Pantip-Cafe | Pantip-TechExchange | PantipMarket.com | Chat | PanTown.com | BlogGang.com  
 


ดูละครเวทีแม่นากของสองค่ายมาแล้ว ขอแสดงความคิดเห็นบ้างครับ vote  

ผมได้เป็นผู้สังเกตการณ์ความเคลื่อนไหวของละครยักษ์ใหญ่ของสองค่ายมานาน ค่ายแรกอยู่มายาวนาน ตั้งแต่ ชื่อ แดส เอ็นเตอร์เทนเม้น จนมาเปลี่ยนชื่อเป็น ดรีมบ๊อกซ์ และค่ายที่สอง ที่มาโด่งดังช่วงหลังๆนี้จากการทำละครเวทีฟอร์มยักษ์หลายๆเรื่อง สถานที่ตั้งของค่ายคือรัชดาลัยเธียเตอร์

และก็ถึงวันนี้ที่ผมอยากจะแสดงความคิดเห็นเกี่ยวกับละครของสองค่ายนี้ เนื่องด้วยได้ไปดูละครแม่นาก เดอะมิวสิคัลของดรีมบ๊อกซ์มา หลังจากที่ได้ดูละครแม่นาคพระโขนง เดอะมิวสิคัล ของรัชดาลัยมาก่อนหน้านั้น

ขอเริ่มด้วยละครของค่าย รัชดาลัย ก่อน ละครของค่ายนี้ก็เป็นละครอภิมหายักษ์ใหญ่ตามฟอร์ม เพราะเค้าทำของเล็กๆไม่ค่อยเป็น ดังนั้นละครของค่ายนี้จึง มีการเน้นที่โปรดักชั่นที่อลังการและยิ่งใหญ่ ส่วนบทก็เป็นบทที่เน้นความบันเทิงและสนุกสนาน มีหลายรสชาติ นั้นก็อาจจะด้วย รูปแบบที่ทำงานเป็นทีมและอยู่ภายใต้ ระบบทุนนิยมแบบครบวงจร

ส่วนทางด้านค่าย ดรีมบ๊อกซ์ โดยส่วนตัวละครของค่ายนี้ค่อนข้างมีเนื้อหาที่หนัก จริงจัง และดำดิ่งไปถึงห่วงลึกของจิตใจที่ดำมืดของมนุษย์ ด้วยแนวคิดที่ตั้งต้นแบบนี้ รูปแบบของละครจึงมีขนาดเล็ก ไม่มีความอลังการอะไรมากมายอะไร(แต่แม่นากฉบับนี้ก็อลังการใช้ได้เลยนะครับอาจจะไม่ใช่ละครฟอร์มเล็กอีกต่อไปแล้ว) บวกเข้ากับการทำงานจาก คนคนเดียวจึงทำให้สิ่งที่ต้องการบอกชัดเจนและมีความเป็นตัวเอง แต่จะติดที่มีความเป็นตัวเองมากไปในบางจุด จึงขยายสิ่งที่ชอบออกมา

ต่อไปผมจะขออนุญาต แสดงความคิดเห็นไปที่บทละครโดยตรงเพราะเนื่องด้วยเป็นคนชอบดูบทของละครเป็นที่ตั้ง และขอนำเอาแม่นาคของทั้งสองค่ายเท่านั้นมาใช้เป็นหัวข้อในการแสดงความคิดเห็นเพราะ มันวัดกันได้ตรงดี ในทุกจุด

บทของแม่นาคพระโขนง เดอะมิวสิคัล ของค่าย รัชดาลัย
บทพยายามอธิบายว่าพ่อมากและแม่นาคนั้นรักกันมากแค่ไหน โดยเล่าผ่านความเกลียดชังของชาวบ้านที่มีต่อแม่นาค แต่อาจจะด้วยระยะเวลาที่น้อย หรือรูปธรรมของบท จึงทำให้ไม่สามารถรู้สึกได้ว่า ทั้งสองคนรักกันมากแค่ไหน คือเปิดฉากขึ้นมาก็รักกันอยู่แล้ว (แต่อันนี้ไม่ทราบว่าเป็นความตั้งใจของสไตร์คเรื่องหรือเปล่าที่เลือกนำเสนอว่ารักอยู่แล้ว เป็นการนำเสนอในรูปแบบ นิยายปรัมปรา หรือนิทาน)
ต่อมาในเรื่องความลึกของเหตุผลที่ตัวละครจะทำอะไรนั้น มีการใส่ลงไปในบทแต่ ด้วยการใส่ลงไปเพียงไม่กี่ครั้งในบทสนทนา จึงทำให้ผู้ชมบางคนไม่อาจจะจำได้หรือรู้สึกในสิ่งที่บอกเล่าไปแล้วในบท จึงมักจะโดนกล่าวหาว่าตัวละครไม่มีเหตุผล
ในเรื่องบทสนทนา สำหรับเรื่องนี้ ถือว่าลีลาในบทสนทนาบอกเล่าความนึกคิด และ ข้อมูลกับคนดู ยังลีลาน้อยกว่า ข้างหลังภาพมาก แต่ก็ยังมีลีลาอยู่บางโดยไม่บอกความรู้สึกออกมาตรงๆ อย่างฉากพ่อมากไล่แม่นาค ที่กลับเอาคำพูดตอนแม่นาคให้พระพ่อมากเอามาเล่น

การวางโครงเรื่อง วางโครงเรื่องเอาไว้หลวมๆไม่ซับซ้อนมาก เหมือนเพื่อเน้นความสนุกในแต่ละฉาก แต่ในแต่ละฉากก็ถือว่าเอาคนดูอยู่

แต่ขอชมเทคนิคพิเศษจริงว่า มาถูกทีถูกเวลา และสร้างความประหลาดใจได้เสมอสำหรับค่ายนี้

บทของละครแม่นาก เดอะมิวสิคัล ของดรีมบ๊อกซ์
ในส่วนของการให้เหตุผลตัวละคร ละครของค่ายนี้ทำได้ดี เหตุผลของเรื่องก็มีลำดับและสมเหตุสมผล ตัวละครรู้สึกยังไงกับเรื่องราวที่เกิดขึ้นก็มีการร้องบอกความคิดเสมอ แต่จะติดก็ติดตรงที่มากเกินไปหรือเปล่า มีตัวละครที่เพิ่มเข้ามาจากละครแม่นาคที่เราเคยดูทางทีวีหลายตัว ด้วยแนวคิดแรกของค่ายนี้คือ คุณจะได้รู้จักแม่นาคตัวจริงๆมากขึ้น ดังนั้นตัวละครที่เพิ่มคือ พ่อแม่ของแม่นาก แม่ของพ่อมาก สัปเหร่อ นายเรืองคนที่หลงรักสายหยุดที่เป็นคู่หมั้นหมายของพ่อมาก ด้วยตรีมที่ว่า คนร้ายกว่าผี จึงทำให้ตัวละครทุกตัวต้องมาร้องอธิบายเหตุผลของตัวเองที่ทำอย่างนั้นลงไป มันเป็นการขยายเหตุผลได้ดี แต่กลับมีการขยายเหตุผลของแม่นากเพียงนิดเดียว ถ้าเทียบพื้นที่ของการอธิบายเหตุผลรวมกับตัวอื่นนั้น แม่นากมีพื้นที่น้อยที่สุด คนที่มีพื้นที่เยอะที่สุดน่าจะเป็นสายหยุด แม่เหมือน หมอตำแย ตามลำดับ จึงทำให้บางทีไม่ได้รู้จักแม่นาคมากขึ้นเลย แต่กลับรู้จักความรู้สึกนึกคิดของตัวละครอื่นมากกว่า

ลีลาในบทสนทนาหรือ การเล่าด้วยเพลง
ไม่รู้ว่าเพราะ การที่ร้องทั้งเรื่องหรือเปล่า จึงทำให้บทร้องของการเปิดตัวแต่ละครแต่ละตัวละคร จึงไม่มีลีลาและพูดตรงๆแบบนั้น “ เกลี๊ยด เกลียด เกลียด ฉัน เกลียด ฉันเกลียดมัน…” หรือการเล่าเรื่อง “ เฮี้ยน เฮี้ยน เฮี้ยน…” มันเล่าตรงไปหรือเปล่า ตัวละครรู้สึกอย่างไรก็บอกออกมาตรงๆ ไม่มีพื้นที่เหลือให้คนดูคิดเลยว่าเป็นคนแบบนี้หรือเปล่า

และไม่รู้ด้วย การอธิบายเหตุผลตัวละครหรือเปล่า จึงทำให้ได้ยินการเล่าเรื่องซ้ำแล้วซ้ำอีกในเรื่องนี้อยู่ มันเหมือนการให้ข้อมูลกับคนดูที่ให้ไปแล้ว ก็ให้ซ้ำอีก เพื่อจะอธิบายว่าตัวละครคิดยังไง จึงรู้สึกซ้ำนั้นเอง นั้นก็รวมไปถึง เมื่อเกิดเหตุการณ์ใดขึ้น บทก็จะเล่าตัวละครทุกตัวว่ารู้สึกยังไง จึงทำให้เรื่องราวเดินช้าในบางช่วงและรวบรัดในบางที บางครั้งจึงเกิดอาการง่วง


สำหรับใครที่ต้องการจะไปดู และกำลังตัดสินเลือกว่าไปดูเวอร์ชั่นไหนดี ถ้าต้องการความสนุกครบรสชาติ มีประเด็นในตอนท้าย ก็เลือกแม่นาค ที่มีคำว่าพระโขนงต่อท้าย
สำหรับใครที่ต้องการประเด็น เสียดสีมนุษย์ ดราม่าจริงจัง เสียงเพลงตลอดการชม ก็ขอแนะนำ แม่นาก ที่ไม่มีต่อท้ายว่าพระโขนง

ทั้งสองค่ายนี้ ต่างก็ยืนอยู่ในจุดเดียวกันคือการสื่อสารมวลชน นั้นคือ การสื่อสารสิ่งที่อยากสื่อให้กลับมวลชน สุดท้ายคนที่จะได้เสียงตอบรับที่ดีและได้ยืนอยู่ต่อบนสนามแห่งนี้นั้น ก็คงจะเป็นคนที่สื่อสารกับมวลชนได้มากที่สุดนั้นเอง



โดยส่วนตัวผมไม่กล้าตัดสินว่าของใครดีกว่ากัน เพราะมันมาจากพื้นฐานคนละแบบกัน แต่ในใจของผมมีแล้ว คนที่ดูทั้งสองค่ายแล้ว ในใจของคุณคือของใครละครับ

จากคุณ : smith
เขียนเมื่อ : 14 ก.ค. 52 01:26:02 A:58.8.142.123 X: TicketID:224033




[ต้องการแตกประเด็นจากกระทู้เดิมคลิกที่นี่] [กติกามารยาท] [Help & FAQ] 
 
ความคิดเห็น :
  PANTIP Toys
จัดรูปแบบ :
ไฟล์ประกอบ :
  Help
ชื่อ :
 

ข้อความหรือรูปภาพที่ปรากฏในกระทู้ที่ท่านเห็นอยู่นี้ เกิดจากการตั้งกระทู้และถูกส่งขึ้นกระดานข่าวโดยอัตโนมัติจากบุคคลทั่วไป ซึ่ง PANTIP.COM มิได้มีส่วนร่วมรู้เห็น ตรวจสอบ หรือพิสูจน์ข้อเท็จจริงใดๆ ทั้งสิ้น หากท่านพบเห็นข้อความ หรือรูปภาพในกระทู้ที่ไม่เหมาะสม กรุณาแจ้งทีมงานทราบ เพื่อดำเนินการต่อไป



Pantip-Cafe | Pantip-TechExchange | PantipMarket.com | Chat | PanTown.com | BlogGang.com