ความคิดเห็นที่ 1 |
จากพื้นฐานของบทที่ดี ผู้ประพันธ์เพลงก็ได้แสดงให้เราเห็นได้ถึง ความสามารถในการสร้างสรรค์คำร้องที่สามารถเล่าเรื่องได้โดยไม่เคอะเขิน ตามมาตรฐานของดรีมบอกซ์ที่เด่นมากในเรื่องนี้ ความสละสลวยของบทพูด บทสนทนา และบทพรรณนา งดงาม ชวนให้ติดตามและน่าเพลิดเพลินมาก ทำนองเพลงและดนตรีก็มีความหลากหลายและทำหน้าที่ของมันได้ดี การนำเพลงมาผูกกันอย่างต่อเนื่องและการกำหนดช่วงในการทำ Reprise ตามแบบอย่างของ Sung-through Musical นั้นทำได้อย่างมีชั้นเชิงและนุ่มนวล
การสร้างบรรยากาศโดยรวมของเรื่องทำได้ดีมาก ไม่ว่าจะเป็นเรื่องการแสดงและเพลงของกลุ่ม Chorus ที่ครั้งนี้กลายเป็นส่วนสำคัญในการเล่าเรื่อง เครื่องแต่งกายแนว Realistic ที่ไม่ดูโดดเด่นผิดยุคสมัย แนวทางของโทนสี แสง และฉาก ก็ดูสอดคล้องกับบรรยากาศ ท่วงท่าของตัวละครกำลังพอดีไม่ดูล้นจนผิดยุค เสียงหรีดหริ่งเรไรในป่า ก็มากันครบถ้วน แสดงให้เห็นถึงความสนใจในรายละเอียดกันอย่างเต็มที่ ทั้งหลายเหล่านี้ได้ทำให้เรื่องนี้มีความหนักแน่น สมจริง จนเมื่อจบทำให้ผมแอบคิดไปว่า หรือว่าที่มาของเรื่องแม่นาค จะเป็นแบบนี้จริงๆ
สิ่งที่น่าสนใจเป็นอย่างยิ่งอีกสิ่งหนึ่งคืองานด้านเวทีและฉาก เรียกได้ว่าครั้งนี้ได้ช่วยลบภาพเดิมของดรีมบอกซ์ในเรื่อง เทคนิคการนำเสนอแบบ ธรรมดาๆ ไม่มีอะไรเป็นพิเศษไปได้อย่างเฉียบขาด ความจริงแนวของการเอาแสงและฉากโปร่งมาสร้างภาพที่สื่อความหมายได้ดี นั้น มีแววมาให้เห็นบ้างแล้วในช่วงงานเรื่องคู่กรรม โดยเฉพาะในฉากของเพลง นี่หรือคือคนที่เธอรัก แต่ครั้งนี้ทีมงานได้ ปล่อยของ มาสร้างภาพที่น่าชื่นชมให้กับคนดู จนเป็นที่กล่าวขวัญถึงความสามารถใช้จินตนาการในการเอาเครื่องมือต่างๆมาประกอบกัน เพื่อสร้างภาพที่สามารถสื่อสารเนื้อหาได้อย่างสมบูรณ์และงดงาม นุ่มนวลสมจริงอย่างน่าอัศจรรย์ องค์ประกอบเรื่องฉากและแสงสีอื่นๆ แม้ยังรักษาแนวทางเรียบง่าย แต่ต้องขอชมว่าก็ทำได้สวยและสมบูรณ์มากกว่างานอื่นๆที่เคยเป็นมาของค่ายนี้มาก
เป็นที่น่าสังเกตว่า แม้ว่าครั้งนี้ทางคณะจะได้ใส่เทคนิคพิเศษลงไปเยอะ แต่การนำเสนอนั้นยังคงรักษา Profile ของเทคนิคเหล่านั้นให้เป็นแค่ส่วนประกอบส่วนหนึ่งไม่ให้ล้ำหน้าตัวเรื่องไปจนกลบความสำคัญของเนื้อเรื่องหรือบทบาทของตัวละครที่กำลังปรากฏอยู่ หรือแม้แต่เพลงมีเนื้อร้องทำนองที่เสนาะหู และการเลือกเสียงเครื่องดนตรีประกอบ ก็ไม่มีส่วนใดที่ทำให้รู้สึกแปลกแยกจากบรรยากาศโดยรวมของเรื่อง สามารถผสมกลมกลืนไปกับตัวเรื่องได้เป็นอย่างดี ดูแล้วเหมือนกับได้ดูผ้าทอมือชั้นดีที่มีลวดลายที่ ซับซ้อน สวยงาม คือมีการสอดเนื้อเรื่องและองค์ประกอบต่างๆให้มีการสร้างปม ขมวดปมและแก้ไขปมปัญหาได้อย่างลึกซึ้ง เป็นขั้นเป็นตอน Coherence ขององค์ประกอบต่างๆในละครเรื่องนี้จึงเป็นสิ่งที่ผมชื่นชอบมากที่สุด
เรื่องการแสดงก็ดูไหลลื่นแทบไม่มีที่ติไม่เว้นแม้แต่ตัวละครที่เป็นเด็ก ผมสังเกตได้ว่า เมื่อเวลาผ่านไปผู้แสดงดูจะมีความมั่นใจ มีสมาธิและแสดงออกอย่างเต็มที่ได้มากขึ้นเรื่อยๆ โดยเฉพาะในรอบวันเสาร์ที่ 18 จังหวะต่างๆลงตัวกันกว่ารอบแรกๆมาก ผมไม่เห็นว่าคุณน้ำมนต์จะมีข้อด้อยในเรื่องการแสดงอารมณ์อย่างที่บางคนได้กล่าวถึงกัน ในทางตรงกันข้ามผมว่าคุณน้ำมนต์และคนอื่นทุกคน แสดงออกถึงอารมณ์ผ่านท่าทางและน้ำเสียงในการร้อง ได้อย่างพอเหมาะพอเจาะกับบทที่ได้รับและอารมณ์ของตัวละครในขณะนั้น จะมีขัดๆบ้างเล็กน้อยกับแนวการใช้เสียงของคุณมณีนุชในแบบ Operatic ในบางช่วงซึ่งโดดออกมาจากช่วงอื่นๆซึ่งใช้เสียงธรรมดาๆ
แต่ก็ต้องยอมรับว่าการภาพโดยรวมที่ละครมีลักษณะที่ลึกซึ้ง เรียบง่าย ไม่ฉูดฉาดแบบนี้ อาจไม่ถูกจริตกับคนอีกจำนวนหนึ่งกำลังมองหาความร้อนแรงที่ดึงความสนใจได้อย่างเฉียบพลัน... บางคนจึงบอกว่าแนวทางนี้จืดชืด น่าเบื่อไม่มีอะไรน่าสนใจ ...หรือเรื่องของบทที่ค่อยๆทะยอยเล่าเรื่องในแต่ละส่วนไปเรื่อยๆนั้น กับคนที่ชอบกับการพูดแบบสั้นๆตรงๆ ตรงจุด รวบรัด ก็อาจจะรู้สึก ว่าเป็นการพรรณนาที่ยืดยาด เยิ่นเย้อ เกินไป เหมือนนำเอาประสบการณ์ในการดูภาพเขียนแนว Impressionism มาเทียบกับกลุ่ม Expressionism ซึ่งยังไงก็คงชอบไม่เหมือนกัน
จากคุณ |
:
ชอบสบาย
|
เขียนเมื่อ |
:
28 ก.ค. 52 22:04:21
|
|
|
|