Pantip-Cafe | Pantip-TechExchange | PantipMarket.com | Chat | PanTown.com | BlogGang.com  


 
*** MJ กับหนี้สิน 500 ล้านดอลล่าร์ ***  

มีการประเมินรายได้ ของ MJ กันอย่างคร่าวๆ ตลอด 25 ปี ที่เขากระโดโลดเต้นอยู่ในวงการเพลง ดัังนี้:-

ค่าลิขสิทธิ์เพลง แต่ง + ร้อง    300 ล้านดอลล่าร์
การแสดงคอนเสิร์ต                 400  "           "
นอกนั้นก็เป็นค่าลิขสิทธิ์เพลงของวง เดอะบิทเทิลส์ ที่เขาถือยู่ 200 เพลง

ซึ่งไม่น่าเชื่อว่าเงินมากมายเหล่านี้ เขาสามารถถลุงได้แทบไม่เหลือหลอ ซึ่งมีบางคนได้กล่าวไว้ว่า เขาเป็นแค่เศรษฐี แต่ใช้เงินอย่างกับมหาเศรษฐี

มีอดีตที่ปรึกษาทางการเงินของ MJ คนหนึ้งชื่อ อัลวิน มาลิงค์ เคยให้สัมภาษณ์ เกี่ยวกับการใช้งของMJ อย่างน่าสนใจว่า

"ผมคิดว่าตัวไมเคิลเองไม่เข้าใจเรื่องที่คนเราทุกคนจะต้องมีความรับผิดชอบในการใช้เงิน เพราะเขาเป็นคนใช้เงินไปเรื่อยเปื่อย และคนรอบข้างของเขาก็เป็นแค่ลูกจ้าง ซึ่งเป็นไปไม่ได้ที่จะกล้ายับยั้งการใช้จ่ายของเจ้านาย จึงทำให้สถานการณ์ทางการเงินของเขาเลวยิ่งขึ้น"

การใช้จ่ายเงินอย่างบ้าเลือดของMJเริ่มขึ้นในทศวรรษที่ 80 ซึ่งเขาเป็นช่วงที่เขามีชื่อเสียงมาก แต่ช่วงแรกแรกจะเริ่มใช้จ่ายเพื่อการลงทุนเสียมากกว่า ซึ่งก็ได้รับคำชมว่าเขาเป็นคนนำเงินลงทุนที่ชาญฉลาด โดยเขาตั้งทรัสต์เป็นของตัวเอง โดยทรัสต์นี้จะทำหน้าที่บริหารเงินของเขาให้มีดอกผลเพิ่มขึ้นจากเดิม  โดยเงินที่นำไปลงทุนอย่างมีวิสัยทัศน์ยิ่ง คือ การไปซื้อลิขสิทธิ์เพลงของวงดนตรี เดอะ บิท เทิลส์ จำนวน 200 เพลง ซึ่งเพลงเหล่านี้ เอทีวี มิงสิค พับลิชชิ่ง เป็นผู้ถือครอง และต้องการนำออกมาประมูล  และแน่นอนที่สุดมีบุคคลในวงการธุรกิจ แลเวงการเพลงสนใจเข้าร่วมประมูล รวมทั้ง เซอร์พอล แม็คคาร์ทนีย์ หนึ่งในสมาชิกวง เดอะ บิท เทิลส์ แล โยโกะ โอโนะ ภรรยาหม้ายของ จอห์น เลนนอน  แต่ทั้งคู่ก็ต้องผิดหวัง เพราะไม่อาจสู้ราคากับราชาเพลงป๊อบ ซึ่งเสนอราคาถึง 47.5 ล้านดอลลาร์

จากการเหตุการดังกล่าวทำให้มิตรภาพรหว่างเซอร์พอล แมคคาร์ทนีย์ กับ MJ ซึ่งเคยสนิทกันมาก ถึงขั้นเคยร้องเพลงบันทึกเสียงร่วมกันมาแล้ว ต้องปิดฉากลงนับแต่นั้นเป็นต้นมา

และเพื่อเป็นหลักประกันสำหรับอนาคตของตนเอง MJ ได้เสนอควบรวมกับกิจการ เอทีวี มิวสิค พับลิชชิ่ง ที่เขาซื้อมากับ บริษัทโซนี่ มิวสิค พับลิชชิ่ง  ในปี 90 โดยเขาถือหุ้นบริษัทที่ควบรวมกิจการ 50 เปอร์เซนต์ บริษัทนี้ปัจจุบันถือลิขสิทธิ์เพลงกว่า 75,000 เพลง ประเมินว่าทรัพย์สินของMJ ในส่วนที่เป็นหุ้นตกประมาณ 960 ล้านดอลลาร์  และนั่นเป็นการใช้เงินที่เข้าท่าที่สุดในชีวิตของ MJ

ส่วนการซื้อไร่ปศุสัตว์ ในซานตาบาร์บารา รัฐแคลิฟอร์เนีย ไปด้วยเงิน 19.5 ล้านดิลล่าร์ และเนรมิตรให้เป็นบ้านไร่ตามที่เขาฝันไว้ โดยตั้งชื่อว่า "เนเวอร์แลนด์" ต้องเสียค่าใช้จ่ายในการดูแลถึงปีละ 10 ล้านดอลล่าร์ และต้องปิดตัวเองจากการที่ทนแบกภาระค่าใช้จ่ายไม่ไหวตั้งแต่ปี 2006 และไปเช่าบ้านในราคา 1 แสนดอลล่าร์/เดือนอยู่

MJ หมดเงินไปกับการช้อปปิ้งสูงมาก เขาสามารถซื้อทุกย่างที่ขวางหน้า แต่ส่วนใหญ่เขาจะหมดเงินไปกับการซื้อของเก่า และภาพวาด  การใช้จ่ายของเขาไม่จำกัดเฉพาะซื้อให้ตัว แม้ตัวเลขในบัญชีจะเป็นตัวแดง แต่เขายังซื้อของให้กับบุคคลที่เขารักอย่างไม่อั้น อย่างเช่นกรณ๊ของ เอลิซาเบธ เทเลอร์ ซึ่งเป็นเพื่อรักต่างวัย  เขาซื้อรถโรลส์รอยช์ เบนท์ลีย์ เฮลิคอปเตอร์ และ เพชรนิลจินดา ตามแต่ดารารุ่นแม่ต้องการ โดยไม่เสียดายเงิน และจ่ายเงินเป็นค่าเลี้ยงดูอดีตภรรยา ลิซา มารีย์ เพรสลีย์ ปีละ 20 ล้านดอลล่าร์ นอกนั้นก็เป็นการใช้จ่ายในการประนีประนอมยอมความต่างๆ ตามที่ทราบกัน

ดังนั้นจุดสนใจของผู้คนจึงพุ่งเป้าไปที่สมาชิกของครอบครัวJackson จะจัดการกับภาระหนี้ที่ MJ ได้ทิ้งเอาไว้ มิฉะนั้นหนี้สินเหล่านี้จะตกไปสู่บรรดาลูกๆ ซึ่งล้วนแต่อายุยังน้อยอยู่ เพราะถ้าหากจัดการไม่ดีก็จะเป็นมรดกบาปที่ผู้เป็นพ่อทิ้งไว้ให้ โดยไม่ได้ตั้งใจ .....

 
 

จากคุณ : july 19
เขียนเมื่อ : 19 ส.ค. 52 20:22:31




ข้อความหรือรูปภาพที่ปรากฏในกระทู้ที่ท่านเห็นอยู่นี้ เกิดจากการตั้งกระทู้และถูกส่งขึ้นกระดานข่าวโดยอัตโนมัติจากบุคคลทั่วไป ซึ่ง PANTIP.COM มิได้มีส่วนร่วมรู้เห็น ตรวจสอบ หรือพิสูจน์ข้อเท็จจริงใดๆ ทั้งสิ้น หากท่านพบเห็นข้อความ หรือรูปภาพในกระทู้ที่ไม่เหมาะสม กรุณาแจ้งทีมงานทราบ เพื่อดำเนินการต่อไป



Pantip-Cafe | Pantip-TechExchange | PantipMarket.com | Chat | PanTown.com | BlogGang.com