จาก web คมชัดลึกครับ http://www.komchadluek.net/detail/20090709/19708/แม่นาคเดอะมิวสิคัลตำนานไม่มีวันตายความรักไม่มีวันสลาย.html
คมชัดลึก : ไม่ว่าตำนานความรักของแม่นาคกับพ่อมากแห่งบางพระโขนงจะมีอยู่จริงหรือไม่? เรื่องราวที่เล่าขานกันมาตั้งแต่ต้นรัตนโกสินทร์ จะถูกนำมาขับกล่อมผ่านมหรสพ หลายรูปลักษณ์ ต่างรูปโฉมโนมพรรณกันไปมากน้อยเพียงใดก็ตาม แต่ความทรงจำเกี่ยวกับผีร้ายอาละวาด แม่นาค ย่านาค อำแดงนาค หรือ อีนาค ยังคงตลบอบอวลอยู่ในห้วงคำนึงของผู้คนเสมอ เป็นหนึ่งในตำนานผีไทย ที่ถูกนำมาสร้างเป็นภาพยนตร์บ่อยที่สุดเกือบ 30 ครั้ง และถือเป็นหนังผีไทยเรื่องแรกของไทยนับแต่ออกฉายครั้งแรกเมื่อวันที่ 9 เมษายน พ.ศ. 2476 ในชื่อ นางนาคพระโขนง โดยบริษัทหัสดินทรภาพยนตร์ ส่วนรูปแบบศิลปะการแสดงเก่าแก่อย่าง ละครร้อง กลุ่มละครดรีมบ็อกซ์ได้บันทึกเอาไว้ในสูจิบัตรประกอบการชมละครเวทีเรื่อง แม่นาค เดอะ มิวสิคัล ไว้ว่า พระบิดาแห่งละครร้อง พระเจ้าบรมวงศ์เธอ พระองค์เจ้าวรวรรณากร กรมพระนราธิปประพันธ์พงศ์ ทรงพระนิพนธ์บทละครร้องเรื่อง อีนากพระโขนง เอาไว้เมื่อราวปี พ.ศ. 2457
เวลาล่วงมาเกือบ 100 ปี ละครร้อง แม่นาค ที่ครานี้เรียกขานกันใหม่ตามสมัยนิยมว่า มิวสิคัล จะถูกปลุกขึ้นมาให้มีชีวิตชีวาอีกครั้ง แต่คุณค่าแห่งความเป็นงาน ศิลปะชั้นสูง ดูเหมือนจะยังคงอยู่ครบครัน มีการเพิ่มมิติให้แก่ตัวละครหลากหลายแง่มุม ทั้งยังสะท้อนประเด็นทางสังคมเมื่อร้อยกว่าปีก่อนได้อย่างน่าสนใจ อันนำมาซึ่งเหตุและผลได้อย่างมีน้ำหนักน่าเชื่อถือว่า เพราะเหตุใด วิญญาณผีตายทั้งกลม ตนนี้ถึงได้เฮี้ยนนัก
เรื่องราวของ แม่นาค เดอะ มิวสิคัล ถูกนำมาตีความใหม่ภายใต้บริบทสังคมชนบทไทยสมัยรัชกาลที่ 4 เป็นสังคมปิดที่หญิงต้องทำงานหนัก ละวางเรื่องการศึกษา ต้อนวัวต้อนควายลงนาคือหน้าที่หลักประจำวัน แต่สำหรับ นาค หญิงสูงศักด์ บุตรขุนประจันที่หนีตาม มาก ชายคนรักจากอยุธยามายังทุ่งพระโขนง แต่กลับถูกรังเกียจจากแม่สามีและหญิงสาวละแวกบ้าน เหตุที่เธอถูกมองเป็นผู้ดีจับจรด หาใช่หญิงใช้แรงงานดุจชนชั้นเดียวกัน (แม้ นาค จะพยายามบอกทุกคนว่าเธอรู้หนังสือ อ่านออกเขียนได้) แต่ก็ไร้คุณค่าหากเทียบกับการลงมือทอผ้าสักผืน
บทละครช่วงนี้สนุกกับการยั่วล้อเพศหญิงในสังคมยุคนั้น เมื่อเหล่าบรรดาตัวละครสาวชาวบ้านร้องเพลงแดกดันการทำงานหนักของตัวเองเปรียบได้กับวัวควายอย่างสนุกสนานครื้นเครงในฉากเปิดตัว แม่เหมือน และ สายหยุด หน้าลานบ้าน หรือการสะท้อนค่านิยมกดขี่เพศหญิง ในฉากอันน่าสลดใจฉากหนึ่ง เมื่อ แม่เหมือน ปฏิเสธที่จะให้หลานสาวตามหมอตำแยมาทำคลอดให้ลูกสะใภ้ ผ่านบทเพลงแห่งความจงเกลียดจงชังอย่าง ลูกหมาลูกควายคลอดได้เอง (แล้วทำไมคนอย่าง นาค จะคลอดลูกเองเยี่ยงสัตว์ไม่ได้) และถ้าคนในบางพระโขนงจะรุมทำร้ายเธอขนาดนั้น ไฉนเลยจึงไม่ต้องสงสัยว่า เมื่อเธอตายกลายเป็นภูตผี วิญญาณของ นาค ถึงได้ดุร้าย อาละวาดหลอกหลอนคนที่มาเกาะแกะวุ่นวายกับโลกของเธอ...
โลกนี้สร้างขึ้นจากความรักมั่น พื้นกระดานแทนความผูกพันแน่นหนา ฝาบ้านแทนความอบอุ่นใจในอุรา หลังคาแทนสัญญาที่มีต่อกัน คานขื่อคือความมั่นใจในรักแท้ ว่าจะไม่เปลี่ยนแปรพลิกผัน เสาเรือนคือรักที่ค้ำใจไว้นิรันดร์ โลกของฉันจะไม่มีวันเปลี่ยนแปลง"
บทร้องที่เต็มไปด้วยสัมผัสคล้องจอง คลอเคล้าเสียงดนตรีเครื่องสีเครื่องสายเครื่องเคาะเครื่องเป่า กรุ่นกลิ่นอายตะวันออก แม้หลับตาฟังก็ยังได้บรรยากาศของท้องทุ่งลำคลอง
เสียงร้องก้องกังวานของ น้ำมนต์ ธีรนัย ณ หนองคาย ผนวกกับน้ำเสียงหวานใสเปรียบได้ดังผลึกแก้วเจียระไน ทุกวลีจากถ้อยคำที่เอื้อนเอ่ยผ่านไปถึงผู้ชม ทั่วทุกตำแหน่งแห่งหนในโรงละคร ราวถูกสะกดให้ต้องมนต์แห่งสำเนียงเพรียกคนรักของหญิงสาวหัวใจร้าวราน ไม่มีเพลงไหนที่แสดงให้เห็นถึงพลังเสียงที่ลดน้อยถอยลงไปเลยแม้แต่น้อย ตลอดการแสดงกว่า 3 ชั่วโมง เช่นเดียวกับ ครูอ้วน มณีนุช เสมรสุต ประสบการณ์ที่คร่ำหวอดยาวนาน
ละครเวทีเรื่องนี้ ครูอ้วน แสดงให้เราได้เห็นว่า วิญญาณแห่งศิลปินที่แท้จริงนั้นไม่เคยเหือดหาย ลดน้อยถอยลดลงไปแม้แต่น้อย ทุกฉากทุกตอน ที่มีเธอปรากฏกายเปล่งเสียงร้อง ช่างเต็มไปด้วยความรู้ความเชี่ยวชาญที่สั่งสมในฐานะครูผู้พร่ำสอนลูกศิษย์ลูกหาจนได้ดิบได้ดีมากมาย พลังที่สอดผสานไปกับน้ำเสียงที่สื่อได้ถึงทุกอารมณ์ ทั้งโกรธเกลียด รักหลง โดยเฉพาะการแสดงที่ส่งผ่านอารมณ์ความห่วงหวงของผู้เป็นแม่ที่มีต่อลูกชายได้อย่างน่าทึ่ง รวมถึง รัดเกล้า อมระดิษ, ณัฏฐพัชร วิพัธครตระกูล (ปุยฝ้าย เอเอฟ 4), นรินทร ณ บางช้าง, เด๋อ ดอกสะเดา ที่เราได้เห็นถึงพลังแห่งความตั้งใจ และจรดจ่อต่อบทบาทของตัวละครที่ถ่ายทอดออกมาได้อย่างไร้ที่ติ แนบเนียน สร้างเสน่ห์และสีสันได้อย่างน่าสนใจไม่แพ้กัน
ในฉาก เรือแห่งมรณา คือความสามารถในการใช้ศาสตร์แห่งศิลปะการละคร แทรกผ่านความบันเทิงที่เข้าถึงง่ายได้อย่างลงตัว เป็น Motif ที่ชี้ให้เห็นด้านสวยงามของชีวิตหลังความตาย จนทำให้ นาค เดินทางกลับไปสู่ปรโลกอย่างสงบ
สรุปโดยรวมแล้ว แม่นาค เดอะ มิวสิคัล คือละครเวทีชั้นดี ทั้งในเชิงให้คุณค่าหากเพ่งพินิจในลักษณะของงานศิลป์ หรือเป็นสิ่งบันเทิงเริงใจที่ได้ทั้งสาระ แง่คิด นอกจากสนุกสนานซาบซึ้งประทับในทุกๆ ฉาก การซื้อตั๋วเข้าไปดูละครเรื่องนี้คือการให้กำลังใจแก่คนตั้งใจทำงานดีๆ อย่าปล่อยให้พวกเขาโดดเดี่ยวหมดเรี่ยวแรง เพราะสังคมไทยยังต้องการงานศิลปะ เพื่อกล่อมเกลาจิตใจผู้คนอีกเยอะครับ
ชื่อเรื่อง : ละครเวที แม่นาค เดอะ มิวสิคัล ผู้เขียนบท : ดารกา วงศ์ศิริ ผู้กำกับ : สุวรรณดี จักราวรวุธ นักแสดง : ธีรนัยน์ ณ หนองคาย...นาค วรฤทธิ์ เฟื่องอารมณ์....มาก มณีนุช เสมรสุต...เหมือน (แม่มาก) รัดเกล้า อมระดิษฐ์ / อรวรรณ เย็นพูนสุข...ทองคำ (แม่นาค) นรินทร ณ บางช้าง...หมอตำแย เด๋อ ดอกสะเดา...สัปเหร่อ ณัฏฐพัชร วิพัธครตระกูล...สายหยุด
เปิดแสดง : 3 - 5 , 10 - 12 , 17 - 19 กรกฎาคม 2552 ศุกร์รอบ 19.30 น. เสาร์รอบ 14.00 น. และ 19.30 น. อาทิตย์รอบ 14.00 น. ณ โรงละคร M Theatre ถ.เพชรบุรีตัดใหม่ ราคาบัตร 700 ,1,000, 1,200, 1,500, 1,800, 2,000 จำหน่ายบัตรที่ Total Reservation 0-2833-5555 หรือ ดรีมบอกซ์ 0-2715-3547-9
จากคุณ |
:
) (nobita007)
|
เขียนเมื่อ |
:
9 ก.ค. 52 13:13:36
|
|
|
|
|
|