ความคิดเห็นที่ 1 จริงๆ ตั๋วของดรีมบอกซ์นี่ถือว่าไม่แพงนะครับ สำหรับละครแบบนี้ ที่สำคัญคือโรงมันไม่ใหญ่ ดูแถวหลังๆ ก็ยังไม่ไกลมาก แต่ถ้าดูแถวหน้าก็ใกล้ชิดทีเดียวแหละ เรื่องบอกต่อบอก กว่าจะได้ผลละครก็ลาโรงไปเสียแล้ว เหมือนคู่กรรมคราวแรก ที่กว่าคนจะรู้ ละครก็หมดรอบซะแล้ว แต่จะทำไงได้ เพราะเขาคงไม่เพิ่มรอบแล้ว ก็ดูนักแสดงแต่ละท่านซิ จะ revival ยังยากเลย เพราะฉะนั้น ตอนนี้ช่วยอะไรได้ก็ช่วยๆ กันไป Forward รูปจากการแสดงในนี้ไป เอาคลิปไปแปะบน Hi5 บทวิจารณ์ของแต่ละคนในนี้ ก็เอาไปแปะใน blog ของตัวเองกันมั่งเน้อ จากคุณ : mie-mien - [ วันอาสาฬหบูชา 11:12:16 ]

ความคิดเห็นที่ 2 ตอนนี้ช่วยเต็มที่แล้วค่ะ  โปรโมตทั้งใน hi5 และ Facebook แล้วค่ะ ซ้ำยังเอาไปโพสใน hi5 และ Facebook ของเพื่อนอีก คนอื่นจะได้รู้นอกจากเพื่อนของเรา ยังงัยแล้วจะพยายามช่วยสนับสนุนละครเวทีดีๆ แบบนี้อีกแรงนะค่ะ  เต็มที่ค่ะ หากเราไม่ช่วยกันแล้วใครจะมาช่วยเรา !!! ^_____^ จากคุณ : ลิงเคี๊ยก - [ วันอาสาฬหบูชา 12:46:58 ]

ความคิดเห็นที่ 3 จะหาเวลาไปดู ชอบคุณน้ำมนต์ เอาใจช่วยตลอดค่ะ จากคุณ : ดำ - [ วันอาสาฬหบูชา 15:17:28 A:125.25.35.141 X: TicketID:155125 ]

ความคิดเห็นที่ 4 เราคะเนไว้ด้วยความรู้สึกตัวเองแล้วว่า ยังไง 12 รอบ ก็ขายหมดเหอะ แต่เห็นด้วยกับพี่ชอบสบายนะที่ยังไม่เพิ่มรอบ ณ ตอนนี้ ไหนจะเรื่องปัญหาคิวนักแสดงอีก คิวทองกันทั้งน้านนนน ก็พี่ท่านเล่นเอา Dream Cast มาได้ซะขนาดแค่เอามายืนร้องเพลงกับขาตั้งไมโครโฟน หนูก็ยอมเสียเงินไปดู เอาซี่  \(o^_^o)/   ยังไง ๆ 12 รอบแรกเนี้ย คนที่รักวงการละครเวที คงตบเท้ามาทัศนากันเกือบครบแล้วล่ะ ช่วงเวลานี้ ระหว่างที่กองทัพปากต่อปากทำงานไปเรื่อย ๆใชป่ะ เราว่าพวกเราก็ควรช่วยทีมงานติ-ชม ส่ง feedback กันแบบสร้างสรรค์ ช่วยทีมงานเค้าขัดเกลาละครให้มันสมบูรณ์ยิ่งขึ้นท่าจะดี (สปอยล์) อย่างเช่น เราคิดว่าในฉากสะพาน อาจจะให้พ่อแก่สัปเหร่อ [คุณเด๋อ] ซึ่งบวชให้เมียแล้ว มายืนเสริมบารมีอีกรูปในระหว่างที่ฉากจบที่พระรูปนั้นมาขอบิณฑบาต บล็อคกิ้งยืนห่างไปทางหลังปีกเวทีขวาไม่ต้องเอาแสงเน้นให้เด่น แต่ให้พอทราบว่าเป็นพระเด๋อ แน่นอนว่ายืนเฉย ๆ ไม่ต้องร่วมร้องในขณะที่ทั้งสามคนกำลัง trio อยู่ เพราะหลังจากฉากขอบวชแล้วพี่เด๋อไม่ได้ออกอีกเลย ก็มีเวลาพอตัวที่จะใส่วิกหัวโล้นนะ เชื่อว่าทีมเสื้อผ้า-หน้า-ผม เนรมิตได้ เหมือนที่ทำให้ยัยสายหยุด [น้องปุยฝ้าย] จากสาวเอาแต่ใจกลายเป็นคนเสียจริตได้ บางคนคิดว่า คนดูอาจจะติดลุคตลกของพี่เด๋อทั้งเรื่องไปแล้ว แต่เรามองว่า พี่เด๋อสปิริตไหวอยู่ นี่น่าจะช่วยปิดธีมของการให้อภัยกันและกันจบไปด้วย และส่งต่อมาถึงการปรากฏตัวของแม่แก่หมอตำแย [คุณนรินทร] บนเรือมรณาให้มันขนลุกเกรียวขึ้น จนถึงช่วงที่(อี)แม่เหมือน [ครูอ้วน มณีนุช  orz (ทำท่าบูชา)]  มาปล่อยของชุดสุดท้าย หรือพระเด๋อ exit ก่อนเรือมรณามาก็ได้ เข้าไปอาจจะถอดวิกไม่ทัน แต่ก็ยังได้ไปเปลี่ยนชุดกลับออกมา cutain call เป็นทิดสัปเหร่อ ปรบมือลั้ลลากับผู้ชมได้ กิ๊บเกร๋~ ลองเสนอดูนะคะ ^/\^ จากคุณ : Mo_EcHO - [ วันอาสาฬหบูชา 15:31:11 ]

ความคิดเห็นที่ 5 เห็นด้วยกับคุณMo_EcHO นะครับ หรือให้คุณเด๋อเป็นคนเทศนา แล้วให้คุณจ้อนร้องไปเรื่อยๆ คนที่ยังไม่ดูอย่าเพิ่งอ่านนะครับ อีกตอนคือตอนแม่เหมือนป้อนยาให้สายหยุดนั้น ผมคิดว่าสายตาของแม่เหมือนในตอนต้นไม่ควรแสดงให้รู้ว่าตนกำลังจะวางยา  ควรทำเนียนๆให้คนดูสะดุ้งตอนเนื้อเพลงบอกว่า พิษมันจะเข้าหัวใจไหมหนา...แต่รอบที่ผมดูนั้นเพื่อนบางคนก็บอกว่าสายตาแม่เหมือนไม่ได้บ่งบอกเลย จากคุณ : bkkromance (bkkromance) - [ วันอาสาฬหบูชา 15:50:49 ]

ความคิดเห็นที่ 6 จากข้อเสนอแนะของ คห. 4 ผมเห็นต่างว่า ตัวละครในฉากมันจะเยอะเกินจำเป็นหรือเปล่าครับ มันจะทำให้โฟกัสแตกเป็นหลายเสี่ยง เช่น คนดูจะเห็นภาพของหลวงตาฉ่ำ กับ วิญญาณของป้าแก่ในฉาก มันจะต้องเกิด Action ระหว่าง 2 ตัวละครนี้ (ซึ่งเคยเป็นผัวเมียกัน) ด้วย ถ้าไม่มีคนดูอาจจะรู้สึกว่า "ขาด" ไปนะครับ แต่ถ้ามี ไคลแม็กซ์ของฉากนี้ที่โฟกัสไปที่พระเอกนางเอกจะถูกลดทอนความสำคัญลง ดังนั้นถ้าจะเพิ่มตัวหลวงตาฉ่ำเข้ามาต้องคิดให้ดีนะครับว่าได้คุ้มเสียหรือไม่ (ถ้าจะเพิ่มจริง หนทางหนึ่งก็คือต้องตัดตัววิญญาณป้าแก่ออก แต่ก็ไม่แน่ใจว่า มันจะส่งผลดีกว่าแบบเดิมหรือไม่) จากคุณ : ชีวารมย์ - [ วันอาสาฬหบูชา 18:26:48 ]

ความคิดเห็นที่ 7 พายเรือในคลองพระโขนงอยู่ดีๆ ออกปากน้ำไปโน่น 555  ล้อเล่นนะค้าบ.. น่าทึ่งออก ถ้าทำละครให้คนดูอินได้ขนาดนี้  ดีครับ ดูเป็นการต่อยอดความคิดสร้างสรรค์ที่น่าสนใจ  คนทำละครคงปลื้มที่ได้ Feedback ขนาดนี้ อ้อ ขอขึ้นฝั่งแป๊บนึง อิอิ...คิดว่าดรีมบ๊อกซ์คงไม่ลงทุนกับพีอาร์ หรือมาร์เกตติ้งมากพอที่จะบูมคนดูแข่งกับอีกเจ้ากระมังครับ (ขนาดซีดีเพลงยังไม่ยอมทำเลย) น่าเสียดายอยู่เหมือนกัน การที่แม่นาคสองฟากมาประชันกันมันก็มีข้อดีในแง่สร้างกระแสอยากดูให้เกิดขึ้นในหมู่แฟนละคร  แต่ในช่วงเศรษฐกิจแบบนี้กับราคาบัตรมันไม่เอื้ออำนวยเท่าไรที่จะยอมทุ่มไปดูทั้งสองวิก  (กระนั้นยังทำให้แม่นาควิกที่สามเป็นที่น่าสนใจขึ้นมาได้เหมือนกัน) ไหนยังกลยุทธ์ใต้ดินในการแย่งชิงหัวหาดด้านพีอาร์และสื่อต่างๆ อีก  ฝ่ายที่เบี้ยน้อยหอยน้อยก็ต้องทำใจนิสสนุง...  จริงๆ ถ้าได้ทีมพีอาร์มืออาชีพมาโปรโมตมันอาจจะมีอะไรสนุกๆ แยบยลกว่านี้นะ  ใช้งบไม่ต้องมาก แต่ใช้กึ๋นเยอะๆ  ...น่าจะท้าทายดีเหมือนกัน โทษที อยู่เอเยนซี่มานาน  อดคิดอะไรเพ้อเจ้อไม่ได้... จากคุณ : Bkkbear - [ วันอาสาฬหบูชา 19:15:08 ]

ความคิดเห็นที่ 8 เห็นด้วยเลยครับว่าควรเสริมทัพทีม PR และการตลาด เพราะดูจากหลายๆ โอกาสแล้วคิดว่าถ้ามีแม่ทัพที่เข้มแข็งน่าจะขายไ้้ด้มากว่านี้ จากคุณ : ลำปาว - [ วันอาสาฬหบูชา 19:44:53 ]

ความคิดเห็นที่ 9 ขอเสริม #7 นะครับ เข้าใจนะครับว่าทางฝ่ายดรีมบ๊อกซ์น่ะ อ่อนด้านประชาสัมพันธ์กว่าจริงๆ แต่ทั้งนี้มันไม่ใช่แค่ว่าต้องมีทีมพีอาร์มืออาชีพหรอกครับ เพราะจากข้อสังเกตจากงานที่ผ่านมาของโปรดักชั่นก่อนๆ ยังได้รับความร่วมมือจากสื่อมากกว่านี้ครับ โดยเฉพาะสื่อทีวีซึ่งต้องยอมรับว่าเป็นสื่อที่ทรงอิทธิพล สามารถเข้าถึงกลุ่มเป้าหมายทั้งแมสและเฉพาะกลุ่มได้อย่างทั่วถึงและรวดเร็วกว่า แต่ว่างานนี้มันเป็นกรณีศึกษาพิเศษครับ...เพราะว่ามันมีกำลังภายในทั้งใต้ดิน บนอากาศ ที่พยายามกลบฝังกระแสกันจริงๆ เพราะยุคนี้การสื่อสารมันเป็นเรื่องของสื่อครับ คนที่มีสื่อมีเงิน มีกำลังอำนาจต่อรอง ก็สามารถกดดันหรือแม้กระทั่งปิดกั้นกันได้จริงๆ ไม่เว้นแม้กระทั่งช่องทางจำหน่าย ลองนึกย้อนเหตุการณ์ดูสิครับว่าเกิดอะไรขึ้นบ้างถึงความพยายามดังกล่าว ไม่ว่าจะเป็นวันที่ทางดรีมบ๊อกซ์เปิดแถลงข่าวเชิญสื่อ อีกฝ่ายก็มีการเชิญสื่อไปดูซ้อมใหญ่ ทั้งๆที่กำหนดเล่นจริงน่ะอีกสองอาทิตย์ จนถึงอยู่ๆแม่นาคดรีมบ๊อกซ์ก็หลุดจากผังจำหน่ายของ TTM จนต้องมาใช้บริการกับ Totalreservation.com ลองไล่เรียงดูก็น่าจะพอเดาเรื่องราวออกนะครับ โลกธุรกิจมันไม่มีหรอกครับเรื่องสู้กันแฟร์ๆ ก็เหลือแต่ทางสื่อ on-line นี่แหละครับที่ยังพออาศัยได้แม้ว่ายังมีข้อจำกัดอยู่บ้าง เป็นการใช้ viral media เพื่อกระจายข่าวถึงกันนี่แหละครับ ที่พวกเราพอจะช่วยกันได้ แต่อย่างว่าแหละครับ ของอย่างนี้พวกเราก็ต้องอาศัยไปดูแล้วถึงจะบอกต่อได้ว่าดีไม่ดี ผมว่าทางดรีมบ๊อกซ์เค้าเองก็คงไม่ได้คิดไปทำแข่งกับใครหรอกครับ ไม่งั้นคงไม่ทำแค่ 12 รอบหรอกครับ เพราะเค้ารู้ว่าแนวละครของเค้าเองก็ไม่ได้จับกลุ่มตลาดอยู่แล้ว เพียงหวังว่าคอละครที่ชอบแนวนี้จริงๆ จะบอกต่อกันและช่วยกันมาสนับสนุนดูกันให้เต็มทุกรอบก็น่าจะดีสำหรับทีมงานและโดยเฉพาะนักแสดงทุกคน ซึ่งผมเชื่อว่าแค่เสียงปรบมือและคำติชมที่พวกเรามอบให้ก็เป็นรางวัลที่ยิ่งใหญ่แล้วสำหรับทีมงาน จากคุณ : mangotangobaby - [ วันอาสาฬหบูชา 19:57:05 ]

ความคิดเห็นที่ 10 เฮ้อ... ความจริงผมก็ว่าทำไมสื่อจึงใช้เวลาเยอะขนาดนี้... ขณะที่เดือนก่อน ดูจะรีบออกทั้งภาพและข่าวเชียร์กันทันทีทันควัน แต่พูดกันไปยังไงเราก็ไม่รู้จริงหรอกครับ คงมีแต่ข้อสันนิษฐานกันทั้งนั้น.. เดี๋ยวก็จะกลายเป็นประเด็นทะเลาะกันอีกเสียเปล่าๆ ตอนนี้ชาวเรา ก็ช่วยกันก้มหน้าก้มตาทำทุกอย่างที่ช่วยกันทำได้ คงจะดีกว่านะครับ จากคุณ : ชอบสบาย - [ วันอาสาฬหบูชา 20:19:31 ]

ความคิดเห็นที่ 11 โอ้...เข้ามาอ่าน ทำให้รู้อะไรอีกเยอะเลย (ลบออกดีกว่า แฮะแฮะ เพื่อความสมานฉันท์) แก้ไขเมื่อ 07 ก.ค. 52 22:44:33 จากคุณ : i_am_mori - [ วันอาสาฬหบูชา 22:32:18 ]

ความคิดเห็นที่ 12 คุณ Bkkbear  ลองช่วยเสนอในฐานะที่ทำเอเจนซี่มาแล้วว่าวิธีไหนที่จะช่วยโปรโมต ที่ไม่ต้องใช้เงินได้บ้าง เผื่อทาง dreambox เค้าจะได้เอาไปลองทำบ้าง เพราะอย่างที่ว่ากรณีมันหนัก อิทธิพลสื่อค่อนข้างเยอะ เดี๋ยวนี้อะไรก็เป็นเงินเป็นทองทั้งนั้น การทำพีอาร์อะไรก็ใช้เงินครับ ยิ่งคนมีเงินซื้อสื่อ ก็เอาเงินมากวาดไปหมด สื่อก็ไม่กล้าลงข่าวของดรีมบ็อกซ์หรอกครับ การทำละครเวทีเรื่องนึง คิดว่าทุนค่อนข้างสูง ยิ่งดรีมบ็อกซ์เองไม่มีสื่อในมือ สปอนเซอร์ก็ไม่มีมาลง จะเอางบที่ไหนไปลงโฆษณาได้ หรือเอางบที่ไหนทำการตลาด หรือทำพีอาร์ ซึ้งเลยว่าดรีมบ็อกซ์ ตั้งใจทำละครเพราะรักที่จะทำ อยากให้คนดูละครได้เสพงานที่ดีๆ และแทบไม่ได้กำไรเลยมั้ง เราลองดูแล้ว เล่นแค่ 12 รอบ เค้าจะได้กำไรจากตรงไหนเนี่ย รอบนึงก็จุคนดูได้ไม่เท่าไหร่ ไหนจะค่านักแสดงอีกตั้งเท่าไหร่ ซึ่งทุกคนก็มาทำด้วยใจกันทั้งนั้น ขอคารวะจริงๆ จากคุณ : agg_xir - [ วันอาสาฬหบูชา 22:59:18 ]

ความคิดเห็นที่ 13 จริงๆ คนของดรีมบ๊อกซ์ ที่เคยเป็น แดสส์ เอนเตอร์เทนเมนท์ มาก่อน ก็ออกมาทำงานเอเยนซี่โฆษณา และพีอาร์กันหลายคนนะครับ  ก็ไม่ทราบว่าความสัมพันธ์เป็นยังไงกันบ้าง  เพราะเห็นแยกวงกันมา ในความเห็นของผม ไม่ว่าเราทำงานศิลปะออกสู่สาธารณชน จะเป็นสเกลเล็กหรือใหญ่ก็ตาม  มันต้องการโปรโมชั่นทั้งนั้น  ถ้าไม่มีโฆษณาประชาสัมพันธ์แล้ว กลุ่มเป้าหมายจะทราบได้ยังไงในวงกว้าง  แล้วโปรดักชั่นละครที่อุตส่าห์สร้างกันมาข้ามปีอย่างเหน็ดเหนื่อยมันจะคุ้มค่าตรงไหน แล้วแผนงานพวกนี้มันต้องคิดมาล่วงหน้า โดยเฉพาะอย่างยิ่งเมื่อทราบว่าคู่กัด เอ๊ย คู่แข่งเขาเป็นยักษ์ใหญ่ เขากำลังตามบี้เราอยู่  ถ้ารู้ตัวอย่างนี้อันดับแรกน่าจะหาพันธมิตรในการโปรโมท  แต่ถ้าความสัมพันธ์ไม่ดีพอ เพราะวัฒนธรรมองค์กรเป็นแบบปิด  ก็ต้องหาวิธีโปรโมทอย่างใช้สมองแบบอื่นมากขึ้น โฆษณาโดยตรงถึงจะจำเป็น แต่มันใช้เงินมหาศาลถ้าต้องการสื่อหลักอย่างทีวี นสพ..บลาๆๆ  ในเมื่องบไม่ถึงก็ต้องหันมาเล่นในแง่มุมของพีอาร์ หรือประชาสัมพันธ์แทน  ผมเคยใช้วิธีนี้กับหลายผลิตภัณฑ์ก็ได้ผลอยู่  อาศัยเรียนรู้จากเพื่อนที่เป็นเจ้าของบริษัทพีอาร์ที่เขามีคอนเนคชั่นที่ดีกับสื่อและมีแทคติกในการวางแผน   ส่วนในด้านโฆษณามันอาจจำเป็นต้องมีบ้าง หลักๆ ก็อย่างที่ดรีมบ๊อกซ์ทำไปพวกสื่อสิ่งพิมพ์โปสเตอร์ แบนเนอร์อะไรนั่น  แต่โดยส่วนตัวแล้ว รู้สึกว่าน่าจะโปรเฟสชันแนลกว่านี้อีกสักนิสส  ไหนๆ จะทำตัวเหมือนหนัง Cult ที่มีแฟนขาประจำติดตาม ก็เน้นความเป็นอาร์ตให้มีลูกเล่นกับบรรดาแฟนๆ บ้าง ของโปรโมททั้งเสื้อ ซีดี accessories บ้าบออะไรก็ทำไปเหอะ ขายได้อยู่แระ หาพันธมิตรมาร่วมวงหน่อย ยอมคุยกะชาวบ้านเขามั่ง ส่วนสื่ออื่นๆ ก็ต้องมองว่ากลุ่มเป้าหมายหลัก และรอง (กลุ่มคนดูใหม่ๆ) ของเราคือใคร  สื่อที่ไม่แพงนักอย่างวิทยุก็เคยใช้ได้ผลมาแล้ว  เรื่องนี้คงต้องคุยกันยาว  เราเองก็ไม่ได้ลึกซึ้งกับปัญหาของเขามากนัก  แล้วก็เห็นด้วยกับบางความเห็นว่า สื่ออินเตอร์เน็ตยุคนี้น่าจะเวิร์คมากๆ ถ้าเข้าให้ถูกเว็บ (อย่างห้องเฉลิมกรุง) หันมาทำกิจกรรมกับกลุ่มเป้าหมายเหล่านี้มาเนิ่นๆ สร้างกระแสไว้  ให้เขารับรู้ความเคลื่อนไหว มีส่วนร่วมกับการพัฒนาละคร  มันก็จะมีอะไรให้ทุกคนได้ตื่นเต้นรอคอยติดตามมากขึ้น คุยไปเรื่อยเปื่อยนะครับ  เรื่องของเรื่องคือ เราต้องเลือกคนที่เหมาะกับแคมเปญ  คอนเนคชั่นสำคัญ ไม่จำเป็นต้องใช้เจ้าใหญ่ก็ได้ ขอให้รู้จักเลือกคนที่ใช่เข้ามารับผิดชอบด้านโปรโมชั่น ส่วนเรื่องจริยธรรมในวงการที่มีรายการบีบ..กันทั้งบนดินและใต้ดินนั้น  อันนี้คงออกความเห็นไม่ได้   ถ้าถามความเห็นส่วนตัว ก็คงบอกแค่ว่าถ้าเราเป็นเจ้าใหญ่มีอิทธิพล เราคงจะไม่มาเสียเวลาทำอะไรแบบนี้  เราจะมองในมุมกลับว่า  น่าจะเป็นการสร้างกระแสที่ดีให้กับวงการ ในเมื่อตัดสินใจจะประชันกันด้วยผลงาน  ต่างคนต่างก็ทำไป  โชว์กึ๋นของตัวเองให้สาธารณชนได้เห็นไปเลย  แล้วคนดูจะเป็นคนตัดสิน  ถ้าคนต่างพากันชื่นชอบทั้งสองฝ่าย (ด้วยเหตุผลอะไรก็ตาม) ก็น่าจะเป็นนิมิตหมายอันดี ถึงวัฒนธรรมองค์กรของทั้งสองฝ่ายจะ Blend กันไม่ค่อยได้  แต่ในแง่สร้างสรรค์วงการก็น่าจะหัดมองโลกในแง่ดีกันมั่ง จากคุณ : Bkkbear - [ วันอาสาฬหบูชา 23:43:51 ]

ความคิดเห็นที่ 14 ถ้า Mkt ของเจ้าใหญ่เค้าคิดแบบ Bkkbear ก็จะน่านับถือไม่น้อย ว่ามีน้ำใจนักกีฬา มีน้ำใจแบบคนทำงานศิลปะ ถ้ามองเป็นธุรกิจ ก็ถือว่ามีธรรมาภิบาล (เว่อร์ไปป่ะ) คอนเนคชั่นสำหรับพีอาร์ เราคิดว่าดรีมบ็อกซ์ก็คงมีอยู่บ้าง แต่ในเมื่อเจ้าใหญ่เค้ายอมเสียเงินซื้อสื่อไปแล้ว โดยมารยาทเค้าก็จะไม่ค่อยลงให้เจ้าคู่แข่งเท่าไหร่ เผอิญว่ากรณีนีดันเป็นชื่อเรื่องเดียวกันแป๊ะๆเลย สื่อเองก็คงกระอักกระอ่ัวนใจ มากพอควร  ถ้าเกิดมันเป็นคนละเรื่องคงไม่ยากในการทำพีอาร์ขนาดนี้ ลองดูดีกว่า ว่าสื่อไหนที่เจ้าตลาดยังไม่เอาเงินลงไปซื้อ ขนาดพันทิป ยังซื้อเลย เค้าไม่สั่งลบกระทู้แม่นาคดรีมบ็อกซ์ก็ดีเท่าไหร่แล้ว บีบไม่บีบก็ไม่รู้ กรณีจากวันแถลงข่าวก็ทีนึง ตื้นลึกหนาบาง ก็รู้อยู่แก่ใจของแต่ละคน จะว่าสื่อก็ไม่ได้ คนเค้าจ่ายเงิน คำพูดเค้าก็หนักกว่า สื่อก็ต้องมีรายได้ของเค้า สื่อไหนมั่นคงหน่อย แบบที่ไม่กลัวการถูกถอดสปอนเซอร์จากเจ้าใหญ่ ก็กล้าลงให้ แต่สื่อไหนเค้ายังต้องพึ่งพา ก็คงเห็นใจกัน จากคุณ : MasterBest - [ วันเข้าพรรษา 00:27:08 ]

ความคิดเห็นที่ 15 ผมว่า.ถ้ากลับมาเล่นใหม่  อยากให้ปรับคุณภาพพวกสิ่งพิมพ์ใหม่ทั้งหมดอะครับ คือ. . ..มันทำน้อย  แต่ให้ผลมากอะครับ เป็นหน้าเป็นตา  เห็นแล้วต้องโดนเลย แบบว่า..มีสื่อน้อย ถ้าเขาเห็นเราเมื่อไหร่ ต้องกระชากเขาให้ได้เลย  ก็น่าจะเวริค จากคุณ : Federico Fellini - [ วันเข้าพรรษา 02:04:35 ]

ความคิดเห็นที่ 16 ว้า.....ยังไม่ได้ไปดู (แต่จองตั๋วไปดูแล้ว) คุยกับใครในนี้ไม่ได้เลย ได้แต่อ่านผ่านๆ เดี๋ยวจะหมดสนุกไปเสียก่อน จากคุณ : จ็อบ - [ วันเข้าพรรษา 04:23:14 ]

ความคิดเห็นที่ 17 ความคิดเห็นที่ : 1 ตอนนี้ยังไม่เพิ่มครับ และละครจะจบในวันที่ 19 อย่างแน่นอน ส่วนบัตรยังพอมีเหลือนะครับ ยังไม่หมด   โดย : dbox   จากเวบบอร์ด จากคุณ : นกอีก๋อย - [ วันเข้าพรรษา 08:59:42 ]

ความคิดเห็นที่ 18 ผมว่าใช้วิทยุสำหรับคนฟังกลุ่มใหม่น่าจะเวิร์คนะ จากคุณ : I will see U in the next life. - [ วันเข้าพรรษา 11:26:19 ]

ความคิดเห็นที่ 19 จะไปดูอีกรอบครับ ตอนนี้ชวนสมัครพรรคพวกอยู่ จากคุณ : กมลภัทร - [ วันเข้าพรรษา 11:33:54 ]

ความคิดเห็นที่ 20 ซื้อสื่อไม่ได้  แต่ยืนยันว่าซื้อใจคนดูได้อย่างไม่มีข้อสงสัย แต่เห็นด้วยกับค.ห.ข้างบนตรงที่โปสเตอร์ของฝั่งดรีมบอกซ์ไม่สวย เลยดูด้อยและไม่กระชากใจให้อยากไปดูเท่าที่ควร แม้กระทั่งกับคนที่เป็นแฟนกลุ่มเดิมก็ยังไม่ชักจูงใจว่าจะไปดูดีมั้ย โดยเฉพาะประเด็นเรื่องความเป็น art ในกรณีที่ไม่อยากขายตัวบุคคลในแง่ซุปเปอร์สตาร์ อยากให้ปรับเรื่อง print ad ทั้งหมดกับทุกโปรดักชั่นอ่ะค่ะ ลองเวิร์คในแง่การตลาดดูนะคะ ยังไม่พร้อมจะยอมให้ดรีมบ็อกซ์ตายค่ะ... สู้ๆ จากคุณ : Stay alivE - [ วันเข้าพรรษา 13:51:32 ]

ความคิดเห็นที่ 21 น่าเอาเพลงไปปล่อยตามคลื่นวิทยุน่าจะดีนะครับ เพราะละครเพลงจุดขายอยู่ที่เพลง จากคุณ : ขายหัวเราะ - [ วันเข้าพรรษา 16:55:14 ]

ความคิดเห็นที่ 22 "ยังไม่พร้อมจะยอมให้ดรีมบ็อกซ์ตายค่ะ" กำลังซดน้ำพอดี  อ่านแล้วน้ำแทบพุ่ง 55+ จากคุณ : นกอีก๋อย - [ วันเข้าพรรษา 18:28:12 ]