|
จากคม ชัด ลึก "สัจจะแห่งธรรมะที่ได้เรียนรู้จากไมเคิล แจ๊กสัน" คอลัมน์ เรือนชาน ...เหอๆๆ
|
|
คอลัมน์ เรือนชาน บ้านเมือง หนังสือพิมพ์ คมชัดลึก
โดย ภัทรพล เวทยสุภรณ์
จากกรณีการจากไปแบบไม่คาดคิดของไมเคิล แจ๊กสัน หรือที่เรียกว่า เอ็ม เจ นั้นได้สะท้อนออกมาให้เห็นถึงสัจจะของธรรมชาติที่เราน่าจะได้เรียนรู้ เพื่อเตือนสติหลายประการ ประการแรก คิอการดำเนินชีวิตของคนบนโลกในปัจจุบันนั้นเป็นการอยู่บนความไม่เป็นจริง การดำเนินชีวิตของ เอ็มเจ เป็นวิถีชีวิตที่เกินจริง(ซึ่งมักจะเรียกว่าBigger life )หมายถึง ทุกอย่างล้วนถูกทำให้เกินธรรมชาติ เช่น การโด่งดังเกินจริง มีบรรดาผู้คนคลั่งไคล้แห่กันเข้ามามากเกินจริง เป็นต้น
แม้แต่ตัวของเอ็มเจ เองตลอดชีวิตก็ถูกกระทำจากทุกคนรอบตัวเกินจริง แบบไม่ใช่มนุษย์ปกติที่เดินดินกินข้างแกง ตั้งแต่เขายังเป็นเด็กตัวเล็กๆ ยังอินโนเซนส์ อ่อนเยาว์ไร้เดียงสา เมื่อครั้งเริ่มร้องเพลงกับพวกพี่ๆ วง The Jackson 5 จากเด็กต้องกลายเป็นผู้ใหญ่ เลยทำให้เอ็ม เจ โตเร็วเกินจริง ไม่มีโอกาสใช้ชีวิตสนุกสนานลองผิดลองถูกในวัยเยาว์แบบเด็กหรือแบบวัยรุ่นที่เติบโตงดงามขึ้นตามวัย เพราะมีชื่อเสียงเกินจริง พอลงทำอะไรไปได้สักอย่างก็เป็นข่าวใหญ่ดังไปทั่วโลก แม้แต่จะอุ้มลูกก็ดังเป็นข่าว
ในขณะเดียวกันผู้คนรอบตัวเอ็มเจ ก็ล้วนได้ประโยชน์จากการทำอะไรเกินจริง ประการที่สอง ชีวิตเอ็มเจต้องทำงานหนักแต่เด็ก ตั้งแต่ 10 ขวบ ทำให้เกิดความขัดแย้งในตัวเอง จากปกติ เอ็มเจ ซึ่งเป็นเด็กขี้อาย แต่ถูกสถานการณ์บังคับให้ต้องกล้าแสดงออกเมื่ออยู่บนเวที ต่อหน้าแฟนเพลง
นอกจากนั้น ในประการที่สาม ชีวิตของเอ็มเจ ยังต้องเผชิญกับแนวคิดในเชิงเหยียดสีผิวของอเมริกันชนตั้งแต่เกิดจนกระทั่งวินาทีสุดท้ายของชีวิต จึงเป็นแรงขับเคลื่อนให้เขาต้องทำงานอย่างหนัก เพื่อที่จะได้มีจุดยืนที่มั่นคงในสังคม และได้รับการยอมรับ ในที่สุดเขากลายเป็นคนผิวสีที่กล้าประกาศศักดาระดับโลกจนกลายเป็นราชาเพลงป๊อป แทนที่นักร้องผิวขาว เอลวิส ราชาเพลงร๊อก ((( แทนตรงไหนฟระ ตำนานทั้งคู่อ่ะ ไม่มีใครแทนได้)))
แต่จะว่าไปแล้ว เพลงป๊อป เองก็มีรากฐานมาจากบทเพลงของคนผิวดำ เช่น blue, soul, motown จนกลายเป็น rock และกลายพันธ์เป็น Pop ที่ครอบงำให้คนติดงอมแงมไปทั่วโลก เพลงของเอ็มเจ มีลักษณะพิเศษ คือกลิ่นอายของคนผิวดำแทรกตัวอยู่ ได้กลายเป็นวัฒนธรรมใหม่ของโลก ผมมองว่าเพลงของ เอ็มเจ เป็นสัญลักษณ์ของการก้าวข้ามการเหยียดสีผิว แม้แต่ตัวเอ็มเจเอง ซึ่งเป็นคนผิวดำ ที่ไม่พอใจในความเป็นคนผิวดำจึงได้เปลี่ยนสีผิวของตัวเองให้มีสีขาวยิ่งกว่าคนผิวขาวเสียอีก รวมทั้งผ่าตัดใบหน้าตัวเองให้เป็นมนุษย์พันธ์ใหม่ที่ไม่ใช่ผิวดำ และในขณะเดียวกัน ก็ไม่ใช่ผิวขาว
ยิ่งศึกษาชีวิตเอ็มเจ เจาะลึกลงไปเท่าไหร่ก็จะเห็นได้ชัดว่า เอ็มเจเกิดมาในช่วงที่ทั้งโลกไม่มีใครอยากเป็นตัวของตัวเอง เป็นช่วงที่โลกหลงลืมวัฒนธรรมพื้นถิ่นของตัวเอง เป็นช่วงที่โลกแสวงหาตัวแทนของโลกใหม่ที่เป็นค่ากลาง ไม่สนใจเรื่องความดี ความเลว ถึงขนาด เอ็ม เจ ร้องเพลงที่ดังก้องโลกประกาศตัวว่า "กูมันเลว" (I'm BAD) ซึ่งบทเพลงดังกล่าวทำให้คนคลั่งไคล้ไปทั่วโลก สัปดาห์นี้พื้นที่มด มาติดตามสัจจะแห่งธรรมะที่ได้เรียนรู้จาก เอ็มเจ กันต่อในสัปดาห์หน้าครับ
******************************************************
เราว่าแรกๆก็เขียนดูดี มีเหตุผลนะ แต่....ใครรู้เรื่องของเอ็ม เจ มากกว่าคุณ ภัทรพล ในเรื่องสีผิว และเรื่องอื่นๆละก็ ลองเขียนส่งไปที่ คม ชัด ลึก ดูนะคะ กลัวว่าสัปดาห์หน้าแกจะโยงเรื่องสีผิวอีก T_T แต่เราก็ทำใจแล้วล่ะ พระพุทธเจ้าให้สัจจะธรรมแล้วบางอย่างว่า คนเรามีทั้งคนรัก และคนเกลียด มีคนไม่เข้าใจ และเข้าใจ อย่าพยายามทำให้ทุกคนต้องรักเรา หรือเข้าใจเรา เพราะไม่มีใครหรอกที่จะเข้าใจเราจริงเท่ากับตัวเราเอง แต่คนเราก็ชอบพูดไปตามที่คิด มั่นใจไปตามที่สื่อเขียน จริงๆเราว่าต้องหัดใช้ตาดู สมองคิดมากๆๆ มันจะทำให้เราวิเคราะห์อะไรออกมาได้มากกว่าที่เขาเขียนลงไป
แก้ไขเมื่อ 17 ก.ค. 52 08:00:38
| จากคุณ |
:
แพรวพรรณรายพราวพิลาศ 
|
| เขียนเมื่อ |
:
17 ก.ค. 52 07:59:38
|
|
|
| |
