ความคิดเห็นที่ 1 A PRIVATE SERVICE And in marked contrast to Jackson’s life – lived in full public glare since the age of five – the 45-minute service will be held away from the cameras, limited to close relatives and friends. Marlon, 52, said: “This will be Michael’s final curtain call – the last show. His shell will be gone but his spirit lives on.” Soul legend Aretha Franklin will sing at the graveside. Jackson’s close friend Diana Ross will be there too, so will Motown record label founder Berry Gordy. Jackson will be buried in Holly Terrace Grand Mausoleum at Glendale Forest Lawn Memorial Park, five miles from Hollywood in North Los Angeles, alongside stars including Humphrey Bogart and Clark Gable. The cemetery is closed to the public and is surrounded by high walls. Anyone visiting has to show ID. In the nine weeks since Jackson died, his body has been kept in the refrigerated morgue at the cemetery, apart from the day it was driven in an armed police convoy to his Staples Center memorial service last month. Marlon said: “This will be a private ceremony. His hairstylist has made his hair special and a make-up artist has gone in and fixed him up so he’s ready for the big day.” จากคุณ : Snow Crystal เขียนเมื่อ : 1 ก.ย. 52 10:24:51

ความคิดเห็นที่ 2 A small wake will be held afterwards at the Jackson family compound in Encino. “This is the final step, the final curtain will be closed as regards to Michael’s life,” said Marlon. “It’s a quiet place where the children will be able to visit in private to pay their respects.” Initially the funeral was scheduled for yesterday, which would have been Jackson’s 51st birthday. But the burial was moved, said Marlon, because their mother Katherine is a Jehovah’s Witness and the religion doesn’t recognise birthdays. Marlon said: “I wanted to lay him to rest on the day the Lord created him. But my mother really didn’t want to bury him on that day.” We can reveal that Jackson’s children have spent the last week-and-a-half on a break at Katherine’s Las Vegas home, visiting their uncle Jackie and playing with their cousins as the family try to spare them from the funeral preparations. Marlon said: “They’re doing good. They’re finally getting to the stage of learning to live with it. You never get over something like that.” Marlon revealed how Paris had spoken to him about his twin brother Brandon, who died when he was just a few hours old. He said: “After the memorial service Paris said to me, ‘Uncle Marlon, I’m sure my daddy is glad to see Uncle Brandon’. That was really special. I said, ‘Wow, that was the sweetest thing you could have said’. จากคุณ : Snow Crystal เขียนเมื่อ : 1 ก.ย. 52 10:26:29

ความคิดเห็นที่ 3 LAST PERSON TO SEE HIM ALIVE “I have two brothers in Heaven now. Some day we’ll all be able to meet up there.” Jackson died at his rented home in Los Angeles on June 25 after being given a lethal cocktail of drugs. On Friday the LA county coroner ruled that his death was homicide. More than two months after his death, the family’s anger at his physician Dr Conrad Murray, who administered the potent narcotic Propofol and was the last person to see him alive, mounts by the day. Marlon said: “Michael died and someone is to blame – and it’s the doctor who was with him. “Conrad Murray was the last person to be with Michael and he knows exactly what went on and he’s not saying.” Dr Murray’s only public comment so far has been a short statement on video website YouTube. Marlon said: “I don’t think anyone tried to kill Michael on purpose but something went wrong, something happened and, yes, some of my family do think it’s murder." จากคุณ : Snow Crystal เขียนเมื่อ : 1 ก.ย. 52 10:28:30

ความคิดเห็นที่ 4 “He had too many ‘yes’ men around him. With a bunch of ‘yes’ people around him there was no doubt he was headed for destruction. I’m talking about the doctors who were around him, the people he had working for him. It’s sad to say but these doctors would do anything for the money.” Even though Jackson was slowly losing his battle against prescription drug addiction, he tried to shield it from his relatives, Marlon revealed. He said: “Michael was a very private person. He didn’t like people to pry into that. “At one point there was concern about the prescriptions, about his painkillers and whether he was taking too much, but he seemed to have everything under control. “Michael was trying to escape from what he had created. He put himself in a box and the only way he could escape from it was to come up with different disguises to experience what others take for granted in life – going to the store, walking down the street. The fame became a monster and he was pretty much boxed in a corner because everybody wanted a piece of him. HE WAS A GREAT DAD “At the beginning all that stuff is great but then at the end Everybody was judging him – and all the ridicule that went with it.” source http://www.mirror.co.uk/celebs/news/2009/08/29/michael-jackson-to-buried-in-a-gold-casket-encased-in-cement-115875-21633985/ จากคุณ : Snow Crystal เขียนเมื่อ : 1 ก.ย. 52 10:30:15

ความคิดเห็นที่ 5 ถึงพิธีฝังศพทีไร มันเศร้ามาก ๆ... เพราะเป็นเครื่องหมายว่า เราจะไม่ได้เห็นเขาอีกแล้วจริง ๆ สงสารเด็ก ๆ ขอให้พักผ่อนอย่างสงบในบ้านของพระเจ้านะ เราเชื่อนะ...ว่าคุณอยู่ในอ้อมกอดของพระองค์แล้ว “Michael, we love you, we miss you”.. You're always in my heart forever, I promise... จากคุณ : Jeeup เขียนเมื่อ : 1 ก.ย. 52 10:45:59

ความคิดเห็นที่ 6 อุ๊ย ขอโทษจ้ายังแปะไม่จบเลยอะ ยาวมาก ไปอ่านต่อที่ the mirror นะค่ะ ชอบรูปคุณ Jeeup มากเลย เราก็เชื่อว่าไมเคิลไปอยู่กับพระเจ้าแล้วละ จากคุณ : Snow Crystal เขียนเมื่อ : 1 ก.ย. 52 10:50:20

ความคิดเห็นที่ 7   อ่านเจอว่า คืนนั้น..ไมเคิลอ่านคำภีร์ไบเบิ้ลค่ะ เค้ากระวนกระวายมาก และพยายามหาที่พึ่ง... จากคุณ : Better Off เขียนเมื่อ : 1 ก.ย. 52 11:45:09

ความคิดเห็นที่ 8 เราก็พยายามหาที่พึ่ง     ขอคนใจดีมาช่วยแปลหน่อยฮิวว จากคุณ : เราอุ้มนะ เขียนเมื่อ : 1 ก.ย. 52 11:52:17

ความคิดเห็นที่ 9 โอเคจ้า ลองแปลคร่าวๆนะ แปลผิดประการใดขออภัยมา ณ ที่นี้ Marlon เปิดเผยว่า ลูกๆของไมเคิลได้เขียนจดหมายลาไมเคิล (ที่มีข้อความเช่น พวกเรารักคุณพ่อ พวกเราคิดถึงคุณพ่อ)ซึ่งจะถูกใส่ไว้ในโลงศพข้างๆถุงมือสีขาวที่เป็นสัญลักษณ์ของไมเคิล งานศพที่จะมีขึ้นในวันพฤหัสที่ 3 โดยมี Aretha Franklin มาร้องเพลงข้างหลุมศพ ไมเคิลจะถูกฝังในโลงศพชุบทองราคา  18000 ปอนด์ ใส่วิกผมพิเศษและแต่งหน้าให้เหมือนกับว่าเขาจะขึ้นเวทีเพื่แโค้งคำนับเป็นครั้งสุดท้าย หลังจากพิธีศพที่จะมีขึ้นตอนพระอาทิตย์ตก โลงศพจะถูกกลบด้วยคอนกรีตหนาเพื่อป้องกันนักขุดศพและผีร้าย กล้องโทรทัศน์วงจรปิดจะลิ้งค์กับเซ็นเซอร์เพื่อส่งสัญญาณเตือน รปภ ถ้ามีผู้บุกรุกมาที่หลุมศพ พิธีฝังศพศพจะจัดขึ้นเป็นการภายในครอบครัว มีแค่ญาติสนิทและเพื่อนๆมาร่วมงาน Diana Ross และ Berry Gordy  ผู้ก่อตั้ง Motown record ก็จะไปร่วมงานด้วย ไมเคิลจะถูกฝังที่ Holly Terrace Grand Mausoleum ใน Glendale Forest Lawn Memorial Park ซึ่งอยู่ห่างจาก Hollywood ไป 5 ไมล์ ดาราที่ถูกฝังที่นี่มี Humphrey Bogart แล Clark Gable. สุสานนี้ไม่เปิดให้คนทั่วไปเข้าและล้อมรอบไปด้วยกำแพงสูง ใครที่จะเข้ามาต้องแสดงบัตรประชาชน พิธีรำลึกเล็กๆจะมีขึ้นหลังจากนั้นที่บ้านตระกูลแจ๊กสันใน Encino Marlon กล่าวว่า นี่คือขั้นตอนสุดท้าย เป็นการปิดฉากชีวิตของไมเคิล ในเบื้องต้นพิธีศพได้กำหนดไว้เป็นเมื่อวาน ซึ่งเป็นวันครบรอบวันเกิดปีที่ 51 ของไมเคิล แต่พิธีูเลื่อน เพราะว่าคุณแม่แคทเทอรีนนับถือศาสนา Jehovah’s Witness ซึ่งไม่ให้ความสำคัญกับวันเกิด ลูกๆของไมเคิลได้ไปพักผ่อนยู่กับแคทเทอรีนที่ลาสเวกัสเป็นเวลาหนึ่งอาทิตย์ครึ่ง ไปเยี่ยมลุงแจ๊กกี้และเล่นกับลูกพี่ลูกน้อง เพราะว่าครอบครัวพยายามกันพวกเขาจากการเตรียมงานฝังศพ Marlon บอกว่า Paris ได้มาพูดกับเขาเรื่อง Brandon น้องชายฝาแฝดที่จากไปเมื่อตอนเขาอายุเพียงแค่ไม่กี่ชั่วโมง  หลังจากงานพิธีศพที่ staple center Paris ได้บอกMarlon ว่า “คุณลุง Marlon หนูแน่ใจว่าคุณพ่อดีใจที่ได้เจอคุณลุง Brandon ค่ะ”  (ปารีสนี้มีจิตใจที่งดงาม ละเอียดอ่อน ถอดแบบมาจากคุณพ่อเลยจริงๆ) เดี๋ยวมาต่อจ้า จากคุณ : Snow Crystal เขียนเมื่อ : 1 ก.ย. 52 11:58:33

ความคิดเห็นที่ 10 ขอบคุณค่ะ รอ  คำแปลต่อไป   หนูปารีสน่ารักอ่ะ   อ่อนโยนเหมือนคุณพ่อเลย จากคุณ : เราอุ้มนะ เขียนเมื่อ : 1 ก.ย. 52 12:43:15

ความคิดเห็นที่ 11 ขอโทษค่ะ จขกท. ใจร้อนไปหน่อย ต่อเลยค่ะต่อ... รออ่านอย่างใจจดใจจ่อ จากคุณ : Jeeup เขียนเมื่อ : 1 ก.ย. 52 12:57:21

ความคิดเห็นที่ 12   มารอคำแปลด้วยคนค่ะ จากคุณ : แม่น้ำนิรันดร์ เขียนเมื่อ : 1 ก.ย. 52 13:41:28

ความคิดเห็นที่ 13 มาเข้าแถวรอเหมือนกันจ้า ^^ จากคุณ : ซาจา เขียนเมื่อ : 1 ก.ย. 52 14:59:44

ความคิดเห็นที่ 14 คนสุดท้ายที่เห็นไมเคิลมีชีวิตอยู่ “น้องชายผม 2 คนได้อยู่ในสรวงสรรค์แล้ว วันหนึ่งเราจะไปเจอพวกเขาที่นั่น” ไมเคิลเสียชีวิตที่บ้านเช่าในลอสแองเจิลลิสในวันที่ 25 มิถุนายน หลังจากถูกให้ยาหลายขนาน เมื่อวันศุกร์ที่ผ่านมาสำนักงานนิติวิทยาเอลเอ ระบุว่าสาเหตุการตายคือการฆาตรกรรม เป็นเวลากว่าสองเดือนที่ไมเคิลจากไป ความโกรธแค้นของครอบครัวที่มีต่อหมอ คอนราด เมอเรย์ ได้มีเพิ่มมากขึ้น หมอคนนี้เป็นคนให้ยา Propofol ซึ่งเป็นยาสลบอันตรายและเป็นคนสุดท้ายที่เห็นไมเคิลมีชีวิตอยู่ มาร์ลอน กล่าวว่า “ไมเคิลตายและบางคนสมควรถูกกล่าวโทษ และเป็นหมอผู้ซึ่งอยู่กับไมเคิล คอนราด เมอเรย์เป็นคนสุดท้ายที่อยู่กับไมเคิลและเขารู้แน่ชัดว่าเกิดอะไรขึ้นและเขาไม่พูดถึงมัน” คำกล่าวของหมอเมอเรย์ที่ออกสู่สาธารณะจนถึงบัดนี้เป็นเพียงวีดีโอคำกล่าวสั้นๆในยูทูป มาร์ลอน กล่าวว่า “ผมไม่คิดว่าจะมีใครจงใจฆ่าไมเคิลแต่บางอย่างผิดปกติ บางอย่างเกิดขึ้น ใช่ คนในครอบครัวผมบางคนคิดว่ามันเป็นการเจตนาฆาตรกรรม ไมเคิลมีคนรอบข้างตามใจเขามากไป ไม่แปลกเลยที่เขาจะมุ่งสู่หายนะ ผมกำลังพูดถึงพวกหมอที่รายล้อมเขา พวกคนที่ทำงานให้เขา  มันน่าเศร้าที่หมอพวกนี้ทำทุกอย่างเพื่อเงิน” จากคุณ : Snow Crystal เขียนเมื่อ : 1 ก.ย. 52 15:01:09

ความคิดเห็นที่ 15 แม้ว่าไมเคิลค่อยๆพ่ายแพ้ในการต่อสู้กับการติดยาแผงปัจจุบัน เขาก็ปิดบังเรื่องนี้กับทางครอบครัว “ไมเคิลเป็นคนสันโดษ เขาไม่ชอบให้ใครมายุ่งในเรื่องนั้น ในจุดหนึ่งมีความกังวลว่าไมเคิลจะใช้ยาแก้ปวดมากไปหรือเปล่า แต่ดูเหมือนว่าเขาจะควบคุมทุกอย่างได้” “ไมเคิลพยายามหลีกหนีจากสิ่งที่เขาสร้างขึ้น เขาขังตัวเองอยู่ในโลกแคบ สิ่งเดียวที่จากหนีจากสภาพนี้ได้คือการปลอมตัวเพื่อไปมีประสบการณ์ในสิ่งที่คนทั่วไปไม่เห็นความสำคัญ เช่น การไปร้านค้า การเดินถนน ความมีชื่อเสียงได้กลายเป็นปีศาจ เพราะทุกคนต้องการส่วนหนึ่งของเขา” จากคุณ : Snow Crystal เขียนเมื่อ : 1 ก.ย. 52 15:02:02

ความคิดเห็นที่ 16 ไมเคิลเป็นพ่อที่เยี่ยมยอด “ไมเคิลหัวเราะและเล่นตลกกับลูกๆ เขาอยู่ในระหว่างการเตรียมพร้อมที่จะขึ้นแสดงคอนเสิร์ตที่ลอนดอน ไมเคิลตื่นเต้นกับมันมาก แต่ว่าส่วนใหญ่เราคุยกันเรื่องลูกๆ ไมเคิลเลี้ยงดูลูกๆได้เยี่ยมยอดมาก เด็กๆไม่ได้มีนิสัยแบบลูกดารา” แบล็งเค็ตผู้รักความสนุกเอาปืนฉีดน้ำไล่ยิงญาติๆ “แบล็งเค็ตเป็นสายลับ007 เขาออกปฏิบัติการเสมอ เขาเป็นเด็กที่กระตือรือล้น พริ้นซ์เก่งเรื่องอิเล็กทรอนิกส์และด้านเทคนิค ส่วนปารีสนั้นเป็นสิ่งที่ล้ำค่า เธอมีจิตใจที่งดงาม เด็กๆเคารพกฎและเคารพผู้อื่น” “ความทรงจำของพวกเด็กๆที่มีต่อไมเคิลคือช่วงเวลาที่พวกเขามีความสุขด้วยกัน ไมเคิลไม่ได้อยู่ที่นี่แล้วแต่เขาจะอยู่ในใจของเราตลอดไป พวกเราจะคิดถึงเขาเสมอ” แคทเทอรีนไ้ด้สิทธิเลี้ยงดูลูกๆไมเคิล ส่วนเด็บบี้ได้สิทธิเยี่ยมลูกทั้งสองของเธอ ไม่มีการเปิดเผยว่าใครคือแม่อุ้มบุญที่ให้กำเนิดแบล็งแค็ต “ผมไม่สนใจว่าเด็กมาจากไหน ไมเคิลเป็นพ่อพวกเขา ไมเคิลเลี้ยงเด็กๆมาตั้งแต่เกิด ใครๆก็มีลูกได้ เป็นพ่อผู้ให้กำเนิดได้ แต่ต้องมีสิ่งพิเศษที่จะทำให้เป็นพ่อของลูกได้” “คนอย่างหมอไคลน์ต้องการแค่ชื่อเสียงเงินทอง เด็กๆเป็นลูกของไมเคิล ไม่ว่าพวกเขาจะมาจากไหน นั่นแหละคือสิ่งสำคัญ” “เด็กๆจะเรียนแบบโฮมสคูลตามหลักสูตรโรงเรียนเอกชนที่บ้านใน Encino ที่นั่นมีห้องเรียนและโรงหนังขนาดใหญ่สำหรับทำการเรียนการสอน” จากคุณ : Snow Crystal เขียนเมื่อ : 1 ก.ย. 52 15:02:54

ความคิดเห็นที่ 17 Marlon ออกจากบ้านที่ Encino ตอนอายุ 18 ปี เพื่อแต่งงานกับ Carol Ann เขายังติดต่อกับไมเคิลเสมอ เมื่อเขาเจอไมเคิลก็มักจะพูดคุยถึงเรื่องในวัยเด็กกัน ไมเคิลชอบเล่นแผลงๆ ในวันสุดท้ายที่เขาพบไมเคิล พวกเขาพูดถึงตอนที่พวกเขาทำกระดาษชำระเปียกและโยน ออกนอกหน้าต่างโรงแรม เอาน้ำใส่ถังขยะและเทน้ำลงถนน “ผมจำำได้ว่าคำพูดสุดท้ายที่ผมพูดกับไมเคิล คือ พี่รักน้องนะ และไมเคิลก็จะตอบกลับมาเสมอว่า ผมรักพี่มากกว่า และนั่นคือคำพูดสุดท้ายที่ไมเคิลพูดกับผม” มาร์ลอนและไมเคิลเติบโตมาอย่างยากจนในเมืองแกรี่ รัฐอินเดียน่า ในบ้านสองห้องนอนที่พ่อแม่ซื้อมาในราคา 500 ปอนด์ มาร์ลอนอายุมากกว่าไมเคิลแค่ 17 เดือน จึงเป็นเพื่อนสนิทของไมเคิล พวกเขานอนเตียงเดียวกัน “ไมเคิลกับผมเคยมองออกไปนอนหน้าต่างมองรถแต่ละคันที่ผ่านไปและพูดว่าเมื่อโตขึ้น พวกเราจะมีรถแบบนั้น แต่ว่าเราไม่เคยคิดว่าจะเป็นซุปเปอร์สตาร์” ไมเคิลเกลียดโจ พ่อของเขาและกล่าวว่าพ่อตีเขาตอนเด็ก ซึ่งโจปฏิเสธเสมอ แต่มาร์ลอนยืนยัน “พ่อตีพวกเราหลายครั้ง ผมรู้สึกไม่พอใจ การอบรมสั่งสอนแบบนี้ไม่ใช่เรื่องผิดปกติในระแวกบ้านเราแต่มันเป็นสิ่งไม่ถูกต้อง” มาร์ลอนเชื่อว่าการตีส่งผลร้ายต่อความมั่นใจในตัวเองของไมเคิลและการปกป้องตัวเขาเอง “มันส่งผลต่อคุณ ทำให้คุณเป็นคนไม่กล้าเผชิญหน้าผู้คน เมื่อพวกเขาไม่พอใจ ทำให้คนอื่นมาหาผลประโยชน์จากคุณ” มาร์ลอน ตีโต้ เจอร์แมนและเแจ็กกี้ได้ถ่ายรายการเรียลลีตี้ซึ่งวางแผนว่าจะออกอากาศหลังงานศพ “เราเริ่มถ่ายทำกันตั้งแต่เดือนกุมภา เป็นรายการที่วางแผนมานานแล้ว ผมคิดว่าเป็นไปได้ที่พวกเราจะมาร่วมกันทำเพลงเพื่อรำลึกถึงไมเคิล” ตั้งแต่ไมเคิลตายไป ทุกเช้าจะมีนกฮัมมิ่งเบิร์ดตัวน้อยมาที่ระเบียงที่มาร์ลอนนั่งเป็นประจำ นกตัวนี้มา5ครั้งแล้ว ครั้งสุดท้ายที่นกมา เขาพูดกับนกว่า “โอเคไมเคิล เป็นยังไงบ้าง หวังว่าคงสบายดีนะ” และเขาคิดว่าไมเคิลต้องสบายดี “ในใจผม ผู้รู้ว่าไมเคิลไปสู่สุขคติแล้ว” --จบแล้วจ้า ขอบคุณที่ติดตาม--- แก้ไขเมื่อ 01 ก.ย. 52 16:18:20 จากคุณ : Snow Crystal เขียนเมื่อ : 1 ก.ย. 52 15:05:24

ความคิดเห็นที่ 18   ขอบคุณ จขกท ค่ะ สำหรับข่าวและคำแปล จากคุณ : sweetietum เขียนเมื่อ : 1 ก.ย. 52 15:30:36

ความคิดเห็นที่ 19   ขอบคุณสำหรับคำแปลค่ะ อ่านถึงตรงที่บอกว่ามีนกฮัมมิ่งเบิร์ดบินมา  แล้วมาร์ลอนพูดกับนกเหมือนจะสื่อกับไมเคิล น้ำตาไหลเลย เศร้าค่ะ จากคุณ : แม่น้ำนิรันดร์ เขียนเมื่อ : 1 ก.ย. 52 15:47:24

ความคิดเห็นที่ 20 ขอบคุณSnow Crystal สำหรับข่าวและคำแปล Q_Q . จากคุณ : RockwithU เขียนเมื่อ : 1 ก.ย. 52 15:56:27

ความคิดเห็นที่ 21 ในจำนวนพี่น้องของไมเคิล เราชอบมาร์ลอนที่สุดเลย ตั้งแต่งาน public funeral ที่มาร์ลอนพูดถึงไมเคิล แม้ว่าไมเคิลจะปลอมตัวยังไง เขาก็จำไมเคิลได้ ไมเคิลเป็นน้องชายเขา รู้สึกว่าเขาสนิทกันจริงๆ ทั้งเรื่องรองเท้าที่ไมเคิลไปไหนก็ใส่คู่เดียว ทั้งตลกทั้งซึ้ง และซึ้งมากตอนที่เขาฝากทักทายแฝดเขาด้วย เราว่าเขาก็จิตใจอ่อนโยนเหมือนกัน อ่านในบอร์ดแฟนคลับ เขาว่ามาร์ลอน ตีโต้ เจเน็ท เป็นพี่น้องที่จริงใจและไม่เคยหวังผลประโยชน์จากไมเคิล แอบไม่ค่อยชอบเจอแมนที่อยากให้ไมเคิลฝังที่เนเวอร์แลนด์ ใครๆก็รู้ว่า ไมเคิลไม่ชอบเนเวอร์แลนด์หลังจากเรื่องคดี และเรื่องที่ถูกตำรวจบุกค้น จากคุณ : Snow Crystal เขียนเมื่อ : 1 ก.ย. 52 16:16:48

ความคิดเห็นที่ 22   ^ ^ ^ เหมือนเจอแมนไม่ค่อยชอบเฮียเพราะเฮียได้เป็นนักร้องนำวงแจ็คสันไฟว์แทนเค้าซึ่งเค้าเคยเป็นอยู่ก่อนอ่ะใช่ป่าว จากคุณ : sweetietum เขียนเมื่อ : 1 ก.ย. 52 16:48:17

ความคิดเห็นที่ 23 ขอบคุณสำหรับ ค่ะ และก็คำแปลค่ะ อิอิ อ่านแล้ว คิดถึงไมเคิลจังเลย จากคุณ : Whisper_i-luvU เขียนเมื่อ : 1 ก.ย. 52 17:20:07

ความคิดเห็นที่ 24 แก้ไขเมื่อ 02 ก.ย. 52 04:39:49 แก้ไขเมื่อ 01 ก.ย. 52 17:40:16 จากคุณ : mymac เขียนเมื่อ : 1 ก.ย. 52 17:34:56

ความคิดเห็นที่ 25 คุณ sweetietum เราก็ไม่รู้เหมือนกัน เพิ่งมาตามอ่านข่าวจริงๆก็หลังไมเคิลจากไป เพิ่งมาชอบ ชื่นชม ก็ตอนไม่มีโอกาสเห็นเขามีชีวิตอีกแล้ว จากคุณ : Snow Crystal เขียนเมื่อ : 1 ก.ย. 52 18:12:54

ความคิดเห็นที่ 26 ขอบคุณสำหรับข่าวและคำแปลนะคะ จากคุณ : NattMJ (jian1975) เขียนเมื่อ : 1 ก.ย. 52 20:51:30

ความคิดเห็นที่ 27   "ผมจำำได้ว่าคำพูดสุดท้ายที่ผมพูดกับไมเคิล คือ พี่รักน้องนะ และไมเคิลก็จะตอบกลับมาเสมอว่า ผมรักพี่มากกว่า และนั่นคือคำพูดสุดท้ายที่ไมเคิลพูดกับผม" T_______________T ขอบคุณสำหรับข่าวและคำแปลค่ะ แก้ไขเมื่อ 01 ก.ย. 52 21:06:27 จากคุณ : พี่ชายชื่อฮิเดะ เขียนเมื่อ : 1 ก.ย. 52 21:06:12

ความคิดเห็นที่ 28   ขอบคุณ คุณSnow Crystal มากๆสำหรับข่าวและคำแปล อ่านจบแล้วเศร้าเลยค่ะ เฮ้อ คุณSnow Crystal ตามอ่านข่าวจากที่ไหนบ้างอะค่ะ จะได้ตามไปอ่านบ้าง^^ จากคุณ : abc (catky) เขียนเมื่อ : 1 ก.ย. 52 21:10:27

ความคิดเห็นที่ 29 ขอบคุณมากๆสำหรับข่าวและคำแปลค่ะ อ่านแล้วก็...T___________T รักเสมอนะไมเคิล จากคุณ : บวรจ้า เขียนเมื่อ : 1 ก.ย. 52 21:25:20

ความคิดเห็นที่ 30   ขอบคุณค่ะ .. พูดไม่ออกเลย .. TT^T วันนี้เศร้ามากกก จากคุณ : freelyz01 เขียนเมื่อ : 1 ก.ย. 52 21:34:16

ความคิดเห็นที่ 31 ขอบคุณสำหรับคำแปลค่ะ น้องปารีสช่างมีจิตใจอ่อนโยนเหมือนคุณพ่อจริงๆ จากคุณ : ต้าปิ่ง เขียนเมื่อ : 1 ก.ย. 52 21:48:10

ความคิดเห็นที่ 32 ขอบคุณสำหรับบทความและคำแปลค่ะ.....อืมม...ความรักของพี่น้องนะ...เฮ้อ.... ปล. แต่เราสงสัยอย่างนึงอ่ะทำไมต้องใส่วิกให้ด้วยอ่ะ จากคุณ : แตมมี่ เขียนเมื่อ : 1 ก.ย. 52 21:49:48

ความคิดเห็นที่ 33 ขอบคุณSnow Crystal มากๆนะคะ จากคุณ : มีน ธันวา เขียนเมื่อ : 1 ก.ย. 52 22:31:00

ความคิดเห็นที่ 34 คุณแตมมี่  ก็นิติเวชเค้าผ่าตัดศีรษะเอาสมองไปตรวจงัยจ๊ะ จากคุณ : . (SIMONBIRCH) เขียนเมื่อ : 1 ก.ย. 52 22:49:22

ความคิดเห็นที่ 35 เออเนอะเราลืมไปเลยว่าร่างไมเคิลผ่านนิตเวชมาแล้ว...ลืมซะสนิทเลย...ขอบคุณคุณ SIMONBIRCH ค่ะ จากคุณ : แตมมี่ เขียนเมื่อ : 1 ก.ย. 52 22:59:33

ความคิดเห็นที่ 36 LOVE YOU MJ จากคุณ : ลาช่า เขียนเมื่อ : 1 ก.ย. 52 23:59:04

ความคิดเห็นที่ 37   ขอบคุณ จขกท. ค่ะ สำหรับข่าวและคำแปล ขอบคุณ Marlon มาก ๆ ที่เป็นพี่ที่ดีของไมเคิลเสมอมา จากคุณ : Aom AW&MJ เขียนเมื่อ : 2 ก.ย. 52 00:37:40

ความคิดเห็นที่ 38 ขอบคุณนะคะที่เอาเรื่องดีๆ มาให้อ่าน เราอยากมีพี่น้องดีๆแบบนี้้ีบ้างจังเลย หวังว่าเค้าที่อยู่บนสวรรค์จะได้ยิน จากคุณ : goldenfish (goldenfisho) เขียนเมื่อ : 2 ก.ย. 52 01:28:49

ความคิดเห็นที่ 39   เพิ่งได้เข้ามาอ่านอ่ะค่ะ ... ซึ้งมาก ๆ T-T* ขอบคุณคุณ Snow Crystal สำหรับทั้ง link และคำแปลนะคะ ขอบคุณจริง ๆ อ่านแล้วรู้สึกชอบ Marlon เหมือนกัน ... แอบปลื้มน้องปารีสจัง ช่างเป็นเด็กที่มีจิตใจงดงามเหมือนพ่อไม่มีผิด น้องปริ๊นซ์กับน้องแบล็งเค็ทนี่ก็ซนได้พ่อเหมือนกันรึป่าวเนี่ยะ แต่อ่านถึงตอนสุดท้ายเรื่องนกฮัมมิงเบิร์ดตัวนั้น ... น้ำตาเล็ดเลยอ่ะ T^T ชอบประโยคนี้จัง ... His shell will be gone but his spirit lives on จากคุณ : P.S.T. (Pretty Small Thing) เขียนเมื่อ : 2 ก.ย. 52 08:49:21

ความคิดเห็นที่ 40 คุณ abc (catky) เราเข้าเว็บ http://www.mjfanclub.net/mjforum373/index.php อ่านตรง news / tabloid junkie/ fan discussions เค้าแยกเป็นหมวดหมู่ดี อ่านประจำ http://www.etonline.com http://www.tmz.com http://www.msnbc.msn.com/id/31566151/ns/entertainment-music ถ้ามีข่าวอะไรน่าสนใจจะมาแปะอีกนะจ๊ะ จากคุณ : Snow Crystal เขียนเมื่อ : 2 ก.ย. 52 10:03:29

ความคิดเห็นที่ 41   ขอบคุณ คุณSnow Crystal อีกรอบนะคะ อุตส่าห์มาตอบเราด้วย ซึ้ง จากคุณ : abc (catky) เขียนเมื่อ : 2 ก.ย. 52 20:32:59