ความคิดเห็นที่ 1 In 1993, controversy about Michael's skin color was at an all-time high. "He kept getting whiter and whiter and whiter, and nobody understood why," Oprah says. "Anybody who knew Michael Jackson will tell you that when you are up close to him—he had absolutely no pigmentation in his skin—you are looking at his veins when you look at his hand. You are seeing through to the blue veins, and they're very, very apparent. At first that's a starling thing. Nobody ever talks about that, but it takes you aback at first. You're looking at a person who is almost translucent." In one of the most memorable moments of Oprah's interview, Michael told her he had a skin disorder that destroyed the pigmentation of his skin. The disease, called vitiligo, was in his family, Michael said. "It is something I cannot help. When people make up stories that I don't want to be who I am, it hurts me," he said. "It's a problem for me. I can't control it. But what about all the millions of people who sit in the sun to become darker, to become other than what they are. Nobody says nothing about that." Michael told Oprah that he used makeup to control blotchiness, but that he had never purposely bleached his skin. This was one of Michael's most defensive moments of the interview, Oprah says. "You can see he got a little testy there about the skin issue. I think in 1993 nobody understood what it was. Nobody knew anything about vitiligo," she says. "I could see that that was one of the areas that was very sensitive to him, obviously." ----------------------------------------------------------------- Plastic surgery was another much-talked about issue surrounding Michael Jackson in the early 1990s. His appearance had changed so much since he was a child star that there was much speculation about the work he'd had done. When Oprah broached the subject, Michael wouldn't get into specifics but said he'd had less plastic surgery than people thought. "You can count them on two fingers," he said. Michael did admit to having a nose job, but said most of the cosmetic surgery rumors were false. "I have never had my cheekbones done, never had my eyes done, never had my lips done," he said. Regarding his appearance at the time, Michael said he wasn't pleased. "I try not to look in the mirror," he said. "I'm never happy with what I see." จากคุณ : แอร์ริโกะ เขียนเมื่อ : 17 ก.ย. 52 18:37:37

ความคิดเห็นที่ 2 In 1994, Michael married Lisa Marie Presley. The marriage lasted only two years, but when Michael talked with Oprah a year before his nuptials, everyone was wondering if—and who—he dated. Michael told Oprah that he was in a relationship with Brooke Shields. Then Oprah asked the question even she says was embarrassing: "Are you a virgin?" Michael never answered. "I'm a gentleman," he said. "That's something that's private, that shouldn't be spoken about openly. You can call me old-fashioned if you want, but to me that's very personal." Oprah says she hadn't been sure how, or if, she was going to ask Michael about sex, but she knew it was something audiences wanted to know. "There was this sort of mystery about him. At the same time he's holding his crotch and wants to rock with us all night, we don't know who he's rocking with. That's what you really want to know," she says. -------------------------------------------------------------- If there's one dance move for which Michael will forever be remembered, it's unquestionably the moonwalk. During the interview, Oprah got a private lesson in the signature move. "The moonwalk came from these beautiful black kids who live in the ghettos in the inner cities, who are brilliant. They just have that natural talent for dancing any of the new, hot dances. They come up with these dances," Michael said. "All I did was enhance the dance." "We all remember when we first saw the Motown 25 special and Michael Jackson moonwalked. There are seminal moments in our life, and that's one of them," Oprah says. "So to be able to see him do that live and experience it, that was a little 'thriller' for me." จากคุณ : แอร์ริโกะ เขียนเมื่อ : 17 ก.ย. 52 18:39:16

ความคิดเห็นที่ 3 Toward the end of her interview with Michael, Oprah talked with him about his life's purpose. "To give in the best way I can through song and through dance and through music," Michael said. "I believe that all art has as its ultimate goal the union between the material and the spiritual, the spiritual and the divine. I believe that that's the reason for the very existence of art, and I feel I was chosen as an instrument to give music and love and harmony to the world." In the closing moments of the special, Oprah asked Michael what he wanted to be most known for. Though Michael thought she was asking what he wanted to be remembered for, Oprah quickly corrected him. She, like Michael's fans, never imagined he would be gone so soon. "Obviously, if I had known that we'd be sitting here talking about the memory of Michael Jackson, I would have let him finish what he wanted to be remembered for," she says. "What I remember about Michael the most is that he was a person who was passionate about life. He was really passionate about his work and [passionate about] his desire to try to be a good force in the world." ref: http://www.oprah.com/article/oprahshow/20090901-tows-michael-jackson/7 แก้ไขเมื่อ 17 ก.ย. 52 18:43:14 จากคุณ : แอร์ริโกะ เขียนเมื่อ : 17 ก.ย. 52 18:40:19

ความคิดเห็นที่ 4 ไม่มีใครอยากให้แปล แต่อยากแปลเอง อิอิ ครึ่งแรก ของ part แรกค่ะ ใครสนใจร่วมแจม ยกมือโลด __________________________________________ วันที่ 10 กุมภาพันธ์ 1993 โอปราห์ได้รับโอกาสให้ทำการสัมภาษณ์ไมเคิล แจ๊คสันซึ่งเป็นรายการโชว์ที่มีผู้ชมมากที่สุดในประวัติศาสตร์ ไมเคิล นักร้องดังที่รักษาความเป็นส่วนตัวของเขา ผู้ซึ่งปฏิเสธการให้สัมภาษณ์มาตลอด 14 ปี รายการที่ไม่เคยมีใครเคยได้ชมมาก่อน ซึ่งออกอากาศก่อนที่จะมีการตั้งข้อกล่าวหาไมเคิลเกี่ยวกับการละเมิดทางเพศ เรียกผู้ชมได้มากกว่า 90 ล้านคนทั่วโลก “มันเป็นการสัมภาษณ์ที่ฉันตื่นเต้นที่สุด ตั้งแต่เคยทำมา” โอปราห์เปิดใจ “มันเป็นการทำรายการสัมภาษณ์ที่มีผู้ชมมากที่สุด ตั้งแต่ที่ฉันเคยทำมา” เป็นเวลา 16 ปีหลังจากช่วงเวลาที่แสนพิเศษ และเป็นเวลาเพียงไม่กี่เดือนหลังจากที่ไมเคิล แจ๊คสันเสียชีวิต ก่อนเวลาอันควร โอปราห์เผยความรู้สึกของเธออย่างตรงไปตรงมา ผ่านการสนทนาในครั้งนี้ หลังจากที่เธอทำการสัมภาษณ์ไมเคิล โอปราห์ทำการสัมภาษณ์อีกมากกว่าพันครั้ง แต่เธอยังคงจดจำได้ดีถึงความรู้สึกตื่นเต้นเมื่อเธอเดินทางไปถึงบ้านของราชาเพลงป๊อป “ตอนที่พวกเราเดินทางมาถึงประตู เนเวอร์แลนด์ มันเหมือนกับช่วงเวลาในหนังสือ พ่อมดแห่งอ๊อซ” เธอเล่า “มันเหมือนกับว่าเรากำลังจะเดินทางไปพบกับพ่อมด พวกเราไม่อยากจะเชื่อเลย ฉันรู้สึกเหมือนกลับกลายเป็นเด็กอีกครั้ง” ระหว่างการสัมภาษณ์ ไมเคิลเล่าให้โอปราห์ฟังถึงวัยเด็กที่หายไปของเขา “ผมจำได้ว่า ตอนนั้นผมกำลังเดินทางไปที่ห้องอัดเสียง มีสวนสาธารณอยู่อีกฟากถนน ผมมองเห็นเด็ก ๆ เล่นกัน และผมก็ร้องไห้ ผมรู้สึกเศร้า ที่ผมต้องไปทำงานแทนที่จะได้เล่นเหมือนเด็ก ๆ คนอื่น” เขากล่าว “ผู้คนต่างพากันสงสัย ว่าทำไมผมถึงชอบอยู่กับเด็ก ๆ มันก็เป็นเพราะว่า ผมพบอะไรบางอย่างที่ผมไม่เคยมีในชีวิต ในตัวพวกเขา” ดิสนีย์แลนด์ สวนสนุก ที่เล่นเกมส์ ผมชอบที่พวกนี้ เพราะตอนที่ผมเป็นเด็ก ผมต้องทำแต่ งาน งาน งานและ งาน นึกย้อนกลับไป โอปราห์กล่าวว่า เธอจำได้ว่าในตอนนั้น เธอรู้สึกชอบไมเคิลขึ้นมาทันที “เขาเป็นคนที่น่าคบ และฉันบอกคุณได้เลยว่า ฉันชอบเขาจริง ๆ นะ” เธอกล่าว หลังจากการสัมภาษณ์ ฉันก็คิดว่าเราน่าจะเป็นเพื่อนกันได้ เพราะฉันรู้สึกว่าเขาช่างเป็นคนที่จริงใจจริง ๆ” จากคุณ : แอร์ริโกะ เขียนเมื่อ : 17 ก.ย. 52 19:22:31

ความคิดเห็นที่ 5   น้องแอร์เอ๋ย...... เจ๊อยากช่วยหนูสุด ๆ ช่วยเป็นกำลังใจไง หึ.....หึ...... แปลไปโลดเลยจ๊ะ แอบกินแรงน้องนะเนี่ย ร๊ากกกกกกกกกกกน้องสุด ๆ จากคุณ : พีบี เขียนเมื่อ : 17 ก.ย. 52 19:34:47 A:115.67.148.108 X: TicketID:229494

ความคิดเห็นที่ 6 ความสัมพันธ์ระหว่างไมเคิล กับพ่อของเขา โจ แจ๊คสัน กลายเป็นพาดหัวข่าวอยู่นานหลายปี ระหว่างการสัมภาษณ์ ไมเคิลเปิดใจกับโอปราห์ถึงหัวข้อที่แสนละเอียดอ่อนนี้ เขาเล่าว่า พ่อของเขาเรียกเขาว่า เด็กน่าเกลียด ตีเขา และทำให้เขากลัว “ผมรักพ่อของผม แต่ในขณะเดียวกัน ผมไม่เข้าใจเขา บางครั้งผมก็โกรธ ผมไม่เข้าใจเขา อย่างที่ผมอยากจะเข้าใจ” เขาเล่า “แม่ของผมเป็นแม่ที่วิเศษที่สุด สำหรับผม แม่เป็นคนที่สมบูรณ์แบบ ผมแค่หวังว่าผมจะเข้าใจพ่อของผม” เมื่อโอปราห์ถามไมเคิลว่า ทำไมพ่อ (โจ) ถึงตีเขา ไมเคิลตอบคำถามด้วยความไม่แน่ใจ “ผมไม่รู้เหมือนกันว่าเป็นเพราะอะไร บางคนอาจจะคิดว่าพ่อเป็นคนที่เจ้าระเบียบแบบสุด ๆ หรืออะไรก็แล้วแต่ แต่เขาเป็นคนเข้มงวดมาก พ่อเป็นคนดุ แค่มองมา ก็ทำให้ผมกลัวแล้ว” ไมเคิลกล่าว “เคยมีบางครั้งที่พ่อเดินมามองผม และผมก็รู้สึกไม่สบาย ผมจะเริ่มรู้สึกผะอืดผะอม” โจ แจ๊คสัน ปฎิเสธมาตลอด ว่าเขาเคยทำร้ายไมเคิล โอปราห์เผยว่า เธอรู้สึกประหลาดใจ ที่ไมเคิลเปิดเผยเรื่องของพ่อเขาอย่างตรงไปตรงมา “แม้กระทั่งตอนที่ไมเคิลพยายามทำให้พ่อของเขาใจเย็นลง โดยการพูดว่า ‘ได้โปรด อย่าโกรธผมเลยนะ โจเซฟ’ เห็นได้ชัดเลยว่า เขายังรู้สึกกลัว และเจ็บปวด” เธอเล่าต่อว่า “เมื่อมองเข้าไปที่ตาของเขา ตอนที่เขาพูดถึงพ่อของเขา ตาของเขาจะ ล่อกแล่กไปมา” แก้ไขเมื่อ 17 ก.ย. 52 21:27:08 จากคุณ : แอร์ริโกะ เขียนเมื่อ : 17 ก.ย. 52 19:35:08

ความคิดเห็นที่ 7 ในปี 1993 ประเด็นเรื่องสีผิวของไมเคิล เป็นที่ถกเถียงกันในสังคม “เขาดูขาวขึ้นเรื่อย ๆ ขาวขึ้น ขาวขึ้น และขาวขึ้น ไม่มีใครสักคนเข้าใจว่าเป็นเพราะอะไร” โอปราห์กล่าว “ใครก็ตามที่รู้จักกับไมเคิล แจ๊คสัน จะบอกกับคุณว่า ถ้าคุณเข้าไปใกล้เขา คุณจะเห็นเลยว่า ผิวเขาไม่มีเม็ดสีอยู่เลย ถ้าคุณมองไปที่มือของเขา ก็เหมือนกับคุณกำลังมองเส้นเลือดของเขาอยู่ คุณจะมองเห็นเส้นเลือดสีเข้ม ๆ และมันก็ชัดเจนมากทีเดียว มันน่าตกใจทีเดียว เมื่อเห็นเป็นครั้งแรก ไม่มีใครสักคนเคยพูดถึงมัน มันจะทำให้คุณรู้สึกงงงวยในช่วงแรก เหมือนกับว่าคุณกำลังมองคนที่ร่างกายเกือบจะโปร่งแสง” อีกช่วงเวลาที่น่าจดจำจากการสัมภาษณ์ของโอปราห์ ไมเคิลบอกกับเธอว่า เขามีปัญหาที่ผิวหนัง ซึ่งมันจะทำลายเม็ดสีที่ผิวของเขา มันเป็นโรคหนึ่งที่มีชื่อว่า “Vitiligo (โรคด่างขาว)” ซึ่งเป็นกรรมพันธุ์มาจากครอบครัวของเขา ไมเคิลกล่าว “มันเป็นเรื่องที่ผมก็ทำอะไรไม่ได้จริง ๆ ตอนที่ผู้คนพากันกุข่าว ว่าผมไม่อยากเป็นในสิ่งที่ผมเป็น มันทำให้ผมเจ็บปวดมาก” เขาเผย “มันเป็นปัญหาของผมนะ ผมควบคุมมันไม่ได้ แต่ทำไมตอนที่คนเป็นล้าน ๆ คนพากันนั่งตากแดด เพื่อให้ตัวเองมีสีผิวที่เข้มขึ้น กว่าผิวที่แท้จริงของพวกเขา ทำไมไม่มีคนพูดอะไรกันบ้างเลยล่ะ” ไมเคิลบอกกับโอปราห์ว่า เขาเคยใช้เครื่องสำอางตกแต่งรอยด่าง แต่เขาไม่เคยฟอกสีผิวของตัวเอง” ช่วงนี้ เป็นช่วงหนึ่งที่ไมเคิลพยายามอธิบายความจริง โอปราห์กล่าวว่า “คุณจะเห็นได้เลยว่า เขาค่อนข้างโมโหเกี่ยวกับประเด็นเรื่องผิวของเขา ฉันคิดว่าในปี 1993 ไม่มีใครเข้าใจ และไม่มีใครรู้ว่า โรคด่างขาวคืออะไร” เธอบอก “ฉันบอกได้เลยว่า นี่เป็นประเด็นหนึ่งที่ค่อนข้างละเอียดอ่อนสำหรับเขา” แก้ไขเมื่อ 17 ก.ย. 52 20:32:17 แก้ไขเมื่อ 17 ก.ย. 52 20:25:57 จากคุณ : แอร์ริโกะ เขียนเมื่อ : 17 ก.ย. 52 19:48:16

ความคิดเห็นที่ 8   แจมจ้า แต่แจมอ่านนะคะคุณแอร์ อยากช่วยแต่กลัวแปลแล้วออกทะเลค่ะ แก้ไขเมื่อ 17 ก.ย. 52 19:53:21 จากคุณ : แม่น้ำนิรันดร์ เขียนเมื่อ : 17 ก.ย. 52 19:52:53

ความคิดเห็นที่ 9 การทำศัลยกรรมพลาสติกก็เป็นอีกหัวข้อหนึ่งที่ทุกคนพากันพูดถึงไมเคิล แจ๊คสันในช่วงต้น 1990 รูปลักษณ์ของเขาเปลี่ยนแปลงไปมาก นับจากตอนที่เขายังเป็นเด็ก มีการคาดเดากันไปต่าง ๆ นานา ว่าเขาทำอะไรกับตนเอง เมื่อโอปราห์เริ่มถามถึงประเด็นนี้ ไมเคิลพยายามจะไม่ตอบอย่างเฉพาะเจาะจง เพียงแต่เปิดเผยว่า เขาทำศัลยกรรมน้อยกว่าที่ทุกคนคิด “คุณสามารถจำนวนได้เลย ด้วยนิ้วเพียงสองนิ้ว” เขากล่าว ไมเคิลยอมรับว่าเขาทำศัลยกรรมจมูก และกล่าวว่า ข่าวลือเกี่ยวกับการทำศัลยกรรมส่วนใหญ่ของเขานั้นไม่เป็นความจริง “ผมไม่เคยทำโหนกแก้ม ไม่เคยทำตา ไม่เคยทำริมฝีปาก” เขากล่าว เมื่อกล่าวถึงรูปลักษณ์ของเขาในตอนนั้น ไมเคิลก็บอกว่า เขายังไม่พอใจ “ผมไม่ค่อยมองกระจก” ไมเคิลเผย “ผมไม่ค่อยชอบในสิ่งที่ผมเห็น” จากคุณ : แอร์ริโกะ เขียนเมื่อ : 17 ก.ย. 52 19:54:25

ความคิดเห็นที่ 10 ในปี 1994 ไมเคิลแต่งงานกับลิซ่า มารีย์ เพรสลีย์ การแต่งงานครั้งนี้ยาวนาน 2 ปี แต่เมื่อครั้งที่ไมเคิลให้สัมภาษณ์กับโอปราห์ เป็นช่วงเวลาก่อนหน้าพิธีวิวาห์ของเขาเพียงหนึ่งปี ในตอนนั้น ผู้คนพากันสงสัยว่า ไมเคิลออกเดทหรือไม่ และใครกันนะที่เขาเดทด้วย ไมเคิลเปิดเผยกับโอปราห์ว่า ตอนนั้นเขาคบกับบรู๊ค ชิลด์ หลังจากนั้นโอปารห์ก็ถามคำถามที่ทำให้แม้แต่เธอที่เป็นคนถามก็อายว่า “คุณยังบริสุทธิ์อยู่ไหม” ไมเคิลไม่เคยตอบคำถามนั้น “ผมเป็นสุภาพบุรุษ” เขาบอกแค่นั้น “มันเป็นเรื่องส่วนตัวที่ไม่ควรเอามาเปิดเผย คุณจะเรียกผมว่าเป็นพวกหัวโบราณก็ได้ แต่สำหรับผม มันเป็นเรื่องส่วนตัว โอปราห์กล่าวว่า เธอไม่ค่อยแน่ใจว่า เธอควรจะถาม และจะถามไมเคิลอย่างไร เกี่ยวกับเรื่องของเซ็กซ์ แต่เธอรู้ว่านี่เป็นเรื่องที่ผู้ชมทุกคนอยากจะรู้ “เรื่องทำนองนี้เป็นประเด็นที่น่าสนใจของไมเคิล ว่าตอนที่เขาเอามือกุมเป้า และต้องการที่จะสนุกกับพวกเราทั้งคืน แต่พวกเราไม่รู้ว่า เขากำลังสนุกอยู่กับใคร นั่นคือสิ่งที่คุณอยากจะรู้” เธอกล่าว แก้ไขเมื่อ 17 ก.ย. 52 20:46:00 จากคุณ : แอร์ริโกะ เขียนเมื่อ : 17 ก.ย. 52 20:02:55

ความคิดเห็นที่ 11 แอร์ริโกะสู้ๆนะคะ จากคุณ : RockwithU เขียนเมื่อ : 17 ก.ย. 52 20:12:24

ความคิดเห็นที่ 12 มาขอบคุณทีมแปลจ้า  ปูเสื้ออ่านอย่างเพลินใจ จากคุณ : มีน ธันวา เขียนเมื่อ : 17 ก.ย. 52 20:13:44

ความคิดเห็นที่ 13 หากจะมีท่าเต้นสักท่าของไมเคิล ที่จะเป็นที่จดจำตลอดไป ก็ไม่ต้องสงสัยเลยว่า ท่านั้นก็คือท่า “มูนวอล์ค” นั่นเอง ระหว่างการสัมภาษณ์ ไมเคิลทำการสอนท่าประจำตัวของเขาให้กับโอปราห์ “ท่ามูนวอล์ค มีที่มาจากเด็กผิวสีที่น่ารักมาก ๆ กลุ่มหนึ่ง ที่อาศัยอยู่ในหมู่บ้านของชนกลุ่มน้อยในตัวเมืองชั้นใน เด็กกลุ่มนี้วิเศษมาก พวกเขามีพรสวรรค์ด้านการเต้น พวกเขาเต้นท่าใหม่ ๆ ที่ร้อนแรง และมันก็กลายเป็นท่านี้” ไมเคิลกล่าวต่อว่า “สิ่งที่ผมทำก็คือ แค่พัฒนาท่าเต้นนี้เท่านั้น” พวกเราทุกคนยังจำได้ดี ในรายการพิเศษ ฉลอง Motown ครบรอบ 25 ปี  และไมเคิล แจ๊คสันทำการมูนวอล์ค ถ้าจะมีช่วงเวลาไหนที่ทำให้เรารู้สึกตื่นเต้นไปกับเรื่องใหม่ ๆ แล้วล่ะก็ นี่ก็เป็นอีกครั้งหนึ่ง ที่เรารู้สึกแบบนั้น” โอปราห์กล่าวต่อว่า “การที่ได้เห็นเขาเต้นท่านั้น สด ๆ ด้วยตัวเอง ทำให้ฉันรู้สึก “ตื่นเต้น” (“Thriller”) จริง ๆ ค่ะ” แก้ไขเมื่อ 17 ก.ย. 52 20:28:20 จากคุณ : แอร์ริโกะ เขียนเมื่อ : 17 ก.ย. 52 20:14:20

ความคิดเห็นที่ 14 ในช่วงท้ายของรายการ โอปราห์ถามไมเคิลว่า เขาอยากให้คนรู้จักเขาในแง่ใดมากที่สุด ในตอนนั้น ไมเคิลคิดว่า คำถามของโอปราห์คือ เขาอยากจะถูกจดจำในเรื่องใดมากที่สุด โอปราห์แก้ความเข้าใจของเขาอย่างรวดเร็ว โอปราห์ก็เหมือนแฟนคนอื่น ๆ ของไมเคิล ทีไม่เคยคิดว่า เขาจะจากพวกเราไปเร็วถึงเพียงนี้ “แน่นอน ถ้าฉันรู้ว่าวันนี้เราจะนั่งพูดกันถึงความทรงจำที่มีต่อไมเคิล แจ๊คสัน วันนั้นฉันจะปล่อยให้เขาพูดจนจบว่าเขาอยากให้ทุกคนจดจำเขาแบบไหน” โอปราห์กล่าว “สำหรับฉัน ความทรงจำของฉันที่มีต่อไมเคิลก็คือ เขาเป็นคนที่ดื่มด่ำ กับชีวิต ไมเคิลมีความสุขกับงานของเขา กับความปรารถนาที่ว่า เขาจะเป็นส่วนหนึ่งที่ทำให้โลกนี้เปลี่ยนแปลงไปในทางที่ดีขึ้น” จากคุณ : แอร์ริโกะ เขียนเมื่อ : 17 ก.ย. 52 20:21:29

ความคิดเห็นที่ 15 จบแล้วค่า ส่วนตัวเราชอบดูรายการ โอปราห์มากเลย ถึงแม้เวลาบอกหลายคน ทุกคนจะทำหน้าแปลก ๆ ใส่เราก็ตาม เราดูคลิปการสัมภาษณ์ครั้งนี้ หลายครั้งมาก ๆ เลยค่ะ เพราะงั้นเราเลยอยากแปล ฮ่า ๆๆ หวังว่าจะเป็นประโยชน์บ้างนะคะ จากคุณ : แอร์ริโกะ เขียนเมื่อ : 17 ก.ย. 52 20:23:10

ความคิดเห็นที่ 16 ขอบคุณสำหรับคำแปลค่ะ คุณแอร์ริโกะ เก่งจังเลย จากคุณ : หอมจัง เขียนเมื่อ : 17 ก.ย. 52 20:37:02

ความคิดเห็นที่ 17 ขอบคุณแอร์ริโกะมากๆเลยค่ะ . รักทีมแปลของคลับเราที่สุดเลย จากคุณ : RockwithU เขียนเมื่อ : 17 ก.ย. 52 20:37:54

ความคิดเห็นที่ 18   ใคร? ใครทำหน้าแปลก ๆ ใส่หนูฮึ.... ให้มาทำให้เจ๊ดูทีดิ แบบเจ๊ ไม่ต้องทำ หน้าก็แปลกอยู่แล้ว มาเจอกันหน่อย เวลาเจ๊อยากล้างตา เจ๊ก็จะเลือกดูป้าโอนี่แหละ ชะงัดนักแล ใช้ได้ดีกว่าน้ำยาล้างตาอีก หึ......หึ....... ปล.เอาไว้เจ๊โหลดงานให้บรรดา ผ้าป่า MJ ช่วยกันแปลได้ป่ะ จากคุณ : พีบี เขียนเมื่อ : 17 ก.ย. 52 20:46:16 A:115.67.148.108 X: TicketID:229494

ความคิดเห็นที่ 19 งานไรเหรอคะ คุณ พีบี  (ทำหน้าฉงน สงสัย) จากคุณ : แอร์ริโกะ เขียนเมื่อ : 17 ก.ย. 52 20:58:50

ความคิดเห็นที่ 20   เก๊าะ หนังสือ moonwalk ของเฮียไง เจ๊อ่านไปบทเดียว ตาลาย วิงเวียน คล้ายตั้งครรภ์ 3 เดือน (แบบปลากัดไง) เจ๊จะตาสว่าง ก็แค่ฉากเลิฟซีน แหะ...แหะ.... เรื่องนี้ไม่ต้องอ่านก็เข้าใจ ซี๊ดดดดดดดดดดดด ให้บรรดาผ้าป่าสามัคคีมาช่วยกันอีกรอบดีมะ เจ๊กางเต้นท์รอหน้าบ้านนี่แหละ คนแรก............... จากคุณ : พีบี เขียนเมื่อ : 17 ก.ย. 52 21:06:07 A:115.67.148.108 X: TicketID:229494

ความคิดเห็นที่ 21 ขอบคุณสำหรับคำแปลนะค่ะ จากคุณ : MIMJ เขียนเมื่อ : 17 ก.ย. 52 21:07:27

ความคิดเห็นที่ 22 ยังไม่ได้อ่านเลยค่ะ Moonwalker มีไฟล์อยู่นานละ มันมีฉาก love scene ด้วยเหรอคะ ว้ากกกกกกกกก หน้าไหน ต้องไปหาดูละ ฮ่า ๆๆ ถ้าจะแปลหนังสือทั้งเล่มนี่ คงต้องใช้คนเยอะมากเลยค่ะที่จะช่วยกัน เพราะผ้าป่ากองที่ 2 นี่ A4 20 หน้า ใช้คนแปล 6 คน (รึป่าวนะ) นี่แปลเป็นภาษาไทยออกมาได้เกือบ 30 หน้า (อาจจะเป็นที่ font กับการจัดหน้า) ไม่รู้คนอื่นว่าไงนะคะ แง่บ ๆ จากคุณ : แอร์ริโกะ เขียนเมื่อ : 17 ก.ย. 52 21:12:19

ความคิดเห็นที่ 23   Chapter One – Just Kids With A Dream ---------------------------------------------------------------------------- I've always wanted to be able to tell stories, you know, stories that came from my soul. I'd like to sit by a fire and tell people stories - make them see pictures, make them cry and laugh, take them anywhere emotionally with something as deceptively simple as words. I'd like to tell tales to move their souls and transform them. I've always wanted to be able to do that. Imagine how the great writers must feel, knowing they have that power. I sometimes feel I could do it. It's something I'd like to develop. In a way, songwriting uses the same skills, creates the emotional highs and lows, but the story is a sketch. It's quicksilver. There are very few books written on the art of storytelling, how to grip listeners, how to get a group of people together and amuse them. No costumes, no makeup, no nothing, just you and your voice, and your powerful ability to take them anywhere, to transform their lives, if only for minutes. เอา paragraph แรก เรียกน้ำย่อยกันไปก่อนนะ แค่อ่านก็นึกถึงหน้าไมเคิลแล้ว เฮียแกน่ารัก โรแมนติก อบอุ่นจิง ๆ เอาเก็บไปตั้งทู้ใหม่ก็ดีนะ มาลงขันกัน นานก็ไม่เปนไร ไม่มีไรทำกันอยู่ละ ไม่มีลูกกวนตัว ปั๋วกวนใจ ปล.จากข่าวที่ว่า เฮียแกแต่งนิยายไว้ไง เจ๊อยากอ่านฉากเลิฟซีนของเฮีย อยากรู้เฮียแกจะบรรยายยยยย ยังไง ฮิ....ฮิ จากคุณ : พีบี เขียนเมื่อ : 17 ก.ย. 52 21:23:26 A:115.67.148.108 X: TicketID:229494

ความคิดเห็นที่ 24   โอ้มายก็อด ... แอร์ริโกะแปลคนเดียวยาวขนาดนี้เลยเหรอจ๊ะ ... อิอิ ขอบคุณมาก ๆ นะจ๊ะ ... ^^ สรุปว่า ... โอปร่าห์พูดแค่นี้เองเหรอคะ - -" แล้วที่เคยมีกรณีพิพาทกัน ไม่เคลียร์ให้เลยเหรอ ส่วน Moonwalk นี่ ... เราอ่านถึง Chapter 4 แล้วก็ยังไม่เห็นมีวี่แววว่าจะมี love scene นะคะ - -" (ไม่คิดว่าจะมีในบทถัด ๆ ไปด้วยอ่ะ) และมันก็ยาวมาก ๆ เลยด้วยค่ะ (113 หน้า ...) จากคุณ : P.S.T. (Pretty Small Thing) เขียนเมื่อ : 17 ก.ย. 52 21:33:25

ความคิดเห็นที่ 25   ตอนสมัย moonwalk เฮียแกแค่ 29 เองไง๊ ละอ่อนใสซื่อ เจ๊อยากอ่านนิยายของเฮีย ตอนเฮียมีเมียแล้วสอง ลูกสามน่ะ ฮี่ ๆๆ โอย...โรคหอบหื่นกำเริบอีกแล้ว จากคุณ : พีบี เขียนเมื่อ : 17 ก.ย. 52 21:41:38 A:115.67.148.108 X: TicketID:229494

ความคิดเห็นที่ 26 ตอนที่เราแปลกระทู้นี้ เราคิดถึงคุณ P.S.T. มากเลย แต่คุณ P.S.T. คงติดอยู่ที่กระทู้อื่น ๆ ไม่รู้จะไปตามที่ไหนอ่ะค่ะ แปลไปแปลมา ก็ยาวเยี่ยงนี้แหละค่ะ T_T แก้ไขเมื่อ 17 ก.ย. 52 22:00:04 จากคุณ : แอร์ริโกะ เขียนเมื่อ : 17 ก.ย. 52 21:59:43

ความคิดเห็นที่ 27 ขอบคุณมากๆๆๆๆๆๆๆๆเลยค่ะ ^^ จากคุณ : ซาจา เขียนเมื่อ : 17 ก.ย. 52 22:41:43

ความคิดเห็นที่ 28 ขอบคุณ คุณแอร์ริโกะมากๆค่ะ สำหรับคำแปล จากคุณ : mr.roof NOK MJ (MR.ROOF) เขียนเมื่อ : 17 ก.ย. 52 22:54:52

ความคิดเห็นที่ 29 ขอบคุณมากจ้า จากคุณ : อยากเป็นไกด์ ใครช่วยที เขียนเมื่อ : 17 ก.ย. 52 23:18:05

ความคิดเห็นที่ 30 ขอบคุณมากๆครับ ^^ จากคุณ : hoobastank เขียนเมื่อ : 18 ก.ย. 52 02:05:22

ความคิดเห็นที่ 31 รักคุณ แอร์ริโกะ มากมายคะ จากคุณ : superturbo เขียนเมื่อ : 18 ก.ย. 52 08:16:12

ความคิดเห็นที่ 32 รักทุกคนค่ะ   แปลมาให้อ่านชื่นใจจริงๆ   จากคุณ : เราอุ้มนะ เขียนเมื่อ : 18 ก.ย. 52 08:31:05

ความคิดเห็นที่ 33 สุดยอดจริง ๆ เลย ขอบคุณค่ะ จากคุณ : NattMJ (jian1975) เขียนเมื่อ : 18 ก.ย. 52 09:11:57

ความคิดเห็นที่ 34 ขอบคุณจ้าที่โพสทั้งข่าวและใจดีแปลให้อีกด้วย อยากดูรายการโอปร่าตอนนี้จัง เมื่อไรจะได้ดูหนอ จากคุณ : Snow Crystal เขียนเมื่อ : 18 ก.ย. 52 10:01:52

ความคิดเห็นที่ 35   คลิปของ Oprah มาแล้วค่ะ แปะไม่เป็นอะ แต่ search ว่า Oprah Remembers Michael Jackson ค่ะ จากคุณ : First of May เขียนเมื่อ : 18 ก.ย. 52 11:28:14

ความคิดเห็นที่ 36   ขอบคุนมากค่า ทั้งข่าวทั้งคำแปล สุดยอดมาก !!! --- ** ป้าแกออกความเหนน้อยไปนิดนะ -_-" LOVE MJJ จากคุณ : wow เขียนเมื่อ : 18 ก.ย. 52 11:53:40 A:203.144.180.65 X:

ความคิดเห็นที่ 37   ขอบคุณมากค่าาา.. น่ารักจัง..คุณแอร์ริโกะ จะรอ..แปลต่อไปเรื่อยๆนะค่ะ จากคุณ : Dek_P'big (Dek_P'big) เขียนเมื่อ : 18 ก.ย. 52 15:25:13

ความคิดเห็นที่ 38 ขอบคุณค่าาา เคืองป้าแกไปหลายวัน - -* จากคุณ : kwangMJ เขียนเมื่อ : 18 ก.ย. 52 18:56:12

ความคิดเห็นที่ 39 คุณ แอร์ริโกะ น่ารักที่สุดในโลก ขอบคุณค่า จากคุณ : Kz เขียนเมื่อ : 18 ก.ย. 52 19:17:41

ความคิดเห็นที่ 40   ขอโทษน๊ะค๊ะพอดีผ่านมาค่ะ ไม่ทราบว่ามีใครแปลสัมภาษณ์ไมเคิล กับลิซ่าบ้างค๊ะ จำไม่ได้ว่ารายการอะไร แต่อยากรู้จังเลยว่าเค้าคุยอะไรกันบ้างตอนนั้นไมเคิลหล่อมากเลย ดูสัมภาษณ์แล้วน่ารักดีทั้งคู่เลยอ่ะ ถ้ามีช่วยแนะนำหน่อยได้มั๊ยค๊ะ ขอบคุณค่ะ จากคุณ : ga เขียนเมื่อ : 18 ก.ย. 52 19:43:02 A:114.128.138.56 X:

ความคิดเห็นที่ 41 ขอบคุณคุณแอร์ริโกะมากๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆค่ะ จากคุณ : แตมมี่ เขียนเมื่อ : 18 ก.ย. 52 20:12:00

ความคิดเห็นที่ 42 ความคิดเห็นที่ 40 น่าจะเป็นสัมภาษณ์จากรายการ primetime นะคะ มีคนแปลรึยังไม่แน่ใจอ่ะค่ะ แต่เราชอบไมเคิลจากรายการนี้มาก น่ารักมากกกกกกกกกกกกกก แต่เราเกลียดพิธีกรล่ะ วิธีการถามคำถามเค้า แย่มาก จากคุณ : แอร์ริโกะ เขียนเมื่อ : 18 ก.ย. 52 22:21:16

ความคิดเห็นที่ 43 ขอบคุณมากกกกกกกกๆคร่า จากคุณ : สองเท้าก้าวเดิน เขียนเมื่อ : 19 ก.ย. 52 01:03:01

ความคิดเห็นที่ 44   ขอบคุณ คุณแอร์ริโกะมากๆนะค่ะ ...... จากคุณ : AUM MJ เขียนเมื่อ : 20 ก.ย. 52 23:16:08 A:113.53.145.13 X: TicketID:222010