้แล้วยัง recording ที่เล่นโดย Mahler เองอีก ไหม ณ ขณะนี้เป็นที่น่าเสียดายว่าคำตอบคือ 'ไม่มี' ครับ ยังไม่มีการค้นพบ recording ที่เล่น โดยตัว Mahler เองไม่ว่าจะเป็นบทประพันธ์ของ Mahler หรือของใครก็ตาม อย่างไรก็ตาม มีอยู่ recording หนึ่งซึ่งถือว่า 'เกือบ' เรียกว่าตอนออกมาใหม่ๆทำให้คนฮือฮาแต่สุดท้ายก็ไม่ มีอะไรในกอไผ่ เล่นเอาแฟนๆ(รวมทั้งผมด้วย)เดินคอตกกลับบ้านไปเป็นแถว แผ่นที่ว่านั้นเป็น historic recording boxet สามแผ่นในชื่อ Mahler's Decade in Vienna Singers of the Court Opera 1897-1907 ในสังกัด Marston เป็นแผ่นที่รวมงานบันทึก เสียงของบรรดานักร้องใน Vienna Court Opera ซึ่งบันทึกไว้ในช่วงประมาณทศวรรษ 1900-1910 ซึ่งเป็นช่วงที่ Mahler เป็น music director อยู่พอดี ถึงแม้ว่าซีดีชุดนี้จะ ขายชื่อ Mahler ตั้งแต่หน้าปกยันแผ่นพับด้านในซึ่งมีแต่เรื่องของ Mahler ทั้งนั้น แต่สิ่งที่ ขาดไปในซีดีชุดนี้ดันเป็นสิ่งที่สำคัญที่สุดนั้นคือไม่มีงาน recording ของ Mahler รวมอยู่ เลย ประมาณว่าพอให้ฟังเป็นตัวอย่างว่างานที่ Mahler ทำและได้ยินได้ฟังในสมัยนั้นคง เป็นประมาณนี้ ดู track list และ liner note ได้ที่ http://www.marstonrecords.com/mahler/mahler_liner.htm แก้ไขเมื่อ 19 ก.ค. 52 01:45:45 จากคุณ : <โหน่ง> - [ 19 ก.ค. 52 01:12:43 ]

ความคิดเห็นที่ 70 ^ ^ สาเหตุใหญ่ๆที่ขายไม่ออกก็คือตอนนั้นไม่มีใครรู้จัก Mahler ในฐานะคีตกวีครับแถมม้วน Piano Roll พวกนี้ก็ขายแพงมากๆด้วย อย่างม้วนซิมโฟนีหมายเลขห้านั้นราคาตอนั้น ในสมัยนี้จะตกม้วนละ $250-300 เลยทีเดียว แถมปกหลัง แก้ไขเมื่อ 19 ก.ค. 52 01:20:49 จากคุณ : <โหน่ง> - [ 19 ก.ค. 52 01:20:17 ]

ความคิดเห็นที่ 71 หลังจากนั้นแล้ว recording งานของ Mahler ก็มีอยู่เรื่อยๆประปรายซึ่งทั้งหมดเป็นเพลงร้อง สั้นๆซึ่งอยู่ในรวมเพลงของแผ่นของนักร้องหลายๆท่าน แต่งานบันทึกเสียงซิมโฟนีทั้งบทจริงๆ นั้นเกิดขึ้นเมื่อปี 1924 โดย Oskar Fried (อ่านว่า ฟรีด เหมือน Siegfried) ซึ่งถือเป็น Mahler's disciple ตัวพ่อท่านหนึ่ง Mahler เคยกล่าวว่า Oskar Fried เป็นหนึ่งในผู้ที่เล่น ซิมโฟนีหมายเลขสองได้ดีที่สุด ซึ่งงานที่ Fried เลือกมาบันทึกเสียงนั้นคือซิมโฟนีหมายเลขสอง นั่นเอง       ในสมัยนั้นการบันทึกเสียงยังเป็นแบบ acoustic recording อยู่่ เท่าที่ผมเข้าใจ การบันทึกเสียงแบบ acoustic นั้นจะใช้กรวย (horn) บันทึกเสียงจากเครื่องดนตรีแล้วจาร ลงบนแผ่นเสียงโดยตรง ดังนั้นนักดนตรีจะต้องเล่นอยู่ใกล้กับกรวยบันทึกเสียงไม่งั้นเสียงไม่เข้า มานั่นนึกดูว่าการบันทึกเสียงซิมโฟนีของ Mahler ซึ่งต้องใช้ทั้งวงออร์เคสตร้ายักษ์และวงนักร้อง ประสานเสียงนั้นมันจะเป็นไปได้ยังไง แต่ Fried และทีมบันทึกเสียงของบริษัท Deutsche Grammophon ก็ทำมันมาแล้ว แน่นอนว่าข้อจำกัดของการบันทึกเสียงนั้นมีอยู่เยอะ (เช่นการใช้ วงขนาดเล็กในการเล่นเพราะเสียงที่ออกมาต้องอยู่ใกล้ที่กรวยบันทึกเสียง หรือการใช้ tuba แทน double bass เพราะกรวยบันทึกเสียงไม่ไวพอที่จะจับเสียงของเบสได้ เป็นต้น) แต่ก็ น่าทึ่งว่า recording ชิ้นนี้สามารถเก๊บรายละเอียดของดนตรีได้มากเหลือเชื่อ นับเป็นก้าว สำคัญไม่เฉพาะแต่งานบันทึกเสียงงานของ Mahler แต่สำหรับเทคโนโลยีการบันทึกเสียงด้วย เลยทีเดียว ไปลองฟังตัวอย่างได้ที่ naxos.com ครับ ในแผ่นนี้ยังรวม recording อื่นๆของ Mahler ในสมัยนั้นไว้ด้วย สมัยก่อนแผ่นนี้อยู่กับสังกัด Pearl ซึ่งขายแพงมาก ตอนนี้ Naxos ได้ลิขสิทธิ์ (มั๊ง?) มาทำ ขอเตือนไว้ก่อนว่าไม่เหมาะกับการฟังเพื่อความสุนทรีอย่างยิ่ง แต่เหมาะกับการ ฟังเพื่อการศึกษามากกว่า (สมัครสมาชิกก่อนแล้วจะได้ฟัง 25% แรกของ track) http://www.naxos.com/catalogue/item.asp?item_code=8.110152-53 แล้วเดี๋ยวว่างๆค่อยมาต่อกัน แก้ไขเมื่อ 19 ก.ค. 52 09:42:07 จากคุณ : <โหน่ง> - [ 19 ก.ค. 52 02:25:31 ]

ความคิดเห็นที่ 72 ^ ^ เสียงที่ได้ เหลือเชื่อจริงๆ จากคุณ : jassb1 - [ 19 ก.ค. 52 03:42:41 ]

ความคิดเห็นที่ 73 เรียน คุณโหน่ง ความเห็นที่ 66 ยังไม่เคยเล่าครับ ด้วยความสัตย์ จากคุณ : sitt666 - [ 19 ก.ค. 52 16:06:11 A:10.100.1.2 X:58.10.167.176 TicketID:169971 ]

ความคิดเห็นที่ 74 ขอนอกเรื่องนิดหน่อย จากคุณ : jassb1 - [ 19 ก.ค. 52 17:57:07 ]

ความคิดเห็นที่ 75 ^ ตอนไปดูคอนเสิร์ตอย่าลืมใส่ไปนะจ๊ะ จากคุณ : <โหน่ง> - [ 19 ก.ค. 52 21:44:32 ]

ความคิดเห็นที่ 76 เฮ้ย กระทู้จะตกขอบจักรวาลแล้ว ... (ไวแฮะ) จากคุณ : jassb1 - [ 1 ส.ค. 52 13:25:41 ]

ความคิดเห็นที่ 77 สอบถามใครก็ได้ครับ ที่ผ่านมาแถวนี้ หุหุ Harmonia Mundi Gustav Mahler - Des Knaben Wunderhorn Artist(s): Sarah Connolly (mezzo), Dietrich Henschel (baritone), Orchestre Des Champs-Elysees Conductor(s): Philippe Herreweghe แผ่นนี้ พอจะสู้กับ จอร์จ เซล ได้รึป่าวครับ จากคุณ : jassb1 - [ 1 ส.ค. 52 14:05:21 ]

ความคิดเห็นที่ 78 หน้าปก Des Knaben Wunderhorn สวยมาก... จากคุณ : jassb1 - [ 2 ส.ค. 52 13:47:01 ]

ความคิดเห็นที่ 79 ทำให้ผมหายข้องใจว่า ปกอัลบั้มนี้ของอินบัล ไปได้ภาพอะไรมา แฮ่ๆ จากคุณ : jassb1 - [ 2 ส.ค. 52 13:47:50 ]

ความคิดเห็นที่ 80 อย่าพึ่งลากลงคลังนะโฟร้ยยยยยยยยยย จากคุณ : jassb1 - [ 3 ส.ค. 52 16:45:55 ]

ความคิดเห็นที่ 81 ..อย่าพึ่งลากลงคลังนะโฟร้ยยยยยยยยยย จากคุณ : jassb1 - [ 4 ส.ค. 52 20:23:39 ]

ความคิดเห็นที่ 82 ..อย่าพึ่งลากลงคลังนะโฟร้ยยยยยยยยยย ok โว้ย..............ยยยยยยยยยยยย จากคุณ : ดาบสวรรค์ 666 - [ 5 ส.ค. 52 16:51:47 A:10.100.1.2 X:58.10.167.95 TicketID:169971 ]

ความคิดเห็นที่ 83 มีกลุ่มมาห์เลอร์ในเฟซบุ๊ค ... คุยกันสนุกสนานมาก ท่านใดที่เป็นสมาชิกก้ไปร่วมกลุ่มได้นะครับ อ่านเพลินๆ ... http://www.facebook.com/group.php?gid=2204374344 จากคุณ : jassb1 - [ 9 ส.ค. 52 04:38:49 ]

ความคิดเห็นที่ 84 ^__________^ จากคุณ : St@rGazer - [ 20 ส.ค. 52 15:54:25 ]

ความคิดเห็นที่ 85 Mada-Primavesi by Gustav Klimt ทำให้ผมนึกถึงบรรยากาศแห่งความบริสุทธิ์ไร้เดียงสาแห่งซิมโฟนีหมายเลขสี่ของมาห์เลอร์จัง จากคุณ : jassb1 - [ 29 ส.ค. 52 12:44:47 ]